Author Topic: projekt e30 coupe สองน้องช่วยปั้นดินให้เป็นดาว...หรือเปล่า  (Read 664598 times)

0 Members and 13 Guests are viewing this topic.

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
เอามายั่วกิเลสคนอยากได้หาง....รีบๆถอดหางรอไว้เลยนะน้าต๊อบ
ยางมันนิ๊มมมมนิ่มนะน้า ขนาดผลิตมาตั้ง 27 ปีแน่ะ :grin:
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline blablabla

  • **กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม**
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Apr 2006
  • Posts: 1,301
  • Gender: Male
  • Last Login:February 16, 2021, 01:19:59 pm
มายืนยันอีกเสียง หางเค้าใหม่จริงๆ ยางนิ่มๆเลยเห็นแล้วน้ำยายไหย $^$
คำคมประจำวันนี้   "มีด"

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
เรียนพี่ต่อ อันนี้คือช่วงล่างที่ผมอีเมลล์ไปถามเค้า เป็น intrax type RSA เค้่าว่ามาที่ 2000Euro อย่างที่บอกไปอ่ะครับ
ยังไม่รู้ว่าจะโดนค่าส่งอีกเท่าไหร่ กำลังรอคำตอบจากทางนั้นอยู่
http://www.intrax-suspension.eu/?cat=productdetail&prodid=673&title=E30__3-Series_325_dampers_RSA&lang=EN

'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline smokky

  • Member
  • *****
  • Join Date: Feb 2010
  • Posts: 103
  • Gender: Male
  • Last Login:October 12, 2020, 11:36:27 am
เห็นชิ้นงานที่ไปชุบซิงค์แล้ว กิเลสจับมากเลยครับ เมื่อไหร่มีโอกาส ผมจะส่งไปบ้างหละ เยี่ยมครับ คอยติดตามต่อไป  :good:
To drive like a  player not a playboy ...

Offline top30

  • 28/30/34
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: May 2007
  • Posts: 1,299
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:January 02, 2020, 11:45:10 pm
 :good: pm sent ครับน้าอัน
Happiness only real when shared

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
ตอบกลับไปแล้วนะน้า รีบๆถอดเลยนะน้า เปลี่ยนหางใหม่ได้แระ
ปล. รูปรถ...ถูกใจมากอ่ะ
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
สอบถามไปแล้ว ซื้อในฮอลแลนด์น่าจะถูกกว่าที่เยอรมัน
เพราะ Intrax มันเมดอินฮอลแลนด์

อีกหนึ่งทางเลือกลองเข้าโหลดอันนี้มาชมดู http://www.koni-na.com/cat_search_form.cfm
มีสารพัดชนิดตั้งแต่รถจ่ายกับข้าว (จริงๆ) , drag, rally, จนถึงรถแข่งล้อเปิด
รุ่น 8610/8611 น่าจะลงตัว เป็น Insert เลือกความยาวกระบอก/stroke ได้ หากยังไม่ลงตัวสั่งทำ custom made ก็ยังไหว เหมาะสำหรับ semi-race use มาก ราคาไม่แพงมากจนเกินความจำเป็น

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
มีใครรู้ที่ไหนที่ทำสี crackle paint ได้หรือเปล่าครับ อยากเอาไปทำฝาครอบวาล์วอ่ะ
สีมันจะออกเหมือนพวกคอไอดีเครื่อง EJ20 อ่ะครับ
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline iamwashmania

  • Verified Member.
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2006
  • Posts: 4,598
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:December 04, 2023, 05:47:34 pm
    • jglaze
บิลสะตาย ดีครับ นุ่มนิ่ม สบายๆๆ  w^w
บ้านบางกอก.......for Life!ถ้าเราไม่ แสดงตัวออกมา ให้บ้านบางกอก เห็นว่าเรายังอยู่
เเล้วเราจะ web บ้านบางกอกจะมีไว้ให้ใครดูครับ

สมัครยาก คนดูน้อย เพื่อนๆ หายไป
ผมอยากให้ ทุกคนเข้ามาดูได้นะครับ
บ้านบางกอกจะได้อยู่ต่อไป ใครสมัครไม่ได้ ให้แจ้งทาง Facebook ได้ลยครับ

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
Bilstien B8 อยู่ในตัวเลือกอันดับต้นๆครับ แต่ตอนนี้มาติดที่ว่าถ้าโหลดเกินมาตรฐานเค้า ซึ่งว่าที่ประมาณ 2" max lowering ผมกลัวว่ามันจะยันได้น่ะสิครับ
รถผมคาดการว่าถ้าจะให้สวยอาจจะต้องโหลดลงมาถึง 3" กว่าๆ ซึ่ง stroke ของ shock น่าจะยันได้ แล้วจะกลายเป็นเสียเงินสองรอบไป
ช่วงนี้กำลังศึกษาดูรายละเอียดช่วงล่างอยู่ครับ ไม่ได้รีบแต่อยากให้ครั้งเดียวจบ

ตอนนี้เท่าที่สอบถาม มีทั้ง koni racing, moton, intraz, ground control และ GAZ ซึ่งรายหลังนี่ถ้านับเรื่องราคาล่ะไม่เลวเลย เป็น 2-way ซะด้วยแต่คงไม่มีปัญญาปรับขนาดนั้น ราคาป้วนเปี้ยนอยู่ 900GBP และสามารถส่งไป revalve ได้ถ้าไม่ชอบ koni racing ก็กำลังศึกษาโช้ครุ่นต่างๆของเึค้าอยู่ ตอนนี้ส่งรายละเอียดต่างๆไปถามเจ้าต่างๆอยู่ รอคำตอบและการตัดสินอีกครั้ง
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline blablabla

