ทำสีมีกี่แบบ? ผมคงไม่นึกถึงยี่ห้อมากนักนะครับ
กรรมวิธีในการพ้นที่ผมเข้าใจมีมากกว่า 4 แบบครับ
ข้าใจว่า K มาจาก component มากกว่าครับ prind
สีแบบ lacquer ในต้วก็เป็น 2K มี hardener เหมือนกัน แต่พ่นแค่ครั้งเดียวครับ
quote มาให้จาก link ข้างบนครับ
ขอบคุณมาก ครับท่านขุน สูตร500 ที่ว่านี่จะเงาน้อยกว่ามีแลคเกอร์ แต่เนื้อสีแข็งกว่า และราคาสูงกว่าใช่ไหมครับ (ได้ยินว่ารถโบราณเดิมๆ จากโรงงานมักจะใช้วิธีนี้จริงไหมครับ) ไว้จะแวะไปคารวะด้วยตัวเองถ้ามีโอกาสครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
โดย: สนุกนุก [28 ก.ย. 47 14:45] ( IP A:203.116.21.19 X: )
โดย: ท่านขุน [28 ก.ย. 47 18:12] ( IP A:203.156.21.166 X: )
ประเภทของสีพ่นรถยนต์
โดยทั่วไปเราแบ่งสีพ่นรถยนต์ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. สี 1K :
คือสีระบบ 1 องค์ประกอบ (1 Komponent เป็นภาษา เยอรมัน หรือ อเมริกันอิงลิช ผมไม่ค่อยแน่ใจ) คือประกอบด้วยส่วนของตัวสีเพียงอย่างเดียว ในการใช้ งานอาจนำมาผสมกับตัวทำละลาย เช่นทินเนอร์เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว เราจะเข้าใจว่าสี 1K หมายถึง “สีแห้งเร็ว” ซึ่งไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากสี 1K มีด้วยกัน หลายชนิด
สี 1K ซินเทติกอีนาเมล หรือสีน้ำมัน เป็นสี 1K แบบแห้งตัวช้า ซึ่งแห้งตัวโดยการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ (Qxidation)
สี 1K ไนโตรเซลลูโลส เป็นสี 1K แบบแห้งตัวเร็ว ซึ่งแห้งตัวโดยการระเหยตัวของตัวทำละลาย เช่นทินเนอร์ (Physical Drying)
สี 1K อะคริลิค เป็นสี 1K แบบแห้งตัวเร็ว ซึ่งแห้งตัวโดยการระเหยตัวของตัวทำละลาย เช่นทินเนอร์ (Physical Drying)
2. สี 2K :
คือสีระบบ 2 องค์ประกอบ (2 Komponent) คือประกอบด้วยส่วนของตัวสี ซึ่งคือองค์ประกอบที่ 1 และตัวเร่งปฏิกิริยา (Hardener หรือ Activator) ซึ่งคือองค์ประกอบที่ 2 โดยก่อนใช้งานต้องนำทั้ง 2 องค์ ประกอบมาผสมกันตามอัตราส่วน เพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยาทางเคมี ซึ่งจะทำให้สีเกิดการแห้งตัว (Chemical Drying) สี 2K ที่ใช้ในงานสีรถยนต์ จะมี 2 ชนิดหลักด้วยกัน คือสี 2K แบบ “อีพ็อกซี่” และสี 2K แบบ “โพลียู รีเทน” (หรือผสมกับอะครีลิค) สำหรับตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้จะเป็นสารประเภท ไอโซไซยาเนท (Isocyanate) ซึ่งจะ ทำให้สีเกิดการแห้งตัวภายหลังผสมตามอัตราส่วนที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด สี 2K หลังจากแห้งตัวแล้ว จะมีคุณ สมบัติในด้านความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง มีความทนทานต่อตัวทำละลายเช่นทินเนอร์ หรือน้ำมันเบนซิน / ดีเซลได้ดีมาก และทนทานต่อสารเคมีต่างๆ เช่นน้ำมันเบรกได้ดี นอกจากนี้ยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ให้ความ เงางามสูง มีเนื้อสีมาก รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดี จึงไม่ซีดจางง่าย มีความคงทนสูงและคงสภาพ เดิมได้นานมาก กล่าวคือมีคุณสมบัติที่เทียบเคียงได้กับสี OEM
3. สี OEM :
คือสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์ สีชนิดนี้มีเพียงองค์ประกอบเดียว ในการใช้งานอาจนำมาผสมกับ ตัวทำละลายเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น สีชนิดนี้จะแห้งตัวโดยการการอบที่อุณหภูมิสูงประมาณ 120- 160 C จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สีอบ”(High Bake Paint) หลังจากสีแห้งตัวแล้ว จะมีฟิล์มสีที่มีคุณภาพดีมาก ความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง มีความทนทานต่อตัวทำละลายเช่นทินเนอร์ หรือน้ำมันเบนซิน / ดีเซลได้ดีมาก และทนทานต่อสารเคมีต่างๆ เช่นน้ำมันเบรกได้ดี นอกจากนี้ยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ให้ความเงาที่ดี มีเนื้อสี มาก รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดี จึงไม่ซีดจางง่าย มีความคงทนสูงและคงสภาพเดิมได้นานมาก
โดยทั่วไป เราจะเรียกสี 2K ว่า “สีแห้งช้า” ซึ่งก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว สี 2K ในปัจจุบันนี้ ได้ถูกพัฒนาให้สามารถแห้งตัวได้เร็วขึ้นมาก โดยที่คุณสมบัติยังเหมือนเดิม
การพ่นซ่อมสีรถยนต์ในอู่ซ่อมสีทั่วไปนั้น จะเลือกใช้สีได้แค่ 2 แบบ คือสี 1K หรือสี 2K เท่านั้น จะไม่สามารถนำสี OEM มาใช้ได้ เนื่องจากสี OEM จะต้องอบอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งอู่ไม่สามารถทำได้ ในปัจจุบันนี้อู่ซ่อมสีชั้นนำจะหันมาใช้สีระบบ 2K เนื่องจากมีคุณภาพโดยรวมที่ดีกว่าสี 1K มาก
การแห้งตัวของสีถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลถึงคุณภาพของสี ซึ่งการแห้งตัวที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่าง ระหว่างองค์ประกอบ 2 ส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในเรซิ่น (RESIN) ของสี และอีกส่วนอยู่ในตัวเร่ง หรือ ฮาร์ดเดนเนอร์ (HARDENER) นั้น ถือว่าเป็นการแห้งตัวที่ทำให้ได้ฟิล์มที่แห้งสมบูรณ์ ฟิล์มสีจึงค่อนข้างแข็งแกร่งและมีคุณสมบัติในด้าน อื่นๆ ดีมาก ดังนี้
Durability - ความทนทาน รถยนต์ที่ซ่อมสีโดยใช้ระบบสี 2K จะคงสภาพเดิมและมีระยะเวลาคงสภาพเดิมได้ ไม่ต่ำกว่า 5 ปี
Weather resistance - ความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ
Chemical resistance - สามารถทนทานต่อสารเคมีต่างๆ ได้ดี เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบรก
Color retention - สามารถคงสภาพสีเดิม ไม่ซีดจางจากเดิมง่าย
Gloss - มีความเงางามสูง
ให้คุณสมบัติเหมือนสีรถที่ออกจากโรงงานกระกอบรถยนต์ O.E.M ( Original Equipment Manufacturing )
ขอความบางส่วนคัดลอกมาจากใน เวป ผมจำไม่ได้ว่าเวปไหน ขออภัยครับ
ตาม ลิงค์นี้เลยครับ เอามาจากบริษัทสีแห่งหนึ่ง (จำไม่ได้)
http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=11610.msg201204#msg201204