Topic: เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นขณะขับรถกับการแก้ปัญหา

[Loong-Sawasdee]

    ขอเล่าเหตุการณ์ซึ่งได้เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อเช้าวานนี้ (7 มีนาคม 50 เวลาประมาณ 06:50 น.)ได้ขัยรถ BMW 520 ซึ่งเปลี่ยนเครื่องเป็น Rb 20 ดีเซล ไปรับลูกสาวซึ่งลงจากรถทัวร์ พอรับเสร็จก็ขับมาได้หน่อยหนึ่งก็จอดรถข้างทางเพื่อจะซื้อของบางอย่าง แต่พอจะดับเครื่องยนต์ก็ปรากฏว่ามีควันเกิดขึ้นใต้ฝากระโปรงรถบริเวณใต้พวงมาลัย กลุ่มควันยิ่งหนักขึ้นเลยดับเครื่องยนต์แล้วรีบลงจากรถทั้งสองคน รีบเปิดฝากระโปรงหน้า ก็ทำได้เพียงเท่านี้ เพราะเครื่องมือประจำรถ ไขควง ประแจต่าง ๆ ก็ไม่ได้นำติดรถไปสักอัน จะมีก็เพียงเศษผ้าเล็ก ๆ ชิ้นเดียวเท่านั้น ก็เลยทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่คิดได้ว่าสิ่งแรกที่ควรทำก็คือถอดขั้วแบตเตอรรี่ก่อนอื่น แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีเครื่องมืออะไร คงทำได้แต่ยืนดูเท่านั้น  ในใจคิดว่าถ้ามันจะไหม้หมดก็ให้มันหมดไป อะไรจะเกิดก็ขอให้มันเกิดเถอะ รถก็เก่าแล้ว  ราคาไม่กี่หมื่น แต่โชคดีมากเลยมันไหม้ไม่มาก สักพักควันก็ค่อย ๆ เบาลงและดับไปในที่สุด พอดีที่จอดรถจะจอดได้เพียง 07.00 น.เท่านั้น ในใจคิดว่าน่าจะไม่ถูกจับ ถ้าถูกจับก็น่าจะอ้างได้ จึงให้ลูกสาวขึ้นรถกลับไปก่อน แล้วทิ้งรถไว้แล้วก็ไปหาช่างมาตรวจดู ช่างสามารถเอาสายไฟมาต่อตรง แล้วติดเครื่องนำรถไปยังร้านซึ่งห่างไปประมาณ 500 เมตร ทำการซ่อมสายไฟต่อไป ซึ่งสายไฟรั่วไปกระทบกันจึงเกิดการชอร์ตกันขึ้น เสียเงินไป 950 บาท (ซึ่งคิดว่าแพง แต่ก็คิดอีกทีดีกว่าเสียรถไปทั้งคัน)
    ที่นำมาเล่านี้เพื่อชี้แนะและเป็นอุทธาหรณ์ว่าเวลาขับรถไปบนถนนนั้นเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นกับรถที่เราขับได้เสมอ ดังนั้เราจึงควรจะเตรียมพร้อมไว้บ้าง
เช่น เครื่องมือประจำรถ แม่แรง และที่สำคัญคือต้องมีเงินติดตัวไปด้วยมากน้อยตามฐานะแห่งเรา และเมื่อมีเหตุเกิดควรตั้งสติให้ดี และเอาตัวรอดไว้ก่อน อย่างไรก็ตามเหตุที่เกิดขึ้นกับลุง(ซึ่งขับรถยนต์มาไม่น้อยกว่า 40 แล้วยังสะเพร่าขนาดนี้)  เป็นช่วงระยะเวลาเช้า รถรายังไม่มากและเกิดขณะที่รถเข้าจอดแล้ว ชวนคิดไปว่าถ้ามันเกิดขณะติดไฟแดง หรือกำลังวิ่งหรือในที่การจราจรแออัดจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ...?
   จึงขอรายงานมาเพื่อชาว bkcc ทุกท่านจะได้ทราบและหาทางป้องกันไว้ อนึ่งเมื่อวานนี้ตอนสาย ๆ พบรายการจากช่อง 9 ว่ากรมการขนส่งทางบกร่วมกับ
บ.ผลิดและจำหน่ายแบตเตอรี่กับร้านซ่อมไฟฟ้ารถยนต์และไดนาโม รับตรวจระบไฟฟ้ารถยนต์ให้ฟรี มีป้ายบอกหน้าร้านด้วย ควรที่ชาวรถจะเข้าไปใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้ากันบ้างเพื่อความปลอดภัยของรถตนเอง
    ขอช่วยแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้เข้ามาบ้างนะครับ

[rasun]

น่ากลัวจังนี่ถ้าเป็นเครื่องที่ใช้เบนซินคงแย่เลย  ยินดีด้วยครับที่คุณลุงกับลูกสาวปลอดภัย

[donutjovi]

ผมก็เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้เหมือนกัน
ตอนนั้นใช้เปอร์โยต์ 404 ตอนกลางคืนก็ขับไปจอดที่หอพัก ที่จอดก็จะเป็นที่จอดเฉียงขึ้นเพราะหอพักถมสูง
แล้ก็ต้องจอดเอียง ๆ ตามแนวที่เค้าขีดไว้ รถเราก็เก่า เบรคมือไม่มี ก็ต้องขัดเกียร์ไว้
พอตอนเช้าลงมาสตาร์ทรถเท่านั้นแหละ มันมีอาการสตาร์ทค้าง ควันเริ่มท่วมกระโปรงเข้ามาในรถ
เอายังไงดี ด้านหน้ารถเป็นมินิมาร์ทที่เป็นห้องกระจก เลยตัดสินใจดึงกุญแจออก ปลดเกียร์ว่าง แต่รถก็ไม่หายสตาร์ทค้าง
แล้วกระโดดลงจากรถ ปล่อยให้รถไหลลงเนิน เพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว
รถก็ไหลไปจิ้มกระบะคันข้างหลังบุบไปเยอะเหมือนกัน เนื่องจากรถเราแข็งแป้ก
พอรถไหลไปสู่พื้นราบแล้ว อาการก็หาย ลองเช็คดูปรากฏว่าสายไฟของไดร์สตาร์ทมันไปแตะกับท่อไปเสียตอนจอดเอียง ๆ
ทำให้สายไฟรั่วลงกราวด์ เสียค่าเดินสายไฟใหม่ 1500 คิดแล้วรู้สึกแพงกว่าของลุงอีก

ส่วนรถที่เราจิ้มไป เค้าบอกไม่เป็นไร เพราะรถเค้ากำลังจะเอาไปเข้าอู่ทำสีวันนั้นพอดี
รู้สึกซึ้งน้ำใจพี่เจ้าของรถคันนั้นจริง ๆ

สรุป ผมว่า เครื่องมือสามัญประจำรถควรต้องมีตลอด
แต่ที่อยากเพิ่มเติมคือ ถ้ามีเวลาว่างควรเช็ครถก่อนออกไปไหนซักนิด
เช็คน้ำหม้อน้ำ หรือน้ำฉีดกระจกซักหน่อยก็ยังดี
ส่วนเรื่องสายไฟ เป็นไปได้ควรเก็บให้เรียบร้อย ใส่ในท่อฉนวน และเดินให้หลบแหล่งความร้อนต่าง ๆ
เพราะถ้าพาดไว้ตามตัวถัง เมื่อเสียดสีไปนาน ๆ เดี๋ยวสายไฟก็ฉีก

[paboon]

ดีใจที่ทั้งอาสวัสดิ์และลูกสาวไม่เป็นไรมาก ...ผมก็เคยเจอแบบนี้ครับ
มันเป็นความสัพเพร่าและมักง่ายของช่างไฟ ที่ไม่ยอมเอาเทปพันสายไฟไว้ พอสายเปลือยมันไปช็อตตัวถังเท่านั้นเกือบได้เป็นข่าว

พอเจอแบบนี้ ผมเลยเตรียมที่ดับเพลิงเล็กๆ ติดรถไว้ในห้องโดยสารตลอด
เครื่องไม้เครื่องมือก็เตรียมไว้พร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ล่าสุด เจอเหตุที่ต้องขับรถกลับจากอยุธยาเข้ากรุงเทพแบบมืดๆ เพราะความมักง่ายของช่างเนี่ยแหละครับ

พี่ท่านเล่นต่อสายไฟบนหลังคาแบบง่ายๆ ดีนะที่มีไฟเพดานช่วยไว้ ไม่งั้นไหม้ไปแล้ว

สาเหตุก็เพราะว่า ช่างต่อไฟเพดานไม่ครบวงจร สายไฟ 2 เส้นมีไฟหมด ท่านต่อไฟเข้าไฟเพดาน 1 เส้น อีก 1 เส้นก็เอาเทปพันไว้หลวมๆ
ที่นี้ความร้อนมันก็ทำให้เทปหลุด ผลก็คือสายเปลือยมันไปสปาร์กกะตัวถังหลังคา

มันดังแป๊ะๆ แล้วก็ควันโขมง ผมต้องดึงไฟเพดานออก หาสาเหตุว่าทำไมมันถึงช็อต
พอเจอสาเหตุ ก็จะขับกลับกรุงเทพฯ แต่แล้วฟิวส์คุมไฟหน้าขาด เปิดไฟหน้าก็ไม่มีไฟ มืดสนิท ไฟเรือนไมล์ดับ เหลือแต่ไฟฉุกเฉิน และไฟเครื่อง
สตาร์ทติดได้ ก็ต้องขับแบบมืดๆ ไปโลตัสอยุธยาตอน 4 ทุ่มกว่าๆ เพื่อหาซื้อฟิวส์มาใส่ ปรากฏว่าไม่มีอีก
เลยต้องเล่นวิชามาร ต่อไฟตรงจากพัดลมไฟฟ้า เข้าไฟหน้า 1 ดวง ก็วิ่งกลับมาได้ แต่ต้องอาศัยไฟหน้ารถ 6 ล้อช่วยนำทาง

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็แกะแผงฟิวส์ดู...อีกแล้ว..หมกเม็ดอีกแล้ว ดันใส่ฟิวส์ 20 A ให้ มันจะไปขาดได้ไง
แต่ฟิวส์ไฟหน้าดันไปขาดแทน...หุๆๆ ช่างหนอ..ช่างทำกันได้

ตอนนี้ ก็ต้องเตรียมฟิวส์เพิ่มอีก 1 รายการ
อ้อ...ถ้าเป็นไปได้ อยากแนะนำครับว่า ควรเตรียมน้ำไว้ในรถซัก 6 ลิตร เผื่อไว้สำหรับเติมหม้อน้ำ เวลาความร้อนขึ้นแล้วมันดันน้ำออกจากหมด
แล้วก็เผื่อแผ่เพื่อนร่วมทางที่มีปัญหาเรื่องความร้อนด้วยครับ
 

[nong26june]

 

ดีใจที่ทุกๆท่านปลอดภัยครับ...

ของผมเมื่อวาน 07/03/07 เวลา 5 โมงเย็น ออกจากสำนักงานทนายความของเพื่อน

แวะไปปรึกษาคดีความฟ้องร้อง...ช่วงนี้..ดวงไม่ดี...กว่าจะหาเงินได้ก็เหนื่อยแล้ว

ยังต้องฟ้องร้องกันอีก...กว่าจะได้เงิน...เหนื่อยเป็น 2 เท่าเลยแหะ

จากโชคชัย 4 เดินทางไปสุขาภิบาล ครูประชุมเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน รถก็ติด

อาการเริ่มจากได้กลิ่นน้ำมันเข้าห้องโดยสาร รอบเริ่มหาย เดินไม่นิ่ง สะดุด

เลยชิดซ้ายเข้าไปลานนวดฯ...ฝั่งตรงข้ามนิด้า...เพราะเป็นลานกว้าง

เปิดกระโปรงครูประชุม..เกิดควันขโมงเลย...ปรากฎว่าสายฉีดน้ำมันย้อนกลับที่หัวฉีดแตก...

น้ำมันเลยรั่วใส่เครื่อง....โชคดีที่เป็นดีเซล

ไม่งั้น...ครูประชุมคงโดนย่างเป็นไก่ 5 ดาว แน่เลย

 

[lazydog]

ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังและ เตือนหลานๆครับ