  • **กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม**
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Apr 2006
  • Posts: 1,301
  • Gender: Male
  • Last Login:February 16, 2021, 01:19:59 pm
อยากโหลดแบบตรงยุคมั้ยล่ะ ตัดแกนโช้คตัดสปริง โลด อิอิ :crazy2:
คำคมประจำวันนี้   "มีด"

Offline iamwashmania

  • Verified Member.
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2006
  • Posts: 4,598
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:December 04, 2023, 05:47:34 pm
    • jglaze
Bilstien B8 อยู่ในตัวเลือกอันดับต้นๆครับ  แต่ตอนนี้มาติดที่ว่าถ้าโหลดเกินมาตรฐานเค้า ซึ่งว่าที่ประมาณ 2" max  lowering ผมกลัวว่ามันจะยันได้น่ะสิครับ
รถผมคาดการว่าถ้าจะให้สวยอาจจะต้องโหลดลงมาถึง 3" กว่าๆ ซึ่ง stroke ของ shock น่าจะยันได้ แล้วจะกลายเป็นเสียเงินสองรอบไป
ช่วงนี้กำลังศึกษาดูรายละเอียดช่วงล่างอยู่ครับ ไม่ได้รีบแต่อยากให้ครั้งเดียวจบ



******************************************************
รถผมใช้ บิวสะตาย เตี้ยนะ
บ้านบางกอก.......for Life!ถ้าเราไม่ แสดงตัวออกมา ให้บ้านบางกอก เห็นว่าเรายังอยู่
เเล้วเราจะ web บ้านบางกอกจะมีไว้ให้ใครดูครับ

สมัครยาก คนดูน้อย เพื่อนๆ หายไป
ผมอยากให้ ทุกคนเข้ามาดูได้นะครับ
บ้านบางกอกจะได้อยู่ต่อไป ใครสมัครไม่ได้ ให้แจ้งทาง Facebook ได้ลยครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
stroke น่าจะเป็นประเด็นที่สองหลังจากพิจารณา max length (ยกรถขึ้นล้อยืดสุด) กับ min length (รถอยู่บนพื้นบนน้ำหนัก pre-load)
และจะเป็นตัวการันตีได้แน่นอนว่ามันจะไม่ยัน เพราะโช้คยังคงทำงานได้เท่ากับระยะ stroke ที่ระบุเอาไว้โดยแกนไม่กระแทก (เพราะมันยังมีสปริงรับน้ำหนักเอาไว้อีกทีหนึ่ง)

stroke ยาวไปไม่เป็นไร (สำหรับ semi-track car และหาก min/max length ถูกกำหนดอย่างถูกต้องแล้ว)  แต่ถ้าสั้นไปเวลารถกระดอน มันจะดึงล้อลอยขึ้นมาพ้นพื้น

Koni ที่เอา link มาลงไว้ให้สั้นมากนะครับ ของผม min length เท่ากับรุ่นที่ยาวที่สุดของมันทั้งๆที่ตอนนี้อ่างน้ำมันเครื่องอยู่ห่างจากพื้นถนนแค่ 1" เศษๆเอง (บนล้อ 15")

 
« Last Edit: August 12, 2010, 08:49:32 am by Flying Dutchman »

Offline Pan

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,862
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:December 21, 2023, 05:16:03 pm
BBS ขอบลึกๆ รถเพื่อนผมเองเมื่อนานมาแ้ล้ว



ถ้าเราไม่ แสดงตัวออกมา ให้บ้านบางกอก เห็นว่าเรายังอยู่
เเล้วเราจะ web บ้านบางกอกจะมีไว้ให้ใครดูครับ

สมัครยาก คนดูน้อย เพื่อนๆ หายไป
ผมอยากให้ ทุกคนเข้ามาดูได้นะครับ
บ้านบางกอกจะได้อยู่ต่อไป ใครสมัครไม่ได้ ให้แจ้งทาง Facebook ได้ลยครับ

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
ขอบเท่าไหร่อ่ะครับพี่แผน เหมือนจะเป็น 17" เลย
ไว้กลับไปขอไปทดสอบสีพ่นช่วงล่างหน่อยนะครับ

อยากรบกวนถามถ้าผมจะซื้อปั๊มลมสัก 50 ลิตรนี่ใช้ได้หรือเปล่าครับ
ผืนพ่นแบบไหนพอแนะนำได้มั๊ยครับ พอดีอยากเปลี่ยนปั๊มลมเดิมที่อยู่ที่บ้าน ประกอบกับอยากลองพ่นสีเองดูมั่ง เผื่อจะได้ทำสีกะเค้าเองมั่ง
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline buggy

  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2008
  • Posts: 371
  • Gender: Male
  • Last Login:April 07, 2017, 03:28:26 pm
ขอบเท่าไหร่อ่ะครับพี่แผน เหมือนจะเป็น 17" เลย
ไว้กลับไปขอไปทดสอบสีพ่นช่วงล่างหน่อยนะครับ

อยากรบกวนถามถ้าผมจะซื้อปั๊มลมสัก 50 ลิตรนี่ใช้ได้หรือเปล่าครับ
ผืนพ่นแบบไหนพอแนะนำได้มั๊ยครับ พอดีอยากเปลี่ยนปั๊มลมเดิมที่อยู่ที่บ้าน ประกอบกับอยากลองพ่นสีเองดูมั่ง เผื่อจะได้ทำสีกะเค้าเองมั่ง

 
สงสัยจะเปิดโรงรถเป็นอู่เล็กแน่ๆๆ :coolsmiley:

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
ตอนนี้หลังจากพิจารณาหลายๆบริษัทรวมเงินทุนในกระเป๋าแล้ว
ได้สอบถามข้อมูลต่างๆมากมาย รวมทั้งการ warranty & service การปรับแต่ง option ต่างๆที่ให้มาและความคุ้มค่า price performance
ตอนนี้เลยลงตัวกะยี่ห้อ GAZ GGA coilover ครับ
ผมเลือกซื้อตัวนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด หรือปรับได้มากที่สุด หรือขับดีที่สุด แต่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุดสำหรับการใช้งานอย่างผมแล้ว
ตัวนี้ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ถามไถ่ไปหลายที่ทางฝั่งอังกฤษก้ได้รับผมตอบรับที่ดีเหมือนกัน และตัวนี้ยังใช้ในการแข่ง BMW production championship ด้วย

ตอนแรกว่าจะทำเป็น ใส้ bilstien B8 ขับใช้งานทั่วๆไป แต่มานั่งคิดดูถ้าลงทุนอีกไม่มาก และไม่ต้องเสียเวลาไปทำเอง คุมเอง ส่งเอง มันประหยัดเวลาผมไปได้เยอะมาก ซึ่งตอนนี้เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับผม ช่วงนี้นอกจากจะยุ่งเรื่องหารทำรถ ยังวุ่นวายเรื่องธุรกิิจตัวเองอีก

ไอ้ครั้งคิดว่าจะทำเป็น สตรัทปรับเกลียวก็กลัวว่าจะใส่กระบอกแกนตรงมั๊ย เชื่อมดีหรือเปล่า เพราะผมใ้หความสำคัญเรื่องช่วงล่างและเบรกมาเป็นอันต้นๆเลย เพราะมันหมายถึงชีวิต

คือตอนนี้เบื่อแล้วที่ต้องไปนั่งคุมช่าง นั่งแก้ เปลี่ยน ปรับ ฯลฯ สมัยก่อนแข่ง gymkana กับ circuit บ้างเป็นครั้งคราว บางที่ต้องมานั่งแปลง แก้ไข ทำนู่นทำนี่ ต้องมานั่งเทียบอะไหล่รถคันนู่น มาเทียบคันนี้ วุ่นวายไปหมด เสียเวลาและเสียรถไปพอสมควร สมัยนั้นไม่ได้สนใจเรื่องแบบ OEM มากนัก แต่เดี๋ยวนี้ความคิดเปลี่ยนไป เน้นว่า OEM ไม่ตัด ไม่เจาะ ไม่แปลง อาจจะไม่ได้ดีที่สุดหรือเจ๋งที่สุด แต่มันคือสิ่งที่ factory เค้าออกแบบมาแล้ว ซึ่งผมก็คิดว่า factory คงฉลาดกว่าผมมากมายนัก แล้วอย่างผมจะไปรู้ดีกว่าได้อย่างไร

อย่างเรื่องเบรกผมไม่เอาด้วย หลายๆคนก็บอกให้เปลี่ยนๆ แต่ผมไม่ได้ใช้งานขนาดนั้น ผมเคยเห็นคนไกล้ๆตัวเนี่ยแหละ แปลงเบรกมาใส่เบรกใหญ่ๆโตๆ กว่าจะทำให้หายสั่นได้กินเวลาไปเยอะ เสียแรงไปเยอะ ปวดหัวเยอะแยะ ส่วนอีกคนแปลงเบรกมากเหมือนกัน ก้ามเบรกหลุดไปไหนก้ไม่รู้ตอนแข่ง ผมไมไ่ด้จะบอกว่าเป็นทุกคัน ทุกคน แต่เราอาจจะเป็น 1/1000 นั้นก้เป็นได้ เป็นโอกาสเพียงเสี้ยวเดียวที่เราอาจจะพลาดได้ ซึ่งมันหมายถึงชีวิตเลยทีเดียว

สมัยก่อนเอา vios แตนๆเนี่ยแหละ มีเพียช่วงล่างชุดเดียวไปวิ่งพี่ระ จานเดิมๆ แต่เปลี่ยนผ้า มันก็ไม่เห็นเป็นไรเลย วิ่งเป็น สิบๆรอบก็ไม่เป็นไร จนผ้าเกือบหมดเลยก็ยังไม่เป็นไร วิ่งไม่ได้เหยาะๆเท่าไหร่ด้วย เวลา 1:21 สำหรับรถแตนๆ ส่วนรถตัวเอง subaru impreza สมัยก่อนก็จานเดิม เปลี่ยนผ้าอย่างเดียวเหมือนกัน วิ่งอยู่ประมาณ 1:12 เบรกไม่เคยมีปัญหาตลอดการวิ่ง 43 รอบนั้นเลย ผมว่ามันอยู่ที่การระบายความร้อนของจาน กับการรับความร้อนของตัวผ้าเบรกมากกว่า ถ้าเราสามารถระบายความร้อนใหมันเพียงพอได้ มันก้ไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่มันไม่หล่อเท่านั้นเอง

ร่ายมายาวแระ เดี่ยวเริ่มเบื่อกัน วนกลับมาเรื่องเดิมดีกว่า....

แต่สิ่งที่ผมมองคือผมได้อะไรหลายๆอย่างจากชุดนี้ในราคาไม่แพงมาก สิ่งที่เป็นปัจจัยในการเลือกซื้อคือ
1. เป็น fully customized suspension สามารถสั่ง spring diameter, spring rate และ damping ตามที่ผมต้องการได้
2. เป็น complete strut housing มาเลย ไม่ต้องมานั่งแปลงแก้ใขอะไรทั้งสิ้น ผมไม่ค่อยมีเวลามากมายขนาดนั้น แค่ลำพังนั่งหาอะไหล่ กับส่งอะไหล่ก็หมดไปวันๆแล้ว ไหนจะต้องตามคอยดูช่างตลอด เพราะทำรถผมไม่เคยให้ช่างทำโดยที่ผมไม่ได้ไปคุมด้วยเลย
3. เป็น true coilover system ที่ช๊อกหลัง แก้ปัญหาสปริงหลุดได้เป็นอย่างดี
4. bump & rebound adjustable 42 adjustment settings ซึ่งผมสั่ง damping rate ไปใหม่ตามไสตล์ผมเอง
5. กระบอกเป็น 62mm
6. ราคาไม่แพงมาก ประมาณเกือบๆ 5 หมื่น
7. สามารถ rebuilt ได้ตามที่เราต้องการ มี service warranty 2 ปี
8. ตัดปัญหาเรื่องการเสียบกระบอกแกนไม่ตรง งอ เอียง ฯลฯ ส่งมายังไงยังนั้นเลย ไม่ดีก็ส่งคืน
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm


คือตอนนี้เบื่อแล้วที่ต้องไปนั่งคุมช่าง นั่งแก้ เปลี่ยน ปรับ ฯลฯ สมัยก่อนแข่ง gymkana กับ circuit บ้างเป็นครั้งคราว บางที่ต้องมานั่งแปลง แก้ไข ทำนู่นทำนี่ ต้องมานั่งเทียบอะไหล่รถคันนู่น มาเทียบคันนี้ วุ่นวายไปหมด เสียเวลาและเสียรถไปพอสมควร สมัยนั้นไม่ได้สนใจเรื่องแบบ OEM มากนัก แต่เดี๋ยวนี้ความคิดเปลี่ยนไป เน้นว่า OEM ไม่ตัด ไม่เจาะ ไม่แปลง อาจจะไม่ได้ดีที่สุดหรือเจ๋งที่สุด แต่มันคือสิ่งที่ factory เค้าออกแบบมาแล้ว ซึ่งผมก็คิดว่า factory คงฉลาดกว่าผมมากมายนัก แล้วอย่างผมจะไปรู้ดีกว่าได้อย่างไร



อยากให้มีคนคิดแบบนี้เยอะๆ  :good:

การอัพเกรดอาจจะเป็นสิ่งดีหากทำอย่างถูกวิธี แต่ถ้าไม่แน่ใจ... standard เถอะครับ ไม่น่าอายหรอก ก่อนที่เขาจะออกแบบรถสักคันมาให้เราขับ วิศวกรเขาคิดกันหัวหูหงอกไปหลายคนแล้ว

มีเรื่องตลกๆของวิศวเกินมาเล่าให้ฟัง

สองวันก่อน เพื่อนคนนึงโทรมา ขำแทบตาย ท้องเรื่องก็คือ เขาถอดล้อมาเปลี่ยนแล้วพบจานมันขยับก๊อกแก๊กๆหนีรู ดูไปดูมาพบว่าน๊อตยึดจาน (เข้ากับดุม) ตัวเล็กๆตัวหนึ่งมันไม่ได้ใส่เอาไว้ จริงๆแล้วแค่หยิบน๊อตเวรกรรมอะไรก็ได้มาใส่ไว้สักตัวก็จบ แต่พอดูไปดูมาปรากฏว่ารู (ที่ยึดน๊อตเล็กๆที่ว่า) ที่จานกับรูที่ดุมมันไม่ตรงกัน พอดูลึกๆเข้าไปอีกพบว่าดุมล้อมันคนละรุ่นกับจาน (จานตรงรุ่น แต่ดุมไม่ตรง) รูมันเลยไม่ตรงกัน

จะถอดเอาดุมไปเจาะก็ถอดไม่ได้เพราะมันตีปลอกอะไรไม่รู้มาเต็มไปหมด สรุปแล้วต้องถอดทั้งสตรัทไปที่ร้านให้เขาเจาะใหม่ จากเวลาที่ควรจะใช้แค่สามสิบวินาทีเป็นอย่างมากหยิบน๊อตสักตัวใส่เข้าไปกลับกลายเป็นสามชั่วโมงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สอบถามได้ความว่าคนที่ใส่....เอ่อ...จริงๆแล้วต้องพูดว่าคนที่ "ไม่ได้" ใส่มาตั้งแต่แรกเขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องใส่ ผมก็นึกขำที่บริษัทใหญ่โตอันดับต้นๆของโลกเขาเอาของที่ "ไม่จำเป็น" ใส่เข้ามาในรถด้วยแฮะ เขามีแต่พยายามลดต้นทุนลดแล้วลดอีกจนรถในปัจจุบันนี้มันกลายเป็น "รถที่ขาด" มากกว่า "รถที่เกิน" จนรถบางรุ่นเข้าไปนั่งแล้วโหวงเหวงเหมือนนั่งอยู่ในป่าช้าคนเดียว

ลองคิดเล่นๆว่าหากปีหนึ่งๆบริษัทนี้เขาผลิตรถออกมา 3 ล้านคัน แต่ละคันมีน๊อตแบบนี้คันละ 4 ตัว เพราะฉนั้นต้องใช้น๊อตทั้งหมด 12 ล้านตัว คิดเล่นๆว่าตัวละ 20 บาท เพราะฉนั้น (อีกที) ต้องใช้เงินถึง 240 ล้านบาทในการใส่สิ่งที่ "ไม่จำเป็น" เข้าไปในรถ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงแผนก R&D น่าจะโดนไล่ออกทั้งแผนก  :a_laugh:


Offline top30

  • 28/30/34
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: May 2007
  • Posts: 1,299
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:January 02, 2020, 11:45:10 pm
ยืมกระทู้น้าอันฝากของให้ทอม..

น้าอัน..
"เป็น fully customized suspension สามารถสั่ง spring diameter, spring rate และ damping ตามที่ผมต้องการได้"...แล้วไปเอาค่าตัวเลข(spring dim---OK,spring rate---OK,damping???)เหล่านี้มาจากไหนหนะ %:(
« Last Edit: August 18, 2010, 06:38:18 pm by top30 »
Happiness only real when shared

Offline ae

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2005
  • Posts: 3,467
  • Gender: Male
  • Last Login:May 11, 2018, 10:00:21 pm

... 3. เป็น true coilover system ที่ช๊อกหลัง "แก้ปัญหาสปริงหลุดได้เป็นอย่างดี"


ชอบตรงนี้จริงๆ ฮ่าๆๆ  :grin:


It's fun... when it runs! Trust me.

Offline 678

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Oct 2007
  • Posts: 373
  • Gender: Male
  • Last Login:September 20, 2015, 05:51:28 pm
อย่างเรื่องเบรกผมไม่เอาด้วย หลายๆคนก็บอกให้เปลี่ยนๆ แต่ผมไม่ได้ใช้งานขนาดนั้น ผมเคยเห็นคนไกล้ๆตัวเนี่ยแหละ แปลงเบรกมาใส่เบรกใหญ่ๆโตๆ กว่าจะทำให้หายสั่นได้กินเวลาไปเยอะ เสียแรงไปเยอะ ปวดหัวเยอะแยะ ส่วนอีกคนแปลงเบรกมากเหมือนกัน ก้ามเบรกหลุดไปไหนก้ไม่รู้ตอนแข่ง ผมไมไ่ด้จะบอกว่าเป็นทุกคัน ทุกคน แต่เราอาจจะเป็น 1/1000 นั้นก้เป็นได้ เป็นโอกาสเพียงเสี้ยวเดียวที่เราอาจจะพลาดได้ ซึ่งมันหมายถึงชีวิตเลยทีเดียว

เรื่องเบรคและจานเห็นด้วยอย่างยิ่งครับเคยเห็นน้องที่ใส่จานใหญ่ผ้าเบรคแพงๆมาบ่นตอนหลังว่าต้องระวังตอนลุยน้ำมันชอบคดแล้วทำให้สั่นเสียเวลาและเสียความรู้สึกตลอด ส่วนตัวผมเองจะให้ความสำคัญกับผ้าเบรคก่อนเหมือนกันครับ ขอบคุณครับกับบทความที่อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ :smitten:

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
สามารถสั่งได้ดิน้าต๊อบ ส.บ.ม.ย.ห. ก้อเค้าจะมี damping characteristic dyno graph ของโช้คตัวนั้นๆมาให้เราดู เสร็จแล้วประเมินว่าช่วงไหนที่ piston speed เราอยากเน้น high shaft speed หรือ low shaft speed วิธีการสั่งผมไม่ได้อะไรมากอ่ะ ต้องเคยเล่นกับ damping force พวกนี้มาก่อน ลองเล่นไปเรื่อยๆ ดูกราฟของโช้คว่ามันเป็นอย่างไร เอาไปขับแล้วสังเกตอาการว่ามันเป็นแบบไหน มันเป็นเหมือนประสบการณืมากกว่าอ่ะน้า บอกไม่ถูกเหมือนกัน

ตอนที่สั่งไปเนี่ย เราก็บอกเค้าว่าอยากได้ประมาณนี้ๆๆๆ ช่วง 0.3m/s อยากได้ transient response เร็วๆหน่อย อยากได้ feel ของ พวงมาลัยคมๆ ช่วยปรับ high speed ให้มากกว่าหน่อย ฯลฯ อะไรประมาณนี้แหละ บอกเคาไปว่า น้ำหนักเราเราประมาณเท่านี้ หน้าเท่านั้น หลังเ่ท่านี้ มี suspension travel ประมาณเท่านี้ อยากโหลดเท่านี้ ฯลฯ คือบอกขอมูลเค้าละเอียดสุดเท่าที่ทำได้

สรุปได้ว่าเอาสปริง 400lbs/inch front + tender spring อีก 200lbs/inch ส่วนด้านหลัง 350lbs/inch  + tender spring 200lbs/inch
ค่า damping force เดี่ยวเค้าทำเสร็จจะส่ง dyno graph มาให้ดูว่าใช้ได้ตามที่เราต้องการหรือเปล่า

ไหนๆก็อไหนๆแล้ว ขออธิบายเรื่อง bump / rebound / piston speed หน่อยล่ะกัน ผิดถูกอย่างไรเชิญท่านทั้งหลายมาติติงกันได้นะครับ ชอบถกปัญหาแบบนี้ครับ มาแสดงความคิดเห็นกันเยอะๆ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ damper หรือที่เราเรียกว่า shock นั่นแหละ จริงๆถ้าเรียกให้ถูกต้อง ต้องเรียกว่า damper ถึงจะถูก เพราะหน้าที่หลักๆของมันคือ ต้านการเคลื่อนที่ของช่วงล่าง ส่วนไอ้เจ้า damper dynograph นั้นเอาไว้ดูว่า damper นั้นๆต้องใช้แรงกระทำเท่าไหร่ต่อความเร็วไดความเร็วหนึ่งของแกนช้อค ส่วน spring คือตัวที่รองรับน้ำหนักรถหรือ transient response ต่างๆของรถ

ใน compression mode คือการเคลื่อนที่ขึ้นของแกนช้อค ส่วน rebound mode คือการเคลื่อนที่ลงของช้อค ถ้าดูตาม dyno chart แล้วส่วนมากเส้นที่อยู่ใต้แกนนอนคือ compression และเส้นที่อยู่เหนือ แกนนอนคือ rebound

ส่วนใหญ่แล้วรถโดยสารทั่วๆไป rebound มักจะมีค่ามากกว่า compression เสมอ เค้าจะเน้นช่วง rebound เป็นหลัก เพราะว่าเจ้าค่า rebound เนี่ยเป็นตัวที่จะควบคุม sprung weight ของรถ ซึ่งเจ้า sprung weight เนี่ยจะเป็นตัวบ่างบอกถึงคุณภาพของการขับขี่ ขอใช้คำว่า ride quality จะได้เข้าใจง่ายๆนะ
ส่วนในด้าน compression เนี่ย จะเป็นตัวที่ควบคุมด้าน unsprung weight ซึ่งตัวนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ล้อเกาะอยู่กะถนน

ที่นี้เรามาพูดถึงเรื่อง single adjustable damper ว่าทำไมส่วนใหญ่ถึงปรับได้ทิศทางเดียว เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเจ้า rebound นี้แหละที่มีผลต่อการขับขี่มากที่สุด เพราะว่าปัจจัยต่างๆเกี่ยวกับ sprung weight สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เชน น้ำหนักบรรทุก คนนั่ง ข้าวของต่างๆ ฯลฯ ส่วน unsprung weight จะไม่ค่อยเปลี่ยน หรือเปลี่ยนน้อย เรียกว่าเป็น non dynamic ดีกว่า เช่น  ล้อ ยาง ช่วงล่าง เบรก และอย่าลืมว่าจะมีน้ำหนักครึ่งหนึ่งของปีกนกมากระทำตรงส่วนนี้ด้วย (อีกครึ่งจะเป็นส่วนของ sprung weight) สิ่งต่างๆเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนบ่อยๆ 

ที่นี้เรามาดูกราฟกัน แกน y คือ force ที่ใช้กระทำต่อแกนโช้ก ส่วนแกน x คือ piston speed มีหน่วยเป็น m/s ซะเป็นส่วนใหญ่ dyno graph โดยส่วนใหญ่สามารถจำแนกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือ low speed damping และ high speed damping

low speed damping คือ shaft speed ที่น้อยกว่า 0.1m/s จะมีหน้าที่ควบคุม การโคลงของรถ เช่น เวลาเบรกแล้วหน้าทิ่ม หรือเร่งแล้วหน้ายก เป็นต้น
high speed damping คือ shaft speed ที่มากกว่า 0.2m/s หรือไงเนี่ยแหละ ผมจำตัวเลขไม่ได้แน่นอน ไม่ได้ใช้มานานมากแล้ว จะควบคุมเรื่อง การซับแรงกระทกบนถนน รอยต่อ หลุมบ่อ ต่างๆ หรืออะไรก็ตามที่ถือว่าเป็น rapid load shift

จะเห็นว่าการที่เรามี low speed damping จะส่งผลดีต่อการควบคุมด้านการเฃี้ยว เข้าโค้ง การเร่งออกตัว หรือการเบรก ในทางกลับกัน high speed damping จะส่งผลถึงเรื่องกระโยนขอบ (เช่น โค้ง S-1 S-2 ในพีระ) หรือเวลารถวิ่งเร็วมากๆ จะถือว่าเป็น high speed หมด
บางท่านอาจจะอยากได้ high speed damping เยอะๆ ถามว่ามันดีมั๊ย มันไม่ดีหรอกครับ เพราะการที่เรามี high speed damping มากเกินไปทำให้เกิดการ overdamping และจะทำให้เกิดการกระด้างมากๆเวลารถวิ่งทั่วไปบนความเร็วสูงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราว่าเราจะเอาไปทำอะไร high speed damping ต้องพอสำหรับการซับแรงที่เกิดขึ้น และไม่มากเกินไปเพราะจะทำให้ตัวรถสามารถเสียการทรงตัวได้ ยกตัวอย่างง่ายๆเลยคือโค้ง S1 S2 ในพีระเนี่ยแหละ บางคันที่ set ช่วงล่างไว้แข็งมากๆ ถ้าไม่ถ่ายน้ำหนักตอนเข้าโค้งนี้ จะเห็นได้เลยว่ารถกระดอนขึ้นมา ส่วนรถที่ set ไว้พอดีๆและถ่ายน้ำหนักเวลาเข้าโค้งดีๆ รถมันจะไหลลื่นเข้าไป ไม่ส่งผลให้รถเสียการทรงตัวเท่าไหร่ การที่เรามี compression damping น้อยสามารถทำให้รถเราเกาะขึ้นได้ เพราะเวลารถโคลงตัว ช่วงล่างจะซับการโคลงนั้นเพื่อให้รถให้ตัวได้ แต่การโคลงนั้นจะเป็นแบบ slow piston speed

ยิ่ง piston speed มากขึ้นเท่าไหร่ damping force ก็เพิ่มขึ้นตามนั้น การเพิ่มของ damping force นี้จะมีอยู่หลายแบบ แบบแรกคือ digressive คือ ความชันของกราฟจะชันมากๆช่วง low speed และพอช่วง high speed จะไม่ชัน (เกินการเปลี่ยนแปลงน้อย) อันนี้จะเป็นที่ต้องการของการเซ็ทช่วงล่างโดยปกติ ส่วนอีกแบบคือ progressive คือ เมือ่ piston speed เพิ่ม damping force จะเพิ่มตามในขนาดที่มากกว่า เรียกว่าเป็น logarithmic function ของกันและกันดีกว่า  ซึ่งวิธีนี้ไม่นิยมมาเซ็ทช่วงล่าง ส่วนอีกอันคือแบบ linear คือจะเพิ่มตามกันเลย

ส่วนมากแล้ว dyno graph จะมีแค่ถึงช่วง +-3m/s เท่านั้น เพื่อให้เราดูเป็นแนวทางช่วงต้นๆก็พอ เพราะว่าตอนปลายๆแล้วมันจะเป็นแบบ digressive แล้วดังที่บอกไปข้างต้น ช่วงปลายอาจจะไปถึง 7m/s ได้เลยทีเดียว

สิ่งสำคัญในการดูเรื่อง dyno graph ก็คือประสิทธิภาพการ damping ของแต่ล่ะช่วง piston speed นั่นเอง มันจะมี plot บอกมาเลยว่า setting 1,2,3,4,5....ไล่เรื่อยไปจนถึงอันสุดท้าย ทีนี้ส่วนใหญ่แล้ว trend ของกราฟจะคล้ายกัน เพียงแต่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ คือเส้นกราฟเหมือนกัน เพียงแต่เพิ่ม damping force มากขึ้นเท่านั่น บางทีการที่มันปรับได้มากมายก่ายกองไม่ได้จำเป็นต้องดีเสมอไป ของให้มันอยู่ในช่วงที่เราใช้งานเป็นหลักก็เพียงพอแล้ว โช้กเคาทำมาหให้ปรับได้หลาบแบบ บางยี่ห้อปรับกริ๊กเดียวเพิ่มเยอะแยะแล้ว ช่วง range มันเลยกว้างมากๆ มีโอกาสปรับทำให้เป็น over damping ได้ง่าย มันก็จะเหมือนกันกับที่ผมได้บอกไปช่วงต้นที่รถมันจะกระดอนไปเลย และบางยี่ห้อ range อาจจะแคบหน่อย คือมีตามที่เราเลือกมาแล้ว แต่สามารถ fine tuning ได้อีกหน่อย อย่างนี้น่าจะเหมาะกับ custom application มากกว่า คือเราบอกเลยว่า รถเราอยากได้ characteristic แบบนี้นะ ต้องการ damping ช่วงนั้นช่วงนี้เป็นอย่างไร และมีปรับเพื่อ fine tune ได้ คือแบบนี้เรามีโอกาสปรับใช้ได้หมด ผิดกะแบบแรกที่เราอาจจะมีโอกาสใช้แค่ setting ค่าหรือสองค่าเท่านั้น


เรามาดูตัวอย่างกันดีกว่า ตามรูปจะเห็นว่ามีกราฟสามเส้น ด้านบนคือ rebound ด้านล่างคือ compression จะเห็นได้อีกว่าโช้กชุดนี้เป็นแบบ single adjustable คือเมื่อเราปรับแล้ว จะปรับเฉพาะ rebound เส้น compression แทบไม่ได้เปลี่ยนเลย และการปรับนี้ยังเป้นแบบ non linear อีกด้วย คือเส้นแต่ล่ะอันจะไม่ได้ขี่กันตรงๆ

เส้นสีน้ำเงินคือแข็งสุด เส้นแดงคือหมุน 1 รอบจากแข็งสุด แต่เพราะเจ้า koni SA มันปรับได้ทั้งหมดประมาณ 2 รอบ จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะปรับไว้เพียงครึ่งเดียว แต่ damping force ไม่ได้ครึ่งตามไปด้วย

ที่นี้เรามาดูกราฟอีกตัวมั่ง อันนี้เป็นด้านหลัง เรียกได้ว่าชุดนี้เป็น extreme non-linear ก้ได้ เส้นสีแดงคือแข็งสุด แต่เมื่อปรับมาแค่ 1/4 รอบ damping force กลับหายไปเกือบครึ่งแล้ว และความชันของกราฟต่างกับอันแรกอย่างเห็นได้ชัดเจน 
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline unun

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2009
  • Posts: 1,633
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:July 17, 2019, 12:36:16 pm
อีกเรื่องที่อยากมาอธิบายอีกอย่างคือเรื่องค้ำโช้คครับ จะอธิบายด้วยหลักวิทยาศาตร์ล้วนๆจะได้พิสูจณ์ได้ ลองอ่านๆดูนะครับ ผิดถูกอย่างไรเสนอมาได้เต็มที่

ก่อนอื่นเรามาดูรูปกันครับ รูปนี้เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับ force ต่างๆที่กระทำกับช่วงล่างของเรา

สมมตว่าช่วงล่างที่เห็นถูกกระทำด้วยแรงเวลาเลี้ยวเข้าโค้ง 100% ดังจะเห็นได้ว่าเวลาเข้าโค้ง บางทีล้อด้านในจะยกลอยจากพื้นเลย

ที่สมมติอีกว่า รถสามารถเลี้ยวด้วยแรง 1G และให้น้ำหนักรถประมาณ 1200 โลล่ะกัน ถ้ารถเราแบ่งน้ำหนักหน้าและหลังประมาณ 50/50 ฉะนั้นล้อด้านนอกเวลาเลี้ยวโค้งจะมีแรงกระทำ 600 กิโล แต่ถ้าเพิ่มเป็น 60/40 น้ำหนักที่ถ่ายเทจะเพิ่มเป็น 720กิโล พยายามนึกตามนะครับ อาจจะงงเล็กน้อย

เมื่อเข้าโค้ง มีแรงกระทำ 600 กิโล ย่อมต้องมีแรงต้านเท่ากัน คือ 600กิโล

ในรูที่เป็นสีน้ำเงินคือ สตรัทหน้าของเรา แรงกระทำตามแนวดิ่ง vertical force และแรงแนวนอน horizontal force ต้องหักลบล้างกันได้เสมอ ในที่นี้เราจะพูดแต่เฉพาะแกนนอนเป็นหลักนะครับ

ทีีนี้เราจะให้ดุมล้อเป็นจุดหมุนของแรงกระทำทั้งหมด เพราะดุมล้อคือจุดศูนย์กลางของการถ่ายเทแรงเวลาเลี้ยว

จากสูตร torque คือ

(F1)x(L2) = (F3)x(L1)

ในกรณีนี้ L2=0.61m L1=0.15m สำหรับ e30 โหลดๆของเราๆท่านๆ เน้นว่าเป็นค่าสมมตินะครับ จริงๆอาจะเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงล่างแต่ละคน

ในเมื่อเรารู้ค่า F1 แล้ว หาสมการหาค่า F3=147กิโล

จะมีแรงกระทำ 147กิโลที่หัวเบ้าโช้คของเรา เน้นว่าเป็นแรงดึงนะครับ tension เพราะว่ามันคือ resultant force ถ้าจะให้ดูง่ายๆคือกลับหัวลูกศรเอาล่ะกันครับแล้วจะเข้าใจง่ายขึ้น (F1 และ F3 ดึงออกตัวรถอยู่)

และเนื่องจากว่า ล้ออีกด้านไม่ได้แตะพื้น จึงไม่มี corresponding force มากระทำอีกด้านหนึ่ง

เป็นที่มาของว่า strut bar จะอยู่ในสถานะถูกดึงอยู่ (tension) ต่างที่ผมเข้าใจในตอนแรกเหมือนกัน

แรงกระทำ 147กิโล ที่กระทำอยู่ไม่ได้ส่งผมโดยตรงเกี่ยวกับความแข็งแรงของตัวรถ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ เกิดการ cycle force หลายๆครั้ง เหล็กจะมีสิ่งที่เรียกว่า fatigue stress เมื่อถูกเค้นบ่อยๆเข้า จะแตกหักได้

ทีนี้เมื่อเราใส่ strut bar นี้เข้าไป มันจะผูกยึดติดกับเบ้าโช้กอีกด้าน ทำให้เกิดการถ่ายเทแรงไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเหสมือนกับการเพิ่มความแข็งแรงและลด fatigue stress ได้เป็นอย่างดี

อีกข้อดีของการใส่ strut bar คือ เมื่อเราลองนึกดูว่ามันอยู่ใน tension มุม camber จะหายตามไปด้วยอีกตะหาก

ทีนี้เรามาดูกันว่าจริงๆแล้ว strut bar เนี่ยมันอยู่ใน compression หรือ tension กันแน่ ดูรูปที่สองเลยครับ

จริงๆแล้วมันเป็นได้ทั้งคู่เลย ถ้าเลี้ยวถนนเรียบๆจะทำให้เกิด tension ส่วนถ้าขับตรงๆแล้วเจอหลุมๆบ่อๆเนี่ย ทำให้เกิด compression

F1 คือแรงกระทำจากถนน F2 คือน้ำหนักรถที่กดลงมาบนโช้ก ส่วน F3 และ F4 เป็น resulting force เพื่อต้านแรงบิดที่มากจาก F1 และ F2 ส่วน F4 และ F5 คือแรงกระทำโดยตรงอันเนื่องจากแรง F3 และ F4 (ตรงข้ามกัน เพราะแรงไม่ได้หายไปไหน)

ทีนี้เรามาลองนึกดูว่า เมื่อรถตกหลุม บางทีอาจจะสร้างแรงกระทำ 4-5g ได้ และเมื่อแรงนี้บวกกับน้ำหนักรถ สามารถสร้าง force ที่เบ้าโช้คได้ถึง 1200กิโล ต่อข้าง

เพราะฉะนั้นค้ำโช้คที่เราใช้อยู่ สามารถช่วยได้จริงๆ และบางครั้งมันอยู่ใน tension หรือ compression ตามแต่สภาพ
'05 BMW e46 330i
'00 MB R129 SL320
'84 BMW e30 318ic
'72 BMW 1602 coupe
'75 BMW 2002 touring

Offline blablabla

  • **กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม**
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Apr 2006
  • Posts: 1,301
  • Gender: Male
  • Last Login:February 16, 2021, 01:19:59 pm
โอย...อ่านแล้วปวดหัว ตาลาย ไว้กลับมาขอจองตัวมา Lecture หน่อยนะจ๊าน :bytherule:
คำคมประจำวันนี้   "มีด"

Offline top30

  • 28/30/34
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: May 2007
  • Posts: 1,299
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:January 02, 2020, 11:45:10 pm
 :bythebook: .....อ่านซ้ำไปมายิ่งกว่าอ่านหนังสือสอบ... :good:
น้าดุ่ย....ผมได้ข่าววงในมาว่า รถe30น้ามีสิ่งมหัศจรรย์..ที่รถทั่วไปไม่มีทางมีได้.....ขยายความหน่อยดี๊ :grin: :grin: :grin: :grin:
Happiness only real when shared

Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments