Author Topic: ขอคำแนะนำ E30 M40  (Read 27981 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline i have a dream

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2006
  • Posts: 145
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 11, 2016, 03:08:45 am
ขอคำแนะนำ E30 M40
« on: October 29, 2012, 10:03:49 pm »
M40 เกียร์ ธรรมดา ตอนนี้มีอาการ ดับ กลางอากาศ 
1.บางครั้งขับๆอยู่ดีๆไม่มีอาการกระตุกอะไรก็ดับไปเฉยๆ แล้วพอไหลไปก็ติดขึ้นมาเอง
2.บางครั้ง เดินเบาจอดอยู่เฉยๆ(เดินเบานิ่ง)  ก็ดับไปเลยแบบไม่มีอาการกระตุกหรือสำลักใดๆ start ใหม่ก็อาจจะต้องบิดประมาณ 2-3ครั้ง ถึงติด

ผมเดาเอาว่า อาจจะเกิดจาก air flow สาเหตุที่คิดว่าเป็นที่ air flow เนื่องจากก่อนหน้านี้มีช่างเคยบอกว่าเครื่องหลวม ต้องโอเวอร์ฮอถ้ายังไม่ทำตอนนี้ ก็จะใช้วิธีการหลอกเครื่องยนต์โดยการไปปรับขยับเฟืองหรือขันน๊อตที่ air flow อะไรซักอย่าง ผมจำไม่ค่อยได้ เพื่อให้จ่ายน้ำมันหนาขึ้น (เป็นวิธีอ้อมๆเฉพาะหน้า)

คำถามคือ
1.เป็นไปได้ไหมว่า เครื่องไม่ได้หลวม แต่การหลอกเครื่องยนต์ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้น้ำมันหนาจนจุดระเบิดไม่ได้จึงดับในบางครั้ง
2.ผมควรตรวจเช็คอย่างไรเพิ่มเติม
3.ใครเคยปรับ air flow อย่างที่บอกบ้าง ให้ผลอย่างไร
4.เครื่องหลวมตรวจสอบอย่างไร

ขอคำแนะนำด้วยครับ


Offline pakabo

  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2009
  • Posts: 65
  • Gender: Male
  • Last Login:February 08, 2017, 04:44:04 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #1 on: October 29, 2012, 11:11:20 pm »
M40 เกียร์ ธรรมดา ตอนนี้มีอาการ ดับ กลางอากาศ 
1.บางครั้งขับๆอยู่ดีๆไม่มีอาการกระตุกอะไรก็ดับไปเฉยๆ แล้วพอไหลไปก็ติดขึ้นมาเอง
2.บางครั้ง เดินเบาจอดอยู่เฉยๆ(เดินเบานิ่ง)  ก็ดับไปเลยแบบไม่มีอาการกระตุกหรือสำลักใดๆ start ใหม่ก็อาจจะต้องบิดประมาณ 2-3ครั้ง ถึงติด

ผมเดาเอาว่า อาจจะเกิดจาก air flow สาเหตุที่คิดว่าเป็นที่ air flow เนื่องจากก่อนหน้านี้มีช่างเคยบอกว่าเครื่องหลวม ต้องโอเวอร์ฮอถ้ายังไม่ทำตอนนี้ ก็จะใช้วิธีการหลอกเครื่องยนต์โดยการไปปรับขยับเฟืองหรือขันน๊อตที่ air flow อะไรซักอย่าง ผมจำไม่ค่อยได้ เพื่อให้จ่ายน้ำมันหนาขึ้น (เป็นวิธีอ้อมๆเฉพาะหน้า)

คำถามคือ
1.เป็นไปได้ไหมว่า เครื่องไม่ได้หลวม แต่การหลอกเครื่องยนต์ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้น้ำมันหนาจนจุดระเบิดไม่ได้จึงดับในบางครั้ง
2.ผมควรตรวจเช็คอย่างไรเพิ่มเติม
3.ใครเคยปรับ air flow อย่างที่บอกบ้าง ให้ผลอย่างไร
4.เครื่องหลวมตรวจสอบอย่างไร

ขอคำแนะนำด้วยครับ



จากที่เคยใช้นะครับ แล้วเจอแบบนี้พอดีครับ

1.ปั๊มติ๊กในถังครับ ลองดูนะครับ ของผมเปลี่ยนแล้วหายครับ  :good:

แต่อาจมีสาเหตุอื่นครับ  :cool: ค่อยๆแก้ไปครับ

Offline i have a dream

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2006
  • Posts: 145
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 11, 2016, 03:08:45 am
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #2 on: October 30, 2012, 08:57:48 pm »
ปั๊มติ๊กเปลี่ยนเป็นแบบในถัง (60lt) ตอนแรกก็คิดว่าเป็นที่ปั๊ม ผมซื้อถัง60lt มาเปลี่ยนไปสองถังแล้วครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #3 on: October 31, 2012, 08:01:49 am »
1.เป็นไปได้ไหมว่า เครื่องไม่ได้หลวม แต่การหลอกเครื่องยนต์ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้น้ำมันหนาจนจุดระเบิดไม่ได้จึงดับในบางครั้ง
ไม่น่าจะมีผลอะไรมากมายขนาดนั้น

2.ผมควรตรวจเช็คอย่างไรเพิ่มเติม
ลองเอาแอร์โฟร์ตัวอื่นมาลองเปลี่ยนดู

3.ใครเคยปรับ air flow อย่างที่บอกบ้าง ให้ผลอย่างไร
ไม่แน่ใจว่าช่างปรับที่ flap หรือปรับที่วาล์วอากาศ "โดยปกติ" แล้วจะไม่ไปปรับที่ flap กัน แต่ก็พอเห็นบ้าง flap จะเปิด/ปิด ตามอากาศที่ดันให้มันเปิด หรืออีกนัยหนึ่งคือตามแรงดูดของเครื่องยนต์ ดูดมากเปิดมาก ดูดน้อยเปิดน้อย ซึ่งที่แกนของ flap จะต่อขึ้นไปยังมิเตอร์ที่จะส่งสัญญาณไฟฟ้าต่อไปที่ ECU เพื่อสั่งให้หัวฉีดจ่ายน้ำมันให้เป็นสัดส่วนกับปริมาณอากาศที่เข้ามาโดยอนุมานจากมุมองศาของ flap ที่เปิด และที่แกนของ flap ก็จะมีสปริงก้นหอยคอยควบคุมความแข็งอ่อนของ flap ด้วย ซึงมักจะไปปรับกันตรงนี้
ถ้าปรับสปริงให้อ่อนลง=> flap จะเปิดง่ายขึ้น=> มิเตอร์ส่งสัญญาณออกไปมากกว่าปกติ (น้ำมันหนา) 
ถ้าปรับสปริงให้แข็งขึ้น=> flap จะเปิดยากขึ้น=> มิเตอร์ส่งสัญญาณออกไปน้อยกว่าปกติ (น้ำมันบาง)

