ผมเชียร์ PAYS-BAS (ภาษาฝรั่งเศส) หรือ Holland นั่นเองครับ เริ่มเชียร์ตั้งแต่เป็นแชมป์ 1988 สามทหารเสือ มาโก้ แวน บาสเท่น, รุด กุลลิค, แล้วก็ แฟรงค์ ไรการ์ด ปีนี้ลุ้นอีกครับ ปีนี้ฟอร์มดี ผลงานดีที่สุดในรอบแรกตั้งแต่เชียร์มาเลยนะครับ
ชนะ 3:0 Italy แชมป์โลก 2006
ชนะ 4:1 France รองแชมป์โลก 2006
ต้องบอกว่า ฟอร์มการเล่นดีมาก กองหน้าจบสกอร์กันเป็นว่าเล่น ไม่ใช้โอกาสเปลือง (จริงๆทั้งอิตาลีกับฝรั่งเศสก็บุกพอๆกัน) ที่เสียประตูน้อยเพราะกองหลังก็รัดกุม และก้อคงเพราะบุกมากด้วยน่ะครับ ไม่ได้ตั้งรับเท่าไหร่ เน้นการเล่นเกมส์ภาคพื้น ไม่เตะโด่งโฉ่งฉ่าง สังเกต (ไม่มีสระอุนะครับ ผมผิดมาตลอดเลย ขอแก้คราวนี้ ขอบคุณพี่ addy2 ครับ) ว่าเปอร์เซ็นต์การส่งบอลได้น่าจะเยอะนะครับ
ชนะทั้งแชมป์โลกและรองแชมป์โลก เลย ดูดีมากๆ แต่ว่า... จริงๆ แล้วผมอยากให้ทีมไปท๊อปฟอร์มนัดตัดเชือกกับนัดชิงมากกว่านะครับ มาท๊อปฟอร์มแบบนี้ อืมม ตอนที่ฮอลแลนด์ได้แชมป์ยูโร 1988 นั้น นัดแรก แพ้ รัสเซีย 0:1 ด้วยซ้ำ แล้วมาแก้แค้น ชนะรัสเซียนัดชิง 2:0 จำได้ไม๊ครับ ที่ มาโก้ แวน บาสเท่น ยิงลูกมหัศจรรย์ แม้แต่ เจ้าตัวยังคิดว่าโชคช่วยอย่างมาก ตอนนี้เขาเป็นโค้ชให้ฮอลแลนด์ทีมนี้ซะด้วย
ลุ้นๆ
คุณจุ๋ม มีชื่อในทางวิจารณ์/พากษ์บอลว่าอะไรครับ
ย.ย่าง หรือ ป.ปิ้ง ดี
ขอเสนอนามปากกาว่า "จ.จุ๋ม บ้านบางกอกฯ" ครับ
ขอบคุณครับ สำหรับชื่อนามปากกา
แต่ตอนนี้ขอไปทำใจก่อนนะครับ กังหันลม ถูก หมีขาวหักกังหัน ซะแล้ว... ขอนิดละกันนะครับ รู้สึกไม่ดีตั้งแต่เริ่มเกมส์แล้วครับ รัสเซียครองเกมส์มากกว่า บุกมากกว่า ทำเสียวมากกว่า ประมาณ 20 กว่านาทีผ่านไปกังหันก็เริ่ม ทำเสียว รัสเซีย บ้างครับ ผลัดกันเสียวอยู่นานจนหมดเวลาครึ่งแรก ก็ได้แต่เสียวนะครับ กินไข่กันไปทั้งสองทีม 0:0
มาครึ่งหลัง มันส์กว่าเดิมครับ แต่เริ่มเห็นลางไม่ดีครับ เมื่อแบ็คขวาชั้นดีอย่าง บูลารูซ ได้ใบเหลือง และถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากนั้นไม่นาน (คงกลัวโดน 2 เหลืองมั๊งครับ ไม่เข้าใจว่าเปลี่ยนออกทำม๊ายย) และหลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็โดนจนได้ครับ มาทางแบ็คขวาด้วย 1:0
บอกตรงๆว่า เสียวเลย ตอนที่บูลารูซ ถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะว่าคนนี้เล่นดีครับ เหนียว ยืนก็ดี หลังจากนั้น รู้สึกว่ากองหลังฮอลแลนด์ยืนกันไม่ดีเลย ไม่ประกบกองหน้าให้ดี ปล่อยให้กองหน้ารัสเซียว่างและมีโอกาสหลายครั้ง โชคดีหลายครั้งที่กองหน้ารัสเซีย พวกคอฟๆ ปูลอฟ อะไรประมาณนั้นน่ะครับ จำชื่อไม่ได้ ไม่คมพอ และที่สำคัญหลุดทางแบ็คขวาเนี่ยแหละครับ ถึงเส้นหลังอยู่สามสี่ครั้งได้มั๊งครับ (ไม่รุ้ว่า กุส ฮิดดิ้ง รุ้จุดอ่อนตรงนี้แล้วสั่งมาไม๊น่ะครับ ถ้าใช่ก็สมแล้วที่เป็นยอดโค้ช)
จริงๆ ผมทำใจไว้แล้ว ตั้งแต่ต้นเกมส์ครับ เพราะคิดเหมือนกันว่า ทีมมันท๊อปฟอร์มไปแล้วน่ะครับ อีกทั้งเจอกับโค้ชรัสเซีย กุส ฮิดดิ้ง คนฮอลแลนด์ที่เคยทำทีมกังหันลมเนี่ยแหละครับได้ที่สี่ปี 98 โดยเตะจุดโทษแพ้บราซิล รอบรอง มาแล้ว เพราะฉนั้น ท่านกุส เนี่ยต้องรู้จักทีมฮอลแลนด์อย่างดีครับ อ้อ พี่ท่านเคยทำทีม ไอโฮเฟ่น ด้วยนะครับ)
พอโดน 1:0 ฮอลแลนด์ก็บุกมากกว่า ลุยเอาคืน แต่รัสเซียก็บุกกลับทำเสียวได้เหมือนกัน สุดท้ายก่อนหมดเวลาไม่นานนาทีที่ 86 ครับ ลูกโยนยาวจากกลางเข้ามาหน้าโกล์ข้ามหัวกองหลัง ลงมาหน้า รุด ฟานนิสเตอรอยครับ เขาก็พุ่งโหม่งลูกเสียบเสาเข้าไป หมดสิทธ์ที่โกล์จะรับล่ะครับ 1:1 ดีใจครับ แหะๆ ลุ้นอยุ่นาน (อารมณ์จะคล้ายกับนัดตัดเชือกกับ บราซิล ปี 98 น่ะครับ ตามจนนาทีท้ายๆที่ ไคลเวิร์ต ยิงตีเสมอจนได้น่ะครับ แต่ก็แพ้จุดโทษในที่สุด)
ช่วงต่อเวลาเนี่ย สังเกตว่า ฮอลแลนด์หมดครับ หมดจริงๆ ไม่วิ่งไล่บอล ยืนตำแหน่ง ไม่เข้าบอล และก็อีกแล้ว ทางแบ็คขวาของฮอลแลนด์เนี่ยถูกรัสเซียบุกขึ้นมาทีไรนะครับ มันถึงเส้นหลังทุกที และจนได้ ประตูที่สองของรัสเซีย 2:1 ครับ ตอนนั้นเหลืออีก 8 นาทีเท่านั้น แล้วประตูที่สามก็มาใกล้ๆกันอีกครับ 3:1 เห็นได้ชัดว่า ฮอลแลนด์ไม่ไหวกันแล้วน่ะครับ ต้องยอมรับจริงๆว่า รัสเซียฟิตกว่าจริงๆครับ ขนาดว่านัดสุดท้ายรอบแรก ฮอลแลนด์ขนสำรองลงเล่นนะครับยังหมด ตอนหมดเวลา น้องรุด นอนเป็นตะคริวเลยครับ
ทั้งเกมส์ผมขอชมแวน เดอร์ซา ครับ ถ้าไม่ได้ชื่อนี้ super save ไปหลายลูกผมว่า จะโดนมากกว่านี้ ชไนเดอร์ เล่นผิดหวังครับ ยิงไกลยิงนกตกปลาไปสี่ห้าลูก (เอ่อ สงสัยพี่แกติดใจที่ยิงเข้าเกมส์กับฝรั่งเศสมั๊งครับ)
เฮ้อ สรุป เจอกันใหม่บอลโลก 2010 ที่ South Africa คร้าบ... จบข่าวครับ แหะๆ ว่าจะนิดเดียว