เข้าใจความรู้สึกเลย ตอนปี 88-89 สั่ง zx-10 ที่ว่าวิ่งเร็วที่สุดในโลกตอนนั้น 0-100 3.8 วินาที ท๊อปสปีดที่ 275 กม.ต่อชม. เอารถป้ายแดงจากญี่ปุ่น (เพิ่งออกขาย มาเป็นคันแรกของไทย) จำได้ว่าราคาประมาณสามแสน ขี่อยู่ได้พันกว่ากม. ความห้าวอยากลองความเร็ว เช้าขี่ไปเหนือคนเดียวถึงอุตรดิตถ์ใช้เวลาประมาณสี่ชม. ความเร็วสูงสุดที่ขี่เข็มชี้ประมาณ 260 (ก่อนนั้นขี่ซูซูกิ GSXR-1100 ไปพัทยา ไปกันสามคันออกจากทองหล่อใช้เวลา 40 นาที ) ประมาณห้าโมงเย็นก็ขี่กลับ ขาไปใช้เวลาสี่ชม. ขากลับมาถึงกท. แปดวันพอดี ด้วยรถหวอของโรงพยาบาลพิษณุโลก แล้วนอนต่ออีกหนึ่งเดือน เข้าห้องผ่าตัดเจ็ดครั้งถึงจบคอร์สรักษา เหตุเกิดจากรถอีแต๋นกระโดดขึ้นมาจากริมถนน เค้าพึ่งเสร็จจากทำนา เราวิ่งมาประมาณ130 ไม่ทันได้หลบ สอยซะ คนร่วงลงมากว่าสิบ ส่วนตัวเองซีกขวาหัก แขนหมุนควงได้ หัวเข่าถูกฉีกจนเห็นกระดูกเอ็นขาดเกือบหมด งานนั้นเย็บไปกว่าเจ็ดสิบเข็ม ใช้เวลารักษาตัวเกือบครึ่งปี ถึงเดินได้ปกติ ช่วงนั้นกลัวสองล้อไปเลยแค่ดูรูปยังไม่ได้ รถแสนเท่ห์ขึ้นรถกระบะกลับมาแบบก้อนกลมๆ หลังนั้นกว่าหนึ่งปีก็หายกลัวซื้อรถมือสองอีกคันมาเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ซ่อมไว้ขี่อีก
แล้วก็เปลี่ยนไปขี่ฮาร์เล่ย์ได้ซักสิบปีก็เลิก ทุกวันนี้ยังคิดว่าตัวเองโชคดีมากที่รอดตายจากการขี่รถสองล้อมาได้ เกือบยี่สิบห้าปีที่บ้าระห่ำขี่ ไปมาทั่วประเทศ ขึ้นคล่อมเมื่อไหร่ลืมตัวนึกว่าเป็น วาเร็นทิโน่ รอสซี่ทุกที เคยล้มครั้งนั้นครั้งเดียว นี่ก็ยังอยากขี่อยู่แต่ภรรยาขอห้ามอยู่เรื่องเดียว เพื่อนที่สนิทๆกันก็ว่า เลยต้องเลิก
ที่เขียนมา แค่อยากเล่าให้ฟังถึงอดีต อย่างไงเหล็กหุ้มเนื้อก็ปลอดภัยกว่าเนื้อหุ้มเหล็ก เตือนไปก็ไม่เชื่อหรอก เอาเป็นว่า ค่อยๆขี่ค่อยๆไปปลอดภัยกว่าจ้ะ