BKCC - Bangkok Classic Car House v.2016

General Category => Bangkok Classiccar Webboard => Classic Motorsports => Topic started by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 05:06:08 pm

Title: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 05:06:08 pm
ขออนุญาติเริ่มกระทู้ใหม่สำหรับคนที่ชอบทำนองนี้นะครับ มีคำขอมากเหมือนกันว่าอยากจะอ่านแนวๆนี้ ใครมีประสพการณ์ทั้งในแง่เครื่องยนต์กลไก อุปกรณ์ต่างๆ ประสพการณ์ในการขับขี่ในสนาม ประสพการณ์มอเตอร์สปอร์ต หรือ DIY ฯลฯ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นก็เชิญเอามาแชร์กันได้ตามสะดวกนะครับ

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 05:23:55 pm
ขอเริ่มอันแรกก่อน เป็นเรื่องของ ITB (ย่อมาจาก Individual Throttle Body หมายความว่าลิ้นเร่งที่แยกจ่ายสูบใครสูบมัน) ของ BMW M3 ก่อนละกัน ใครที่สนใจใน BMW ก็จะทราบว่าเจ้า ITB นี่คือ feature หลักอย่างหนึ่งของเครื่องยนต์ M POWER เขา อเมริกันผู้ได้แค่ขี่ M3 E36 ที่มีลิ้นเดียวเคยพากันน้อยอกน้อยใจกันไปพักหนึ่ง แต่จะไปโทษใครเขาล่ะ ก็ระบบ emission control ของท่านมันเข้มงวดเสียเหลือเกินนี่ เขาเอาป้าย M3 ติดตูดออกมาขายให้ก็บุญแล้ว

นอกเรื่องอีกแล้ว เอาล่ะ....วันนี้จะมาโม้ให้ฟังถึง ITB ของเครื่อง S14 ของ M3 E30 ใครๆก็คงจะรู้ว่า M3 E30 มันจะมีรุ่นหลักๆอยู่สองรุ่น: 2.3 และ 2.5 ที่เรียกกันว่า Sport Evolution หรือบ้างก็เรียก Evolution III และใครๆที่บ้า BMW หนักขึ้นไปอีกหน่อยก็จะรู้ว่า ITB ของรุ่น 2.3 จะมีขนาด 46 mm และ 2.5 จะมีขนาด 48 mm

สองวันก่อนได้รับตัว 48 mm มาจากเยอรมัน เป็นของแท้ ไม่ได้เป็นชนิดที่เอามา over-bored กันเอาเอง ราคาไม่ต้องพูดถึง แพงหายห่วง (แต่อย่างไรก็ตามค่า over-bored ก็ไม่ใช่ถูก) ด้วยความที่มันมีผลิตออกมารับใช้รถแค่ 800 คันของรุ่น Evolution III (ผมไม่อยากพูดว่ามันมีแค่ 800 อัน เพราะเขาน่าจะต้องผลิตออกมาเกินๆสักหน่อย) ตอนนี้เห็นประกาศขายกันอยู่อีกฟากโลกหนึ่งถึง $2000 (อ่านว่า "สองพันเหรียญ") เห็นราคาแล้วอ่อนใจ แต่ถ้าเป็นเครื่อง 2.5 มันก็คง "จำเป็น" ที่จะต้องซื้อหาเอามาใช้ เพราะไม่งั้นเขาคงทำออกมาเป็นขนาด 46 mm เท่ากันหมดแล้ว จะทำออกมาต่างหากให้ต้นทุนมันสูงตามขึ้นมาทำพริกทำเกลืออะไร

วันนี้เลยอยากจะเอามาเปรียบมวยกันให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง 46 mm และ 48 mm สักหน่อย

ในภาพอันซ้ายคือ 48 mm ของ Evolution III อันขวาคือสแตนดาร์ด 46 mm ของเครื่อง 2.3

 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 05:32:55 pm
บางคนดูจากภาพบนคร่าวๆ คงจะเริ่มมองเห็นความแตกต่างของมันบ้่างแล้ว

อย่ากระนั้นเลย ก่อนนำขึ้นเวทีเปรียบมวย จัดการถอดมันออกมาเป็นชิ้นๆอาบน้ำประแป้งให้สะอาดเสียก่อนละกัน เอาน๊อตต่างๆใส่กล่องให้เรียบร้อยไม่ทิ้งเรี่ยราด ถึงไม่ใช่ของเรา เราก็รัก

เก็บคราบน้ำมันดำๆจากเยอรมันที่ล้างออกมาใส่ขวดเอาไว้ด้วย เผื่อเจ้าของอยากเก็บเป็นที่ระลึก  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: RETRO MAN on July 30, 2010, 05:34:53 pm
รอกระทู้ดีๆแบบนี้เยอะครับ ติดตามผลงานพี่มานานแล้วครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 05:43:14 pm
สามสิบนาทีกับแปรงหนึ่งอันกับน้ำมัน 91 ผสมแอลกกอฮอล์จากโรงงาน (กัดมือชิ...) ก็เสร็จเรียบร้อย
ก่อนประกอบกลับเข้าไป ก็ calibrate ให้เขาเสียก่อน (ค่าแรงขอเป็นน้ำมันสูตร 2T ผสมมอเตอร์ไซค์หนึ่งลิตร  :a_laugh: ) มันเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ภาษาของ BMW Motorsport เขาเรียกว่า Throttle Synchronization 

สำคัญที่เดียว เพราะเป็นการทำให้ make sure ว่าลิ้นทั้งสี่ลิ้นมันจะเปิดด้วยมุมที่เท่ากัน สูบนึงเปิดมุมนึงอีกสูบเปิดอีกมุม จูนกันจนหมดน้ำมันไปสามถังก็ไม่นิ่ง ก่อนอื่นต้องทำให้เจ้าดุ้นนี้มันยาวเท่ากันก่อน และต้องยาวตามที่กำหนดไว้ด้วยจะได้ไปกระทุ้งลิ้นข้างในให้เปิดมุมตามที่กำหนดเอาไว้ ตามตำราเขาบอกว่าของ M3 E30 เจ้าดุ้นนี้จะต้องยาว 100 mm ของ M5 จะสั้นกว่านิดหน่อย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JOEcUSTOM on July 30, 2010, 05:46:41 pm
สุดยอดครับ  :good: ความรู้ดีๆทั้งนั้น  "v"
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:00:03 pm
จากนั้นก็ใส่เข้าดุ้นสองอันนั่นเข้าไป และดันให้ลิ้นให้อยู่ในตำแหน่งเปิดสุด และวัดระยะของลิ้นด้านบนและด้านล่างให้ได้ตามสเปก
ถ้าไม่ได้ก็ปรับมันเสีย บางครั้งอาจจะเป็นแค่หญ้าปากคอกที่คันกระเดื่องมันงอเลยทำให้มันกดลงไปไม่เท่ากัน จัดการดัดให้ตรงเสียก็เรียบร้อย

ตามตำราเขาบอกว่า ด้านบน 21.7 mm (+/- 1) ด้านล่าง 22.7 mm (+/- 1)
วัดดูแล้วน่าจะอนุโลมพูดว่า "ตามสเปก" ได้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:01:55 pm
เอาหลักฐานอ้างอิงมาประกอบเสียหน่อยว่าผมไม่ได้นั่งเทียนขึ้นมาเอง หรือผีอะไรมาเข้าฝันบอกตัวเลขเหล่านั้น
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:03:39 pm
เอาล่ะ...ประกอบเสร็จเรียบร้อย น่าจะพร้อมเปรียบมวยได้แล้ว
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:10:01 pm
ยกแรก

มองจากทรวดทรงภายนอกแล้วจะเห็นได้ว่าเสื้อของเจ้าตัว 48 mm มันจะมีสันปีกออกมาตามในรูป ส่วนตัว 46 mm จะไม่มี อันนี้คงจะเพื่อเป็นการเสริมความแข็งแรงเข้าไปจากการที่รูของมันใหญ่ขึ้นหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้

แต่จากที่ทราบจากคนที่เคยเอา 46 mm ไป over-bored ที่อีกฟากโลกหนึ่ง เขาบอกว่ามันได้ใช่แค่คว้านลงไปเฉยๆ เพราะความหนาของเนื้อของเสื้อมันจะเหลือไม่พอ เขาต้องทำการ "พอก" ด้านนอกของเสื้อมันเข้าไปก่อนจึงจะคว้านได้ 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:17:23 pm
จับหมุนตัวโชว์ด้านหลังเสียหน่อย จะเห็นว่ามันมี part# คนละตัวกัน
ตัวบนคือ 48 mm ตัวล่างคือ 46 mm
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:24:48 pm
จับหงายหน้าตรวจฟันเสียหน่อย พบว่าลิ้นของ 48 mm จะเป็นแสตนเลส แต่ลิ้นของ 46 mm จะเป็นทองเหลือง (เข้าใจว่าผสมแบริลเลียมด้วย)
และก้านจับลิ้นของ 48 mm จะแบน ของ 46 mm จะมน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:26:44 pm
ปากของไอ้ลิ้นเหลืองวัดได้ 46 mm ตามนั้น
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:30:53 pm
ปากของไอ้ลิ้นขาวก็วัดได้ 48 mm ตามพิกัดที่ได้แจ้งกับกรรมการเอาไว้
ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าถ้ามันวัดออกมาได้ 46 mm เท่ากันจะทำยังไงดี (วะ)  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:36:21 pm
ทีนี้มาวัดลำคอด้านนอก ตัว 48 mm จะมีขนาด 57 mm ส่วนตัว 46 mm มีขนาดเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้เสียด้วยสิ แต่จำได้ว่ามันเล็กกว่านิดนึง

ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าข้างต้นที่ว่าหากเราเอา 46 mm ไป over-bored มันจะต้อง "พอก" ด้านนอกเพิ่มความหนาเข้าไป
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:44:58 pm
จับโก้งโค้งดูด้านตรงข้ามกับปากบ้าง (ผมหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "ตูด"  :a_laugh: )

มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้
ความยาวของตัว EVO III จะมีขนาด 48 mm แต่ของตัว 2.3 แสตนดาร์ดจะมีขนาด 49 mm ผมพิมพ์ไม่ผิดนะครับ ตัวสแตนดาร์ดจะ "ยาวกว่า" ของ EVO III อยู่ 1 mm พยายามวัดให้มั่นใจอยู่หลายเที่ยวเหมือนกัน ใครมีเก็บเอาไว้ที่บ้านลองเอามาวัด confirm อีกทีก็ดีเหมือนกันครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 06:49:11 pm
แต่....เมื่อวัดความกว้างของ EVO III จะกว้างกว่าอยู่ถึง 8 mm
(EVO III = 32mm, STD 2.3 = 24 mm)

ในต่างประเทศ 48 mm ก็ยังไม่สะใจ มีการเอาไปขยายขึ้นไปถึง 51 mm ก็มีนะครับ

ขอจบการเปรียบมวยเอาไว้ที่ตรงนี้ละกันนะครับ หวังว่าคงจะได้รับความเพลิดเพลินไม่มากก็น้อย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 07:05:22 pm
สัปดาห์หน้าจะมาโม้เรื่องไอ้เจ้าตัวนี้ให้ฟัง (หากติดตั้งสำเร็จ) เพิ่งส่งมาจากเยอรมันเช่นกัน
เดี๋ยวโก๋แก่สองคนจะช่วยกันมั่วประกอบวันพรุ่งนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 07:20:38 pm
อ่าน Installation Manual ภาษาอังกฤษในสำนวนเยอรมันอยู่หลายตลบ และ email ไปถามกูรูที่เยอรมันอีกหลายฉบับจนได้ความว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าการ delete สัญญานจาก AFM เดิมทิ้งไป และใช้ temp เซนเซอร์ใส่เข้าไปแทนที่ และเชิ่อมต่อให้มันทำงานร่วม TPS เฉพาะของเขาที่ใส่เข้าไปแทนที่ตัวเดิม

จากนั้นเอาสัญญาณจาก Alpha-N  6 เส้น jump เข้ากับ ECU เดิม (ที่ pin 6, 8, 9, 18, 24, 33) และปลดสัญญาณเดิม pin 2, 3, 7 ที่เข้า ECU เดิมทิ้งไปและเอาสัญญาณจาก Alpha-N ต่อตรงเข้าไปแทน จากนั้นเอาสัญญาณจาก TPS ตัวใหม่ (ที่เขาเรียกว่า G-Pot) ต่อเข้ากับสายไฟที่ pin 7 โดยไม่ต้องผ่าน ECU

ง่ายๆ (หรือเปล่า?) ตามนี้ แต่ไวยากรณ์เยอรมันทำให้งง งวย

มันอาจจะดูล้าสมัยโลว์เทคเมื่อเทียบกับระบบ stand alone ที่ทันสมัยอย่าง Motec, Wolf, F-con อะไรในยุคนี้ แต่มันเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่ได้เดินกลับไปสู่สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น "ที่สุด" ของ BMW Motorsport ในยุค 90's

นั่นคือหนึ่งเหตุผลที่เราเอารถยี่สิบสามสิบปีมานั่งปั้นกันมิใช่หรือ?
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on July 30, 2010, 07:24:15 pm
ตัวแข่งโรงงาน M3 ทั้ง Gr.A และ DTM ระดับ 300+ แรงม้าในยุค 90's วิ่งได้ด้วยสายไฟไม่กี่เส้นที่เห็นนี่แหละ

นับถือ  &v&

Have a good weekend !

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: vi on July 30, 2010, 08:58:02 pm
 :good: :good: ขอบคุณครับพี่ ชอบจริง ๆ เลย ความรู้แนว ๆ นี้ ติดตามอ่านของพี่มาพอสมควร ได้ความรู้ดีเลยครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: A-Z on July 31, 2010, 10:33:02 pm
 :good: :good: :good:  เยี่ยมมากตรับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on July 31, 2010, 11:17:11 pm
Quote
The handling of the number 7 wire (gray/yellow) of the engine harness and the wires corresponding to
terminals D and G of the Alpha-N-Harness deviates slightly from the procedure described above.
In this case:
Crimp together the wire of terminal 7 (gray/yellow) from the engine harness together with wire G-Pot
(TPS) of the Alpha-N harness. Use a standard socket connector for the connection and cut the contact
part off. Use the provided shrink tubing [13] to isolate this splice. Bend the two wires back into the hose.
Wire D of the Alpha-N harness will be inserted into the terminal position 7 of the Motronic connector. • [/]Crimp the wire of terminal 7 (gray/yellow) together with wire “G-Pot” of the Alpha-N harness

[/]

ก็น่างงอยู่นะ  เพราะว่า #7 มันเป็น AF input  ให้เอาไปมัดกับสัญญาณ TPS อันใหม่แล้วยัดกลับเข้ากล่อง ECU
 
ตอนนี้เค้าให้ software version เท่าไหร่แล้วครับ  1.3x ?
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 12:44:55 am
Quote
The handling of the number 7 wire (gray/yellow) of the engine harness and the wires corresponding to
terminals D and G of the Alpha-N-Harness deviates slightly from the procedure described above.
In this case:
Crimp together the wire of terminal 7 (gray/yellow) from the engine harness together with wire G-Pot
(TPS) of the Alpha-N harness. Use a standard socket connector for the connection and cut the contact
part off. Use the provided shrink tubing [13] to isolate this splice. Bend the two wires back into the hose.
Wire D of the Alpha-N harness will be inserted into the terminal position 7 of the Motronic connector. • [/]Crimp the wire of terminal 7 (gray/yellow) together with wire “G-Pot” of the Alpha-N harness

[/]

ก็น่างงอยู่นะ  เพราะว่า #7 มันเป็น AF input  ให้เอาไปมัดกับสัญญาณ TPS อันใหม่แล้วยัดกลับเข้ากล่อง ECU
 
ตอนนี้เค้าให้ software version เท่าไหร่แล้วครับ  1.3x ?
 

