Topic: XXX ... Kev's Hakosuka ... XXX

[Uncle Sam]

ยอดเยี่ยมครับพี่
สงสัยคงต้องรบกวนพี่แปลไทยเป็นอังกฤษบ้าง เพื่อส่งไปให้ประเทศอื่นรู้บ้างว่าเราก็หนึ่งในตองอูเหมือนกัน

สวัสดีครับ  เสือปืนไว......


ความจริงเริ่มๆใว้แล้ว.....อยากจะเล่าเรื่อง B310.......ที่ไปกู้กันมา....

อยากจะลงทั้ง JNC Magazine & Website......

บอกคนฝั่งโน้น ใว้แล้ว......






.

[Uncle Sam]

.







Kev กะเล่นของหนัก.............


.....Weber.....ผู้พิชิตเซียน...............


ให้มันรู้กันไป.....ว่าใครจะเชือดใคร........................




Let's Rock.......



.

[Uncle Sam]

.


April 30, 2008  :   Weber…Weber…Oh Weber



เปิด Oh Weber….เอ๊ย....Oh Girl ไปฟังก่อนก่อน....เพื้อสร้างบรรยากาศ

http://www.get-music.net/mp3-657568/the-chi-lites-oh-girl.html




ข่าวที่ไม่ดีสำหรับวันนิ้คือ....Hako ยังไม่ได้ License …. Kev ต้องไปรับ เอกสารสีฟ้า  ( เป็นอะไร Kev ไม่ได้แจ้ง....ก็คงเหมือนกรมขนส่งบ้านเราละครับ....มีเอกสาร 11 ใบ...ไม่พอ....ต้องไปหาใบที่ 12….พอได้มา...พวกก็บอกให้หา ลายเซ็น บนฉบับที่ 8….อะไรประมาณนิ้...... )




เอาละครับ  ทีนิ้ตามไปดู นาย Kev ผ่า Weber กันดีกว่า


เมื่อตอนที่ Kev ส่ง Weber ไปซ่อม  ช่างเขียนโพยอะไหล่สำคัญๆ ประเภทนมหนู – นมแมว ที่ประกอบอยู่ใน Weber มาให้ดังนิ้


- Main Jets / นมหนูน้ำมัน           #   145
- Air Correction / นมหนูอากาศ    #   220
- Emulsion Tube / หลักผสม       #   F 11
- Choke / Venturi                     #     32 mm.


สิ่งที่ Kev ได้ศึกษามา  เป็นอย่างนิ้ครับ  เจ้าตัว Choke นิ่จะเป็นตัวกำหนด ปริมาณของอากาศที่จะใหลเข้า ห้องจุดระเบิด ( ถูกต้องแล้วครับ คุณ Kev….แต่ขอเสริมให้ครบถ้วน  ไม่ใช่อากาศธรรมดาๆ ...แต่เป็นส่วนผสมของอากาศ + น้ำมัน เป็นละอองละเอียดมากๆ...เมื่อใหลเข้าสู่ห้องจุดระเบิด จะได้มีการสันดาป ได้เร็ว และ แรง )






.

[Uncle Sam]

.


Kev คิดว่าเมื่อ ส่วนผสมจริงๆแล้ววี่งผ่าน รู Choke ขนาด 32 mm. ดังนั้นน่าจะเรียกว่า Weber # 32 ไปเลยจะดีกว่า  ( ก็น่าจะถูกนะคุณ Kev แต่ว่าสาเหตุที่ Weber เขาเรียก Model ว่า 40 mm.  เขาไม่ได้วัดที่ความกว้างของ Venturi  แต่เขาวัดที่ Diameter ของรูออก ที่อยู่ติดกับ ท่อไอดีครับ )


แต่อย่างไรก็ดี  เจ้า Choke หรือ Venturi นิ้ต้องพึ่ง และ ทำงานร่วมกันกับหลายๆชิ้นส่วน  คือมันพัวพันไปหมด...ตั้งแต่ แม่ผัว...ลูกสะไภ้...พ่อเมีย....อาเขย.... แม้กระทั่ง คนส่งนสพ    อ้าว...เลิ้ยวซ้ายลงไปได้ไง ?