ส่วนการปรับที่วาล์วอากาศ จะเป็นการปรับเพื่อ fine tune หาค่า CO ที่ดีที่สุดเสียมากกว่า เจ้าวาล์วอากาศจะอยู่ข้างๆ flap เพื่อให้อากาศ by pass เข้าไปโดยไม่ผ่านการวัดจาก flap
เปิดวาล์วมาก => อากาศจริงเข้ามากกว่าอากาศที่ flap วัดได้ => น้ำมันบางลง


4.เครื่องหลวมตรวจสอบอย่างไร
เบื้องต้นดูอัตราการกินน้ำมันเครื่อง ถ้าเดือนละลิตรอะไรทำนองนั้นถือว่าหลวม (ถ้าไม่ได้จุดรั่วไหลที่ไหน) และดูว่ามีควันขาวที่ท่อด้วยหรือเปล่า
ตรวจสอบระดับถัดไปคือ วัดกำลังอัดกระบอกสูบและ leak down test

Offline i have a dream

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2006
  • Posts: 145
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 11, 2016, 03:08:45 am
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #4 on: November 01, 2012, 08:27:57 pm »
ขอบคุณพี่ต่อมากครับ

Offline baan_55e

  • magMaideVE
  • Member
  • *****
  • Join Date: May 2012
  • Posts: 13
  • Country: wales
  • Gender: Male
  • Last Login:March 18, 2024, 03:16:03 am
    • A unique encounter, with an emphasis on safety
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #5 on: April 05, 2013, 01:51:06 am »
M40 เกียร์ ธรรมดา ตอนนี้มีอาการ ดับ กลางอากาศ 
1.บางครั้งขับๆอยู่ดีๆไม่มีอาการกระตุกอะไรก็ดับไปเฉยๆ แล้วพอไหลไปก็ติดขึ้นมาเอง
2.บางครั้ง เดินเบาจอดอยู่เฉยๆ(เดินเบานิ่ง)  ก็ดับไปเลยแบบไม่มีอาการกระตุกหรือสำลักใดๆ start ใหม่ก็อาจจะต้องบิดประมาณ 2-3ครั้ง ถึงติด

ผมเดาเอาว่า อาจจะเกิดจาก air flow สาเหตุที่คิดว่าเป็นที่ air flow เนื่องจากก่อนหน้านี้มีช่างเคยบอกว่าเครื่องหลวม ต้องโอเวอร์ฮอถ้ายังไม่ทำตอนนี้ ก็จะใช้วิธีการหลอกเครื่องยนต์โดยการไปปรับขยับเฟืองหรือขันน๊อตที่ air flow อะไรซักอย่าง ผมจำไม่ค่อยได้ เพื่อให้จ่ายน้ำมันหนาขึ้น (เป็นวิธีอ้อมๆเฉพาะหน้า)

คำถามคือ
1.เป็นไปได้ไหมว่า เครื่องไม่ได้หลวม แต่การหลอกเครื่องยนต์ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้น้ำมันหนาจนจุดระเบิดไม่ได้จึงดับในบางครั้ง
2.ผมควรตรวจเช็คอย่างไรเพิ่มเติม
3.ใครเคยปรับ air flow อย่างที่บอกบ้าง ให้ผลอย่างไร
4.เครื่องหลวมตรวจสอบอย่างไร

ขอคำแนะนำด้วยครับ



เป็นเหมือนผมเลย  ผมปวดหัวมาก แถมแอร์โฟร์ของผมดันไม่ตรงรุ่นอีก  เป็น 134  ของนกแก้วมั่งผมไม่แน่ใจ

Offline ggmf

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2008
  • Posts: 657
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:September 05, 2016, 01:26:07 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #6 on: April 05, 2013, 06:11:28 pm »
1.เป็นไปได้ไหมว่า เครื่องไม่ได้หลวม แต่การหลอกเครื่องยนต์ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้น้ำมันหนาจนจุดระเบิดไม่ได้จึงดับในบางครั้ง
ไม่น่าจะมีผลอะไรมากมายขนาดนั้น

2.ผมควรตรวจเช็คอย่างไรเพิ่มเติม
ลองเอาแอร์โฟร์ตัวอื่นมาลองเปลี่ยนดู

3.ใครเคยปรับ air flow อย่างที่บอกบ้าง ให้ผลอย่างไร
ไม่แน่ใจว่าช่างปรับที่ flap หรือปรับที่วาล์วอากาศ "โดยปกติ" แล้วจะไม่ไปปรับที่ flap กัน แต่ก็พอเห็นบ้าง flap จะเปิด/ปิด ตามอากาศที่ดันให้มันเปิด หรืออีกนัยหนึ่งคือตามแรงดูดของเครื่องยนต์ ดูดมากเปิดมาก ดูดน้อยเปิดน้อย ซึ่งที่แกนของ flap จะต่อขึ้นไปยังมิเตอร์ที่จะส่งสัญญาณไฟฟ้าต่อไปที่ ECU เพื่อสั่งให้หัวฉีดจ่ายน้ำมันให้เป็นสัดส่วนกับปริมาณอากาศที่เข้ามาโดยอนุมานจากมุมองศาของ flap ที่เปิด และที่แกนของ flap ก็จะมีสปริงก้นหอยคอยควบคุมความแข็งอ่อนของ flap ด้วย ซึงมักจะไปปรับกันตรงนี้
ถ้าปรับสปริงให้อ่อนลง=> flap จะเปิดง่ายขึ้น=> มิเตอร์ส่งสัญญาณออกไปมากกว่าปกติ (น้ำมันหนา) 
ถ้าปรับสปริงให้แข็งขึ้น=> flap จะเปิดยากขึ้น=> มิเตอร์ส่งสัญญาณออกไปน้อยกว่าปกติ (น้ำมันบาง)