ไอ้เจ้า pin 7 นี่แหละครับท่านขุนที่ผมงง งวยจนต้องอ่านหลายตลบ ตอนแรกผมก็แปลความหมายได้อย่างนั้น ก็เลยงงกันไป

ข้อเท็จจริงก็คือ สายไฟด้าน engine harness จะถูก delete ออกไปเพียงสองเส้น คือเส้นที่ไปเข้า pin 2 และ 3 (ซึ่งเป็นสัญญาณที่เขาระบุว่าเป็น idle contact และ full contact ตามลำดับ) และ slot 2-3 ที่ว่างเปล่าอยู่ในตอนนี้จะถูกแทนที่โดยสายไฟจากด้าน Alpha-N harness สองเส้น (slot ละเส้น) ซึ่งตรงนี้ผมย้ำเขาไปแล้วว่ารถไอยังใช้ ICV อยู่นะ ทำแบบนี้จะมีปัญหาหรือไม่ เขาตอบว่าไม่มีปัญหา

ส่วนสายไฟด้าน engine harness เดิมที่ไปเข้า pin 7 (ที่เดิมเป็นสัญญาณจาก AFM) จะถูกดึงออกมาจาก slot และจะไป jump เข้ากับสายไฟจากด้าน Alpha-N harness ที่เขาเรียกว่า G-pot ที่มาจาก TPS ตัวใหม่โดยไม่ต้องใส่กลับเข้าไปใน slot  และ slot 7 ที่ว่างเปล่าอยู่ในตอนนี้จะถูกแทนที่โดยสายไฟจาก Alpha-N หนึ่งเส้นที่เขาเรียกว่า D-pot ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้า D-pot ตัวนี้มันเป็นสัญญาณอะไร  %:(

นั่นคือเหตุผลที่ใน manual เขาเขียนว่า "Wires of terminal 2,3,7 are single wires"

เวอร์ชั่นผมไม่แน่ใจนะ เดี๋ยวต้องลอง install ลงใน note book ดูครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 01:43:01 am
"การเริ่มต้นที่ดี หมายถึงยังมีงานที่ทำไม่เสร็จเหลืออีกครึ่งหนึ่ง"

ตามคำสัญญาที่ให้ไว้สำหรับเรื่องราวของเจ้า Carbon Fiber Airbox ที่ทำงานร่วมกับระบบ Alpha-N ในอดีตของ BMW Motorsport เขา

อะไรคือ Carbon Fiber ก็คงไม่ต้องอธิบายเพราะปัจจุบันรู้จักกันแพร่หลายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่เห็นกันได้ตั้งแต่ก้านไม้กอล์ฟอันละไม่กี่บาทยันแพลทฟอร์มของรถแข่งฟอร์มูล่าวันราคาหลายล้าน สักวันพี่น้องชาวนาบ้านเราคงจะมีการนำเอาคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ทำเป็นคันไถเพื่อทำให้มันเบาประหยัดแรงควายและสามารถเพิ่มจำนวนไร่/วันในการไถนาได้มากขึ้น และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่ BMW Motorsport เขานำเอาวัสดุชนิดนี้มาแทนกล่องอากาศอลูมิเนียม (ภาษาฝรั่งมังค่าเขาเรียกว่า "air plenum") ที่หนักอึ้งที่ติดมากับ M3 road version ของพวกเขา ผมไม่เคยวัดเปรียบเทียบกันเหมือนกัน แต่บอกได้ว่ามันเบากว่ามากๆๆๆๆๆๆ

เหตุผลข้อที่สองก็คือ BMW Motorsport เขาต้องการโมฯ ระบบ intake ในตัวแข่งของพวกเขาเพื่อให้มันสูดอากาศได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนกับ Sierra Cosworth หรือ 190E 16-valve ที่จอดกวักมือหวอยๆท้าทายอยู่ที่กริดข้างๆ เพื่อการนั้น AFM หรือเรียกกันให้ยืดยาวว่า Air Flow Meter ของเดิมจึงจะต้องถูกกำจัดออกไป และถูกแทนที่โดยระบบใหม่ที่เรียกว่า Alpha-N ที่ผมกำลังจะโม้ให้ฟังอยู่นี้

ระบบนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกมันว่า Air Mass meter ที่ใช้หลักการวัด "มวลอากาศ" กันอย่างแพร่หลายหลังสิ้นยุค AFM (ที่ใช้หลักการวัด "ปริมาตรอากาศ") ดีหรือไม่ แต่ถึงไม่ใช่มันก็ค่อนข้างใกล้เคียงทีเดียวเพราะมันการประมวลผลการทำงานของเครื่องยนต์จากมุมองศาของ TPS (Throttle Position Sensor) หรือที่ใช้สัญญลักษณ์ในทางคณิตศาสตร์ว่า Alpha กับรอบเครื่องยนต์ (N) และเซนเซอร์วัดอุณหภูมิหนึ่งตัว

หมายเหตุ: การวัดการอากาศจาก "มวล" จะแม่นยำกว่าการวัดจาก "ปริมาตร" เพราะตัวแปรอีกตัวหนึ่งที่จะสามารถบอกมวลของอากาศได้อย่างแท้จริงก็คือ "อุณหภูมิ" ของอากาศ เพราะฉนั้นอากาศที่ปริมาตรหนึ่งๆอาจจะมีมวลไม่เท่ากันหากวัดที่อุณหภูมิแตกต่างกัน เอาเท่านี้พอนะครับ เดี๋ยวจะกลายไป ฟิสิกส์ 101 ไป

ท่านที่โบกมือหวอยๆอยู่หลังห้องประท้วงอะไรครับ? อ๋อ....BMW Motorsport ขี้โกงเปลี่ยนเอา AFM ออก อย่างงี้ก็ผิดกฏ homologation สิ? คงจะไม่นะ เพราะยุคแรกๆ AFM มันก็ยังเสียบอยู่ข้างเจ้ากล่องคาร์บอนไฟเบอร์นั่น เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ใช้เท่านั้นเอง ก็กฏเขาบอกว่า "ต้องมี" เหมือนรถในสายการผลิตปกติ แต่เขาไม่ได้บอกว่า "ต้องใช้" (นี่หว่า)  :dontknow:

นี่คือสัจธรรมในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่แตกต่างไปจากการเล่นหมากเก็บ
 
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 02:02:05 am
หลังจากเซนต์ MOU บันทึกความเข้าใจตรงกันเรียบร้อยแล้วว่าข้าพเจ้าเกิดมาก็เพิ่งจะเคยติดตั้งมันครั้งนี้นี่แหละ และมีข้อแม้ว่าเจ้าของรถต้องทำกับข้าพเจ้าด้วย (เอาเป็นตัวประกันไว้ก่อน  :a_laugh: ) ก็เริ่มวางแผนงานกันว่าจะเริ่มอย่างไรดี เริ่มจาก what-when-where-why-how

เริ่มจากเอาเจ้ากล่องคาร์บอนมาวางเรียงพิจารณาว่าจะใช้อันไหนดีก่อน

อันขวาสุด: ปาก 48 mm runners ยาว 15 cm (ผู้ท้าชิงจากอเมริกา)
อันถัดมา: ปาก 48 mm runners ยาว 17 cm (ผู้ท้าชิงจากเยอรมัน)
อันซ้ายสุด....เอ่อ...ไม่แน่ใจว่าของ BMW หรือรถอะไรเพราะปากมันแค่ 44mm เอง (ถ้าข้าพเจ้าจำไม่ผิด ITB ขนาดเล็กสุดของ S14 มันก็ 46 mm เข้าไปแล้ว) เพราะฉนั้นถือว่าดิสควอลิฟายด์ไป ไม่อยู่ในการพิจารณาเข้ารอบสุดท้าย ผู้ท้าชิงที่น่าสงสารรายนี้มาจากญี่ปุ่น

หลังจากหมูปิ้งสิบไม้กับข้าวเหนียวห้าบาทหมดลง ตกลงว่าจะใช้ตัวขวาสุด ด้วยเหตุผลว่า เครื่องตัวนี้เป็นขนาด 2.5 ลิตรซึ่งมีแรงบิดรอบต่ำในระดับที่เชิดหน้าชูตาได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉนั้นเอาท่อสั้นไปปั่นรอบปลายดีกว่า

พรุ่งนี้มาต่อครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: smokky on August 01, 2010, 02:26:16 am
ปูเสื่อรอชมครับ ถึงตอนนี้ผมจะบูรณะเจ้า ke70 อยู่ แต่อีกคันข้างๆ คือ e30 ที่เข้าคิวรอครับ และถึงแม้จะไม่มีปัญญาคว้า เครื่องเจ๋งๆมาใส่ใบพัดสีฟ้าได้ ก็ขอเก็บความรู้เอาไว้บ้างครับ ผมชอบเครื่องยนต์กลไก กระทู้นี้ โดนใจครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 09:36:55 am
ก่อนตรงประเด็นเข้าสู่การติดตั้ง software มันต้องทำ hardware ก่อน ซึ่งมันมีงาน prerequisite ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวกับ CF Air Box ที่จะต้องทำ 4 อย่าง

ทางตรง:

หนึ่ง...สร้างท่อระบายไอน้ำมันเครื่องและท่อเข้า ICV เดิมให้มามาเสียบด้านล่างของ CF Airbox (ที่เห็นเป็นสองท่อเงินๆอยู่ในภาพข้างบนนั่น) ในชุดคิตมีสายงอๆมาให้หนึ่งเส้นซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย เขาอาจจะตั้งใจแนบมาให้ตัดต่อใส่กันเองก็ได้ เพราะการ setup บางคนอาจจะทำไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะปล่อยไอน้ำมันเครื่องทิ้งไปเลย (ให้รถคันหลังมันลื่นเล่น) บางคนอาจจะใช้ ICV บางคนอาจจะไม่ใช้ ฯลฯ

สอง...ย้ายกระป๋องน้ำมันเบรกออกมาจากที่เดิม อันนี้ไม่มีปัญหา มีอุปกรณ์มาให้ค่อนข้างครบถ้วน มันจะอยู่บน master cylinder ต่อไปอีกไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเจ้า CF Airbox มันจะยาวมาถึงตรงนั้น

ทางอ้อม:

สาม... ย้ายตัววัดแรงดันน้ำมันเบนซินที่ผมติดตั้งเอาไว้ก่อนหน้านั้น เพราะเจ้า CF Airbox มันจะไประรานด้วยเช่นกัน และอีกอย่างกระป๋องน้ำมันเบรกอันใหม่มันจะไปอยู่แถวๆนั้น

สี่... เปลี่ยนหม้อน้ำให้เป็นของ M3 ตรงรุ่น เพราะอันเดิมไม่แน่ใจว่ามันเป็นของรุ่นอะไรแปลงมา ดูคร่าวๆแล้วน่าจะเหมือนของพวก M40 ที่มันเป็นหม้อน้ำแบบนอน ส่วนของ M3 มันจะเป็นหม้อน้ำแบบตั้ง ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าน้ำมันจะวิ่งผ่านรังผึ้งได้อย่างไรในขณะที่ท่อน้ำเข้า/ออกของเครื่อง M3 มันอยู่ทางเดียวกัน (เข้า/บน, ออก/ล่าง) ในขณะที่รังผึ้งมันเป็นแบบนอน  เอาเถอะ...มันอาจจะผ่านได้ก็ได้เพราะไม่งั้นมันคงโอเวอร์ฮีตแหลกรานไปแล้ว แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องเปลี่ยนก็คือหม้อน้ำของเดิมมันยาวไปจนไม่สามารถเอา housing อีกชึ้นหนึ่งของ CF Airbox ประกับเข้าไปข้างหม้อน้ำเพื่อสูดอากาศจากสุริยะจักรวาลได้

ในภาพเริ่มรื้อเปลี่ยนหม้อน้ำ กระบังลมของเดิมใช้ไม่ได้ ให้ลูกน้องเจ้าของรถแบกใส่รถไปถามร้านหม้อน้ำแถวนั้นสามแห่ง ต่างส่ายหัวอย่างพร้อมเพรียงกัน เลยเอาใส่ท้ายรถมาทำที่กรุงเทพ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 09:54:06 am
จำเลยในคดีนี้สี่ตัว

โปรดสังเกตุว่าในรู ITB ของรถคันนี้เป็นแสตนเลส นั่นคือมันเป็นเครื่อง 2.5 ลิตร จากโรงงาน

ช่างอีกคนหนึ่งเคยแบะมันออกมาเมื่อปีที่แล้ว พบว่าเสื้อของมันก็เป็นของ 2.5 ลิตรเช่นกันเพราะมันมีหัว Oil nozzles อีกสี่หัวที่ฉีดตรงลงไปที่ main bearing ซึ่งเครื่อง 2.3 จะไม่มี แต่ถ้าใครเป็นเครื่อง 2.3 แล้วจะทำเพิ่มก็ได้ ค่าทำอีกฟากโลกหนึ่งเขาคิด $1600 เหรียญ ที่เมืองไทยไม่แน่ใจว่าใครรับทำ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 09:59:53 am
อ้อ...เจ้าท่อวัดระดับน้ำมันเครื่องมันก็ติดด้วย ต้องงอมันลงนิดนึง
ผมแกล้งฟอร์มบอกว่าไม่มีแรง แล้วยื่นเหล็กงัดให้เจ้าของรถงัดเอง  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 10:05:59 am
สองชั่วโมงผ่านไป เจ้า CF Airbox ลงไปสิงสถิตย์อยู่ได้โดยไม่ไประรานใคร
ขายึดต่างๆ เอาพอให้อยู่ในตำแหน่งไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาว่าเรื่องความสวยงามกันภายหลัง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 10:11:37 am
เจ้าสองท่อด้านล่างที่พูดถึงข้างต้นก็ไปเสียบอยู่ที่ CF Airbox เรียบร้อย
ใช้วิธีตัดแล้วบิดมุม แล้วเอาท่อช่วงที่มันมีความโค้งใกล้เคียงกันมาต่อเข้าไปโดยเดินหาปลอกเหล็กแถวๆริมรั้วข้างโกดังนั่นแหละ  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 10:16:07 am
let's call it a day!

อาทิตย์หน้าค่อยมาต่อในส่วนของ electrical installation

ตอนนี้ผมต้องไปประกอบรถผมเองมั่งแล้วล่ะ ช่างเขากำลังมา หวังว่าคงได้รับความเพลิดเพลินกันไปไม่มากก็น้อยนะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: NOK1 on August 01, 2010, 10:50:39 am
let's call it a day!