ตำรา จูน Weber ที่ Kev ใช้อยู่  แนะนำว่ายังงิ้.......


-  จะหาขนาดของ นมหนูน้ำมัน ท่านให้เอา # ของ Venturi มาคูณด้วย  4    ดังนั้น หาก Venturi = 32 mm  แล้ว  x  4   =   นมหนูน้ำมันอยู่ที่  128    แต่เบอร์ของ Weber ขยับที่ละ  5  ดังนั้น  นมหนูน้ำมันที่ควรใช้  ควรอยู่ที่เบอร์  125  หรือเบอร์  130


ถ้า นมหนูน้ำมันที่ใส่คาอยู่ เป็นเบอร์ 145 ก็จะใหญ่ไป  นอกจะจะเปลื่องน้ำมันแล้ว  หากเผาไหม้ไม่หมด ก็จะเป็นเขม่าดำ และ แฉะ   แถวๆบ้านคนแปล..เขาเรียกว่า หัวเทียน บอด !



.

[Uncle Sam]

.


ถอดนมหนูต่างๆมาตรวจดูไม่ยากครับ   เปิดฝา ( ที่มีลักษณะเหมือนฉิ่ง.....ไม่ใช่ฉิ่งที่คุณคิดนะครับ.....)   พอเปิดฉิ่ง...ก็จะเห็นน๊อตทองเหลืองสี่ตัว....สองตัวที่มีหัวผ่าและรูตรงกลาง เขาเรียกว่า Emulsion Tube / หลักผสม..... ชิ้นส่วนทั้งหมด 4 ตัว ..... อย่าให้หล่นหายนะ...ไม่งั้นเป็นเรื่อง.....








ที่เห็นเป็นแท่งทองเหลืองใสๆ นอนอยู่ด้านหน้าเป็นหลักผสม ประกอบด้วย  จากขวาไปซ้าย.....ฝาครอบ....นมหนูอากาศ.....ตัวหลักผสม.....และซ้ายสุด คือ นมหนูน้ำมัน


ทีนิ้เวลาจะ “ เล่น “ Weber ก็ต้องถอดส่วนประกอบชุดนิ้ออกมา....ตรวจเบอร์ว่าตรงตามที่ตำราว่า...หรือตรงตามที่ต้องการหรือไม่  ที่สำคัญที่สุด  เบอร์ของส่วนต่างๆที่ว่า ต้องตรงกันในทุกหลักผสม.....หากมั่ว..... หรือลืม......หรือขาดหายไปไม่ครบถ้วน...ก็จะมีผลต่อการเดินเครื่องครับ


เล่นไม่ยาก...แต่ต้องละเอียดครับ






.

[Uncle Sam]

.


เมื่อ Kev ตรวจดูชัดๆ...ก็ปรากฏว่า นมหนูน้ำมัน ที่ช่างซ่อมบรรทึกในรายงานมาว่าเป็นเบอร์  145  น่ะ....ไม่ใช่ซะแล้ว....เพราะเบอร์ที่ปั้มมาคือ 125  ซึ่งน่าจะตรงตามตำราของ Weber !







เมื่อมาตรวจ นมหนูอากาศ ก็ตรง ตามที่ช่างซ่อมได้แจ้งมา  คือ เบอร์  220  ( แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นเบอร์ที่ควรใช้ นะครับ )






.

[Uncle Sam]

.


ตำรา Weber แนะนำ เบอร์ของนมหนูอากาศที่ควรเป็น  ค่อนข้างกว้าง  ดังนิ้.....

