กฎ กติกา และข้อบังคับ
ตัวรถ
• ตัวรถต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีของเหลวรั่วซึ่ม
• ต้องมี safety belt ที่ใช้งานได้สมบูรณ์ อย่างน้อย 3 จุด
• ต้องใช้ยางเรเดียลสำหรับถนนทั่วไปเท่านั้น ( treadwear ไม่ต่ำกว่า 180) ห้ามยางซอฟหรือสลิค
• ในกรณีที่เครื่องยนต์ไม่ตรงรุ่นหรือยี่ห้อ อาจมีการบวกเวลาตามความเหมาะสม จะแจ้งให้ทราบต่อไป
• รถในรุ่นนี้ห้ามวิ่งต่ำกว่า (เร็วกว่า) 1.20 นาทีเนื่องด้วยกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย
ชุดแต่งกายนักแข่ง
• ต้องสวมหมวกกันน็อคชนิดเต็มใบที่ได้มาตรฐาน มอก. เป็นอย่างน้อย
• ต้องใส่ชุดแขนยาวและขายาว ชุดหมี หรือชุดแข่ง
• ต้องใส่รองเท้าผ้าใบหรือหนังหุ้มส้นที่เหมาะสมเท่านั้น
. ต้องใส่ถุงมือ
วันและเวลาในการแข่งขัน
• จะทำการซ้อมในวันอาทิตย์เช้า คาดว่าจะมีเวลาซ้อม 10-15 นาที
• ไม่มีการ Qualify จะเป็นการจับฉลากหาตำแหน่งสตาร์ทจากแต้มต่อโดยคนที่มีโดนบวกเวลามากที่สุดอยู่อันดับแรก
• ทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ จำนวน 6 รอบสนาม
การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
ตัวรถ
เช็คให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ตรวจเช็คสภาพรถโดยทั่วๆไป ระดับน้ำในหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค สภาพสายพาน สายเบรค จุดยึดต่างๆลองโยกดูว่ามีหลวมหรือหลุดหรือไม่ เช็คสภาพยาง ลมยาง (ควรเติมแข็งกว่าลมยางมาตรฐานประมาณ 3-5 ปอนด์ในกรณีที่รถตั้งศูนย์แบบรถถนนทั่วไป ถ้าขับแล้วมีอาการ under หรือ oversteer ค่อยปรับลดลงตามสมควร) เช็คว่า safety belt ยังงานได้ดีหรือเปล่า ที่สำคัญคือว่าให้เอาสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถให้หมดก่อนออกจากบ้านนะครับ อย่าให้มีสิ่งของที่กลิ้งได้อยู่ในรถหรือท้ายรถแม้แต่อย่างเดียวนะครับอย่าคิดว่าจะเอาออกที่สนามนะครับเพราะว่าเอามากองๆกันที่สนามโอกาสหายสูง ดังนั้นเอาออกให้หมดก่อนออกจากบ้านนะครับ ก่อนเข้าสนามแนะนำให้เติมน้ำมันให้เกือบเต็มถังครับเพราะว่าถ้าน้ำมันน้อยเวลาเลี้ยวปั๊มอาจดูดน้ำมันไม่ได้ทำให้มีปัญหาเวลาเลี้ยว
ผู้ขับ
เตรียมร่างกายให้พร้อมโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ห้ามดื่มของมึนเมา เตรียมผ้าขนหนูมาซักผืนเอาไว้เช็ดหน้าซักผืน
สิ่งที่ต้องเตรียมมา (ข้อบังคับสำหรับการแข่งขัน)
1 หมวกกันน็อคชนิดเต็มศีรษะ (ปิดคางหรือไม่ปิดก็ได้) ต้องมีมาตรฐาน มอก.เป็นอย่างน้อย ต้องคาดสายรัดคางทุกครั้งเวลาลงสนาม