ส่วนการปรับที่วาล์วอากาศ จะเป็นการปรับเพื่อ fine tune หาค่า CO ที่ดีที่สุดเสียมากกว่า เจ้าวาล์วอากาศจะอยู่ข้างๆ flap เพื่อให้อากาศ by pass เข้าไปโดยไม่ผ่านการวัดจาก flap
เปิดวาล์วมาก => อากาศจริงเข้ามากกว่าอากาศที่ flap วัดได้ => น้ำมันบางลง


4.เครื่องหลวมตรวจสอบอย่างไร
เบื้องต้นดูอัตราการกินน้ำมันเครื่อง ถ้าเดือนละลิตรอะไรทำนองนั้นถือว่าหลวม (ถ้าไม่ได้จุดรั่วไหลที่ไหน) และดูว่ามีควันขาวที่ท่อด้วยหรือเปล่า
ตรวจสอบระดับถัดไปคือ วัดกำลังอัดกระบอกสูบและ leak down test


แล้วการปรับวาล์วอากาศ จำเป็นต้องปรับสปริงที่ flap ควบคู่ไปด้วยมั้ยครับ พอดีตอนนี้ของผมน่าจะน้ำมันหนาไป เดินเบา มีกลิ่นเหม็นน้ำมันที่ปลายท่อไอเสียมากๆ แสบตาเลย ตัวแอร์โฟล์เดิมติดรถ ไม่มีรอยแกะ ถ้าปรับเฉพาะวาล์วได้ หมุนไปทางไหนถึงเปิดวาล์วเพิ่มขึ้นครับ ขอบคุณครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #7 on: April 06, 2013, 08:28:37 am »

แล้วการปรับวาล์วอากาศ จำเป็นต้องปรับสปริงที่ flap ควบคู่ไปด้วยมั้ยครับ พอดีตอนนี้ของผมน่าจะน้ำมันหนาไป เดินเบา มีกลิ่นเหม็นน้ำมันที่ปลายท่อไอเสียมากๆ แสบตาเลย ตัวแอร์โฟล์เดิมติดรถ ไม่มีรอยแกะ ถ้าปรับเฉพาะวาล์วได้ หมุนไปทางไหนถึงเปิดวาล์วเพิ่มขึ้นครับ ขอบคุณครับ

ไม่จำเป็นครับ ปกติแอร์โฟร์ไม่ได้มีเอาไว้ให้ปรับแต่งอะไรอยู่แล้ว แม้กระทั่งตัววาล์วปรับ CO เขาก็ปรับเอาไว้ที่จุดที่ให้ค่า CO ออกมาดีที่สุดเรียบร้อยมาจากโรงงานอยู่แล้ว แต่ใช้ๆไปเป็นสิบปีก็อาจจะมีเพี้ยนได้บ้างก็ต้องมาปรับกัน หมุนเหมือนเกลียวน๊อตปกติ ทวนเข็มนาฬิกา => เปิด ตามเข็มนาฬิกา => ปิด

ก่อนที่จะไปปรับแต่งอะไรมัน ก่อนอื่นเช็คที่จุดอื่นๆก่อนว่ามันอยู่ในแบบที่ควรจะเป็นหรือไม่เพราะอาการที่ว่ามามันมีสาเหตุจากอย่างอื่นได้อีก อย่างเช่นถ้าไปถอดวาล์วน้ำออก หรือวาล์วน้ำค้างไม่ยอมปิด มันก็จะทำให้น้ำเย็นเกินไป เซนเซอร์ก็จะอ่านว่าเครื่องยนต์ยังไม่เข้าสู่อุณหภูมิทำงาน (หรือบางทีเซนเซอร์ก็เสียซะเอง) ECU ก็จะสั่งให้จ่ายน้ำมันหนาเพื่อเร่งเครื่องให้ร้อนอยู่เรื่อยๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันหนาได้ เป็นต้น

Offline ggmf

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2008
  • Posts: 657
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:September 05, 2016, 01:26:07 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #8 on: April 06, 2013, 09:10:39 am »

แล้วการปรับวาล์วอากาศ จำเป็นต้องปรับสปริงที่ flap ควบคู่ไปด้วยมั้ยครับ พอดีตอนนี้ของผมน่าจะน้ำมันหนาไป เดินเบา มีกลิ่นเหม็นน้ำมันที่ปลายท่อไอเสียมากๆ แสบตาเลย ตัวแอร์โฟล์เดิมติดรถ ไม่มีรอยแกะ ถ้าปรับเฉพาะวาล์วได้ หมุนไปทางไหนถึงเปิดวาล์วเพิ่มขึ้นครับ ขอบคุณครับ

ไม่จำเป็นครับ ปกติแอร์โฟร์ไม่ได้มีเอาไว้ให้ปรับแต่งอะไรอยู่แล้ว แม้กระทั่งตัววาล์วปรับ CO เขาก็ปรับเอาไว้ที่จุดที่ให้ค่า CO ออกมาดีที่สุดเรียบร้อยมาจากโรงงานอยู่แล้ว แต่ใช้ๆไปเป็นสิบปีก็อาจจะมีเพี้ยนได้บ้างก็ต้องมาปรับกัน หมุนเหมือนเกลียวน๊อตปกติ ทวนเข็มนาฬิกา => เปิด ตามเข็มนาฬิกา => ปิด

ก่อนที่จะไปปรับแต่งอะไรมัน ก่อนอื่นเช็คที่จุดอื่นๆก่อนว่ามันอยู่ในแบบที่ควรจะเป็นหรือไม่เพราะอาการที่ว่ามามันมีสาเหตุจากอย่างอื่นได้อีก อย่างเช่นถ้าไปถอดวาล์วน้ำออก หรือวาล์วน้ำค้างไม่ยอมปิด มันก็จะทำให้น้ำเย็นเกินไป เซนเซอร์ก็จะอ่านว่าเครื่องยนต์ยังไม่เข้าสู่อุณหภูมิทำงาน (หรือบางทีเซนเซอร์ก็เสียซะเอง) ECU ก็จะสั่งให้จ่ายน้ำมันหนาเพื่อเร่งเครื่องให้ร้อนอยู่เรื่อยๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันหนาได้ เป็นต้น

ขอบคุณครับพี่ต่อ งั้นอย่างแรกผมคงต้องไปเช็ควาล์วน้ำก่อนเลย เพราะตอนนี้ดูจากเข็มความร้อนรู้สึกว่ามันเย็นผิดปกติอยู่พอดี ขึ้นแค่เกือบๆ ขีดแรก  &v& &v&

