Author Topic: Legend of the Giants, ตำนานและรูปของ รถใหญ่ ปีลึก (Read 67580 times)

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #50 on:** June 26, 2012, 06:55:40 pm »

Quote from: koala on June 26, 2012, 04:30:54 pm

ตามอ่านอยู่เงียบๆ ไม่ได้แสดงตัว...อย่าพึ่งหยุดเลยครับต้องมีคนแบบผมเยอะแน่เลย
ชอบมากครับ

ขอบคุณครับ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #51 on:** June 26, 2012, 06:59:18 pm »

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #52 on:** June 26, 2012, 07:02:02 pm »

มีคนถามหา Blue Print ของ 540k Special Roadster แต่หาไม่เจอเหมือนกันครับ เจอแค่รูปลายเส้นแบบด้านบน

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #53 on:** June 26, 2012, 07:18:03 pm »

กำลังคิดว่าโพสต์ Bugatti Royale เลยดีกว่า Benz ติดกัน 3 คันเดี๋ยวคนคิดว่าผมชอบ Benz

เอา video Bugatti Royale มาให้ดูกันก่อน รถยาวดีจริงๆเลย... chassis มาตรฐานของ Royale มีฐานล้อยาว 4.3 เมตรหรือพอกับความยาวของรถขนาดเล็กทั้งคัน (เฉพาะฐานล้อก็ยาวประมาณ Benz C Class W202, BMW 3Series E36 ทั้งคันแล้ว)

Essai de la Bugatti Royale

CASIM · « **Reply #54 on:** June 26, 2012, 08:04:30 pm »

ชอบกระทู้นี้มากครับ อ่านแล้วสนุก ไม่ค่อยได้พูดถึงรถแบบนี้กันบ่อยนัก อย่าพึ่งหยุดนะครับ ขอบคุณ

อ้อในไทยมี540k roadster ไม๊ครับ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #55 on:** June 26, 2012, 09:00:12 pm »

Quote from: CASIM on June 26, 2012, 08:04:30 pm

ชอบกระทู้นี้มากครับ อ่านแล้วสนุก ไม่ค่อยได้พูดถึงรถแบบนี้กันบ่อยนัก อย่าพึ่งหยุดนะครับ ขอบคุณ อ้อในไทยมี540k roadster ไม๊ครับ

ขอบคุณครับ

ส่วน 540k ในไทยยังไม่เคยเห็นเลยครับ สงสัยต้องถามพี่ๆรุ่นใหญ่

Maximus Hippopotemus · « **Reply #56 on:** June 27, 2012, 02:25:14 pm »

งานมอเตอร์โชว์ยุคก่อนสงคราม

Maximus Hippopotemus · « **Reply #57 on:** June 27, 2012, 02:26:59 pm »

อีกงานนึงครับด้านซ้ายหลังที่มีคนยืนคือไซส์รถปกติในตอนนี้เทียบกับอีกคันที่อยู่ด้านขวาจะเห็นว่าใหญ่กว่าเยอะเลยครับ

Maximus Hippopotemus · « **Reply #58 on:** June 27, 2012, 02:30:42 pm »

MERCEDES-BENZ ยี่ห้อรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #59 on:** June 27, 2012, 02:51:38 pm »

ช่วง 2-3 วันนี้ฝากแม๊กช่วยโพสต์เยอะๆหน่อยนะครับ เพราะอาจจะยุ่งๆไม่ค่อยได้โพสต์

อ้อ ฝากเอารูปที่แม๊กถ่ายรูปจากหนังสือ The Royal Automobile Stable of Siam มาลงหน่อยนะครับ

Maximus Hippopotemus · « **Reply #60 on:** June 27, 2012, 03:35:04 pm »

รูปนี้ใช้ดูขนาดรถได้ คันกลางที่ดูเล็กคือ170Vที่มีเยอะในประเทศเราส่วนคันขวาคือ540Kครับซึ่งยังเล็กกว่า770Kเยอะครับ

oake · « **Reply #61 on:** June 28, 2012, 11:22:20 pm »

ดูคลิปแล้วเสียววาบ
กลัวแก๊งค์ Goldwing ขี่เกี่ยว Royale จริง ๆ ครับ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #62 on:** June 29, 2012, 02:29:49 pm »

มาต่อกันเลยนะครับ คราวนี้ขอพักเรื่อง Mercedes Benz บ้าง มาดูรถอีกยี่ห้อนึงคือ Bugatti กันครับ และรุ่นที่จะพูดถึงคราวนี้ก็คือเจ้า Type 41 หรือที่มักเรียกกันว่า Royale ซึ่งถือว่าเป็นรถที่ใหญ่และแพงที่สุดที่เคยมีการผลิตกันมานั่นเองครับ

แต่ก่อนอื่นมารู้จัก Bugatti กันคร่าวๆก่อนนะครับ ประวัติของ Bugatti อาจจะต้องยาวนิดนึงเพราะไม่ได้เป็นรถที่แพร่หลายมากเหมือน Mercedes Benz แถมยังมีการเปลี่ยนเจ้าของไปหลายรอบ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #63 on:** June 29, 2012, 02:33:42 pm »

Automobiles E. Bugatti ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 ที่เมือง Molsheim ประเทศฝรั่งเศสในปี 1909 โดย Ettore Bugatti ซึ่ง Ettore เกิดในตระกูลศิลปินและถือว่าตนเองเป็นทั้งศิลปินและวิศวกร รถ Bugatti เป็นรถราคาแพง (มาก) เพราะผลิตขึ้นด้วยความประณีตและแม่นยำ ที่มากว่ารถสมัยนั้น (หรือแม้กระทั่งสมัยนี้ที่มีเครื่องมือดีกว่า) เช่นบล็อกเครื่องยนต์และฝาสูบของ Bugatti ผลิตและประกอบขึ้นอย่างแม่นยำซะจนไม่ต้องมีประเก็นระหว่างบล๊อกกับฝาสูบ การตกแต่ในห้องเครื่องยนต์ด้วยลาย Guilloché ซึ่งปัจจุบันเห็นกันในนาฬิการาคาแพงๆ การร้อยเก็บสายไฟต่างๆในท่อทองเหลืองหรือทองแดงขัดมัน หัวน๊อตต่างๆเป็นโลหะกลึงขัดเงาด้วยมือฯลฯ นอกจากรถถนนราคาแพง รถแข่งของ Bugatti ยังถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในการแข่งขัน โดยเคยชนะทั้ง Monaco Grandprix ครั้งแรก และ Lemans 24 ชั่วโมง มีเรื่องเล่ากันว่าลุง Ettore เรียกคู่แข่งตัวฉกาจของแกคือ Bentley ว่า “รถบรรทุกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก” (เพราะรถแข่งของ Bentley ในยุคนั้นคันใหญ่และหนักว่ารถแข่งของ Bugatti มาก)
ตัวอย่างความเนี้ยบในห้องเครื่องของ Bugatti ครับ firewall ขัดลาย Guilloche’

หรือดูห้องเครื่องรถแข่งคันนี้ครับ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #64 on:** June 29, 2012, 02:34:42 pm »

แต่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 คือปี 1939 ลูกชายของ Ettore ชื่อ Jean ก็เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุระหว่างการทดสอบรถแข่งรุ่น Type 57 และหลังจากนั้นโชคชะตาก็ดูจะไม่เข้าข้าง Bugatti อีกเลย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานที่เมือง Molsheim ก็ถูกทำลายจนใช้การไม่ได้ และในปี 1947 Ettore ก็เสียชีวิตลง ครอบครัว Bugatti และนักลงทุนหลายต่อหลายรายพยายามจะฟื้นฟูกิจการรถยนต์ของ Bugatti อยู่หลายครั้งในช่วงยุค 1950-1960 แต่ก็ไม่สำเร็จ กิจการที่ยังเหลืออยู่ของ Bugatti หลังสงครามคือธุรกิจผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินซึ่งในปี 1963 ก็ถูกซื้อไปโดยผู้ผลิตรถยนต์ของสเปนคือ Hispano-Suiza (Hispano-Suiza ก็เป็นผู้ผลิตรถยนต์หรูหราราคาแพง (มาก) ในยุคก่อนสงครามเหมือนกัน)
รถรุ่นที่มีชื่อเสียงของ Bugatti นอกจาก Type 41 หรือ Royale ที่จะเป็นพระเอกในตอนต่อไปของ Legend of the Giants นี้ก็เช่น Type 57 Atlantic ของลุง Ralph Lauren คันนี้

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #65 on:** June 29, 2012, 02:35:32 pm »

โรงงานของ Bugatti Automobili SpA ที่ปิดตัวไปเมื่อกลางยุค 1990

จนมาถึงปี 1987 นักธุรกิจชาวอิตาเลียน Romano Artioli ก็ไปได้สิทธิในชื่อ Bugatti และก่อตั้ง Bugatti Automobili SpA ขึ้นมา (ลุง Artioli เคยเป็นเจ้าของ Lotus ในช่วงที่ GM ขาย Lotus ออกมาด้วยครับ ซึ่งรถ Lotus ผลิตในช่วงที่ลุง Artioli เป็นเจ้าของ Lotus ก็คือ Elise ซึ่งลุงเค้าตั้งชื่อตามหลานสาวของแกเอง Elisa Artioli ไงครับ) Bugatti Automobili SpA ที่โดยผลิตรถออกมารุ่นหนึ่งคือ Bugatti EB110 โดย EB110 ถูกผลิตขึ้นที่เมือง Campogaliano ใกล้กับ Modena ในโรงงานใหม่เอี่ยมที่ทันสมัยมากๆในยุคนั้น และถือว่าเป็นรถที่ทันสมัยกว่ารถคันอื่นๆในยุคนั้น ด้วยเครื่องยนต์ 12 สูบ 60 วาล์ว Quad Turbo (เทอร์โบ 4 ลูก) ตัวถังผลิตด้วย Carbon Fibre โดย Aerospatiale มันถูกออกแบบโดย Marcello Gandini นักออกแบบชาว
อิตาเลียนผู้ออกแบบ Lamborghini Miura, Countach และ Diablo

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #66 on:** June 29, 2012, 02:36:29 pm »

EB110 ของ น้า Michael Shumacher

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #67 on:** June 29, 2012, 02:37:31 pm »

จนมาถึงปี 1998 Volkswagen ก็ซื้อสิทธิ์ในการผลิตรถ Bugatti และจ้าง Ital Design ให้ออกแบบรถต้นแบบรุ่น EB118 ซึ่งเป็นรถเก๋งคันใหญ่ เพื่อโชว์เครื่องยนต์แบบ W16 และนำออกแสดงในงาน Geneva Motor Show ในปี 1999 หลังจากนั้นก็มีรถต้นแบบออกมาอีกหลายคัน จนกระทั่ง Bugatti Veyron ออกขายในปี 2005 ในราคาคันละ 1 ล้านยูโร Veyron เคยเข้ามาโชว์ในมอเตอร์โชว์ครั้งนึง และเคยมีรูปตอนวิ่งบนถนนในไทยด้วย ผมไม่มีรูปเก็บไว้เหมือนกัน ใครมีรูปอยู่หามาลงให้ทีครับ ประวัติโดยย่อขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ แฮ่กๆ

Maximus Hippopotemus · « **Reply #68 on:** June 29, 2012, 02:55:39 pm »

รูปVeyronตอนที่เคยอยู่ในไทยครับ

AKE · « **Reply #69 on:** June 29, 2012, 03:31:11 pm »

ขอแวะเข้ามาปาหมอนใส่เจ้าของกระทู้หน่อย

คิกๆๅๆๆๆ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #70 on:** June 29, 2012, 03:36:52 pm »

จะให้ตัดจบเลยก็ได้นะครับพี่

ว่าแต่เสาร์นี้พี่เอกเอา Cressida ลงแข่ง D1 Grand รุ่นไหนครับ

AKE · « **Reply #71 on:** June 29, 2012, 04:32:49 pm »

ไม่ต้องมาพูดเลย ใครว่าจะให้ตัดจบหละครับ เดี๋ยวโดน

จะให้ลงเยอะๆต่างหาก แค่นี้ยังไม่พอหรอกครับ เรียกว่า อ่านแล้วได้แค่เรียกน้ำย่อยเท่านั้นเอง

เอามาลงอีกเยอะๆๆๆครับ ปูเสื่อรออ่านแล้วเนี่ยะ เดี๋ยวจะหาอาหารอร่อยๆมานั่งกิน แล้วอ่านไปด้วย

ส่วนเรื่อง D1 นั้น ถ้าน้องป้อเอา E36 Compact ลงไป Drift , พี่ก็จะเอา Cressida ลงไป Drift เป็นเพื่อนด้วย ก็แล้วกัน

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ส่วนเรื่องรุ่นไหน? ไม่รู้เหมือนกัน ..... ว่าแต่เค้าจะมีรุ่น Vintage & Classic Drift ไหมหละ?

ไม่ต้องเลย.........กำลังรอเรื่องใหม่ๆๆอยู่ครับ รีบๆเอามาลงได้แล้ว รออ่านจนคันไปหมดแล้วเนี่ยะ

Quote from: ป้อ (theringmeister) on June 29, 2012, 03:36:52 pm

จะให้ตัดจบเลยก็ได้นะครับพี่

ว่าแต่เสาร์นี้พี่เอกเอา Cressida ลงแข่ง D1 Grand รุ่นไหนครับ

ป้อ (theringmeister) · « **Reply #72 on:** June 29, 2012, 05:09:56 pm »

ก่อดราม่าเล็กๆโดยการแซวพี่เอกเรียกลูกค้า

AKE · « **Reply #73 on:** June 29, 2012, 07:25:51 pm »

แหม เดี๋ยวนี้น้องป้อ กลายเป็น ตั๊ก ลีลา ซะแล้ว

ต่อเลยครับ ลูกค้าเข้าร้านรอชมภาคต่อไปแล้วคร้าบบบบ

Quote from: ป้อ (theringmeister) on June 29, 2012, 05:09:56 pm

ก่อดราม่าเล็กๆโดยการแซวพี่เอกเรียกลูกค้า

thaidub · « **Reply #74 on:** June 29, 2012, 11:19:49 pm »

News:

Author Topic: Legend of the Giants, ตำนานและรูปของ รถใหญ่ ปีลึก (Read 67580 times)

Permissions

Facebook Comments