2 เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว หรือถ้ามีชุดแข่งหรือชุดหมียิ่งดี ควรมีความหนาพอสมควรและควรสวมสบายขยับตัวได้คล่องแคล่วและไม่ร้อนจนเกินไป
3 ถุงมือ
4 รองเท้าผ้าใบหุ้มส้น
การเดินทาง
1. ควรไปถึงสนามก่อนอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนการวิ่งหนแรก เพื่อเตรียมตัว
2. เข้าสนามทางประตูด้านข้างเพื่อเข้าสู่ pit ด้านหลัง
3. จอดรถตาม pit ที่จัดไว้ให้ ต้องจอดรถให้ถูก pit ว่าแข่ง class ใด
4. มารับสติ๊กเกอร์ต่างๆที่ผู้จัดและนำไปติดให้เรียบร้อยตามตำแหน่งที่กำหนดก่อนลงไปซ้อม ในกรณีที่ติดไม่ทันซ้อมให้ติดเบอร์ให้เรียบร้อยก่อนลงซ้อม
การซ้อมในรอบเช้า
1. 10 นาทีก่อนถึงเวลาให้แต่งตัวให้ถูกกฎ
2. ข้อควรปฏิบัติก่อนลงทำการขับ
ปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ขาต้องไม่เหยียดตึงเมื่อเหยียบแป้นต่างๆจนสุด แขนต้องไม่เหยียดตรงเมื่อทำการเลี้ยวเพราะจะเป็นการโหนพวงมาลัยทำให้บังคับได้ไม่ดีและไม่ปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ คาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้องทุกครั้งที่ลงสนาม
3. 5 นาทีก่อนถึงเวลาให้นำรถออกไปรอบริเวณปากทางออกพิท (ห้ามใช้ความเร็วสูงในพิทเป็นอันขาด ห้ามย้อนทางพิทเด็ดขาด)
4. เมื่อถึงเวลาปากทางพิทเปิด ให้ทำการซ้อมได้ทันที
- ในการขับสามรอบแรกควรใช้ความเร็วต่ำเพื่อสำรวจสภาพสนามเสียก่อนว่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง โค้งไหนที่อันตราย พื้นสนามเป็นอย่างไร มีน้ำหรือดินอยู่บนสนามหรือไม่
- ถ้ารถเกิดมีปัญหาให้จอดข้างทางโดยล้อทั้งสี่ต้องอยู่นอกเลนวิ่ง แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน ห้ามถอดหมวกกันน็อคในสนามเด็ดขาด ให้ดูว่าปลอดภัยแล้วถึงลงจากรถและหลบเข้าข้างสนาม
- การแซงจะทำได้ต่อเมื่อปลอดภัยเท่านั้น โดยควรให้คันหน้าเห็นว่าเรากำลังจะแซงก่อนที่จะทำการแซง ไม่ควรแซงโดยการเข้าไปเบียดในโค้ง
- ผู้ที่นำอยู่ควรมองกระจกหลังบ่อยๆว่ามีคันหลังตามเข้ามาและพยายามแซงหรือไม่ หากคันหลังเร็วกว่ากรุณาเปิดทางให้แซงโดยสะดวก ผู้ที่ปล่อยให้แซงควรลดความเร็วลงเล็กน้อยแต่ไม่ควรเหยียบเบรคกระทันหันและไม่ควรเปลี่ยนไลน์การวิ่ง ให้อยู่ในไลน์ที่วิ่งอยู่เพราะคันหลังอาจสับสนจนเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าอยู่ในโค้งให้รอจนถึงทางตรงแล้วถึงปล่อยให้แซง
- ถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันถือว่าเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย ขอให้เจ้าของรถรับผิดชอบรถตัวเอง ยกเว้นมีหลักฐานว่ามีเจตนาตั้งใจชนจึงจะต้องชดใช้ให้อีกฝ่าย