-   สำหรับเครื่องยนต์มาตราฐาน ที่ไม่ได้แต่งเติมอะไรมากมาย 
          ให้ใช้เบอร์ของนมหนูน้ำมันเป็นตัวตั้ง  แล้ว บวกด้วย factor 50

-   สำหรับเครื่องยนตฺประเภท แต่งเพียบ ทั้งแคม , ลูกสูบ High
          Compression , Ported & Polished , Headers  ท่านให้ใช้
          Factor  ที่บวกเพียง 10  เท่านั้น


ทีนิ้ เครื่องยนต์ที่ แต่งโดยประมาณ  แบบของ Kev ก็ต้องเดาว่า ควรจะอยู่ระหว่าง  +  25 / 30 / 35 ทำนองนั้น


Kev คิดว่า จุดเริ่มต้น สำหรับเครื่องยนต์ของ Hako น่าจะมีนมหนูน้ำมัน ที่เบอร์ 125 และ นมหนูอากาศ ที่เบอร์ 175   แต่ Kev ก็ยังไม่ด่วนสรุป เพราะทั้งรอบระดับกลาง และ สูง ก็ยังไม่ดี  ไม่ลื่นใหล  ไม่ประทับใจ


Kev เลยตั้งข้อสงสัย  ว่าเป็นไปได้ใหม ที่เจ้าของเก่าสั่งให้โมฯ โดยใช้วิธีแยงรูให้ใหญ๋  เลยไม่ได้มาตรฐาน  ( รูนมหนูนะครับ พี่น้อง....รู้น๊ะว่าคิดอาราย....)



ยี่งคิด...Kev ก็ยี่ง ป.ก.บ. ...... ก็เลยบอกกับตัวเองว่า.....ยอมแล้ว...คุณ Weber….. และตัดสินใจที่จะไปหาช่าง Weber ให้จูนให้ คงจะดีกว่า......



..

[Uncle Sam]

.


ช่าง Weber  =   ช่างเถอะ....



ช่าง Weber ที่เคยซ่อมให้ Kev ยอมรับว่าเขามั่วมาเอง....ที่ถูกแล้วตัวนมหนูน้ำมันนั้นเป็น # 125 


แล้วให้แนวแก้ใขปรับปรุงทางมา สอง วิธีครับ.....


วิธีที่ 1  :   ให้  Kev ลองใช้ “ หัวเทียนร้อน “  ปัจจุบัน Kev ใช้ NGK BP6ES ….เจ้า 6 คือ Heat Range Spec  เป็นหัวเทียนเย็น….ที่เหมาะสำหรับรถบ้านรุ่นใหม่ใช้หัวฉีดทั่วไป   ส่วนเครื่องยนต์ใช้ คาร์บิวควรต้องใช้หัวเทียนที่มี Heat Range สูงกว่านั้น  Kev เลยตกลงที่จะลองใช้ เบอร์  5  ที่มี Heat Range สูงกว่า  ( เบอร์ต่ำร้อน...เบอร์สูงเย็น ...นิ่สำหรับ NGK นะครับ...ยี่ห้ออื่นๆ ต้องลองเทียบเอา.... แต่ผมว่าใช้ Bosch Platinum ไม่มีเขิ้ยวไปเลย  ไม่ต้องห่วงเรื่อง Gap … ไม่ต้องห่วง Heat Range ….. วิธีดู Heat Range อีกแบบคือ ให้ดูที่ส่วนขาวๆที่เป็นกระเบื้องตรงปลายแกนกลาง  หากมีมากจนเกือบถึงปลายแกน เท่ากับ ร้อนกว่า ครับ...ง่ายๆ )




(  ผมขอให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกนิดครับ...ในกรณีที่เปลี่ยนหัวเทียน  หากจะวัดผลด้วยความรู้สึกอย่างเดียว  อาจจะไม่ถูกต้องนะครับ  เพราะทันทีที่คุณเปลี่ยนหัวเทียน  Character ของเครื่องจะเปลี่ยนทันที  เปลี่ยนไปในทางดีขึ้นจนรู้สึกได้....แบบนิ้ดูว่าอาจจะไม่ใช่การวัดผลที่แท้   วิธีคือก็ต้องรอใช้ไปสักพักก่อน แล้วจึงวัดครับ....    )