Offline kung321

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2008
  • Posts: 372
  • Gender: Male
  • Last Login:November 26, 2021, 11:41:06 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #9 on: April 09, 2013, 09:02:33 pm »
ลองเช็คระบบน้ำมันแล้วหรือยังครับ เช่นปั้มติ๊ก และตัวคุมแรงดัน

Offline ggmf

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2008
  • Posts: 657
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:September 05, 2016, 01:26:07 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #10 on: April 11, 2013, 10:09:56 am »
ลองเช็คระบบน้ำมันแล้วหรือยังครับ เช่นปั้มติ๊ก และตัวคุมแรงดัน

ตัวคุมแรงดันเพิ่งเปลี่ยนไปตอนได้รถมาใหม่ๆ (ตอนนั้นถอดสายแวคคั่มมาแล้วเจอน้ำมันซึมๆ) งั้นผมขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ พอดีผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเท่าไหร่ ถ้าปั๊มติ๊กไม่ดี มันจะมีผลทำให้เครื่องมีอาการเหมือนเผาไหม้ไม่หมด หรืออุณหภูมิเครื่องเย็นกว่าปกติยังไงได้บ้างครับ ผมงงๆ แต่กะว่าจะลองเช็ควาล์วน้ำเป็นอย่างแรกต่อจากนี้แหละครับ แต่เผื่อเช็คอย่างอื่นร่วมได้ด้วยจะได้ทำไปพร้อมๆกัน ขอบคุณครับ

Offline kung321

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2008
  • Posts: 372
  • Gender: Male
  • Last Login:November 26, 2021, 11:41:06 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #11 on: April 11, 2013, 05:02:44 pm »
ลองเช็คระบบน้ำมันแล้วหรือยังครับ เช่นปั้มติ๊ก และตัวคุมแรงดัน

ตัวคุมแรงดันเพิ่งเปลี่ยนไปตอนได้รถมาใหม่ๆ (ตอนนั้นถอดสายแวคคั่มมาแล้วเจอน้ำมันซึมๆ) งั้นผมขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ พอดีผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเท่าไหร่ ถ้าปั๊มติ๊กไม่ดี มันจะมีผลทำให้เครื่องมีอาการเหมือนเผาไหม้ไม่หมด หรืออุณหภูมิเครื่องเย็นกว่าปกติยังไงได้บ้างครับ ผมงงๆ แต่กะว่าจะลองเช็ควาล์วน้ำเป็นอย่างแรกต่อจากนี้แหละครับ แต่เผื่อเช็คอย่างอื่นร่วมได้ด้วยจะได้ทำไปพร้อมๆกัน ขอบคุณครับ

เท่าที่รถเคยๆเป็นนะครับ ปั้มติ๊กไม่ดี เวลาดับเครื่องจะสตาร์ทไม่ติดถึงติดยาก ถ้าไม่ติดเลยไปเคาะๆ ที่ปั้มติ๊ก แล้วกลับมาสตารท์จะสตาร์ทได้ นั้นคือปั้มติ๊กเสีย ส่วนเรกูเลเตอร์ที่อยู่บริเวณท่อรางน้ำมัน เวลาเสียจะมีน้ำมันเบนซินซึมๆออกตามท่อที่เชื่อมต่อกับเรกูเลเตอร์เมื่อดึงออกมาจะมีน้ำมันเบนซินส่วนหนึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยทำเองถามจากช่างเอาจึงไม่รู้ว่าเขาเช็คกันตอนไหน แต่อาการของเรกูเลเตอร์เสีย มันจะสตาร์ทติดยาก แต่มีลักษณะแตกต่างกับปั๊มติ๊กเสีย คือไปเคาะปั้มติ๊กยังไงๆ มันก็ไม่ยอมจะติด แต่เวลาเข้าจะติด จะติดได้เอง ซึ่งพอติดก็มีอาการน้ำมันหนาๆ (เพราะน้ำมันท่วม) ส่วนวาลว์น้ำ ถ้าเครื่องเย็นกว่าปกติเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีวาว์ลน้ำแล้ว, มีการ bypass หรือวาว์ลน้ำเปิดค้าง(กรณีนี้มีให้เห็นน้อยมาก)

ในส่วนการปรับแอร์โฟร์ ควรจะมี CO meter เป็นตัวเช็คนะครับเพื่อความชัวร์เพราะเคยนั่งดูช่างตั้งอยู่ หากตั้งตามความรู้สึกมันก็ได้ แต่รถผมมันเคยอาการน้ำมันหนา วิ่งสะอึก และรอบเครื่องค้าง(รถผมเกียร์ออโต้) พอจูนครั้งหลังให้ช่างจับ CO meter พบว่าค่า CO มากเกินว่ามาตรฐานของรถ (มาจากเผาไหม้ไม่หมด) ช่างก็ปรับตั้งแต่เขี่ยเฟืองในแอร์โฟร์ จนกระทั้ง ตั้งละเอียดที่ปุบ ตั้งละเอียด(ข้างๆแอร์โฟร์ที่มีพลาสติกปิดอยู่) ถึงจะสามารถเดินดี และมีค่าได้ตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามก็ขึ้นกับสภาพแอร์โฟร์ด้วยว่าตำแหน่งตรงนั้นมันสึกมากไหม ถ้ามากก็ต้องยอมรับกับน้ำมันหนาบางและถ้าแอร์โฟว์มันตั้งต่อไปไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องหามือ2 กันล่ะครับ

Offline ggmf

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2008
  • Posts: 657
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:September 05, 2016, 01:26:07 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #12 on: April 11, 2013, 05:23:12 pm »
ลองเช็คระบบน้ำมันแล้วหรือยังครับ เช่นปั้มติ๊ก และตัวคุมแรงดัน

ตัวคุมแรงดันเพิ่งเปลี่ยนไปตอนได้รถมาใหม่ๆ (ตอนนั้นถอดสายแวคคั่มมาแล้วเจอน้ำมันซึมๆ) งั้นผมขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ พอดีผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเท่าไหร่ ถ้าปั๊มติ๊กไม่ดี มันจะมีผลทำให้เครื่องมีอาการเหมือนเผาไหม้ไม่หมด หรืออุณหภูมิเครื่องเย็นกว่าปกติยังไงได้บ้างครับ ผมงงๆ แต่กะว่าจะลองเช็ควาล์วน้ำเป็นอย่างแรกต่อจากนี้แหละครับ แต่เผื่อเช็คอย่างอื่นร่วมได้ด้วยจะได้ทำไปพร้อมๆกัน ขอบคุณครับ

เท่าที่รถเคยๆเป็นนะครับ ปั้มติ๊กไม่ดี เวลาดับเครื่องจะสตาร์ทไม่ติดถึงติดยาก ถ้าไม่ติดเลยไปเคาะๆ ที่ปั้มติ๊ก แล้วกลับมาสตารท์จะสตาร์ทได้ นั้นคือปั้มติ๊กเสีย ส่วนเรกูเลเตอร์ที่อยู่บริเวณท่อรางน้ำมัน เวลาเสียจะมีน้ำมันเบนซินซึมๆออกตามท่อที่เชื่อมต่อกับเรกูเลเตอร์เมื่อดึงออกมาจะมีน้ำมันเบนซินส่วนหนึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยทำเองถามจากช่างเอาจึงไม่รู้ว่าเขาเช็คกันตอนไหน แต่อาการของเรกูเลเตอร์เสีย มันจะสตาร์ทติดยาก แต่มีลักษณะแตกต่างกับปั๊มติ๊กเสีย คือไปเคาะปั้มติ๊กยังไงๆ มันก็ไม่ยอมจะติด แต่เวลาเข้าจะติด จะติดได้เอง ซึ่งพอติดก็มีอาการน้ำมันหนาๆ (เพราะน้ำมันท่วม) ส่วนวาลว์น้ำ ถ้าเครื่องเย็นกว่าปกติเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีวาว์ลน้ำแล้ว, มีการ bypass หรือวาว์ลน้ำเปิดค้าง(กรณีนี้มีให้เห็นน้อยมาก)

ในส่วนการปรับแอร์โฟร์ ควรจะมี CO meter เป็นตัวเช็คนะครับเพื่อความชัวร์เพราะเคยนั่งดูช่างตั้งอยู่ หากตั้งตามความรู้สึกมันก็ได้ แต่รถผมมันเคยอาการน้ำมันหนา วิ่งสะอึก และรอบเครื่องค้าง(รถผมเกียร์ออโต้) พอจูนครั้งหลังให้ช่างจับ CO meter พบว่าค่า CO มากเกินว่ามาตรฐานของรถ (มาจากเผาไหม้ไม่หมด) ช่างก็ปรับตั้งแต่เขี่ยเฟืองในแอร์โฟร์ จนกระทั้ง ตั้งละเอียดที่ปุบ ตั้งละเอียด(ข้างๆแอร์โฟร์ที่มีพลาสติกปิดอยู่) ถึงจะสามารถเดินดี และมีค่าได้ตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามก็ขึ้นกับสภาพแอร์โฟร์ด้วยว่าตำแหน่งตรงนั้นมันสึกมากไหม ถ้ามากก็ต้องยอมรับกับน้ำมันหนาบางและถ้าแอร์โฟว์มันตั้งต่อไปไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องหามือ2 กันล่ะครับ
ลองเช็คระบบน้ำมันแล้วหรือยังครับ เช่นปั้มติ๊ก และตัวคุมแรงดัน

ตัวคุมแรงดันเพิ่งเปลี่ยนไปตอนได้รถมาใหม่ๆ (ตอนนั้นถอดสายแวคคั่มมาแล้วเจอน้ำมันซึมๆ) งั้นผมขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ พอดีผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเท่าไหร่ ถ้าปั๊มติ๊กไม่ดี มันจะมีผลทำให้เครื่องมีอาการเหมือนเผาไหม้ไม่หมด หรืออุณหภูมิเครื่องเย็นกว่าปกติยังไงได้บ้างครับ ผมงงๆ แต่กะว่าจะลองเช็ควาล์วน้ำเป็นอย่างแรกต่อจากนี้แหละครับ แต่เผื่อเช็คอย่างอื่นร่วมได้ด้วยจะได้ทำไปพร้อมๆกัน ขอบคุณครับ

เท่าที่รถเคยๆเป็นนะครับ ปั้มติ๊กไม่ดี เวลาดับเครื่องจะสตาร์ทไม่ติดถึงติดยาก ถ้าไม่ติดเลยไปเคาะๆ ที่ปั้มติ๊ก แล้วกลับมาสตารท์จะสตาร์ทได้ นั้นคือปั้มติ๊กเสีย ส่วนเรกูเลเตอร์ที่อยู่บริเวณท่อรางน้ำมัน เวลาเสียจะมีน้ำมันเบนซินซึมๆออกตามท่อที่เชื่อมต่อกับเรกูเลเตอร์เมื่อดึงออกมาจะมีน้ำมันเบนซินส่วนหนึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยทำเองถามจากช่างเอาจึงไม่รู้ว่าเขาเช็คกันตอนไหน แต่อาการของเรกูเลเตอร์เสีย มันจะสตาร์ทติดยาก แต่มีลักษณะแตกต่างกับปั๊มติ๊กเสีย คือไปเคาะปั้มติ๊กยังไงๆ มันก็ไม่ยอมจะติด แต่เวลาเข้าจะติด จะติดได้เอง ซึ่งพอติดก็มีอาการน้ำมันหนาๆ (เพราะน้ำมันท่วม) ส่วนวาลว์น้ำ ถ้าเครื่องเย็นกว่าปกติเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีวาว์ลน้ำแล้ว, มีการ bypass หรือวาว์ลน้ำเปิดค้าง(กรณีนี้มีให้เห็นน้อยมาก)

ในส่วนการปรับแอร์โฟร์ ควรจะมี CO meter เป็นตัวเช็คนะครับเพื่อความชัวร์เพราะเคยนั่งดูช่างตั้งอยู่ หากตั้งตามความรู้สึกมันก็ได้ แต่รถผมมันเคยอาการน้ำมันหนา วิ่งสะอึก และรอบเครื่องค้าง(รถผมเกียร์ออโต้) พอจูนครั้งหลังให้ช่างจับ CO meter พบว่าค่า CO มากเกินว่ามาตรฐานของรถ (มาจากเผาไหม้ไม่หมด) ช่างก็ปรับตั้งแต่เขี่ยเฟืองในแอร์โฟร์ จนกระทั้ง ตั้งละเอียดที่ปุบ ตั้งละเอียด(ข้างๆแอร์โฟร์ที่มีพลาสติกปิดอยู่) ถึงจะสามารถเดินดี และมีค่าได้ตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามก็ขึ้นกับสภาพแอร์โฟร์ด้วยว่าตำแหน่งตรงนั้นมันสึกมากไหม ถ้ามากก็ต้องยอมรับกับน้ำมันหนาบางและถ้าแอร์โฟว์มันตั้งต่อไปไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องหามือ2 กันล่ะครับ
ลองเช็คระบบน้ำมันแล้วหรือยังครับ เช่นปั้มติ๊ก และตัวคุมแรงดัน

ตัวคุมแรงดันเพิ่งเปลี่ยนไปตอนได้รถมาใหม่ๆ (ตอนนั้นถอดสายแวคคั่มมาแล้วเจอน้ำมันซึมๆ) งั้นผมขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ พอดีผมไม่ค่อยเข้าใจระบบเท่าไหร่ ถ้าปั๊มติ๊กไม่ดี มันจะมีผลทำให้เครื่องมีอาการเหมือนเผาไหม้ไม่หมด หรืออุณหภูมิเครื่องเย็นกว่าปกติยังไงได้บ้างครับ ผมงงๆ แต่กะว่าจะลองเช็ควาล์วน้ำเป็นอย่างแรกต่อจากนี้แหละครับ แต่เผื่อเช็คอย่างอื่นร่วมได้ด้วยจะได้ทำไปพร้อมๆกัน ขอบคุณครับ

เท่าที่รถเคยๆเป็นนะครับ ปั้มติ๊กไม่ดี เวลาดับเครื่องจะสตาร์ทไม่ติดถึงติดยาก ถ้าไม่ติดเลยไปเคาะๆ ที่ปั้มติ๊ก แล้วกลับมาสตารท์จะสตาร์ทได้ นั้นคือปั้มติ๊กเสีย ส่วนเรกูเลเตอร์ที่อยู่บริเวณท่อรางน้ำมัน เวลาเสียจะมีน้ำมันเบนซินซึมๆออกตามท่อที่เชื่อมต่อกับเรกูเลเตอร์เมื่อดึงออกมาจะมีน้ำมันเบนซินส่วนหนึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยทำเองถามจากช่างเอาจึงไม่รู้ว่าเขาเช็คกันตอนไหน แต่อาการของเรกูเลเตอร์เสีย มันจะสตาร์ทติดยาก แต่มีลักษณะแตกต่างกับปั๊มติ๊กเสีย คือไปเคาะปั้มติ๊กยังไงๆ มันก็ไม่ยอมจะติด แต่เวลาเข้าจะติด จะติดได้เอง ซึ่งพอติดก็มีอาการน้ำมันหนาๆ (เพราะน้ำมันท่วม) ส่วนวาลว์น้ำ ถ้าเครื่องเย็นกว่าปกติเป็นไปได้ว่าอาจไม่มีวาว์ลน้ำแล้ว, มีการ bypass หรือวาว์ลน้ำเปิดค้าง(กรณีนี้มีให้เห็นน้อยมาก)

ในส่วนการปรับแอร์โฟร์ ควรจะมี CO meter เป็นตัวเช็คนะครับเพื่อความชัวร์เพราะเคยนั่งดูช่างตั้งอยู่ หากตั้งตามความรู้สึกมันก็ได้ แต่รถผมมันเคยอาการน้ำมันหนา วิ่งสะอึก และรอบเครื่องค้าง(รถผมเกียร์ออโต้) พอจูนครั้งหลังให้ช่างจับ CO meter พบว่าค่า CO มากเกินว่ามาตรฐานของรถ (มาจากเผาไหม้ไม่หมด) ช่างก็ปรับตั้งแต่เขี่ยเฟืองในแอร์โฟร์ จนกระทั้ง ตั้งละเอียดที่ปุบ ตั้งละเอียด(ข้างๆแอร์โฟร์ที่มีพลาสติกปิดอยู่) ถึงจะสามารถเดินดี และมีค่าได้ตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามก็ขึ้นกับสภาพแอร์โฟร์ด้วยว่าตำแหน่งตรงนั้นมันสึกมากไหม ถ้ามากก็ต้องยอมรับกับน้ำมันหนาบางและถ้าแอร์โฟว์มันตั้งต่อไปไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องหามือ2 กันล่ะครับ

ขอบคุณครับพี่ เรื่องน้ำมันไม่มีปัญหา จอดทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ก็สตาร์ททีเดียวติด เดินเรียบปกติ แต่ติดไปสักพัก กลิ่นเหมือนน้ำมันจากท่อไอเสีย แสบตามากมาย คราวที่แล้วผมเพิ่งถอดมาเปลี่ยนสายพานหน้าเครื่อง ก็ลืมดูวาล์วน้ำ แต่คุ้นๆ เหมือนจะยังมี เลยเดาเอาว่าอาจจะค้างเพราะอาการที่พี่ต่อเค้าวิเคราะห์มา ว่าเครื่องเย็นผิดปกติ ซึ่งดันตรงกับผมพอดี ส่วนเรื่องปรับแอร์โฟร์ อาจจะเกินความสามารถของผมล่ะครับ ช่างที่ต่างจังหวัดก็พึ่งพายาก ทุกวันนี้ ทำเองแทบทุกอาการ อาศัยไม่ค่อยได้ใช้รถเลยเรื่อยๆ เปื่อยๆ ยังไงขอให้เปิดมาเจอวาล์วน้ำค้างหรือไม่เจอเลย ผมจะดีใจมากมาย จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกะแอร์โฟล์มัน แฮะๆๆ \^^/

Offline i have a dream

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2006
  • Posts: 145
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 11, 2016, 03:08:45 am
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #13 on: April 19, 2013, 03:14:30 pm »
ตอนนี้ พอจับอาการได้ค่อนข้างชัวร์ว่าน่าจะเป็นที่ปั๊ม อาการที่พบ
1.มีอาการกระตุก บางครั้ง ไม่มีความเสมอต้นเสมอปลาย อยากเป็นตอนไหนก็เป็น บางทีไม่เป็นเลยทั้งสัปดาห์
2.เมื่อมีอาการดับ คราวนี้ ไม่สมารถ start ติดได้ง่ายๆ ต้อง จอดรถ start นาน มากๆ
3. ตอนที่มีอาการดับ ผม ลองถอดสายน้ำมันเบนซินก่อนเข้ารางหัวฉีด ลอง startดูปรากฏว่า น้ำมันไม่มาเป็นสาย มาเป็นฟองๆ

