สวยมากครับ
แต่แปลกที่มันไม่ยักกะรุ่งถึงดวงดาวเหมือน E30 ทั้งๆที่มันเป็นรถที่ราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจมาก (หลักหมื่น -เอามาทำ หลักแสน-ขับได้เลย) และประวัติภูมิหลังก็ดีมีชาติตระกูลทั้งในสนามและนอกสนาม แรงถึงขนาดมีการเอาเครื่องฟอร์มูลาร์ตระกูล M12 หลายๆๆๆร้อยแรงม้ามาใส่กันให้แบกตัวถังที่เบาหวิวแค่เจ็ดแปดร้อยกิโล โป่งหน้าโป่งข้างกระโดงหลังที่ M3 เห็นแล้วต้องร้อง what! ราคาเบ็ดเสร็จทำออกมาแล้วหน้าตายังคงเบิกบาน ไม่เหมือนกับ E30 ที่ทุกวันนี้เห็นราคาแล้วตกขยี้ตาสามครั้งดูให้แน่ใจว่าเค้ากำลังพูดถึง E30 หรือ E36 (หรือ E46 !!)
สมัยนั้น (ใครแก่ขนาดผม) คงจะจำคนเหล่านี้ได้ดี Manfred Winkelhock, Marc Surer, , Ronnie Peterson, Hans Stuck, David Hobbs, Harald Ertl ฯลฯ
ทีมที่โดดเด่นในสมัยนั้นต้องยกให้ BMW Junior Team ตอนหลัง Jochen Neerpasch บอสใหญ่แกเปลี่ยนชื่อทีมเป็น BMW Gentlemen Team เพราะตอนนั้นมันขับกันสกปรกเหลือเกิน ทั้งบังไลน์ ทั้งกระแทก ทั้งเกี่ยว ทั้งชน กลับเข้าพิทด้วยสภาพหลุดรุ่ยกันไม่เว้นแต่ละสนามเหมือนเพิ่งหัดขับกันเจ็ดวันก่อนหน้านั้น
ตัวแข่ง 320i Gr.5 ของทีม Rudiger Faltz สีส้มคาดลาย Jagermeister (ขับโดย Hans Stuck) คือภาพสวยงามที่ติดตาตั้งแต่เด็กๆจนถึงปัจจุบัน
นอกเหนือไปจากตัวแข่ง Porsche 935 Gr.5 อยากจะพูดว่า 320i นี่คือแม่แบบของคำอธิบายเอกลักษณ์ของรถแข่ง Gr.5 ที่เรียกกันว่า "Special Production Car" อย่างแท้จริง ที่กฏเกณฑ์ของมันที่เปิดกว้างงงงง จนต้องเอาโป่งกว้างงงงงง มาคลุมล้อเอาไว้จนกลายเป็นความคลาสสิกจนถึงปัจจุบัน
ปีหน้าถ้ายังไม่เบื่อรถแข่งเสียก่อน แล้วยังมีตังค์ สัญญากับตัวเองว่าจะเอาอีกคัน