- ให้สังเกตุสัญญาณธง อย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- ควรมองเกจ์ต่างๆบนหน้าปัดว่ามีสิ่งใดผิดปรกติดอยู่เสมอๆเช่นเข็มความร้อน ไฟเตือน engine check และคอยฟังเสียง สังเกตุอาการต่างๆที่ผิดปรกติ ถ้ามีสิ่งปรกติเกิดขึ้นให้ลดความเร็วและนำรถเข้า pit อย่าฝืน หากมีน้ำมันเครื่องรั่วไหลให้รีบนำรถเข้าข้างทางทันทีและดับเครื่อง ห้ามฝืนขับต่อเนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
- ในกรณีที่รถเกิดหมุน ถ้าเกิดรถควบคุมไม่อยู่แล้วรถหมุนให้เหยียบเบรคค้างไว้เลยจนกว่ารถจะหยุดนิ่งจริงๆนะครับ ช่วงก่อนหยุดมักจะชอบปล่อยเบรคให้รถมันเลี้อยเล่น ยิ่งถอยหลังยิ่งไม่ยอมเบรค ถ้าช่วงที่เอาไม่อยู่จริงๆแล้วไม่ต้องไป countersteer ให้เสียเวลานะครับ ทำล้อตรงๆแล้วเบรคให้สุดไปเลย
เมื่อกรรมการตีธงหมากรุกเมื่อหมดเวลา ให้ขับช้าๆ warm down เพื่อนำรถกลับเข้าพิทบริเวณโค้ง Honda
วิธีการขับเบื้องต้นอย่างถูกวิธี
1 การจับพวงมาลัย
ห้ามโหนพวงมาลัยหรือหงายสอดมือสาวพวงมาลัย เวลาคืนพวงมาลัยให้ใช้มือส่งอย่าปล่อยแล้วจับ
เทคนิคการจับพวงมาลัยมีสองแบบคือ
1.1 Crosshand การ จับไม่ปล่อย ปล่อยเมื่อมันไขว้กัน
1.2 Push and pull การ ปล่อยจับ ตามๆกัน ไม่มีไขว้แขน
4.2 การเบรค
โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้ประสิทธิภาพของรถจาก 100% ในด้านต่างๆดังต่อไปนี้
เครื่องยนต์ 70-100%
ช่วงล่าง 50-70%
เบรก 30-50%
การเบรคที่ดีนั้น ไม่เพียงแต่ได้ระยะสั้นที่สุด แต่ต้องควบคุมทิศทางขณะเบรคได้ด้วย
การเบรคที่ดีคือการเบรคที่รุนแรงแต่อยู่ในลิมิตของยางและช่วงล่าง
reaction ในขณะที่ยกเท้าจากคันเร่งมากดเบรคก็ทำให้ระยะเบรคต่างกันได้เยอะ
4.3 การเข้าโค้ง
การเข้าโค้งนั้นควรจะศึกษา line และความเร็วที่รถของเราสามารถเข้าโค้งได้ เริ่มต้นควรจะเบรคในทางตรงและถ้าต้องมีการลดเกียร์ควรทำให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มเลี้ยว
การใช้ eye technics ควรจะกำหนดจุดมองให้ห่างจากหน้ารถไปยังเส้นทางที่จะไปเท่าที่จะทำได้ มองจุดเบรคจุดเลี้ยวล่วงหน้า เมื่อถึงจุดเบรคให้มองจุด apex ไว้เลย เมื่อเลี้ยวเข้าใกล้จุด apex ให้มองไปยังจุดทางออกโดยใช้หางตามองว่าเข้า apex ถูกต้องไหม
การทำ downshift เพื่อทำ engine break จะเป็นการใช้แรงเครื่องช่วยฉุดให้เบรคได้สั้นขึ้น แต่ข้อควรระวังคือรถอาจเกิดอาการล้อล็อคได้ทำให้ควบคุมทิศทางไม่ได้ ยิ่งถ้าถนนลื่นหรือฝนตกต้องระวังให้มาก การใช้ควรดูรอบเครื่องที่เหมาะสมว่าตอนเบรคแล้วรอบที่เท่าไหร่ถึงควรจะ downshift เกียร์ลง
สังเกตุจากอาการของรถว่าไม่มีการล็อคของล้อ เวลาปล่อยครัชต์ควรผ่อนช่วยไม่ให้ล้อล็อคด้วย
- ในขณะที่เลี้ยวห้ามเหยียบครัชต์ค้างไว้
- ควรมีการเดินคันเร่งเพื่อกระจายน้ำหนักของรถและเพิ่มแรงยึดเกาะถนน
- การออกจากโค้งไม่ควรกระทืบคันเร่งอย่างรุนแรง ควรจะค่อยๆเร่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
การหักพวงมาลัยควรจะหักให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ใช้พื้นที่ของสนามให้เต็มที่ ใช้ eye technic ดูจุดเบรค จุดเลี้ยว จุดที่ออกจากโค้งเพื่อให้ใช้สนามได้เต็มที่
อาการ Understeer และ Oversteer
ถ้ารถมีอาการ over หรือ understeer นั้นแปลว่าเราเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากเกิน หรือมุมเลี้ยวแคบเกินกว่าที่ช่วงล่างและยางจะรับได้ การขับที่ดีนั้นคือจุดที่รถเกือบจะออกอาการข้างต้น (คุมได้เต็มที่)
ถามว่ารู้ได้อย่างไรให้ฟังอย่างเสียงของยาง อาการของรถโดยใช้ความรู้สึกจากพวงมาลัยและสะโพก ถ้ามีอาการoversteer ให้หักพวงมาลัยไปทางตรงข้ามแล้วเดินคันเร่งเบาๆพร้อมเลี้ยงพวงมาลัย แต่ถ้า under ให้หักพวงมาลัยเพิ่มถ้าไม่อยู่ให้เบรคเบาๆ แต่ถ้าคิดว่าเอาไม่อยู่แล้วให้เหยียบเบรคจนกว่ารถจะหยุดนิ่งสนิทโดยทำพวงมาลัยให้ตรง อย่ารีบร้อนออกจากจุดที่ตัวเองหมุน รอให้รถว่างเสียก่อนแล้วค่อยออกรถ
การแข่งขัน
- เตรียมตัวก่อนแข่งขันเช่นเดียวกับรอบซ้อม ออกไปรอปากทางออกพิท 5 นาที
- ออกจากปากทางออกพิทให้วิ่งช้าๆเพื่อวอร์มยางแล้วนำไปจอดยังตำแหน่งสตาร์ทของตัวเองแล้วดับเครื่องยนต์
- รอจนป้าย 1 นาทีขึ้นแล้วจึงสตาร์ทเครื่องยนต์
- เมื่อมีสัญญาณสตาร์ท ให้ขับช้าๆตามกันไป ห้ามแซงโดยเด็ดขาด รอบนี้ยังไม่เริ่มแข่งนะครับ ให้ขับอีก 1 รอบแล้วกลับไปจอดตำแหน่งสตาร์ทเดิมอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องดับเครื่อง รอดูสัญญาณไฟสตาร์ทได้เลย
- สัญญาณไฟจะขึ้นสีแดงทีละดวงจนครบ 5 ดวง แล้วจะดับ เมื่อดับให้ออกรถได้เลย
- แข่งขันกันอย่างมิตรภาพ คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ใครเร็วกว่าปล่อยให้เค้าแซงครับ ทุกคนมีถ้วยไม่ต้องแย่งกัน
- แข่งขันทั้งหมด 10 รอบ เมื่อครบ 9 รอบจะมีป้าย Final Lap ขึ้นแสดงว่าให้วิ่งอีก 1 รอบ กรรมการจะตีธงหมากรุก ให้ขับช้าๆ warm down รถเข้าสู่พิท
- เมื่อเข้าสู่พิทแล้วหากเป็นรถเทอร์โบควรมีการ warm down ก่อนดับเครื่องยนต์ซักระยะ ส่วนรถ NA นั้นอาจ warm down ซักหนึ่งนาทีโดยเปิดฝากระโปรงช่วยระบายอากาศ
- ช่วงนี้ใครโม้เก่งชนะเลิศครับ คอยเวลารับถ้วย กรุณาไปรับถ้วยอย่างพร้อมเพรียงกันครับเพราะเรารับถ้วยทุกคนเสียเวลารุ่นอื่นเค้า