ตอนนี้ รถstart ไม่ติด อีกต่อไป จอดไว้ อาการอย่างนี้ถ้าฟันธงว่าเป็นที่ปั๊มเบนซินถูกต้องไหมครับ

และถ้าเป็นที่ปั๊ม เราสามารถเบิกปั๊มใหม่ของ BM มาได้หรือไม่ เนื่องจากมันเป็นปั๊มแบบในของถัง 60Lt 
หรือใช้ปั๊มของรุ่นไหนได้บ้าง
ขอบคุณครับ

Offline kung321

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2008
  • Posts: 372
  • Gender: Male
  • Last Login:November 26, 2021, 11:41:06 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #14 on: April 19, 2013, 06:39:28 pm »
ก่อนหน้าจะเช็คปั้มลองเช็คกรองเบนซินดูก่อนไหมครับ แล้วค่อยเช็คปั้มต่อไปเพราะมันอยู่ในถังถ้าเป็นตามที่คุณI have a dream บอก(มันน่าจะรื้อยากกว่า) ส่วนปั้มในถัง 60 l นี่ส่วนตัวผมไม่ทราบจริงๆครับเพราะใช้ถัง 55 l มันมีปั้มนอกถัง และปั้มในถัง(ปัจจุบันปิดไปเรียบร้อยแล้ว) คงต้องให้ผู้รู้ท่านอื่นๆ ช่วยชี้แนะนะครับ %:< (ปล.ไหนๆจะเช็คแล้วก็เช็คระบบน้ำมันเสียให้หมดเลยก็น่าจะดีครับ จะได้ทำไปทีเดียวเช่นท่อเบนซินเก่าก็เปลี่ยนใหม่ หรือเช็คพวกตัวคุมแรงดันด้วย จะได้ปลอดภัยครับ)
« Last Edit: April 19, 2013, 06:45:09 pm by kung321 »

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #15 on: April 20, 2013, 08:44:21 am »
ปั๊มเบนซิน (หรือที่เรียกกันว่าปั๊มติ๊ก) จะสร้างแรงดันน้ำมัน "ส่งไปที่" รางหัวฉีดประมาณ 5.5 บาร์ และที่ปลายของรางหัวฉีดจะมีตัวกักแรงดันที่เรียกว่าเรคกูเรเตอร์อยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งจะกักให้น้ำมันมีแรงดัน "อยู่ในราง" 3.0 บาร์ (หรือ 2.5 บาร์แล้วแต่สเปกของรุ่นนั้นๆ) หากไม่ถึงมันก็จะกักเอาไว้จนถึง 3.0 บาร์ จากนั้นแรงดันที่เเกินก็จะพาน้ำมันวนกลับถังไป

ถ้าเรคกูเรเตอร์ไม่ดี ก็มีผลทำให้สตาร์ทติดยาก (หมายความว่าเครื่องหมุนแอ้ดๆๆๆๆ ยาวกว่าจะติด) เพราะพอดับเครื่องแล้วมันไม่กักน้ำมันเอาไว้ในราง มันไหลกลับถังหมดหรือไหลออกจนแรงดันมันไม่ได้ตามกำหนด พอสตาร์ทก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ให้น้ำมันมันเกิดแรงดันในรางขึ้นมาใหม่ บางทีรถจอดนานๆอย่างเป็นเดือนก็อาจเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน   

ความผิดปกติของระบบนี้จะทำให้น้ำมันบางหรือจ่ายน้ำมันไม่พอ พวกรถเครื่องแต่งแรงๆบางทีอาจต้องทำการขยายขนาดรางหัวฉีด และ/หรือเพิ่มขนาดเรคกูเรเตอร์ และ/หรือเพิ่มแรงดันปั๊มจากต้นทาง และ/หรือเปลี่ยนขนาดของหัวฉีด หรือทั้งสี่อย่างรวมกัน

Offline kantathamr

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2008
  • Posts: 91
  • Gender: Male
  • Last Login:November 15, 2019, 03:54:50 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #16 on: April 24, 2013, 06:23:55 pm »
ขอสอบถาม พี่ต่อ Flying dutchman ครับว่า การหมุนปรับที่ตัว Airflow meter ที่ว่า "ทวนเข็มนาฬิกา-เปิด" "ตามเข็มนาฬิกา-ปิด" นั้น ด้านไหนที่ทำให้น้ำมันหนา-บางครับ แล้วไม่ทราบว่าลักษณะการปรับเหมือนกันหมดทุกรุ่นไหมครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #17 on: April 25, 2013, 08:35:18 am »
ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจอีกครั้งว่าการปรับที่สกรูวาล์วนั้นไม่ได้เป็นการสั่งให้ ECU ไปทำการปรับ "หัวฉีด" ให้จ่ายน้ำมันมากหรือน้อยโดยตรง แต่มันจะเป็นการปรับ "ส่วนผสม" ของน้ำมัน/อากาศโดยไปทำการการเพิ่ม/ลด "อากาศ" ที่เข้าไปในเครื่อง ตัว ECU จะสั่งจ่ายน้ำมันมาก/น้อยขึ้นอยู่กับปริมาณอากาศที่ถูกวัดโดยมุมองศาของ flap ที่เปิด" เป็นหลัก" สกรูวาล์วเป็นตัว "bypass" ให้อากาศเข้าไปในเครื่องโดยไม่ผ่านการวัดจาก flap เพราะฉนั้น เมื่อ ECU อ่านค่าอากาศผ่าน flap ได้จำนวนหนึ่ง มันก็สั่งให้หัวฉีดจ่ายน้ำมันเป็นสัดส่วนตามนั้น แต่อากาศ bypass เข้าไปมากกว่าที่หัวฉีดกำลังจ่ายน้ำมันอยู่จึงทำให้ส่วนผสมบางลง และในทางกลับกันหากอากาศเข้าไปน้อยกว่าที่หัวฉีดกำลังจ่ายน้ำมันอยู่ส่วนผสมก็จะหนา

เหมือนเทเหล้าหนึ่งฝาลงแก้ว จะหนาจะบางขึ้นอยู่กับโซดาที่เติม ยังไงเหล้าก็มีหนึ่งฝาเท่าเดิม : )

แต่การไปปรับที่ flap จะมีผลต่อการสั่งจ่ายน้ำมันของ ECU โดยตรง

ระบบ AFM ใช้หลักการแบบนี้เหมือนกันหมด


Offline kantathamr

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2008
  • Posts: 91
  • Gender: Male
  • Last Login:November 15, 2019, 03:54:50 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #18 on: April 25, 2013, 10:29:06 am »
ถ้าความเข้าใจแบบบ้านๆอย่างผม ก็คือ ถ้าหมุนปิดมากๆ ส่วนผสมก็จะหนา และถ้าหมุนเปิดมากๆส่วนผสมก็จะบางไปโดยปริยายใช่ไหมครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #19 on: April 28, 2013, 08:58:18 am »
เข้าใจถูกต้องครับ

Offline kantathamr

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2008
  • Posts: 91
  • Gender: Male
  • Last Login:November 15, 2019, 03:54:50 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #20 on: April 28, 2013, 01:33:22 pm »
พี่ต่อ Flying Dutchman ครับ สำหรับกรณีที่เกิดกับผมก็คือ รถผมเป็นเครื่อง M10 หัวฉีด หลังจากที่เติมแก๊สโซฮอลล์ E10 (เมื่อหลายปีก่อน) ตอนแรกไม่ได้ปรับตั้งใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งจังหวะไฟจุดระเบิด และส่วนผสมที่ Airflow meter ปรากฏว่าเจออาการเครื่องวิ่งไม่ออก (ตีนปลายหายไปอย่างชัดเจน)  เดินเบาไม่ค่อยเรียบ และความร้อนตอนใช้รอบเครื่องสูง ๆ ก็มากกว่าตอนที่ใช้เบนซิน 95 อีกด้วย หลังจากนั้นผมก็มานั่งสันนิษฐานเอาเองจากไปแอบฟังคนโน้นคนนี้มา สรุปก็เลยมานั่งปรับไฟจุดระเบิดให้แก่ขึ้น และหมุนปรับ Airflow meter มาทางด้าน "ปิด" เพื่อให้อัตราส่วนผสมหนาขึ้น ผลออกมาปรากฏว่า เครื่องยนต์ทำงานได้ smooth ใกล้เคียงเดิมมาก อัตราเร่งและตีนปลายกลับมาแทบจะเหมือนเดิมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ทราบว่าไอ้วิธีที่ผมสันนิษฐานและทำเองนี้มันถูกต้องหรือไม่ครับ

Offline AKE

  • สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,105
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:October 23, 2023, 12:13:13 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #21 on: April 29, 2013, 12:48:31 pm »
แล้วถ้าลองกลับไปเติม เบนซิน95 อาการต่างๆที่เกิดขึ้นหายไหมครับ? อาการดีขึ้นไหมครับ? 
คติธรรม : "คนเราเมื่อมีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมีศุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เปนของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้" โดย ธมมวิตกโก ภิกขุ

Offline kantathamr

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2008
  • Posts: 91
  • Gender: Male
  • Last Login:November 15, 2019, 03:54:50 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #22 on: April 29, 2013, 04:49:31 pm »
ตอบคุณ AKE ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหลายปีดีดักแล้ว ก็ยังไม่เคยกลับไปกิน เบนซิน 95 สักทีครับ สาเหตุ คือ กลัวว่าไอ้ที่ปรับไว้มันจะไม่แม็ทช์กันเดี๋ยวต้องมานั่งปรับกันใหม่ให้เป็นที่เอิกเกริก และที่สำคัญกลัวไม่เข้าที่จะเละหนักไปใหญ่ครับ

Offline AKE

  • สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,105
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:October 23, 2023, 12:13:13 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #23 on: April 29, 2013, 06:42:37 pm »
ถ้าในความคิดเห็นของผมนะครับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เกิดปัญหา ผมจะยังไม่ไปยุ่งไม่ไปปรับใดๆๆ แล้วลองกลับมาเติมเบนซิน95 ดูก่อน ลองไปซักหลายๆถัง เผื่ออาการต่างๆอาจจะหาย หรือ กลับมาดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปยุ่ง หรือ ปรับอะไร ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด

แต่ตอนนี้มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องเดินหน้าต่อไปครับ ขอเป็นกำลังใจ และ ส่งใจช่วยเชียร์นะครับ

โดยส่วนตัวสำหรับรถยุโรปรุ่นเก่า ผมไม่ไว้ใจที่จะเติมน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอลล์ ครับ

 w^w w^w
คติธรรม : "คนเราเมื่อมีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมีศุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เปนของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้" โดย ธมมวิตกโก ภิกขุ

Offline kantathamr

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2008
  • Posts: 91
  • Gender: Male
  • Last Login:November 15, 2019, 03:54:50 pm
Re: ขอคำแนะนำ E30 M40
« Reply #24 on: April 29, 2013, 09:28:23 pm »
ถ้าในความคิดเห็นของผมนะครับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เกิดปัญหา ผมจะยังไม่ไปยุ่งไม่ไปปรับใดๆๆ แล้วลองกลับมาเติมเบนซิน95 ดูก่อน ลองไปซักหลายๆถัง เผื่ออาการต่างๆอาจจะหาย หรือ กลับมาดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปยุ่ง หรือ ปรับอะไร ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด

แต่ตอนนี้มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องเดินหน้าต่อไปครับ ขอเป็นกำลังใจ และ ส่งใจช่วยเชียร์นะครับ

โดยส่วนตัวสำหรับรถยุโรปรุ่นเก่า ผมไม่ไว้ใจที่จะเติมน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอลล์ ครับ

 w^w w^w


มันสายไปอย่างคุณ AKE บอกนั่นแหละครับ เนื่องจากตอนนั้นในบริเวณที่ผมพักอยู่และทำงานไม่มีปั๊มไหนขาย เบนซิน95 เลย ครั้นจะวิ่งไปเติมที่เขามีขายก็จะเป็นเพิ่มความยุ่งยากในการใช้ชีวิตมากขึ้นไปอีก ซึ่งตอนนี้เจ้า E30 ก็ดูจะใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาและฟิตปั๋งพอสมควรทีเดียวครับ

Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments