สรุปข่าวจากเดลินิวส์ครับ
'ในหลวง' เสด็จประกอบพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช วันนี้ (9 ม.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม
เวลา 10.00 น. เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาปางประจำรัชกาลสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ 10 รูปแล้วประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล จบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งชุมสายที่ตั้งเครื่องบวงสรวง บริเวณด้านหน้าพลับพลาพิธี ทรงแปรพระพักตร์สู่ปราสาทพระเทพบิดรและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับพระราชอาสน์ที่มุขหน้าพลับพลาพิธี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ อ่านประกาศบวงสรวง
ในขณะนั้นผู้ที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททุกหมู่เหล่า ยืนประนมมือแสดงคารวะบูชาผินหน้าไปทางพระที่นั่งชุมสาย เมื่อพระราชครูวามเทพมุนีอ่านประกาศบวงสรวง จบ โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายพระพรชัยมงคลคาถาพิเศษ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา แล้วพระสงฆ์ออกไปรับพระราชทานฉันที่ตำหนักสวนบัวเปลว ภายในพระที่นั่งวิมานเมฆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคม
ต่อมาในเวลาประมาณ 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เผ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในห้องพระโรงหน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร
เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกสีหบัญชรมุขด้านทิศใต้ ชาวพนักงาน กระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ ๓ เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ ๒๐ นัด พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้องกลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ
ครั้นสุดเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคม
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ประธานรัฐสภา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ จบทหารกองเกียรติยศ ๓ เหล่าทัพถวายความเคารพ
จากนั้น พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบต่อพสกนิกรชาวไทยที่พร้อมใจมาเข้าเฝ้าในวันนี้ มีใจความว่า
ประชาชนคนไทยได้แสดงน้ำใจไมตรีแสดงออกทั่วประเทศ น่าปลาบปลื้มใจมาก ขอขอบใจทุกคน จิตใจที่เปี่ยมด้วยความปรารถนาดีอันเดียวกันทุกคนทุกฝ่าย ทำให้ข้าพเจ้าเห็นแล้วมีกำลังใจมากขึ้น ทำให้เห็นว่าคนไทยเราสามารถร่วมมือร่วมใจรักษาชาติให้รุ่งเรืองสืบต่อไปตลอดรอดฝั่ง
ประการแรก คิดพูดคิดทำด้วยความเมตตามุ่งเจริญต่อกัน
ประการที่สองแต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงานประสานประโยชน์กันให้งานที่ทำสำเร็จผล ทั้งแก่ตน ผู้อื่น และประเทศชาติ
ประการที่สาม ประพฤติสุจริตในระเบียบกติกาแบบแผนเสมอกัน
ประการที่สี่ ต่างคนต่างพยายามนำความคิดความเห็นเที่ยงตนอยู่ในเหตุในผล หากความคิดจิตใจการประพฤติปฏิบัติที่เจริญนี้มีในกายคนใจคนไทยมั่นใจประเทศไทยมั่นคงดำรงอยู่ต่อไปได้ ขอให้ได้รักษาจิตใจคุณธรรมนี้ไว้ให้เหนียวแน่น อย่าให้ขาดสาย เพื่อให้ประชาชาติเรายืนยง ทั้งในปัจจุบันและภายหน้า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสต่อว่า หากความคิดจิตใจและการประพฤติปฎิบัติมีอยู่ในใจของคนไทย ก็ทรงมั่นใจว่า ประเทศชาติจะรอดปลอดภัย และพระองค์ ขอให้พสกนิกรทั้งหลายทั้งที่อยู่ในมหาสมาคม และชาวไทยทุกหมู่เหล่า รักษาจิตใจและคุณธรรมให้เหนียวแน่น เพื่อให้ประเทศชาติยืนยงอยู่ได้ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองประเทศไทยให้พ้นจากภัยอันตราย และมีความสุขสวัสดีให้เกิดกับประชาชนชาวไทยทั่วกัน
หลังจากจบพระราชดำรัส ประชาชนที่มารอเข้าเฝ้านั้น ต่างเทิดพระเกียรติเป็นเสียงเดียวกันว่า "ทรงพระเจริญ"