( และถ้าเป็นบ้านเรา...ผมใช้หัวเทียนเย็นกับ Alfa Romeo ครับ...เพราะเครื่องยนต์ตัวนิ้มัน Generate ความร้อน เร็วกว่า และ มากกว่า ชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ........ ลองพิจารณาดูด้วยครับ )



วิธีที่ 2  :   ช่างแนะนำให้ทดลองติดตั้ง Fuel Regulator ที่มีหน้าที่ควบคุมการใหลของน้ำมันเบนซิน สู่คาร์บิว   Weber recommends ให้มี  Fuel pressure ที่  2.5 psi.   Kev เลยไปซื้อ Fuel Regulator มาตัวนึง  ....... ไม่ลองไม่รู้    เนาะ Kev……


(  ลูกชายผมเป็น “ นักทดลอง “ เหมือน Kev ครับ....ช่วงที่ลูกใช้ Alfa Romeo 155 8V ซึ่งเป็นเครื่องหัวฉีดแล้ว....ซื้อ Fuel Regulator ของ Weber มาลองใส่ดู.....บอกว่าดีขึ้นในแง่ประหยัด...อัตราเร่งก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าดีขึ้น....แต่ปลายดีขึ้นเล็กน้อย )



.

[Uncle Sam]

.

May  2, 2008  :   ไม่ลอง...ไม่รู้........


การติดตั้ง Fuel Regulator ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะไม่ต้องใช้ไฟฟ้า   โดยต่อให้ตัว Regulator อยู่ก่อนเข้าปั้มติ๊กครับ ( ปั้มติ๊กมีหุ่นเหมือนของ Celica ตัวเหลืองนะ )






Weber recommends 2.5psi...so 2.5psi it is.








ผล...? 

1. รอบเดินเบาเหมือนเดิม....ก็คงต้องลองขับดูก่อน  นะ Kev นะ

2. การขับใช้จริง  Kev มีความรู้สึกว่าดีขึ้น..อะไรดี...?  เร่งลื่น ไม่กระตุก  ถอดหัวเทียนมาดูสีดีมาก แห้ง...






.

[Uncle Sam]

.

แต่ Kev ก็ยังไม่ Happy      ถ้าดูหัวเทียนตัวขวา มีความรู้สึกว่าร้อนไปนิด...จะต้องแก้ใขด้วยการเติมน้ำมันผ่านนมหนู...หรือไม่ก็ต้องไปดูตำแหน่งแคมว่าเพิ้ยนหรือไม่.....


( มันก็ต้องเวียนอยู่แบบนิ้ละครับในชีวิตจริง....ตัว Variable ทุกๆตัวมีผลกับการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งนั้น....แคม..ตำแหน่งติดตั้ง....คาร์บิวและส่วนผสม....ไฟกับ Power ในการจุดระเบิด....ฯลฯ  )


.

[Uncle Sam]

.


ในช่วงที่กำลังกุมศรีษะอยู่กับเครื่องยนต์   ข่าวไม่ดีก็มีมา....เจ้าตัว “ Blue Slip “ ที่ Kev ต้องยื่นเพิ่มก่อนจะได้ใบ License นั้นก็ยังไม่ได้...เจ้าหน้าที่บอกว่าไฟกระพริบเลิ้ยว และ ไฟส่องป้ายไม่ทำงาน...เบรกหลังติด.....ที่สยองมากๆคือสองตัวหลัง.....

1.   พื้นผุทะลุ.....เอ..เป็นอย่างไร...ก็ Kev ได้ทำการ “ กลบสนิม “ ด้วย POR15 ไปแล้วไง......

2.   ตัว CoilOver …. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมีสองกลุ่ม...กลุ่มแรกให้ส่วนสูงหน้าผ่าน....แต่กลุ่มที่สองดันบอกว่า ตัว CoilOver ผ่านการ Modified มา ( ให้ก้านโช๊ดลงตัว... ) แบบนิ้ รับไม่ได้..และไม่ผ่าน......


Oh..my………..


Kev ปวดมาก....คิดอะไรไม่ออก....อาจจะต้องหันหน้าไปพึ่งเจ้าหน้าที่คนแรก....


.

[Uncle Sam]

.

May 6, 2008   :   ผุ...นิดหน่อยน่า........



มองจากด้านล่าง....ไม่แย่เท่าไรนะ.....









มองจากด้านบน.....ร่อนออกมาเป็นแผ่น

เจ้าของเก่าที่ Restored Hako ใว้...คงขูดแผ่นกันเสียงเก่าออกหมด...เอาแผ่นใหม่ลงไม่ค่อยดี...เลยหลุดออกมาเป็นกระบิ.....






....ซึ่งหมายความว่า  พอชื้นเมื่อไร....ความชื้นก็จะฝังอยู่ด้านใน







และเพราะไม่ได้ทาสีกันสนิมใว้.......พื้นเลยกลายเป็น ขุมนรกนครสนิม ....






.

[เจ้าบ้านบางกอกฯ]

สุดมันส์ พะยะค่ะเลย ... พี่จอร์จ ...  
ขอบอก ... อยากได้กระทู้แบบนี้มานานแล้วค้าบพี่ ขอบคุณนะครับพี่ 
ที่เอาของดี ๆ แบบนี้บรรจงแปลมาฝากน้อง ๆ บ้านบางกอกฯ  

 

[Uncle Sam]

.

Kev ก็เลยต้องเริ่มใหม่หมด...แต่ยี่งขูด..ก็ยี่งเจอ....เจอสนิม....และ...รู........






ด้านคนขับน่ะพอดูได้....แค่รูเล็กๆน้อยๆ.....







Kev คิดๆว่าจะทำเอง...ซื้อเครื่องเชื่อม...แล้วลงมือ...จะดีใหม..






ทำเอง...ลงมือเองกับ Hako….แล้วเก็บประสบการณ์ใว้ทำกับคันต่อไป........แต๋......

....แต่...แน่ใจหรือ Kev….. หากทำแล้วเสีย...ทำแล้วเละ...เสียของดีๆ..หายากๆ...แบบ Hako นะ



สุดท้าย...Kev thought some sense….ก็เลยไปจ้างอู่ตัวถังแถวบ้าน  คิดไม่แพง...ฝีมือดี......



.

[Uncle Sam]

.

May 7, 2008  :  เบรกจ๋า...Kev มาแล้ว.....



คืนนิ้ Kev ตั้งใจจะลงมือกับเบรกที่ล้อหลัง......


ครั้งสุดท้ายที่ Kev ขับ....ก็มีความรู้สึกไม่ค่อยดี  อาจจะเป็นที่เบรกมือ  หรืออะไรซักอย่างที่เหมือน ดึงๆ...ตื้อๆ.....พอถอดล้อหลังขวาก็ปรากฏว่าหมุนลำบากมาก  ระบบเบรกแบบดรัมจากยุค ‘60s มีข้อด้อยอย่างหนึ่งที่ชัดเจน คือ จะต้องได้รับการ Adjust เบรกตลอด  ขืนไม่ทำก็จะมีปัญหาเบรกจม.....





.

[Uncle Sam]

.

ทีนิ้ หาก Adjust ชิดเกินไปล้อก็จะหมุนลำบาก...เบรกร้อน...เบรกติด.....วิธีการที่ทำๆกัน ก็คือ ปรับจนน๊อตตึง แล้วใขกลับ หนึ่ง หรือ สอง คลิ๊ก

Kev ก็ลองใขน๊อตตัวปรับ หนึ่งคลิ๊ก...ยังตึง.....ปรับอีกคลิ๊ก...ล้อฟรี..ดีขึ้น....แต่พอดึงเบรกมือ...ล้อติดเหมือนเดิม....

Kev เลยถอดเบรกทุกชิ้น  เตรียมส่งร้านซ่อม.......







ที่เห็นเป็นกระเปาะด้านล่าง เป็นลูกปั้มเบรก ที่ทำงานโดยเมื่อเหยียบเบรก เดือยสองข้างจะดันผ้าเบรกออกให้ไปเบียดวงในของล้อ...เพื่อให้ล้อหยุดหมุน  สปริงจะเป็นตัวดึงก้ามเบรกให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม






ถอดสปริงออกก่อน...






ถอดก้ามปูเบรก






.

[เจ้าบ้านบางกอกฯ]

ยอดเยี่ยมครับพี่
สงสัยคงต้องรบกวนพี่แปลไทยเป็นอังกฤษบ้าง เพื่อส่งไปให้ประเทศอื่นรู้บ้างว่าเราก็หนึ่งในตองอูเหมือนกัน

รบกวนด้วยคนพี่
อย่างที่พี่เอครับ สนับสนุนอีกหนึ่งเสียง

อีกหนึ่งเสียงครับ

.... Go Go Go "Uncle Sam" Go Go Go ....

 

[Uncle Sam]

.

จะให้ก้ามปูเบรกบีบเข้าออกง่าย..ไม่ฝืด...ก็ต้องพึ่งจาระบีเบรกที่ทนความร้อนสูง  ( ไม่งั้นละลายออกมาเจอจานเบรก  ลื่นแปร๊ด....ทีนิ้ยิ่งยุ่งครับ )










เบรกมือใช้กลไกง่ายๆ....พอดึงเบรกมือขึ้น แท่งหัวแบนจะยื่นออกไปดันจานเบรกจากด้านใน....ไม่น่าเชื่อ It Works……







ตรวจดูว่าเรียบร้อยดี...ก็ประกอบกลับอย่างเดิม

( โธ่ คุณ Kev หา Disc สวยๆมาเปลี่ยนซะหน่อยไม่ดีกว่าหรึอ....เห็นเบรกดรัมโบราณ กับรถ Hako เครื่องแรง...หรือที่พยายามทำให้เครื่องแรง....ดูแล้วไม่ Match กันเล้ย...อีกอย่าง หากต้องการอนุรักษ์  ก็ควรทำกับส่วนอื่นน่าจะดีกว่านะ...)





.

[Uncle Sam]

.


จนแล้ว..จนรอด..... Hako ยอดรักของนาย Kev ก็ยังไม่ไปถึงใหน......


แต่ผมเข้าใจครับ....และเห็นใจด้วยที่เพราะ Kev ทำหลายๆอย่างเอง..... และหากให้เดา.... นี่อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับ Kev ด้วยซ้ำ........


ที่น่าชื่นชม....ก็คือ “ ความพยายาม – ไม่ยอมแพ้ “


ผมเชื่อว่า หากมีสองอย่างที่ว่า.... อย่างอื่นไม่ต้องกลัวครับ



พรุ่งนิ้พบกันใหม่ครับ.....



.

[Uncle Sam]

ยอดเยี่ยมครับพี่
สงสัยคงต้องรบกวนพี่แปลไทยเป็นอังกฤษบ้าง เพื่อส่งไปให้ประเทศอื่นรู้บ้างว่าเราก็หนึ่งในตองอูเหมือนกัน

รบกวนด้วยคนพี่
อย่างที่พี่เอครับ สนับสนุนอีกหนึ่งเสียง

อีกหนึ่งเสียงครับ

.... Go Go Go "Uncle Sam" Go Go Go ....

 

สวัสดีครับ ท่านเจ้าบ้าน.....


นอนดึกเหมือนกันนะครับ.....หรือว่าเอางานมาทำต่อที่บ้าน........


เหมือนผมสมัย " ลุย " ..... ไปนอกทีนึง  พอกลับมางานรอบนโต๊ะ ตรึม.......


เรื่อง " ไทย..ไป..อังกฤษ " .... กำลังรวบรวมรูปภาพอยู่ครับ....


ของ Sakamoto San ณ. รามอินทรา......



.

[เจ้าบ้านบางกอกฯ]

ยอดเยี่ยมครับพี่
สงสัยคงต้องรบกวนพี่แปลไทยเป็นอังกฤษบ้าง เพื่อส่งไปให้ประเทศอื่นรู้บ้างว่าเราก็หนึ่งในตองอูเหมือนกัน

รบกวนด้วยคนพี่
อย่างที่พี่เอครับ สนับสนุนอีกหนึ่งเสียง

อีกหนึ่งเสียงครับ
.... Go Go Go "Uncle Sam" Go Go Go ....

สวัสดีครับ ท่านเจ้าบ้าน.....

นอนดึกเหมือนกันนะครับ.....หรือว่าเอางานมาทำต่อที่บ้าน........
เหมือนผมสมัย " ลุย " ..... ไปนอกทีนึง  พอกลับมางานรอบนโต๊ะ ตรึม.......
เรื่อง " ไทย..ไป..อังกฤษ " .... กำลังรวบรวมรูปภาพอยู่ครับ....
ของ Sakamoto San ณ. รามอินทรา......

ช่วงนี้งานตรึมจริง ๆ ครับ พี่จอร์จ 
วันหน้าวันหลังไม่กล้าไปเมืองนอกนาน ๆ แล้ว 
กลับมาถูกน้อง ๆ ที่ทำงานลงโทษ ให้ทำงานอย่างบ้าเลือด 

วันนี้พอดีมีงานแถลงข่าวเสร็จไปแล้ว   
ดึกนี้เลยไม่รู้จะทำอะไร (เป็นงั้นไป) 
ขอ update กระทู้บ้านบางกอกฯ ระหว่างรอดูบอลยูโร ฝรั่งเศส-อิตาลี ซะหน่อยครับ    

 

[tiger00]

ติดตามตลอดนะครับ เยี่ยมเลย
ส่งรูปมาให้ด้วยครับ

[Uncle Sam]

.


May 10, 2008  :  Kev’s Still Got The Blues







สงสัยชื่อ Title ใหมครับ.....ถ้าสงสัยตอนจบของ Part นิ้...ผมจะเล่าให้ฟัง

แต่ตอนนิ้มาฟังเรื่องราวของ Kev’s Hako ต่อดีกว่า



.

[Uncle Sam]

.

ปัญหาที่ Kev กำลังเจออยู่...ที่ยังแก้ไม่ตกมีมากหลาย.....เรื่องเบรก  เรื่องช่วงล่างและส่วนสูง เรื่องตัวโช๊คแต่ง...เรื่องพื้นที่ผุเละ...เรื่องเครื่องยนต์ที่ยังเดินไม่สะใจ....อืมม์....Kev คงมึนพอสมควร


และเพื่อระบายความปวด...ระบายความมึนออกไปจากระบบสมอง...Kev ตัดสินใจที่จะลุยต่อ...แต่ขอเป็นงานเล็กๆไปก่อน.....


งานขัดพ่นสีกระจกมองหลังที่เฟนเดอร์


ตอนที่ได้รับรถมา Kev ก็สังเกตเห็นแล้วละว่ากระจกที่ว่าถึงจะมีทรงสวย แต่ค่อนข้างแย่ในรายละเอียด




.

[Uncle Sam]

.


Kev ก็เลยจัดการถอดออกมาซะ  แกะง่ายครับเพราะน๊อตมีไม่กี่ตัว






แกะออกเสร็จ ก็จัดกาขัดกระดาษทรายให้สีเก่าออก..และให้ผิวเรียบ




พอพื้นผิวเรียบ ก็จัดการเอาเทปกาวมาปิดกระจก เพราะไม่ต้องให่สีที่จะพ่น มาเลอะ....





ก่อนพ่นสี ก็จัดขาตั้ง โดยเจาะกระดาษลังลูกฟูก ให้เหมือนเป็นฐาน





สีที่เลือกใช้ เป็นยี่ห้อดัง VHT ( ย่อมาจาก Very High Temp ) เนื้อสีเข้มข้น ทำให้พ่นได้ง่ายและเร็ว





.