ไหนๆผมก็ถือว่า
หาเรื่องหาของกระแทกปากอยู่แล้ว ก็เลยตามไปหาเรื่องถึงบ้านคุณPONEO เรียกว่าตามกันถึงบ้าน
ถ้าถามว่าข้าวหมูแดงร้านไหนในกรุงเทพฯ ที่มีป้ายชวนให้ไปชิมมากที่สุด เท่าที่สำรวจดูแล้วคงต้องยกให้ร้านข้าวหมูแดง '
แสงทอง' ที่เปิดร้านขายอยู่ที่ปากซอยอินทามระ 33 สี่แยกสุทธิสาร
คนที่ไม่เชื่อคงต้องไปพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเอง เพราะนอกจากสารพัดป้ายที่โชว์อยู่ที่ร้านแล้ว รสชาติของข้าวหมูแดงร้านนี้ชิมแล้วต้องยกนิ้วให้
ซอยอินทามระ 33 ถ้ามาจากสี่แยกสะพานควาย ให้ตรงมาทางสะพานลอยสุทธิสาร ถึงสี่แยกให้ลอดใต้สะพานแล้วชิดซ้าย
ร้านข้าวหมูแดงแสงทองอยู่ปากซอย ถ้ามาจากถนนวิภาวดีผ่านการบินไทยตรงไปสี่แยกสุทธิสารเลี้ยวซ้ายก็จะเห็นร้านตั้งเด่นเป็นสง่า (ดูตามแผนที่)
อย่างที่บอกแล้วว่าร้านข้าวหมูแดงร้านนี้ได้มาหลายป้าย ไม่ว่าจะเป็นป้ายเชลล์ชวนชิมของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ป้ายเปิบพิสดารของแม่ช้อย นางรำ ป้าย จส.100
นอกจากป้ายแล้วยังมีภาพเถ้าแก่ของร้านไปออกรายการทไวไลท์โชว์ของน้าต้อยไตรภพ ลิมปพัทธ์ อีกด้วย
เจ้าของร้านที่ไปกระทบไหล่คุณไตรภพมาแล้ว คือ
เฮียกิมฮุย ตรีจันทร์ทอง ถ้าใครที่เคยดูรายการทไวไลท์โชว์ จะรู้ว่าเฮียกิมฮุยนั้นกว่าจะมาตั้งตัวได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
แต่พอตั้งตัวได้แล้วข้าวหมูแดงแสงทองก็เป็นขวัญใจของคอข้าวหมูแดง ซึ่งมีทั้งคนที่ไปนั่งกินที่ร้านและซื้อใส่ห่อกลับบ้าน
วันที่ทีมงาน "
๑๘มงกุฎ ครีเอชั่นกรุ๊ป"ผู้ทำรายการ
" หาของกระแทกปาก" ไปชิมข้าวหมูแดงแสงทอง วันนั้นเฮียกิมฮุยออกไปทำธุระข้างนอก
อยู่แต่
คุณสุวรรณา ตรีจันทร์ทอง หรือเจ๊ณา คู่ทุกข์คู่ยากของเฮียกิมฮุย ที่ยังแข็งแรงถือปังตอใหญ่เบ้อเริ่มหั่นหมูแดง สับหมูกรอบได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่อายุอานามถ้าเป็นข้าราชการก็เกษียณแล้ว
เจ๊ณาสับหมูไปพลางเล่าไปพลางว่า ตอนแรกก็ขายแค่ข้าวหมูแดงกับข้าวหมูกรอบเท่านั้น ตอนหลังก็เพิ่ม
ข้าวหน้าเป็ดย่าง ข้าวมันไก่ บะหมี่เกี๊ยว ซาลาเปา ขนมจีบ บ๊ะจ่าง และอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง
เพื่อเอาใจลูกค้าที่รู้สึกจำเจกับข้าวหมูแดง
ข้าวหมูแดงกับข้าวหมูกรอบนั้นมีข้อแตกต่างกัน คือ
ข้าวหมูแดงนั้นจะใส่ทุกอย่าง ทั้งหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง และไข่ต้มยางมะตูม แต่ข้าวหมูกรอบสำหรับคนที่ชอบหมูกรอบโดยเฉพาะ ก็จะใส่แค่หมูกรอบกับไข่ต้มยางมะตูม น้ำราดข้าวหมูแดงร้านนี้จะใส่ขวด ผิดกับบางร้านที่จะใส่หม้ออุ่นร้อนตลอดเวลา เขาว่าข้าวหมูแดงสูตรที่เอาน้ำราดใส่ขวดก่อนจะราดข้าวนั้น
เป็นสูตรเฉพาะของข้าวหมูแดงนครปฐม ซึ่งเป็นสูตรดังที่กระจายไปทั่วประเทศ สำหรับคนที่
ชอบรสหวานจะชอบน้ำราดร้านนี้เป็นพิเศษ(ผมแนะนำให้ซื้อกลับบ้านสักสองขวดฝากพ่อตาแม่ยายจะรักใคร่มั่กๆ)
ขอบอกว่าหมูกรอบของร้านแสงทองกรอบสมชื่อ ส่วนหมูแดงนั้นก็
ย่างจนหอม กุนเชียงก็มีรสชาติไม่เบา ไข่ต้มร้านนี้ทุกฟองจะต้องต้มเป็น
ยางมะตูม ถึงจะเป็นไข่ต้มขนานแท้ของร้านแสงทอง
ติดกับตู้ข้าวหมูแดงจะมีตู้เป็ดย่างที่แขวนอยู่เต็มตู้ แม้จะไม่ใช่เมนูเริ่มแรกของร้านนี้ แต่เป็ดย่างแสงทองก็อร่อยไม่แพ้ข้าวหมูแดง ลูกค้าบางคนรักพี่เสียดายน้องจึงต้องสั่งทั้งข้าวหมูแดง และข้าวหน้าเป็ดมาอย่างละจาน
ถ้าซื้อเป็นข้าวหมูแดงห่อกลับบ้าน ทางร้านจะแยกน้ำราดใส่ถุงไว้ต่างหาก หรือจะซื้อเป็นเกาเหลาก็ได้ คือซื้อแต่หมูแดง หมูกรอบ และกุนเชียง รวมทั้งน้ำราดก็ได้ ส่วนข้าวไปหุงเอาเองที่บ้าน สนนราคาธรรมดา 30 บาท พิเศษ 35 บาท ขายมานานกว่า 40 ปี มีทั้งป้ายเชลล์ชวนชิมและป้ายเปิบพิสดาร ซึ่งหาไม่ค่อยได้ที่ร้านอาหารจะมีทั้งสองป้ายนี้อยู่คู่กัน นอกจากสองป้ายนี้แล้วยังมีอีกหลายป้าย รวมทั้งป้ายกินได้กินดีของหนังไทยพิมพ์ไทยโพสต์ป้ายนี้ด้วย คงไม่ต้องบอกว่าข้าวหมูแดงแสงทองอร่อยขนาดไหน
ร้านแสงทองเปิดร้านตั้งแต่ 8 โมงเช้า ขายเรื่อยไปจนถึง 2 ทุ่ม โทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่
0-2274-9633. ขณะที่ทีมงานกำลังเดินทางก็สวนกลับ
ทิดเอก..เดินจูงมือชายหนุ่มหน้าตาดีเดินสวนเข้าร้านไป...
พร้อมสั่งว่า
"
ข้าวหมูแดงสอง ข้าวหมูกรอบรอบ น้ำกระเจี๊ยบไม่ใส่น้ำตาล เพราะหวานพอแล้ว"
ทีมงานถึงกับลงไปชักดิ้นชักงอ ราวกับอาหารเป็นพิษ ..แต่ที่หนักกว่านั้น ขณะที่ทีมงานชันกายขึ้นมา เหงื่อโทรมกายกำลังลากตัวขึ้นรถ...
เจ้าMax Hippoก็จอดCLKหน้าร้าน พลางประคองสาวน้อยหน้าตาคุ้นลงรถไปสั่งใส่ถุงกลับบ้าน..เฮ้ยหอ
ขอจบแบบ
ทิ้งระเบิดขวดน้ำหมูแดงแบบนี้แหละว่ะ