หลังก็ให้ disk brake มาเหมือนกัน
นอกเรื่องนิดนึง กำลังอ่านกระทู้ใน siamsubaru อยู่ครับ ได้ความรู้ดี เอามาฝากบางท่อนละกัน
Re: ท้าพิสูจน์ ไม่น่าเชื่อ ขับดีขึ้นทันทีที่ใช้
« Reply #21 on: January 08, 2008, 11:07:29 PM »
--------------------------------------------------------------------------------
Quote from: Mr.Genie on January 08, 2008, 10:22:08 PM
ก้องครับ รบกวนถามหน่อยครับ ตามทฟษฎีเนี่ย ถ้าเรากดเบรคจนเอี๊ยดมันจะทำให้รถช้าลงใช่หรือเปล่า คือตอนนี้ผมรู้สึกอย่างงั้นอะ แบบว่าถ้าเหยียบจนรู้สึกถึงแรง G เมือ่ไหร่มันเหมือนรถมันต้องพยายามฝืนแรงต้านอะไรบางอย่าง แต่ถ้าผมกดเบรคให้พอความเร็วลดลงจนเกือบๆจะรู้สึกถึงแรง G พอสลับเท้ามาที่คันเร่ง รถกลับออกตัวได้ดีกว่ามากเหมือนไม่ค่อยต้องต้านอะไรนัก คืออันนี้ไม่รู้ใช่รู้สึกไปเองหรือทฤษฎีก็ว่างั้นครับ แล้วถ้าใช่ ไอ้เจ้า Full Breaking มันคืออะไร แล้วจะมีประโยชน์ตรงไหนครับ
เอ่อ Full Breaking นี่มันใช่เบรคเอี๊ยดรึเปล่า หรือไม่ใช่หว่า
Full Braking ก็คือ เบรคให้ได้แรงจีสูงที่สุดครับ ส่วนว่า มันจะเอี๊ยดมากน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ยางบางชนิด/สภาพ เกือบจะล๊อกแล้วอาจจะไม่เอี๊ยด แต่บางอย่าง ยังไม่ทันถึงไหน ก็มีเสียงดังแล้ว ข้อสังเกตุ อยู่ที่แรงจีครับ คือ ถ้ากดเบรคเพิ่ม แล้วรู้สึกว่าแรงจียังเพิ่มขึ้น ก็แปลว่า ยังไม่ฟูลเบรค ถ้ากดไปแล้วรู้สึกว่าแรงจีลดลง หรือ ไม่เพิ่มขึ้น ก็แปลว่าสุดแล้ว (หรือ อุปกรณ์เกี่ยวกับเบรคมีปัญหา เช่น ผ้าเบรคร้อนเกินจนเฟด)
การทำฟูลเบรค เป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ ถ้าเน้นเรื่องของเวลาในสนาม เพราะทำให้เราสามารถใช้ความเร็วสูงได้นานขึ้น และ เสียเวลาในการลดความเร็วน้อยลง
ที่ยีนรู้สึกว่า พอเบรคไม่แรงมาก รู้สึกว่ารถอาการดีกว่า กดคันเร่งออกได้ดีกว่า ก็ถูกต้องครับ ถ้าหมายถึงตอนเข้าโค้ง เวลาเราเบรคแรงๆ ยางหน้าของเรา จะใช้ความเกาะของยางทั้งหมดไปในการหยุดรถ พอเราพยายามจะเลี้ยว มันเลยไม่ยอมเลี้ยว
ดังนั้น พอเราฟูลเบรคมาตอนทางตรง ก่อนที่เราจะเริ่มเลี้ยว เราต้องคลายเบรคก่อน คลายเบรคน้อย ก็เลี้ยวได้น้อย คลายเบรคเยอะขึ้น ก็เลี้ยวได้เยอะขึ้น เพราะว่าการคลายเบรค จะลดภาระของยางหน้าในการหยุดรถ ทำให้สามารถนำส่วนที่เหลือไปเลี้ยวได้
ถ้ายีนพอจำได้ในอาร์ติเคิล ที่เราฝึกคลายเบรคกันไม่ให้หัวสะบัด การฝึกอันนั้น ทำให้เราหัดที่จะคุมน้ำหนักเบรค ก็สามาระเอาไปประยุกต์ใช้กับการคลายเบรคก่อนเลี้ยวได้ด้วย
ถ้ามีโอกาส ลองสังเกตุคนที่ขับดีๆ ช่วงรอยต่อ จากเบรคไปคันเร่ง จะนุ่มมาก จนไม่สามารถบอกได้ว่าเลิกเบรคตรงไหน เริ่มเร่งตรงไหน ซึ่งอันนี้ ก็เอามาใช้ได้กับการขับรถทุกๆวัน ทำให้นั่งสบายขึ้นด้วย แถมได้ฝึกด้วย
การฝึกทำฟูลเบรค ผมไม่แน่ใจว่าคนอื่นทำกันยังไงนะ แต่สำหรับผม พอเราเริ่มแยกความแตกต่างของแรงจีได้ละเอียดขึ้นจากการที่ฝึกคุมเบรคบนถนน เราก็จะพอประมาณได้เอง ว่าควรจะเบรคให้ได้แรงจีประมาณไหน เพราะปัญหาก็คือว่า แรงจีสูงสุดของแต่ละสถานะการณ์ จะไม่เท่ากัน เนื่องจากหลายๆปัจจัย ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น เราก็ได้แต่เดา ว่าน่าจะเบรคได้ขนาดไหน แล้วค่อยๆปรับตัวตามสภาพที่เปลี่ยนไป
ที่เป็นตัวสังเกตุได้ดีอีกอย่างก็คือ ABS ถ้าเราเบรคจนถึงจุดที่ ABS เกือบจะทำงานได้ แสดงว่าเราทำฟูลเบรคได้
พูดไปพูดมาเลยยาว แต่ประเด็นหลักจริงๆอยู่ที่การจับแรงจีด้วยร่างกาย กับการคุมแรงจีด้วยเท้าครับ