อาทิตย์หน้าค่อยมาต่อในส่วนของ electrical installation

ตอนนี้ผมต้องไปประกอบรถผมเองมั่งแล้วล่ะ ช่างเขากำลังมา หวังว่าคงได้รับความเพลิดเพลินกันไปไม่มากก็น้อยนะครับ

ช่างใกล้บ้านรึเปล่าครับ  :a_smiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 10:55:38 am
let's call it a day!
 
 อาทิตย์หน้าค่อยมาต่อในส่วนของ electrical installation
 
 ตอนนี้ผมต้องไปประกอบรถผมเองมั่งแล้วล่ะ ช่างเขากำลังมา หวังว่าคงได้รับความเพลิดเพลินกันไปไม่มากก็น้อยนะครับ
 
 
 ช่างใกล้บ้านรึเปล่าครับ  :a_smiley:
 

 ช่าง BMW ครับ แต่ตอนนี้ทำงานอยู่ศูนย์ Mercedes
 สามสี่ปีก่อน ประกอบ S14 ไปหลายตัวอยู่เหมือนกัน
 
 เดี๋ยวของผมเสร็จแล้วจะมาโม้ให้ฟังบ้างครับ  :-!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: siam911 on August 01, 2010, 11:05:38 am
ผมโม930TURBO ก็ใช้เทคโนโบราณสนุกดีมันได้อารมณ์ความรู้สึกของรถยุคนั้นจริงๆถึงแม้ว่าจะเทียบMOTECหรือกล่องอื่นๆไม่ได้ 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: psp on August 01, 2010, 02:08:26 pm
อ่านเพลินจริงๆ เยี่ยมมากครับ  :good: :good: :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ae on August 01, 2010, 02:36:45 pm
 :><:  เพลินดีจัง ท่าจะสนุกกันใหญ่เลยนะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on August 01, 2010, 04:41:44 pm
อยากไปแวะชม "garage" นี้จังเลยอ่ะ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 07:00:35 pm
มาดูที่ standard homologation ของเราบ้าง
ค่อยๆต่อยอดขึ้นไป ไม่มีอะไรเร่งรีบ แต่ช่างเขาบอกว่าอยากเห็นมันวิ่งในสนามเร็วๆ

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 07:02:59 pm
ช่างเขารู้ขั้นตอนดีว่าจะต้องทำอย่างไร ทุกอย่างเป็นไปตามสเปก
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 01, 2010, 07:11:58 pm
ผมเลยปล่อยเขาทำไป แล้วไปเข็นเอาลูกรักอีกคันมาสนุกสนาน

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แล้วก็เปลี่ยนเอาหม้อพักปลายขนาดใหญ่ที่เป็นของแสตนดาร์ดจากโรงงานมาใส่ ดัดแปลงนิดหน่อยกว่าฝาครอบด้านข้างถึงจะใส่ลงไปได้

ของเดิมมันเป็นเซทที่มากับท่อตัวแข่งโรงงานของ Pro Circuit ทั้งเส้น มันแรง....แต่....มันดังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็แรงบิดรอบต้นแทบจะไม่มีเลย แต่รอบปลายไม่ต้องพูดถึง ถ้ามีปีกมันบินไปแล้ว

ขี่ในป่าส่วนตัวไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เวลาขี่เข้าไปในป่าสงวนสาธารณะแห่งชาติเขารู้สึกเกรงใจสิงสาราสัตว์ และนักท่องเที่ยวที่เขาเข้ามาหาความสงบ เดี๋ยวเขาเอาหินขว้างไล่หลังเอา
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Mee GHBC-100 on August 01, 2010, 07:31:58 pm
อ้อ...เจ้าท่อวัดระดับน้ำมันเครื่องมันก็ติดด้วย ต้องงอมันลงนิดนึง
ผมแกล้งฟอร์มบอกว่าไม่มีแรง แล้วยื่นเหล็กงัดให้เจ้าของรถงัดเอง  :a_laugh:

 
ช่างอู่นี้ถุงมือสวยดีน้ะ  :grin:
 
 
 
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 02, 2010, 08:42:51 am
ถ้าจะเป็นพระก็ต้องเอาให้ถึงป.ธ 9 ถ้าจะเป็นครูก็ต้องเอาให้ถึงอธิการบดี แต่ถ้าจะเป็นโจรต้องเอาให้ได้อย่าง Billy the Kid !!


วันเสาร์ที่แล้ว ได้มีโอเปอร์ชั่นมือบอนกันอีกหนึ่งอัน สืบเนื่องมาจากเจ้าของรถเขาอยากจะทำเครื่องที่มันเป็นเหมือนดั่งในอดีตอันรุ่งเรืองของ BMW Motorsport ขึ้นมาสักตัวหนึ่ง ราวสองอาทิตย์ผ่านไป ตกลงใจได้ว่าจะทำเป็น spec Gr.A 2.3 (S14/1) เพราะฉนั้นเครื่องที่เอาไปให้ช่างเขาเตรียมการก่อนหน้านี้คงจะใช้ไม่ได้ เพราะกระบอกสูบมันเป็นขนาด 95 mm ผมไม่ได้บอกว่ามันเป็นเครื่อง 2.5 นะ เพราะข้อเหวี่ยงมันดันเป็นแค่ 84 mm ของ 2.3 (แล้วลูกสูบก็ดันต่ำกว่า deck ลงไป 1 mm  %:( )

ก่อนหน้าที่จะตกลงใจได้ มันมีสองทางเลือกก็คือ ทำให้มันเป็น 2.5 ทั้งหมด (เปลี่ยนข้อเหวี่ยงเป็น 87 mm) หรือไม่ก็ทำเป็น 2.3 ไปเลย (เปลี่ยนลูกสูบและเสื้อ) จากการปรึกษาช่าง BMW ประสพการยาวนานแห่งบ้านโป่ง และช่าง BMW กูรู และมือขับชั้นเยี่ยมย่านภูเขา Eifel แห่ง Nurburgring ก็ตัดสินใจว่าจะเดินไปทาง 2.3 เนื่องจากราคาของข้อเหวี่ยง 87 mm (ของแท้) มันหนาวเหน็บหัวใจ (และมันก็ต้องซื้อลูกสูบใหม่อยู่ดีเพราะอันเดิมมันอยู่ต่ำกว่า deck 1 mm ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้น) เพราะฉนั้นซื้อลูกสูบ 2.3 เจ๋งๆไปชุดเดียวไปเลยดีกว่า ประกอบกับมีชุด valve train ที่เป็น Motorsport Parts แท้ๆอยู่ในมือหนึ่งชุดด้วย เข้าใจว่าเป็น SRD4 (ชุดนี้ซื้อกันจนลืมไปแล้วนะเนี่ย) เหลือเงินซื้อข้าวเหนียงหมูปิ้งกินกันได้อีกหลายร้อยไม้

นั่นคือที่มาของโอเปอร์ชั่นมือบอนที่พูดถึง เพื่อทำการรื้อเครื่อง 2.3 ตัวนี้ออกมาเพื่อเอาเฉพาะเสื้อของมันไปให้ช่างเขา

เจ้าของเอา fork lift ไปหิ้วออกมาจากโกดัง สภาพเหมือน barn find มาก ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเห็นเครื่องตัวนี้อยู่ในสภาพเต็มตัว ใหม่เอี่ยม วิ่งมาแค่ไม่กี่หมื่น ก.ม ดูคนละเรื่องกับตอนนี้เลย อย่ากระนั้นเลย ถ้ามันเดินมาทางนี้แล้ว สนับสนุนมันให้เป็น Billy the Kid ไปเลยดีกว่า
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 02, 2010, 08:50:17 am
สิ่งที่ผมแปลกใจมากก็คือ เครื่องตัวนี้เป็น 2.3 original ทุกกระเบียดนิ้ว แต่ ITB ของมันเป็นของ EVOIII ขนาด 48 mm !!
ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่เคยสังเกตุ เพิ่งจะสังเกตุเห็นได้ในวันนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 02, 2010, 08:53:00 am
เครื่องอยู่ในสภาพที่ใหม่มาก
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 02, 2010, 08:59:00 am
ลูกน้องเขาห่อ เจ้าของนั่งเขียนกำกับแต่ละตัวไม่ให้สลับสูบกันพร้อมเรียงลงกล่องอย่างเรียบร้อย

ในระหว่างที่ผมเอาแม่เหล็กดูด buckets/shims ออกมาจากเครื่องส่งให้เขาทีละตัว... ไม่รู้สิ ผมรู้สึกขึ้นมาว่ามันเป็นความสนุกที่แท้จริงของการเล่นรถ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 02, 2010, 09:02:21 am
สภาพดีมาก

เอาใส้ในออกก็พร้อมออกเดินทางไปบ้านโป่งไปพบกับลูกสูบที่จะเดินทางมาจากเยอรมันได้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: korn on August 02, 2010, 12:00:42 pm
เมื่อผู้ใหญ่บ้านลงมือเอง........  สนามนี้ทันมั้ยครับ.....
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: iamwashmania on August 02, 2010, 01:20:07 pm
ของสดๆ แรงแน่ครับ  w^w
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JOEcUSTOM on August 04, 2010, 05:20:28 pm
 :good: :good: :good:   สุดยอกมากครับบ  :smitten: ซักวันหนึ่งอยากมี E30 ทำเช่นนี้บ้างจังเลย 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 05, 2010, 07:46:51 am
ด้วยความสงสัยอย่างหนักว่าทำไมเครื่องใน #43 ที่จะรื้อเอาเสื้อมันมาใช้จึงมากับ ITB 48 mm สอบถามไปทางกูรูริมแม่น้ำดานูบว่าทำไมจึงเป็นแบบนั้น เขาบอกว่าดูที่ code ที่บล็อกเครื่องมันซิว่าเป็น "23 4S 2" หรือเปล่า

ปรากฏว่าใช่!!!! สงสัยต้องประกอบกลับเข้าไปแล้วเอาเสื้อตัวอื่นไปแทนแล้วล่ะ

ทำไมจึงควรจะประกอบกลับเข้าไป แฟนๆ M POWER หลายท่านในที่นี้คงจะรู้ดี (บอกใบ้ให้ก็ได้ว่าถ้าเครื่อง 2.3 ปกติ มันจะมี code เป็น 23 4E A , ถ้าเครื่อง Evolution II จะใมี code ว่า 23 4S 1, และถ้าเครื่อง Evolution III จะมี code ว่า 25 4S 1)

เสียดายเครื่องตัวนี้แทนเจ้าของมาก คงจะพูดได้เต็มปากว่านี่คือ BARN FIND ที่แท้จริง เข้าใจว่าสิบกว่าปีให้หลังมานี้ เครื่องตัวนี้ตั้งไว้เฉยๆไม่ได้ติดเครื่องเลย

 

 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 06, 2010, 09:42:23 pm
วกกลับมาที่เจ้า CF Airbox กะ Alpha-N กันอีกที วกไปวกมาสนุกดีเหมือนกันนะครับ จะได้ไม่เบื่อ เขียนสาธยายวิชาการมากนักมันจะเบื่อเอา แล้วอีกอย่างหาอ่านได้ที่อื่นเยอะแยะ (แถมจะรู้เรื่องดีกว่าเสียด้วย) ไม่ต้องมานั่งอ่านของผมหรอก

ก่อนที่จะไปเดินสายไฟพรุ่งนี้ มาทำไอ้เจ้าตัวนี้รอเอาไว้ก่อน ตอนแรกกะว่าจะไม่ใส่ ปล่อยให้ลมมันอัดเข้าไปในปล่องช่วยเครื่องยนต์ไม่ต้องสูดหายใจเองให้เหนื่อยมากนัก เป็นการเพิ่มแรงม้า (ถึงจะเศษๆขี้ม้าก็เถอะ) ได้กลายๆ แต่เกรงใจว่าวาล์วจะโวยวายว่าเอาอะไรมายัดปากให้ฉันกิน ฝุ่นไม่ค่อยเป็นกังวลเท่าไหร่หรอก เป็นห่วงแต่เม็ดกรวด หรือชิ้นส่วนจากรถคันหน้าเท่านั้นเอง

นั่งคิดหลายตลบว่าจะเอาอย่างไรดี เซทของ VAC แถมฟิลเตอร์ทรงโคน(หมายถึง "cone" ในภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ "โคน" อย่างตัวหมากรุก) ของ K&N  มาให้หนึ่งอันใส่ แต่ก็ไม่น่าเวิร์คเพราะลมมันคง "อัด" เข้าไปได้ไม่สะดวก

เอาแบบนี้ดีกว่า คว้าเอาแผ่นอะครีลิคสารพัดประโยชน์ที่ใช้หากินมาหลายงานแล้วขึ้นมา แล้ววาดรูปลงไปแบบนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 06, 2010, 09:45:46 pm
ตัดมันเข้าไปแบบนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 06, 2010, 09:50:23 pm
เจาะรูประกบเข้าไปแบบนี้

เห็นภาพนี้แล้วคงพอจินตนาการออกว่ากำลังจะเดินไปทางแนวไหน แตกไปนิดตอนตัด ช่างหัวมัน เอากาวติดก็เรียบร้อย บางครั้งชีวิตมันไม่ได้ราบรื่นโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปนักหรอก แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะส่งไปประกวดชิงรางวัลที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานด้วย  :a_laugh:

พ่นสีเข้าไปหน่อย มันจะได้ดูแพงๆ
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 06, 2010, 10:07:18 pm
นึกไม่ออกว่าจะเอาอะไรกรุเข้าไปดี สมัยนี้เขาฮิตเทคโนโลยี่สีเขียวกันแม้กระทั่งรถแข่งก็ไม่เว้น (Porsche ทำรถแข่งไฮบริดออกมาเรียบร้อยแล้ว) ตอนแรกก็เลยตั้งใจว่าจะเอากระดาษสามากรุ (อ่านว่า กระ-ดาษ-สา-มา-กรุ) แต่ก็กลัวว่ามันจะเปื่อยตอนโดนน้ำ  :a_laugh:

เอาแบบนี้ดีกว่า... มุ้งลวด! ไปยืนเล็งๆอยู่พักนึง แบบที่ใช้กันยุงตามบ้านน่าจะตาถี่ไม่พอ เลยเลือกเอาแบบกลางๆมาขนาด 80-grid ละเอียดกว่านี้ก็มีแต่กลัวว่าลมจะผ่านไม่สะดวก ลองดูก่อน ถ้ามันละเอียดไปค่อยลดลงมา ผมเข้าใจว่ากรองแบบกระดาษที่ใช้ทั่วๆไปมันอยู่ราว 50-60-grid เท่านั้นเอง (หรือเปล่า? วานผู้รู้ช่วยวิสัชนา) เจาะรูประกบเป็นแซนด์วิชเข้าไปแบบนี้ ก่อนประกบเอาซิลิโคนทาไว้กันพลาดชั้นหนึ่งก่อน แล้วเอา loctite ทาน๊อตกันคลายเอาไว้ด้วย ตอนเหยียบเจ็ดแปดพันรอบแล้วมันดูดน๊อตพรวดเข้าไปไม่ใช่เรื่องสนุกแน่

ตัดให้มันพอดีกับขอบ ก็จะได้หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ขนาดนี้

วันนี้เอาเท่านี้ครับ พรุ่งนี้มาต่อในส่วน electrical ของมัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: smokky on August 06, 2010, 11:51:18 pm
แวะมาเยี่ยมชมต่อครับ เยี่ยมยอดเลย :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:09:04 am
มาต่อในส่วนที่เหลืออีกครึ่งนะครับ ก็จะเรียกได้ว่าเหลือแต่ในส่วนระบบไฟเกือบจะล้วนๆ
หลังจากประกอบเบรก (มอเตอร์ไซค์) ของผมเสร็จก็ล้างมือ กระโดดขึ้นรถขับตรงไปสระแก้วทันที
บรรยากาศดีมาก ครึ้มๆ ไม่ร้อน มองผ่านทุ่งหญ้าป่าเขาแล้วสบายใจจนต้องเอื้อมมือไปเปิดโวลลูมให้เสียง Ronnie Van Zant ดังขึ้นให้เข้าบรรยากาศอีกนิด

.......Big wheels keep on turning 
Carry me home to see my kin 
Singing songs about the Southland 
I miss Alabamy once again 
And I think its a sin, yes.......


[/]
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:13:36 am
ไปถึงก็เอาตำรามาวางไว้ข้างตัวเริ่มพยายามลงมือตามสเตปที่บอกเอาไว้ทุกขั้นตอน

เริ่มจากเอา TPS เฉพาะสำหรับ Alpha-N ที่เขาแนบมาในชุดคิตเปลี่ยนใส่เข้าไปแทนอันเดิม
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:17:27 am
เสร็จในหนึ่งนาที สังเกตุว่าปลั๊กมันไปค้ำที่ regulator พอดี รูปประกอบในตำรามันก็ค้ำเหมือนกัน- ทำไมไม่ทำให้มันสั้นกว่านี้ (วะ)

จะสังเกตุได้ว่าปลั๊กอันเดิมจะไม่ได้ใช้แล้ว ปลั๊กชุดนี้จะมากับชุดคิตที่เชื่อมต่อ TPS, (สิ่งที่เคยเป็น) AFM, และ Temp เซนเซอร์(ตัวใหม่) เข้าด้วยกัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:32:29 am
นี่คืออดีต AFM -ลาก่อน ปลั๊กเดิมถูกถอดออก และสายไฟทั้งสี่เส้นของมันจะต่อเข้ากับ connector ตัวใหม่ที่โยงเข้ากับ TPS และ Temp เซนเซอร์

ภาพล่างคือตอนที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ในตำราทำให้งง งวยนิดหน่อย เพราะในรูปมันมี connector สองตัวที่เขาเรียกว่า AMP SUPER-SEAL (สีดำ) และ DEUTSCH DT04 (สีเทา)แถมยังอธิบายว่าใช้ทั้งสองอัน (Both "DEUTSCH DT04" as well as "AMP SUPER-SEAL" connectors are in use) ขั้นตอนในภาพประกอบมันก็มีแค่รูปของ DEUTSCH DT04 แล้วไอ้เจ้า AMP SUPER-SEAL มันไปต่อกับหางแมวตัวไหน (วะ)   %:(

สอบถามไปได้ความว่า มันมีทั้งสองแบบ แต่ให้เลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งตามหัวของชุดสายไฟที่แนบมาในชุดคิต (แต่ภาษาอังกฤษขอพี่ท่านไม่ได้แปลว่าแบบนี้นะ) ไอซี...ของเราเป็นแบบ AMP SUPER-SEAL เพราะฉนั้นโยนเจ้า DEUTSCH DT04 ทิ้งไปได้   
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:50:41 am
จบขั้นตอนของการเฉดหัว AFM ออกไปแค่นี้ ง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน ใช้เวลาทั้งสิ้นราว 15 นาทีก็เสร็จ

ทีนี้มาด้านในบ้าง ในชุดคิตจะมีชุดสายไฟมาให้อีกชุด เพื่อให้มันทำปฏิสัมพันธ์กับชุดสายไฟเดิม มีสายไฟที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยี่สิบเอ็ดเส้น กับ slot เก้าช่องให้เล่นเก้าอี้ดนตรีกัน จะมีทั้งคนที่ไม่มีเก้าอี้นั่ง คนนั่งเดี่ยวๆ คนต้องนั่งตักกัน และบางคนต้องพากันจูงมือกันไปนั่งที่พื้น

ในชุดสายไฟ Alpha-N มี label กำกับมาเรียบร้อย เพียงแต่เล็งเลขที่กำกับอยู่บน slot ที่ main connector ฝั่งสายไฟเครื่องให้ดีให้แน่ใจว่ามันถูกช่อง เพราะตัวมันเล็กมาก

ฝั่งเยอรมันเขาเตือนว่าพอปลอดตัวล็อกแล้วอย่าให้มันหลุดออกมาพรวดเดียว เว้นเสียแต่ว่ายูจำได้ขึ้นใจว่าไอ้สายไฟทั้งสามสิบกว่าเส้นนั่นมันประจำการอยู่ที่ slot ไหนบ้าง ไอ้ผมก็กลัวจนหัวหด จัดแจงถ่ายรูปเอาไว้เผื่อมันกระเด็นออกมาจริงๆ

พอเอาเข้าจริง ทั้งแยง ทั้งงัด มันยังไม่ค่อยจะยอมออกมาจาก slot เลย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:56:20 am
ไม่ได้มีอะไรควรค่าแก่การกล่าวถึงนัก

ราวสามสิบนาที สายไฟทั้งหลายแหล่ก็เข้าประจำเก้าอี้...เอ้ย...slot ของมัน และ main connector ถูกเสียบกลับเข้าไปที่ ECU และเจ้า Alpha-N module ก็ถูกเสียบเข้ากับชุดสายไฟด้วยเช่นกัน

ใครเคยเห็นตัวแข่ง M3 E30 Gr.A หรือ DTM สมัยก่อนก็จะเห็นเจ้ากระบอกแบบเดียวกันนี้มัดเอาไว้แถวๆ ECU เหมือนกัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:59:26 am
ในระหว่างนั้นเจ้าของรถจัดแจงใส่น๊อตต่างๆด้านนอกให้ครบถ้วน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 12:59:50 am
แล้วก็เดินไปตัดอะไรก็ไม่รู้อยู่ข้างศาลพระภูมิ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 01:02:15 am
เจ้าปล่องที่นั่งประดิดประดอยเมื่อวานถูกติดตั้งเข้าไป
เข้าช่อง เข้ารู ตามระเบียบเปี๊ยบโดยไม่ต้องไปดัดแปลงอะไร
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 01:02:57 am
พร้อม!!!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 01:04:16 am
THE MOMENT OF TRUTH

Starting AN for the first time (http://www.youtube.com/watch?v=3a9NOPctZKc#)

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 01:19:06 am
หลังจากขยับ TPS หามุมที่เครื่องเดินดีที่สุด  เครื่องก็เดินเรียบอย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะง่ายถึงขนาดนี้  ตอนจูนเรียบร้อยแล้วน่าจะดีกว่านี้
 
 เสียงปั๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นั่นไม่ต้องไปสนใจ  มันเป็นแค่เสียงลมอัดออกมาเนื่องจากท่อ vacumn ของหม้อลมเบรกที่อยู่บน ITB  มันกระเด็นหลุดออกมา (แสดงว่าลมมันดูดหนักหน่วงกว่าเดิมมาก)  เดิมเขาทาซิลิโคนเอาไว้เฉยๆ เอาไม่อยู่ จัดแจงเอาอีพ็อคซี่พอกเข้าไป  ทีนี้อยู่สนิทไม่มีกระเด็น
 
 ขอจบเพียงเท่านี้นะครับ หวังว่าคงจะได้รับความเพลิดเพลินกันไปบ้างไม่มากก็น้อย (อีกครั้ง)
 
 สำหรับผมทั้งเพลิดเพลินและยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันง่ายดายถึงเพียงนี้
 
 Have fun!!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: NOK1 on August 08, 2010, 01:19:26 am
 :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 01:20:08 am
คงจะได้เห็นคันนี้ในสนามหน้า (หรือเปล่า?)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: caltech7777 on August 08, 2010, 02:22:17 am
ยอดเยี่ยม ครับ :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JackGen_1 on August 08, 2010, 08:40:33 am
 :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on August 08, 2010, 08:42:56 am
ไปถึงก็เอาตำรามาวางไว้ข้างตัวเริ่มพยายามลงมือตามสเตปที่บอกเอาไว้ทุกขั้นตอน

เริ่มจากเอา TPS เฉพาะสำหรับ Alpha-N ที่เขาแนบมาในชุดคิตเปลี่ยนใส่เข้าไปแทนอันเดิม
Gerber เครื่องมือราคาแพง :D
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: 678 on August 08, 2010, 10:13:41 am
ขอบคุณครับที่นำมาลงให้อ่านได้ความรู้ดีมากครับ  :good: :good:  ผมอ่านมาหลายรอบแล้วครับ  :smitten:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 04:42:27 pm
ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่สนใจครับ  &v&


วันนี้ย้ายวิกกลับมาที่ F/D Garage กรุงเทพมาดูเครื่องของผมเองบ้าง
ช่างมาตามนัด ลงมือประกอบส่วนที่เหลือ
ซีล, โอริง, ประเก็นต่างๆ ถูกเปลี่ยนใหม่หมด
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 04:49:17 pm
หมุนเครื่องสองสามรอบเพื่อเช็คความแน่ใจเป็นครั้งสุดท้ายว่า mark ต่างๆตรง ก่อนตั้งวาล์ว

ระหว่างตั้งวาล์วผมขึ้นไปดูทีวีแล้วหลับไปพักนึง (ชั่วโมงนึงเห็นจะได้  :a_laugh: ) กลับลงมาเพิ่งเสร็จ
เครื่องตัวนี้ตั้งวาล์วไม่ยาก แต่มันต้องใช้เวลาและความอดทนพอสมควร คิดถึงพวก hydraulic lifters แบบในเครื่องรุ่นใหม่ๆขึ้นมาทันที  :sad:   จะว่าไปเครื่องแบบที่ใช้ rocker arms จะตั้งง่ายกว่าเสียด้วยซ้ำ

สเปกเผื่อใครเอาไปอ้างอิง

COLD: 0.26-0.35 mm
WARM: 0.31-0.41 mm

ส่วนระยะตอน HOT ไม่มีข้อมูล เพราะไม่มีใครเขาตั้งกันตอนนั้น เดี๋ยวมือพอง  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: oak2.7 on August 08, 2010, 04:52:26 pm
พี่ f/d น่าจะใช้ high temp rtv สีเทา (อันนี้ความชอบส่วนตัวนะครับ) จะได้ดูเหมือนที่ประกอบมาจากโรงงานเลย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 04:58:23 pm
ใส่จมูกหายใจเข้าไป


เคยใช้แบบนั้นนะ แต่ผมว่าพอใช้ไปนานๆแล้วมันแข็งครับ
ตัวก่อนลองใช้แบบ copper ของ Permatex แบบที่เห็นอยู่นี่ เวิร์คใช้ได้ เลยติดใจ แต่จริงที่สีมันฉูดฉาดไปหน่อย  :embarassed:
รู้สึกว่าตามสเปกเขาให้ใช้ของ Three Bond
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 08, 2010, 05:03:34 pm
จากโปรเจคเมื่อวานที่ได้เห็น Easy Pony แบบนั้น ตัดสินใจแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น (ไม่น่าเลยตรู ว่าจะเก็บเงินไว้ซื้อมอเตอร์ไซค์อีกสักคันเสียหน่อย  :sad: )
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: dome_yajima on August 09, 2010, 07:27:00 am
อ่านเพลินเลยครับพี่
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 09, 2010, 09:42:47 am
มีคนสอบถามมานะครับว่าเจ้าชุด CF Airbox กับ Alpha-N จะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่

ราคาทั่วๆไป ตัว CF Airbox จะอยู่ที่ราวๆ 50,000 - 60,000 ถ้าเป็นของคุณภาพดีที่เป็น CF น้ำหนักเบาแท้ๆทั้งใบ (แต่ผมเคยจับตัว CF airbox ที่เป็น motorsport part แท้ๆมันยังเบาลงไปกว่านี้เสียด้วยซ้ำไป) แบบที่เป็นไฟเบอร์กลาสแล้วเอา CF มาหุ้มด้านนอก (หนักกว่า) เอาไว้จะถูกกว่าราวๆ 40%

ชุด Alpha-N จะอยู่ที่ 45,000-50,000

ลองดูดีๆครับ มีขายมากมาย อาจจะได้ราคาถูกกว่านี้
ชุดนี้ good deal มาก เขาขายให้พร้อม ITB 48mm บวกลบคูณหารแล้วประมาณว่าได้ ITB มาเกือบฟรี
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 11, 2010, 09:20:24 pm
เอาตัว software มันมาโหลดลงเครื่อง เป็น version 3.10#1 beta และพยายามทำความเข้าใจกับมัน มี Map แถมมาให้ 4 ตัว คือ 2.3/std, 2.3/215 แรงม้า, 2.5, และ 2.5 EVO III อ่านแล้วก็ยังสับสน คร่าวๆก็คือต้องเซท TPS ก่อน แล้วตามด้วย fuel map

บอกตามตรงว่าเรื่องควบคุมไฟฟ้าละเอียดอ่อนเนี่ยไม่ค่อยถนัดเลย ให้คุมวัวสักร้อยตัวไปกินหญ้ายังจะรู้สึกง่ายกว่า  :a_laugh:

เดี๋ยวมีน้องคนหนึ่งที่เขามีประสพการณ์ต่อกล่องพ่วงแนวๆนี้กับเครื่อง BMW supercharger ของเขาบอกว่าจะมาดูให้

เครื่องตอนนี้มันก็เดินเดินเรียบดีนะ เพียงแต่, จากกลิ่นท่อ, รู้สึกว่าน้ำมันมัน lean ไปหน่อยเท่านั้นเอง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: artid30 on August 12, 2010, 09:43:54 am
http://www.e30tech.com/forum/showthread.php?t=97267 (http://www.e30tech.com/forum/showthread.php?t=97267)
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: blablabla on August 12, 2010, 10:04:01 am
ตาม link ไปดูแล้วครับ เจ๋งมากๆ &v&
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 12, 2010, 12:26:48 pm
กลับมาที่เครื่องของผมอีกที วันนี้ว่างๆไม่มีอะไรทำระหว่างรอช่างมาวันอาทิตย์ จัดแจงเอาท่อ/สายไฟต่างๆมาเช็ค และต่อเข้าไป
ดูแล้วน่าจะครบ แต่ชุดหัวเทียนใหม่เอี่ยม new in box ไม่รู้ว่าหายไปไหน ให้มันได้อย่างงี้สิ (วะ) เก็บเอาไว้ได้เป็นปี พอจะใช้หาไม่เจอ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 12, 2010, 12:30:30 pm
เอาชุดสายไฟต่อเข้าไป เหน็บให้เรียบร้อย
สองเส้นที่เอาไปเหน็บหลบกระมิดกระเมี้ยนเอาไว้เป็น oil press switch กับ oil temp ไม่ต้องใช้แล้ว แล้วจะใช้เป็นชุดใหม่ที่มากับเซต wiring harness ของ instrument cluster ทั้งชุดที่ผม OTOP ขึ้นมาเอง

มีคนถามว่าทำไมไม่ล้างเครื่องให้สะอาดเอี่ยมไปเลย ที่เห็นนั่นสะอาดแล้วนะครับ  :a_laugh: ที่เห็นเป็นคราบๆเหลืองๆนั่นคือแล๊กเกอร์ที่เขาพ่นเคลือบมาจากโรงงาน ปล่อยเอาไว้แบบนั้นนั่นแหละดูออริจินัลดี
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 12, 2010, 12:32:08 pm
รางหัวฉีดใส่เข้าไป ยึดให้เรียบร้อย

วันนี้เอาเท่านี้ ชักจะขี้เกียจขึ้นมา  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 12, 2010, 12:46:43 pm
เข้าใจว่าใน link ไม่ใช่ระบบ Alpha-N นะ
แต่ดูรูปนี้ของเขาแล้วทำให้อมยิ้ม (รูปบน)

ถึงจะคนละฟากโลกก็ภาษาเดียวกัน แตกต่างกันที่วิธีการ แต่ไปถึงจุดหมายที่เดียวกัน  :a_smiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 12, 2010, 10:20:02 pm
กลุ้มใจกับพวกอเมริกันจริงๆ ทำไมเขาชอบนึกว่าที่ไหนๆในโลกก็ใช้ shoulder straps ขนาด 42" (ยึดที่ bar หลังเบาะ) เหมือนพวกเค้ากันนะ
อุตสาห์ย้ำแล้วย้ำอีกไปว่าเอาเป็น 52" นะ หรือยาวกว่า (62") เพราะจะเอาไปยึดที่ bar หลังรถ

ยั้งงงงงงง....ส่ง 42" มาอีก  :idiot2:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: เต็งหนึ่ง on August 18, 2010, 12:15:20 pm
ชอบๆๆ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 22, 2010, 06:03:04 pm
กลับมาที่ F/D Garage
เสร็จเรียบร้อยพร้อมหย่อน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 22, 2010, 06:05:40 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 22, 2010, 06:09:56 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 22, 2010, 06:16:16 pm
ก่อนอื่นต้องเอา M20 ที่วางมาจากที่อื่นออกก่อน

ไม่รู้วางอีท่าไหน เพิ่งเห็นเหมือนกัน เครื่องเบียดกับตัวถังไม่พอแถมยังหนีบสาย main ที่มาจากกล่องฟิวส์เอาไว้อีกด้วย  :idiot2:
ไม่รู้ว่าขาดในหรือเปล่า

นี่ขนาดเครื่องตรงรุ่นนะเนี่ย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on August 22, 2010, 06:31:00 pm
ใบ้่หน่อยครับว่าวางจากที่ไดครับพี่ต่อ

ปล. พี่มีไอเดียอะไรดีๆบ้างมั๊ยครับ อยากเปิดโปรเจค M42 NA180hp หรือไม่ก้อ M42Turbo
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 22, 2010, 10:11:37 pm
ใบ้่หน่อยครับว่าวางจากที่ไดครับพี่ต่อ

ปล. พี่มีไอเดียอะไรดีๆบ้างมั๊ยครับ อยากเปิดโปรเจค M42 NA180hp หรือไม่ก้อ M42Turbo

อย่าไปรู้เลยครับ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาจากไหน แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ช่างคนที่กำลังทำให้ผมแน่ๆ  :a_laugh: คนนี้เขาเป็นช่าง BMW มายี่สิบปี

ตอนถอดเครื่องออกมาพบว่าสายมันหักในจริงๆ

M42 Turbo น่าสนใจ แต่ M42 NA แบบจี๊ดๆน่าสนใจกว่า ลองหาข้อเหวี่ยงของเครื่องดีเซล M47 มากับแคมไอดีดุๆสักหนึ่งแท่ง แรงบิดรอบต่ำที่ดุเดือดของมันก็สามารถทำให้สะใจขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่ง Turbo แถมไม่ต้องไปดัดไปแปลงอะไรให้มันมากมายและราคาก็ย่อมเยากว่าด้วย

ป.ล นี่คือความเห็นส่วนตัวจากประสพการณ์ที่มักจะเกือบ orgasm ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงวาล์ว 16 ตัวร้องระรัวในขณะที่ส่งแรงบิดออกมาที่รอบสูงปรี๊ด  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on August 24, 2010, 07:57:55 am
crank M47 + ลูก S50B30 กลึงลูกออก 2mm สูตรเครื่อง 2.1 เมืองนอกเค้า แต่ต้องเอา crank ไปทำบากใหม่  bearing น่าจะได้ขนาดเดิมได้ ้ถ้าจำไม่ผิด
เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน
ก็เคยลองหา crank เล่นๆมาแล้ว แต่ราคาประมาณ 500euro ซึ่งเมื่อรวมกับราคาส่งน่าจะเอาเรื่องอยู่

จริงๆก็ชอบ NA นะครับ กะว่าอยากได้ step แรกคือ 100hp/liter ก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน
อยากไปหาเครื่อง M42 มาอีกตัวเพื่อทำขึ้นมาใหม่แหละครับ
ก้าน ข้อ ถอดเอา balance ใหม่ เอาแบบ matched weight ไปเลย
เปลี่ยนลูกไม่ต้องแพงมาก weisco / arrow สัก 11:1 CR สักชุด + แหวน
สปริงวาล์ลของ MM + วาล์ว สัก 33mm ก้านวาล์ว 5mm + guide valve + retainer ซิ่งสักชุด
แคม ขั้นแรกลองเอาไป พอกเจียร์ ใหม่ ขอสัก 267in 10lift / 260ex 9.5lift เอาไปชุบ heat treat + cryogenic ไม่รู้จะได้เรื่องมั๊ย
port & polished นิดหน่อยพอลื่นๆ
injector S50B32
กล่อง DTA fast ไม่รู้ว่าเป็นไงเหมือนกัน เคยจูนแต่กล่อง haltec

หมดนี่น่าจะได้ 100hp/liter นะครับ หรือพี่มีไอเดียยังไงบ้างครับ

พี่พอทราบราคา short block ของ M42 บ้างหรือเปล่าครับ
   
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 24, 2010, 08:48:32 am
crank M47 + ลูก S50B30 กลึงลูกออก 2mm สูตรเครื่อง 2.1 เมืองนอกเค้า แต่ต้องเอา crank ไปทำบากใหม่  bearing น่าจะได้ขนาดเดิมได้ ้ถ้าจำไม่ผิด
เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน
ก็เคยลองหา crank เล่นๆมาแล้ว แต่ราคาประมาณ 500euro ซึ่งเมื่อรวมกับราคาส่งน่าจะเอาเรื่องอยู่

จริงๆก็ชอบ NA นะครับ กะว่าอยากได้ step แรกคือ 100hp/liter ก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน
อยากไปหาเครื่อง M42 มาอีกตัวเพื่อทำขึ้นมาใหม่แหละครับ
ก้าน ข้อ ถอดเอา balance ใหม่ เอาแบบ matched weight ไปเลย
เปลี่ยนลูกไม่ต้องแพงมาก weisco / arrow สัก 11:1 CR สักชุด + แหวน
สปริงวาล์ลของ MM + วาล์ว สัก 33mm ก้านวาล์ว 5mm + guide valve + retainer ซิ่งสักชุด
แคม ขั้นแรกลองเอาไป พอกเจียร์ ใหม่ ขอสัก 267in 10lift / 260ex 9.5lift เอาไปชุบ heat treat + cryogenic ไม่รู้จะได้เรื่องมั๊ย
port & polished นิดหน่อยพอลื่นๆ
injector S50B32
กล่อง DTA fast ไม่รู้ว่าเป็นไงเหมือนกัน เคยจูนแต่กล่อง haltec

หมดนี่น่าจะได้ 100hp/liter นะครับ หรือพี่มีไอเดียยังไงบ้างครับ

พี่พอทราบราคา short block ของ M42 บ้างหรือเปล่าครับ
   

อันนี้อยู่ที่ความชอบครับว่าชอบแบบไหน

แต่หากจะให้คอมเมนท์ของกล่าวในภาพรวมว่าำ

efficiency ของเครื่อง M42 แสตนดาร์ดจะอยู่ที่ 77 hp/ลิตร หากจะทำให้เป็นไปตามเป้าต้องทำขึ้นไปให้อยู่ที่ราวๆ 180 แรงม้า ซึ่งผมว่ามันจะเหนื่อยนะและมันอาจจะวิ่งถนนไม่ได้หรือวิ่งได้มันอาจจะไม่ทน หรือถ้าวิ่งได้และทนมันก็จะแพงมาก ลองพิจารณาเครื่อง S14 ดู efficiency ของมันอาจจะไม่ใช่ 100 hp/ลิตรอย่างที่ต้องการ (86 hp/ลิตร) แต่ถ้าเราแฮปปี้ที่ 180 แรงม้า มันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าโดยไม่ต้องเสียเวลาไปดัดไปแปลงอะไรมัน

วันไหนเบื่อก็ขายได้ วันไหนอยากจะต่อยอดให้มันยิ่งๆขึ้นไปก็ทำได้สะดวกกว่าเพราะพื้นฐานมันรองรับการทำงานอย่างหนักหน่วงเอาไว้แต่แรกแล้ว

ข้อเหวี่ยง M47 สั่งซื้อที่ศูนย์ได้เลยครับ ราคาอาจจะแตกต่างแต่คุ้มกว่าสั่งเอาเข้ามาเอง

Short block ซื้อแยกผมว่าน่าจะแพงนะ ซื้อทั้งตัวมาเลยดีกว่า (เครื่อง used) น่าจะถูกกว่า
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ae on August 24, 2010, 09:09:13 am
crank M47 + ลูก S50B30 กลึงลูกออก 2mm สูตรเครื่อง 2.1 เมืองนอกเค้า แต่ต้องเอา crank ไปทำบากใหม่  bearing น่าจะได้ขนาดเดิมได้ ้ถ้าจำไม่ผิด
เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน
ก็เคยลองหา crank เล่นๆมาแล้ว แต่ราคาประมาณ 500euro ซึ่งเมื่อรวมกับราคาส่งน่าจะเอาเรื่องอยู่

จริงๆก็ชอบ NA นะครับ กะว่าอยากได้ step แรกคือ 100hp/liter ก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน
อยากไปหาเครื่อง M42 มาอีกตัวเพื่อทำขึ้นมาใหม่แหละครับ
ก้าน ข้อ ถอดเอา balance ใหม่ เอาแบบ matched weight ไปเลย
เปลี่ยนลูกไม่ต้องแพงมาก weisco / arrow สัก 11:1 CR สักชุด + แหวน
สปริงวาล์ลของ MM + วาล์ว สัก 33mm ก้านวาล์ว 5mm + guide valve + retainer ซิ่งสักชุด
แคม ขั้นแรกลองเอาไป พอกเจียร์ ใหม่ ขอสัก 267in 10lift / 260ex 9.5lift เอาไปชุบ heat treat + cryogenic ไม่รู้จะได้เรื่องมั๊ย
port & polished นิดหน่อยพอลื่นๆ
injector S50B32
กล่อง DTA fast ไม่รู้ว่าเป็นไงเหมือนกัน เคยจูนแต่กล่อง haltec

หมดนี่น่าจะได้ 100hp/liter นะครับ หรือพี่มีไอเดียยังไงบ้างครับ

พี่พอทราบราคา short block ของ M42 บ้างหรือเปล่าครับ
   

นิ นิ นิ...ไหนตอนแรกบอกเอาเดิมๆไงพ่อ  :knuppel2: 
 
  :evil:    :evil:    :evil:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 24, 2010, 09:18:07 pm
อันนี้ก็เดิมๆ  :a_laugh: เดิมอย่างไรมาดูกัน

กลับมาบ้านเจอกล่องนี้วางอยู่บนโต๊ะ มาช้าจนลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าซื้อมา น่าเสียดายที่เครื่องประกอบไปแล้วขี้เกียจรื้ออีกรอบ และ น่าเสียดายที่เปลี่ยนใจจะไม่ใส่เพราะจะเปลี่ยนเป็น (เงินและเอาไปซื้อ) Alpha-N แทน มีคนมาจองเรียบร้อยแล้ว
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 24, 2010, 09:22:15 pm
แกะห่อออกมา ใหม่เอี่ยมใสกริ๊กยังไม่เคยใช้ กระดาษที่ห่อนั่นออริจินัลขนาดไหนดูเอาเอง
มันเป็นสเปก 272 องศาที่ discontinued ไปเรียบร้อยแล้ว ของ Schrick ที่ขายๆกันอยู่ในปัจจุบันก็จะกระโดดขึ้นไปที่ 276 องศาเลย
ทำไมต้อง 272 องศา ผมเชื่อว่าสาวกเข้าเส้น M POWER หลายคนในนี้น่าจะรู้คำตอบ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 24, 2010, 09:26:59 pm
นี่ไม่ใช่เจตนาแค่จะเอามาโชว์มาอวดไร้สาระอะไรแบบนั้น แต่เอามาโหมโรงไว้ชั้นหนึ่งก่อน....ก่อนหน้านี้เขียนเรื่องตัวแข่ง Gr.A และ DTM มาเยอะมาก ครั้งนี้จะขอเขียนเรื่องราวของเจ้านี่บ้างเดี๋ยวมันจะน้อยใจ - ตัวแข่ง M3 E30 Gr.N

และนี่คือส่วนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความเป็น Gr.N ของมัน

วันหลังมาต่อครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 25, 2010, 08:22:19 pm
http://www.bayareamotorsport.com/markus/ (http://www.bayareamotorsport.com/markus/)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Three_Bros. on August 25, 2010, 08:51:02 pm
จัดปายยย... :smitten: เด่วทำสีขาวดีไหม555
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 25, 2010, 09:15:34 pm
จัดปายยย... :smitten: เด่วทำสีขาวดีไหม555


ลายนี้ต้องขาวเท่านั้น!
แจ๋วเลย เดี๋ยวเสาร์นี้ก่อนขี่มอเตอร์ไซค์เอาไปลองซัดแถวๆวัดในป่ากัน (เดือดร้อนพระ-เณร อีกแล้ว)  :a_laugh:
ดูซิว่า Alpha-N มันไหลลื่นจริงหรือเปล่า
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 25, 2010, 09:22:07 pm
นึกถึงเมื่อสามปีก่อน สมัยยังไม่มีสนามให้แข่ง
ทำไปด้ายยยย..... :a_laugh:
ภาพลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2007
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 25, 2010, 09:33:46 pm
อีกหนึ่งเดือนเศษๆ ต่อมาถึงได้ขนเอารถไปลงสนามกันจริงๆ
ตอนนั้นรายการอะไรก็จำไม่ได้แล้ว เข้าใจว่าไม่ได้แข่งเอารถไปซ้อมกันเฉยๆ
ภาพลงวันที่ 24 สิงหาคม 2007 ครบสามปีเมื่อวานนี้เอง
อยากจะเอามาลงไว้สักหน่อยเพราะมันน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เลยเถิดกันมาจนถึงทุกวันนี้  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 25, 2010, 10:16:47 pm
กลับมาที่ F/D Garage
ซื้อสายพานมาสองเส้น (สแปร์หนึ่งเส้น) เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ใช้เบอร์อย่างที่เคยซื้อ 10X865
แต่เมื่อวานนี้เอามาลองใส่เท่าไหร่ก็ใส่ไม่ได้เพราะมันสั้นไป เลยชักสงสัย  %:(

เช็ค ETK ปรากฏว่าพูลเลย์ water pump ของ M3 มันมีสองขนาด ขนาดแรก 102 mm (ซึ่งมันจะใช้กับสายพาน 10x865) กับขนาด 113 mm ซึ่งผมลองวัดของผมดูปรากฏว่าเป็นเป็นแบบหลัง จึงต้องไปซื้อมาใหม่ให้ยาวขึ้นอีกนิด (10 x 875) ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเครื่องตัวนี้มันเป็น U.S Spec หรือเปล่า แต่ที่แปลกใจก็คือราคาใน ETK บอกว่าขนาด 102 mm แพงกว่าขนาด 113 mm ห้าเท่า!!!!

เอามาเป็นข้อมูลเล่าสู่กันฟัง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 09:41:10 am
กลับมาที่ Alpha-N อีกครั้ง คราวนี้ได้ฤกษ์จูนมันเสียทีหลังจากอ่าน manual ของมันอยู่สองสามรอบ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาจูนเอง
อ่านแล้วได้ใจความว่ามันมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน
1. ตั้งค่า parameter ของ:
    - revolution measurement ของสัญญาณ crank sensor ผมเซ็ต = 116 ตามมาตรฐานของมัน
    - จากนั้นตั้ง TPS ให้ได้ตำแหน่งของมันโดยในโปรแกรมจะมีเจ้าตัวที่เขาเรียกว่า potentionmeter ให้เราดู หาก TPS ตรงตำแหน่งไฟมันจะเป็นสีเขียว (ถ้าไม่ตรงไฟจะเป็นสีแดง) ผมขยับไปจนเป็นสีเขียว เครื่องเดินรอบต่ำมาก (800-850 rpm)
    - range ของ idle ตัวนี้ผมเดาว่าสำหรับรถที่ไม่ได้ใช้ ICV แล้ว จึงต้องมาตั้งค่าให้ระบบมันอ่าน idle จาก TPS แทน ตรงนี้ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมัน ปล่อยเอาไว้แบบนั้นที่ 13% idle และ 66% full WOT (Wide Open Throttle)

2. ปรับ Fuel Map
3. ปรับ Idle
4. General Purpose ตรงนี้ผมยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร
5. Lambda Control

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 09:43:31 am
ข้อ 2-5 น่าสับสนเป็นกำลัง ผมจึง upload map ของเครื่อง Evolution III  (ที่เขาแถมมาให้กับโปรแกรม) ขึ้นไปทั้งดุ้นมันเสียเลย และขยับ TPS  ไปทางขวาอีกนิด (แต่ในโปรแกรมยังโชว์เป็นไฟสีเขียว)  เครื่องเดินเรียบขึ้นที่ราว 950-1000 rpm

มองดูปลายท่อแล้วน่าพึงพอใจ มีไอน้ำออกมา  :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 09:47:13 am
คันเร่งตอบสนองดีมาก ไม่มีเหี่ยว ไม่มีวูบ เสียงคร่อกๆๆๆ นั่นคือเสียงดูดอากาศของเจ้ากล่องคาร์บอน โหดมาก

AN Tuning 1 (http://www.youtube.com/watch?v=OdIs-QDCT2k#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 09:55:05 am
เจ้าของเอาออกไปลอง เสียงลากเครื่องยนต์ฟังแล้วหวานแต่ดุเดือดมาก ฟังจากเสียงมีเสียงสะดุดเล็กน้อยที่ (เดาว่า) 6000 rpm ผมคะเนว่าคงไปลองราวๆ 2-3 km จากบ้าน แต่ยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์แว่วๆอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เข็นเอา M POWER สูบเดียว (ประมาณ 120 แรงม้า/ลิตร) ออกมาเตรียมไปลุยไปป่า
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 10:19:25 am
ยี่สิบนาทีผ่านไป รถกลับเข้ามา ผมเดาว่าคงจะได้ยินเจ้าของพูดว่า แมม......วิ่งไม่ดีเลยว่ะ....ฯลฯ หรือไม่ก็เดินกลับมาแล้วบอกว่ารถไปเสียอยู่ข้างป่าที่ไหนสักแห่ง  :a_laugh: ปรากฏคำแรกที่ได้ยินคือ

"....แมม... โตครแรงเลย!!! น่ากลัวชิ...รอบขึ้นเร็วมากจนเลี้ยวแทบไม่ทัน เผลอแป๊บเดียวมันกวาดทะลุ 8000 rpm ขึ้นไปพรวดเดียวเลย วันนั้นพี่ว่าช่วงล่างของ Intrax เท่าไหร่นะ ผมว่าซื้อมาเปลี่ยนดีกว่า ดูท่าจะเอาไม่อยู่..... มีสะดุดนิดนึงตอนช่วง 6000 ...ฯลฯ"

ผมละมือจากการเอา Sonax ฉีดโซ่พลางคิดว่า tach meter มีแค่ 8000 rpm ไมล์ขาดไปหรือยังวะเนี่ย  !o! และคิดว่าเราน่าจะำกำลังเดินมาถูกทางหลังจากลองโน่นลองนี่ลองนั่นมาหลายปี เพราะดูแล้วมันเป็น easy pony ที่ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย มองอีกมุมหนึ่งมันก็น่าจะใช่ เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ BMW Motorsport ได้พิสูจน์มาเรียบร้อยแล้วเมื่อสองทศวรรษที่ก่อน

ผมเอาโน๊ตบุ๊คออกมากางอีกรอบพยายามที่จะปรับ fuel map ที่ช่วงปลายของมัน แต่คิดๆไปผมว่าในเมื่อตอนนี้อัตราส่วนผสมน้ำมัน/อากาศมันถูกต้องแล้ว ลอง calibrate ฮาร์ดแวร์มันก่อนดีกว่าเพราะถ้าฮาร์ดแวร์มันเพี้ยน ซอร์ฟแวร์มันก็เพี้ยนตามไปด้วย Junk in, junk out ฉันท์ใดฉันท์นั้น เอาไว้คราวหน้าครับจะรื้อเอา throttle มันออกมา calibrate ใหม่ หวังว่ามันคงว่านอนสอนง่ายจบได้แต่โดยดี ไม่งั้นคงต้องไปเรียกมือจูนอาชีพมา  :a_laugh:

ในภาพคือปลายท่อตอยกลับเข้ามา เป็นสีนวลๆสวยใช้ได้เลยทีเดียว

ผมเอารถออกไปลองพักหนึ่ง ไม่อยากสาธยายมาก ขอบอกแบบไม่อายเลยว่า ถ้าจะให้ผมขับมันในสนามแคบๆ......ผมไม่กล้าครับ
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 10:37:23 am
นี่คือ fuel map ของมัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 10:38:04 am
Have fun!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on August 29, 2010, 11:58:17 am
แหม...เห็นยังงี้แล้วคันบ้าง อยากจูนเองมั่งแฮะ :evil:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: dome_yajima on August 29, 2010, 09:59:01 pm
อยากดู on board vid ครับพี่ :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on August 29, 2010, 10:44:09 pm
อยากดู on board vid ครับพี่ :good:

ไม่ได้บันทึกเอาไว้ครับ
แต่ถ้าบันทึกเอาไว้คงจะมีเสียงเฮ้ยๆๆๆๆๆๆ ลอดเข้ามากลบเสียงเครื่องไปตลอดทาง  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 02, 2010, 07:24:44 pm
อีกหนึ่งของการเดินทางสู่เยอรมันเพื่อกลับมาเป็นแบบนี้  \^^/

ผมรู้ว่าจะซื้อ Koni ที่ไหน และสปริง H&R แบบใด และอาจจะรู้จักโรงกลึงที่สามารถทำ spring perch ของมันออกมาได้อย่างปราณีตแข็งแรง แต่สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ การเอามารวมกันอย่างไรเพื่อให้รถคันหนึ่งที่มีช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สตรัทด้านหน้าและ semi-trailing arm ด้านหลังหนัก 1000 kg วิ่งในแบบที่ควรจะเป็น

วิชาบางทีก็ต้องมีมูลค่าเหมือนกันหากไม่อยากลองผิดลองถูกไปชั่วชีวิต  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on September 02, 2010, 09:26:40 pm
ช่วยตอบเป็นไอเดีย  คันมีโป่งที่เคยขับไล่กันในช่องเขา  คันนั้นมีช่วงล่างแบบสตรีทที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยขับรถ
บอดี้นี้มาเลย  ถ้าสามารถเอามันมากดเพื่อวัดค่าได้หล่ะก็  น่าจะพบอะไรดีๆๆ   
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 03, 2010, 08:01:40 am
ช่วยตอบเป็นไอเดีย  คันมีโป่งที่เคยขับไล่กันในช่องเขา  คันนั้นมีช่วงล่างแบบสตรีทที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยขับรถ
บอดี้นี้มาเลย  ถ้าสามารถเอามันมากดเพื่อวัดค่าได้หล่ะก็  น่าจะพบอะไรดีๆๆ   

ตอนนั้น จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็น Bilstein (หรือเปล่า?)
รูปชุดนั้นไม่รู้หายไปไหนหมดแล้ว J-jeab กับอาจารย์บอย (ด้วยหรือเปล่า?) น่าจะยังมีเก็บเอาไว้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 04, 2010, 11:16:27 am
มีคนอยากได้แบบนี้- สองแสนห้าหมื่นบาทขาดตัว
แต่ปัญหาก็คือการไปหาชุด Knuckle แบบเฉพาะที่เห็นในภาพ แล้วก็ล้อแบบเฉพาะที่เสียบเข้าไปกับดุมของมันอาจจะต้องใช้เงินอีกสามเท่า  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 04, 2010, 11:24:24 am
ถ้ามีครบๆชุดแบบนี้กองอยู่ที่บ้าน สั่งมาได้เลย
เคยเห็นหมายเลข 4 ในเมืองไทยแวบๆ เบามาก!!!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 04, 2010, 11:11:46 pm
Shoulder straps ที่เคยบ่นเอาไว้ใน rep ก่อนๆเดินทางมาถึงแล้ว
ยาวสะใจเลยทีนี้ โยงเอาไป wrap around ที่ด้านหลังได้เลย หรือจะเอาไปลากรถก็ยังพอไหว

ส่วนอันสั้นใครสนใจผมลงเอาไว้ใน classified นะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 05, 2010, 07:34:41 pm
วันอาทิตย์ F/D garage เปิดเหมือนเคย


เก่า (ออก) ไป....
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 05, 2010, 07:37:15 pm
ใหม่ (เตรียมเข้า) มา
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 05, 2010, 07:40:01 pm
หย่อนลงหลุม ตามฤกษ์ของอาจารย์พร้อม กับเจ้าแม่สะดวก 4.04 pm  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 05, 2010, 07:46:01 pm
หน้าตาคุ้นเคย แต่ให้อารมณ์ที่แตกต่าง (จากตัวก่อน)
นั่งจุดบุหรี่นั่งดูมันอยู่นานพอสมควร ไม่เหมือนตัวก่อนเดินเฉียดยังไม่อยากแม้แต่จะเปิดดู  :dontknow:

วันนี้เอาเท่านี้ก่อน เสร็จเร็วเดี๋ยวไม่มีอะไรเล่น
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 06, 2010, 08:17:27 am
เรียนท่านต่อ F/D....ผมอยากมีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิต S14 สักครั้งจะได้หรือเปล่าครับ

ปล.เครื่องเก่ามีแผนเอาไปทำไรบ้างครับ ถ้าจะปล่อย....การุณาบอกผมด้วยนะขรับ :smitten:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 06, 2010, 10:53:02 am
เรียนท่านต่อ F/D....ผมอยากมีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิต S14 สักครั้งจะได้หรือเปล่าครับ

ปล.เครื่องเก่ามีแผนเอาไปทำไรบ้างครับ ถ้าจะปล่อย....การุณาบอกผมด้วยนะขรับ :smitten:

ยินดีครับ แต่อย่าเรียกว่าโรงงานเลย จริงๆแลัวมันก็แค่มุมหนึ่งของโรงรถเท่านั้นเอง  :a_laugh:
เครื่องเก่าจะไปปรากฏตัวใน classified เร็วๆนี้ครับ เดี๋ยวรอพวก paper work มาให้เรียบร้อยก่อน ไม่อยากขายแบบมีอะไรคาราคาซัง
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 06, 2010, 10:58:29 am
ส่วนเกียร์ของมันมีคนแสดงเจตนารมณ์รับไปเป็นบุตรบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว

ป.ล ผมอยากเห็นม้าจาก Kugelfisher วิ่งผ่านเกียร์ตัวนี้  :ofireevil:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 06, 2010, 12:04:09 pm
มาคุยกันเรื่องหนักๆดีกว่า

รูปนี้บอกอะไรได้มากมาย- นอกจากการบอกว่าโครงเหล็กถักหลังคาโรงรถ (ยาวแปดเมตรโดยไม่มีเสารับกลาง!!) ที่ผมเขียนแบบเองเมื่อห้าปีก่อนมันแข็งแรงพอที่จะหิ้วเครื่องยนต์ได้โดยไม่พังลงมา  :a_laugh: )

นั่นคือตำแหน่งการวางเครื่องของมัน

ก่อนหน้านี้ได้ยินคนหลายคนบอกว่าเครื่องหกสูบมันหนักมันเลยวิ่งในสนามได้ไม่ดี เครื่องสี่สูบมันเบาเลยวิ่งได้ดีกว่า ฟังแล้วก็พอจะอืมๆๆๆ ไปได้ มันอาจจะถูก...แต่ถูกไม่หมด ทำไมถูกไม่หมดล่ะ? เคยสงสัยไหมว่าทำไมรถไฮบริดบางรุ่นที่เขาเอาชุดมอเตอร์และแบตตารี่ที่หนักเกือบครึ่งตันใส่เพิ่มเข้าไปบนรถปกติแต่อัตราเร่งของมันแทบจะไม่ได้ต่างจากเดิม? หรือรถถนนตัวแรงรุ่นใหม่ๆอย่าง M3 เขาถึงเอาเครื่อง V8 ที่มีลูกสูบเป็นสองเท่าของเครื่องสี่สูบที่เราว่ากันว่ามันเบา? หรือแม้แต่รถแข่งรายการดังจากแดนจิงโจ้ที่รถแข่งที่มีขนาดพอๆกับรถหกล้อแบกเครื่อง V8 วิ่งได้คล่องแคล่วราวกับมอเตอร์ไซค์รับจ้างในช่วง rush hour กลางถนนสุขุมวิท?

นั่นคือคำอธิบายว่าน้ำหนักอาจจะไม่ใช่ปัญหาทั้งหมด หากมันอยู่วางอยู่อย่างถูกที่ถูกทาง (และ/หรือมีการปรับแต่งส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้ทำงานสอดคล้องกัน) คำว่าถูกที่ถูกทางก็คือน้ำหนักควรจะตกอยู่ภายในช่วงฐานล้อ (wheel base) ของตัวรถมัน น้ำหนักที่อยู่นอกฐานล้อภาษาฝรั่งมังค่าเขาเรียกว่า overhang ซึ่งมันจะทำให้เกิดการงัดที่มาบั่นทอนความสนุกในการขับอย่างหวือหวาได้พอสมควร เพราะฉนั้นเครื่องหกสูบจึงมีแนวโน้มที่จะมี overhang ที่ยาวกว่าเครื่องสี่สูบด้วยประการละฉนี้แล...

รถสปอร์ตราคาแพงรุ่นใหม่ๆอย่าง Ferrari (ที่ไม่ใช่เป็นรุ่นเครื่องวางกลาง) เริ่มนำเทคนิคของการวางเครื่องหน้า/กลางมาใช้เพื่อให้เครื่องใหญ่โตของพวกเขามี Overhang ที่สั้นลง

กลับมาที่รถสปอร์ตคูเป้ราคาถูกของเรากันบ้าง ในภาพพื้นที่ด้านหน้าเครื่องที่มีอย่างเหลือเฟือหมายความว่า overhang ของมันสั้น ทีนี้คงจะหายสงสัยกันแล้วว่าทำไมไอ้รถเครื่องตัวนี้ หรือแม้กระทั่ง M42 ที่มีแรงม้าน้อยนิดเมื่อเทียบกับมาตรฐานของคำว่ารถแรงในศตวรรษที่ 21 (หรือคำจำกัดความของคำว่ารถแรงอื่นๆที่บูชาว่าตัวเลขจากไดโนฯคือพระเจ้า) จึงทำเวลาในสนามได้ดีเหลือเกิน

Have fun!

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: tops on September 06, 2010, 03:28:29 pm
ยังติดตามชมอยู่นะครับ..พี่ต่อ  ใกล้แล้ว...เมื่อวานก็ว่าจะเข้าไปหาพี่...แต่รถดันมีปัญหาซะก่อน.. :coolsmiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 09, 2010, 07:57:20 am
เครื่อง S14 ก้อมีตั้งหลายเครื่องแระ เมื่อไหร่พี่ต่อจะหา S42 บ้างอ่ะครับ :cheesy:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 09, 2010, 08:26:53 am
เครื่อง S14 ก้อมีตั้งหลายเครื่องแระ เมื่อไหร่พี่ต่อจะหา S42 บ้างอ่ะครับ :cheesy:

ก็หาซื้อไม่ยากนะ BMW Motorsport ทำออกมาขายให้กับ privateer เยอะเหมือนกัน
โดยส่วนตัวแล้วผมว่าสมรรถนะมันเจ๋งกว่า S14 เสียด้วยซ้ำไป  แต่ไม่มีเงินซื้อเพราะมันแพง (500k-600k up) ค่าบำรุงรักษาก็แพงเพราะมันเป็นเครื่อง Motorsport แท้ๆ

แล้วอีกอย่างมันเป็นเครื่อง hi-rev สุดๆซึ่งแปลว่าแทบจะไม่มีแรงบิดรอบต้นเลย คงจะเรื่องยากลำบากพอดูที่จะคงให้เครื่องมันทำงานอยู่ใน powerband ตลอดเวลา

เอาไว้ขับได้แบบนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน (โปรดสังเกตุเท้าซ้าย-ขวา สลับกันกดแป้นเบรก/คลัตช์กันไปทั้งทาง)

Yvan Muller: BMW SuperTouring in Dijon 1994 (http://www.youtube.com/watch?v=qaU_E1No-h0&feature=related#)



 

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 09, 2010, 08:45:02 am
สมัยนั้น S42 มันลงไปซัดกับรถพวกนี้ใน Supertouring แรงและเร็วมาก
คนพากย์เขาบอกว่ารถ Ford Mondeo "Opposite lock at the 140 (mph)!!! (ราวๆนาทีที่ 1:03)
ถ้าเป็นรถเราๆท่านๆ (ถ้าวิ่งได้เร็วขนาดนั้น) คงกระเด็นขึ้นไปจอดบนอัฒจรรย์อย่างสวยงาม  :a_laugh:

Onboard BTCC 1994 Part 1 (http://www.youtube.com/watch?v=ZZ9_i8TTQ4U&feature=related#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: siam911 on September 09, 2010, 09:41:58 am
ติดตามอ่านแล้วสนุกมากครับ :good: :good: :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: 9pui on September 09, 2010, 01:55:36 pm
แฟนคลับ 155 มาเชียร์ครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 09, 2010, 06:50:43 pm
แฟนคลับ 155 มาเชียร์ครับ


ยินดีต้อนรับครับ  w^w
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 10, 2010, 06:57:56 am
นั่นสินะ powerband มันแคบมาก เลยต้องใช้ left foot braking ช่วย
สมัยขับอิมฯ โค้งสุดทางตรงสนามพีระ อันเนื่องจากว่าอัตราทดเกียร์ไม่พอดี มี turbo lag อีกตะหาก ลงสองรอบจัดเกิน ส่วนสามก้อรอนานกว่าแรงจะมา เลยต้องเอาเท้าซ้ายเหยียบเบรกรอไว้

แต่มีคันนึงนะพี่ต่อที่ผมใช้ left foot brake คือเจ้า volvo 850 ที่บ้านน่ะ แป้นเบรกมัน offset เยอะเหลือเกิน นั่งทีนี่ตัวแทบเอียง แต่เป็นผลพลอยได้ทำให้เบรกเท้าซ้ายเป็นเนี่ยแหละ

ว่าแต่วันอาทิตย์นี้ว่างหรือเปล่าครับ อยากไปดูโรงงาน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 10, 2010, 07:59:31 am
เปิดครับ แต่อาจจะไม่ได้ให้ช่างมาหาก clutch release bearing ไม่เดินทางมาถึงภายในสองวันนี้ ของตรงรุ่นมันไม่รู้ว่าหายไปไหน เลยยังไม่อยากใส่เกียร์เข้าไป

มาช่วยผมถอดช่วงล่างกับเดินสายไฟละกัน  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 10, 2010, 05:44:25 pm
เอาข้อมูลของเจ้า S42 มาแชร์กันหน่อยเผื่อใครสนใจ ผมน่ะสนใจมาตั้งนานแล้ว แต่เห็นว่ามันค่อนข้างเป็นเครื่องรุ่นใหม่ซึ่งอาจจะนอกเหนือคอนเซปต์ของที่นี่ไปสักนิด แต่อย่างกระนั้นเลย....ลงเอาไว้ก็ไม่น่าเสียหาย

เครื่อง S42 คือเครื่องยนต์ที่มาทดแทน S14 ที่หมด homologation ไป (เอ๊ะ...สงสัยไหมว่า S50 มันหายไปไหน?) ในการแข่งขันรถทัวร์ริ่งตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นไป เนื่องด้วยกฏในตอนนั้นได้เปลี่ยนจาก Gr.A มาเป็นกฏที่เรียกว่า Supertouring ที่กำหนดให้รถที่จะลงแข่งต้องมีปริมาตรไม่เกิน 2.0 ลิตรเท่านั้น เจ้า S42 จึงต้องถูกทำออกมาเป็น 1998 ซีซีด้วยประการละฉะนี้

ถึงแม้จะแค่สี่เม็ด แต่หากพิจารณาดูขนาดของเม็ดกับ stroke ของมันให้ดีๆก็จะไม่สงสัยเลยว่าทำไมมันถึงได้แรงขนาดนั้น BMW Motorsport ออกแบบ bore x stroke ของมันออกมาเกือบ square!

ม้า 285 ตัวในปีแรกๆและ 300+ ในปีท้ายๆ พาเจ้า E36 ที่สมัยนั้นลงทะเบียนลงแข่งในนาม 318iS/320i ถึงดวงดาวได้ไม่น้อยกว่า M3 ตัวก่อนเลย (เอ๊ะ...สงสัยไหมว่า M3 E36 มันหายไปไหน?) ทั้งการแข่งขัน sprint ที่เน้นความแรง และการแข่งขัน endurance ที่เน้นความทน- ที่เด่นๆก็คือ 24-hours of Nurburgring ปี 1995 (Roberto Ravaglia/Marc Duez/Alexander Bergstaller) 24-hours of Spa อีกสองสามครั้งระหว่าง 1996-1998 ที่ว่ามานั่นคือชนะโอเวอร์ออลนะครับ

โดยส่วนตัวผมอยากบอกว่า S42 คือเครื่องแข่งสี่สูบที่มีความเป็น"ที่สุด" ถัดลงมาจากตระกูล M12 เลยล่ะครับ (แฟนๆ S14 อย่างอนผมนะ  :a_laugh: )

วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนละกันนะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 10, 2010, 05:47:20 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 10, 2010, 10:39:24 pm
ห้องเผาไหม้สวยมากอ่ะครับ เห็นแล้วน้ำลายไหล
วาล์วไอดีไอเสีย ไม่ต่างจาก S52 เลยหรือเปล่าครับ พี่ต่อ จำได้มัน 35/32 มิล
ขอข้อมูลเครื่องตัวนี้หน่อยครับ หาไม่ค่อยจะมีเลย เป็นเครื่องในดวงใจผม มากกว่า S14 / 52 / 54 ซะอีกแน่ะ

วันเสาร์เย็นๆเดี๋ยวโทรหานะครับ อยากเข้าไปชมโรงงานซะหน่อย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 10, 2010, 11:18:36 pm
ข้อมูลอย่าไปรู้เลย ซื้อมารื้อดูเลยดีกว่าจะได้เข้าใจแบบเจาะลึกไปเลย  :a_laugh:

ติดต่อที่นี่ ไปอุ้มมาเลย เดี๋ยวไปช่วยรื้อ  :a_laugh:   15,000 ยูโร เอา rate เงินปัจจุบันคูณเข้าไปก็น่าจะอยู่ที่ราวหกแสน
http://www.race-cars.com/engsales/other/1221433513/1221433513ss.htm (http://www.race-cars.com/engsales/other/1221433513/1221433513ss.htm)

เห็นประกาศไว้ตั้งนานแล้ว ยังไม่มีใครมาเอาไปเสียที
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 10, 2010, 11:27:06 pm
อ้อ....อย่าลืมเผื่อเอาไว้อีกสักสองสามแสนด้วยนะ เพราะนั่นแค่เครื่องเปล่าๆ ยังวิ่งไม่ได้  :a_laugh:
ต้องหาเกียร์ซีเควนเซียล 6 สปีดของ Hollinger มาด้วยจะได้ครบสูตร S42
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: iamwashmania on September 11, 2010, 12:11:44 am
ของสุดๆ ทั้ง 2 คันครับ สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  w^w

ฝากลูกพี่ทั้ง 2 ท่านครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: iamwashmania on September 11, 2010, 12:16:00 am
พี่เอ ขับอยู่ตอนนี้ครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: iamwashmania on September 11, 2010, 12:19:37 am
จ๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: iamwashmania on September 11, 2010, 12:22:22 am
พี่ๆ ทั้งหลาย  w^w
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: mata on September 11, 2010, 03:57:22 am
ช่วงนี้ค่อยมีเวลาว่างบ้าง..
ขอตีตั๋วเข้ามาเสพด้วยคนนะครับ คุณต่อ..
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: mata on September 11, 2010, 04:36:51 am
อีกหนึ่งของการเดินทางสู่เยอรมันเพื่อกลับมาเป็นแบบนี้  \^^/

ผมรู้ว่าจะซื้อ Koni ที่ไหน และสปริง H&R แบบใด และอาจจะรู้จักโรงกลึงที่สามารถทำ spring perch ของมันออกมาได้อย่างปราณีตแข็งแรง แต่สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ การเอามารวมกันอย่างไรเพื่อให้รถคันหนึ่งที่มีช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สตรัทด้านหน้าและ semi-trailing arm ด้านหลังหนัก 1000 kg วิ่งในแบบที่ควรจะเป็น

วิชาบางทีก็ต้องมีมูลค่าเหมือนกันหากไม่อยากลองผิดลองถูกไปชั่วชีวิต  :a_laugh:
ชอบวลีนี้จริงๆ..
แล้วค้าตัวมันเท่าไหร่ครับ..
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 09:41:47 pm
อีกหนึ่งของการเดินทางสู่เยอรมันเพื่อกลับมาเป็นแบบนี้  \^^/

ผมรู้ว่าจะซื้อ Koni ที่ไหน และสปริง H&R แบบใด และอาจจะรู้จักโรงกลึงที่สามารถทำ spring perch ของมันออกมาได้อย่างปราณีตแข็งแรง แต่สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ การเอามารวมกันอย่างไรเพื่อให้รถคันหนึ่งที่มีช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สตรัทด้านหน้าและ semi-trailing arm ด้านหลังหนัก 1000 kg วิ่งในแบบที่ควรจะเป็น

วิชาบางทีก็ต้องมีมูลค่าเหมือนกันหากไม่อยากลองผิดลองถูกไปชั่วชีวิต  :a_laugh:
ชอบวลีนี้จริงๆ..
แล้วค้าตัวมันเท่าไหร่ครับ..

ประมาณหกหมื่นครับ
แต่สอบถามไปมปรากฏว่า H&R เขาทำวาล์ว (โดยใช้โช้คของ KONI) เป็นสเปกสำหรับ Nurburgring เท่านั้น ไม่ custom made ให้ แต่ของ APEX เขาทำให้

เลยเอาไว้ก่อน เพราะสนามบ้านเรามันไม่ได้ hi-speed ถึงขนาดนั้น

ตอนแรกจะเอาของ APEX ส่งข้อมูลไปให้เขาทั้งหมดทั้งตัวรถและสนามที่จะวิ่ง เขาตอบกลับมาว่ายูไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาดนั้นหรอก นานๆจะเจอคนขายแบบนี้เสีย ส่วนใหญ่จะยุให้ซื้อแต่แพงๆอยู่ร่ำไป ใช้ได้หรือไม่ได้ไม่สนเอาเงินอย่างเดียว
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 09:47:36 pm
วีคเอนด์นี้ F/D Garage ปิด แต่ยูคาลิปตัส ออโตเวิร์คเปิด

จัดแจง calibrate เจ้า throttle ตามที่แปลนเอาไว้เมื่อสองอาทิตย์ก่อน
ถอดออกมาวัด มันสั้นกว่าเสปกอยู่ราวๆ 5 mm
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 09:50:46 pm
แถมกระเดื่องสองข้างเหมือนกันอีกแฮะ  %:(
ปกติแล้วสูบ 3-4 จะเป็นแบบนี้ ส่วนสูบ 1-2 จะเป็นแบบมีสปริง
เลยเอาของอีกชุดหนึ่งมายำใส่ให้มันถูกต้องเสีย

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 09:52:16 pm
เยี่ยงนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 10:02:46 pm
Hardware ถูกต้องแล้ว ทีนี้ calibrate มันเข้ากับ software อีกที
TPS อยู่ในตำแหน่งถูกต้อง ตอนลิ้นเปิดสุดโปรแกรมอ่านค่ามุมเปิดที่ TPS ได้เกือบ 100%
จากนั้นโหลด map ของ 2.5 EVO III ตัวเก่งที่ทำงานเกือบจะดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วลงไปใน AN-Module อีกที


ปรากฏว่าทีนี้เครื่องเดิน rough และน้ำมันหนามาก ปรับโน่น ไขนี่ จนเดินเรียบแต่ก็ตอน rev กลับห่วยขึ้นมาแทน ไม่กวาดพรวดๆคันเร่งเบาหวิวเหมือนไม่อาทิตย์ก่อน สงสัยจะต้องไปปรับที่ map มันแล้วล่ะ ส่วนนี้เกินสติปัญญาผม เดี๋ยวไปแคะเรียกกระทู้ bmw motorsport ข้างๆมาให้เขามาช่วยจัดการให้หน่อย




Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 10:06:50 pm
คันนี้ว่าเขย่าเป็นม้าแล้ว ก็ยังเรียบกว่าเยอะ  :a_laugh:

Have Fun!!


KX 500 (http://www.youtube.com/watch?v=JYnzgBjtT2w#)




KX 500 (http://www.youtube.com/watch?v=w101i4Y-uME#)






Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 10:08:39 pm
KX 500 (http://www.youtube.com/watch?v=w101i4Y-uME#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 12, 2010, 10:19:03 pm
ถอยกลับเข้าโรงไปก่อน เครื่องเดินแบบนี้เอาไปออกงานขายหน้าเขาตายชัก

ดีเหมือนกัน เสร็จเร็วเดี๋ยวไม่มีอะไรเล่น
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 16, 2010, 09:03:53 am
กลับมาที่ F/D Garage
สงสัยคงจะต้องปิดอีก week นึงเพราะอะไหล่ยังไม่มาประกอบกับไม่ค่อยจะว่างด้วย
แต่ในระหว่างนี้ ตอนไหนว่างๆก็เดินสายไฟไปเรื่อยๆ ขยับเอา oil press sender ออกมาไว้ด้านนอก แล้วเอา oil temp sender ไปไว้ด้านในแทน จะได้ไม่ต้องไปแปลงขายึดก้านวัดน้ำมันเครื่องเหมือนตัวก่อน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 16, 2010, 09:08:47 am
ตัว terminal จัดแจงใส่กลับเข้าไป (หาฝาครอบไม่เจออีกแล้ววุ้ย ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ที่ไหน  %:( )
หุ้ม insulator อย่างดีที่สั่งมาจากอเมริกา ทั้งที่ firewall และ trans tunnel ป้องกันความร้อนราวไฟนรกจาก header ของมัน (แดม...นึกว่าจะถูก ไปๆมาๆแพงกว่าเบิก insulator ของแท้มันมาเสียอีก แต่เอาน่า อันนี้เบากว่า และทนความร้อนได้สูงกว่ามาก)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: mata on September 16, 2010, 09:14:15 pm
อีกหนึ่งของการเดินทางสู่เยอรมันเพื่อกลับมาเป็นแบบนี้  \^^/

ผมรู้ว่าจะซื้อ Koni ที่ไหน และสปริง H&R แบบใด และอาจจะรู้จักโรงกลึงที่สามารถทำ spring perch ของมันออกมาได้อย่างปราณีตแข็งแรง แต่สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ การเอามารวมกันอย่างไรเพื่อให้รถคันหนึ่งที่มีช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สตรัทด้านหน้าและ semi-trailing arm ด้านหลังหนัก 1000 kg วิ่งในแบบที่ควรจะเป็น

วิชาบางทีก็ต้องมีมูลค่าเหมือนกันหากไม่อยากลองผิดลองถูกไปชั่วชีวิต  :a_laugh:
ชอบวลีนี้จริงๆ..
แล้วค้าตัวมันเท่าไหร่ครับ..

ประมาณหกหมื่นครับ
แต่สอบถามไปมปรากฏว่า H&R เขาทำวาล์ว (โดยใช้โช้คของ KONI) เป็นสเปกสำหรับ Nurburgring เท่านั้น ไม่ custom made ให้ แต่ของ APEX เขาทำให้

เลยเอาไว้ก่อน เพราะสนามบ้านเรามันไม่ได้ hi-speed ถึงขนาดนั้น

ตอนแรกจะเอาของ APEX ส่งข้อมูลไปให้เขาทั้งหมดทั้งตัวรถและสนามที่จะวิ่ง เขาตอบกลับมาว่ายูไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาดนั้นหรอก นานๆจะเจอคนขายแบบนี้เสีย ส่วนใหญ่จะยุให้ซื้อแต่แพงๆอยู่ร่ำไป ใช้ได้หรือไม่ได้ไม่สนเอาเงินอย่างเดียว
ประมาณหกหมื่น นี่ถึงมือเราเลยเปล่าครับ
คันเหมือนกันนะ แล้วมันใส่สำหรับขับทุกๆวันได้มั้ย
กับชุดที่มีอยู่ไม่ลงตัวซะที..
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 16, 2010, 09:25:00 pm
อีกหนึ่งของการเดินทางสู่เยอรมันเพื่อกลับมาเป็นแบบนี้  \^^/

ผมรู้ว่าจะซื้อ Koni ที่ไหน และสปริง H&R แบบใด และอาจจะรู้จักโรงกลึงที่สามารถทำ spring perch ของมันออกมาได้อย่างปราณีตแข็งแรง แต่สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ การเอามารวมกันอย่างไรเพื่อให้รถคันหนึ่งที่มีช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สตรัทด้านหน้าและ semi-trailing arm ด้านหลังหนัก 1000 kg วิ่งในแบบที่ควรจะเป็น

วิชาบางทีก็ต้องมีมูลค่าเหมือนกันหากไม่อยากลองผิดลองถูกไปชั่วชีวิต  :a_laugh:
ชอบวลีนี้จริงๆ..
แล้วค้าตัวมันเท่าไหร่ครับ..

ประมาณหกหมื่นครับ
แต่สอบถามไปมปรากฏว่า H&R เขาทำวาล์ว (โดยใช้โช้คของ KONI) เป็นสเปกสำหรับ Nurburgring เท่านั้น ไม่ custom made ให้ แต่ของ APEX เขาทำให้

เลยเอาไว้ก่อน เพราะสนามบ้านเรามันไม่ได้ hi-speed ถึงขนาดนั้น

ตอนแรกจะเอาของ APEX ส่งข้อมูลไปให้เขาทั้งหมดทั้งตัวรถและสนามที่จะวิ่ง เขาตอบกลับมาว่ายูไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาดนั้นหรอก นานๆจะเจอคนขายแบบนี้เสีย ส่วนใหญ่จะยุให้ซื้อแต่แพงๆอยู่ร่ำไป ใช้ได้หรือไม่ได้ไม่สนเอาเงินอย่างเดียว
ประมาณหกหมื่น นี่ถึงมือเราเลยเปล่าครับ
คันเหมือนกันนะ แล้วมันใส่สำหรับขับทุกๆวันได้มั้ย
กับชุดที่มีอยู่ไม่ลงตัวซะที..

หกหมื่นยังไม่ถึงมือครับ
ต้องมีค่าส่ง และเราต้องส่งเสื้อสตรัทไปให้เขาด้วย ถ้าไม่ส่งไปเขาจะไปเบิกเอาของใหม่มาทำให้ ก็บวกเข้าไปอีกหลายตังค์เหมือนกัน

ผมไม่คิดว่ามันจะขับถนนปกติได้ เพราะถ้ามันถูกออกแบบมาสำหรับสนาม hi-speed มากๆแบบนั้น มันคงต้องแข็งพอสมควรเลยล่ะ

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Maddog on September 17, 2010, 11:13:52 pm
ขอนอกเรื่องหน่อยครับพี่
KX500 พี่กล้าขี่มันได้ยังไง :good:  ผมเห็นแล้วยังขนลุก ผมเคยมี RMX 250 ถังปาสสะติก ขี่ซ้อมสับร่องใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน หมดเกียร์สอง พลาด เล่นนิ้วก้อยขวาหักงอเป็นปีกกา เห็นรถพี่ผมเลยคิดว่า ขี่เข้าไปได้งัยว่ะไอ้KX500 นั้นนะ เครื่องจักรหักกระดูกชัดๆ :crazy2:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 09:59:39 am
ขอนอกเรื่องหน่อยครับพี่
KX500 พี่กล้าขี่มันได้ยังไง :good:   ผมเห็นแล้วยังขนลุก ผมเคยมี RMX 250 ถังปาสสะติก ขี่ซ้อมสับร่องใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน หมดเกียร์สอง พลาด เล่นนิ้วก้อยขวาหักงอเป็นปีกกา เห็นรถพี่ผมเลยคิดว่า ขี่เข้าไปได้งัยว่ะไอ้KX500 นั้นนะ เครื่องจักรหักกระดูกชัดๆ :crazy2:

ขี่ไปก็เสียวไปเหมือนกันครับ  ยิ่งคนที่เขาขี่มาเป็นสิบๆปีเขามาลองแล้วบอกว่าโคตรน่ากลัวเลยผมก็ยิ่งเสียวเข้าไปใหญ่ เคยยกไปสนามซ้อมครั้งนึง คะยั้นคะยอยังไงก็ไม่มีใครยอมลอง (เมืองนอกเขาเรียกมันว่า "Widow Maker)  :a_laugh: แต่ก็พอขี่ได้หากคุมรอบเครื่องยนต์ดีๆ อย่าให้มันขึ้นไปที่ peak RPM แบบพรวดพราด ตรงจุดนั้นบอกตรงๆว่ามันแรงจนขนลุก มันจะบินเสียให้ได้ แต่ยอมรับว่า shock-up ของมันดีมากและช่วยได้มากเลย เคยวิ่งลงเนินในป่ามาเร็วพอสมควรแล้วมองไม่เห็นว่ามันมีปลักควายที่ตีนเนิน ตอนนั้นบอกตัวเองว่าตีลังกาแน่นอนเตรียมเก็บคองอเข่าแล้ว ปรากฏว่ามันวิ่งผ่านไปเฉยเลย

กำลัง bid เอาตัว Elsinore 250 (2 จังหวะ) มาเล่นแทนครับ พละกำลังและน้ำหนักตัวของมันน่าจะเหมาะกับคนเอเซียอย่างเรามากกว่า เจ้า KX500 เหนื่อยมาก ขับสักสิบนาทีนี่ลิ้นห้อยเลย

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 11:20:25 am
ลองดูความน่ากลัวขนาดไหนของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เมื่อเทียบกับการแบ่ง class ของ F.I.M เขาที่เริ่มบังคับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา (อีกเหตุผลหนึ่งก็เรื่องมลภาวะด้วยแหละ เขาอยากให้ใช้เครื่อง 4 จังหวะแทนเพราะเสียงและไอเสียของมันสร้างมลภาวะน้อยกว่า)

เดี๋ยวจะหาว่า chicken $hit ไปเอง  :a_laugh:

Class MX1 = 4 จังหวะ 450 cc /ถ้า 2 จังหวะให้แค่ 250 cc
Class MX2 = 4 จังหวะ 250 cc /ถ้า 2 จังหวะให้แค่ 125 cc
Class MX3 = 4 จังหวะ 650 cc /ถ้า 2 จังหวะให้แค่ 500 cc

ส่วนการแข่งขัน AMA Motocross Championship รายการใหญ่ฝั่งอเมริกาเขายกเลิกรุ่น 500 cc ไปตั้งแต่ปี 1993 แล้ว เหลือแค่สอง Class

Class 250 = 4 จังหวะ 250 cc/ 2 จังหวะ 125 cc
Class 450 = 4 จังหวะ 450 cc/ 2 จังหวะ 250 cc


คงจะไม่นอกเรื่องนะครับ เพราะส่วนใหญ่ใน Pit เนี่ยเราคุยกันตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 12:43:43 pm
Weekend นี้แผนกมอเตอร์สปอร์ตปิดทำการเพราะอะไหล่ยังไม่มา
แต่แผนกรถบ้านยังเปิดอยู่ เจ้าลูกรอกดันสายพานมันสึกส่งเสียงราวกับผีเปรตของส่วนบุญเป็นช่วงๆมาเดือนนึงแล้ว ไม่ได้มีเวลาเปลี่ยนสักที
หลังจากกระดกกาแฟแก้วที่สามหมด อารมณ์ดีเลยเปลี่ยนมันเสียหน่อย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 12:48:17 pm
พิธีกรรมไม่มีอะไรมาก ถอดกระบังพัดลม พัดลมออก -โน๊ตแด็ท...พัดลมเกลียวมันจะย้อนทาง เดี๋ยวใครไปไขวนซ้ายปกติแล้วไม่ออกจะมาด่าผมว่าหลอกให้ถอด- ก็จะเจอเจ้าตัวแสบตัวนี้ยืนยิ้มให้ถอดออกง่ายๆแบบนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 12:50:17 pm
เปรียบเทียบกับของใหม่ดูว่ามันสึกขนาดไหน
ไม่ต้องบอกนะว่าอันไหนของใหม่ เยินขนาดนี้ดูไม่ออกก็บ้าแล้ว  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 12:52:56 pm
เครื่องตัวนี้มันเป็น M42 ปีแรกๆ สายพานมันยังเป็นแบบ V-belt ต้องตั้งเองแบบนี้ - มือซ้ายเหนี่ยวให้มันตึง มือขวาขันน๊อตล็อกเข้าไป (แล้วมือไหนกดชัตเตอร์วะเนี่ย  %:( )
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 01:01:58 pm
เช็คปอนด์อีกที วิศวกรเยอรมันเขาบอกว่า M8 = 16 lb ft ไม่ได้กลัวไม่แน่น แต่กลัวมันรูด

ถือโอกาสจารไนให้ฟังเรื่องขนาดของน๊อตเสียเลย มีคนเข้าใจผิดกันมากและขันกันจนน๊อตขาดกระจุย ขนาดของน๊อตใน manual ที่เขาบอกว่า M โน่น M นี่ มันจะหมายความว่าขนาดของแกน (เกลียว) น๊อตนะครับ ไม่ใช่ขนาดของหัวน๊อต

ยกตัวอย่างเช่นน๊อต M8  แกน(เกลียว) ของมันจะเท่ากับ 8 mm และถ้าไม่กล่าวเป็นอย่างอื่น หัวน๊อตมันจะเท่ากับประแจเบอร์ 13 mm (หรือภาษาที่เราๆท่านๆเรียกกันติดปากว่าน๊อตเบอร์ 13) เพราะฉนั้นย้ำอีกทีว่าเมื่อพูดว่า M8 หมายถึงขนาดของ "แกน (เกลียว) น๊อต" เป็นหลักนะครับ ไม่ใช่ "หัวน๊อต"

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Maddog on September 18, 2010, 08:36:00 pm
ผมกำลังหารถใหม่อยู่เหมือนกันครับพี่ ประมาณรถคันเก่า คิดว่าน่าจะเป็น KDX 220 R ได้รถเมื่อไหร่ ไปขี่ ENDURO เล่นกันพี่ หาทางที่กวาดเล่นมันๆหน่อย หรือจะไปขี่แถวเชียงรายก็ได้นะพี่หลอกฝรั่งหัวล้านที่เชียงราย(พี่โทวัน)ขับรถขนของตาม  :ofireevil:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 18, 2010, 10:13:14 pm
ผมกำลังหารถใหม่อยู่เหมือนกันครับพี่ ประมาณรถคันเก่า คิดว่าน่าจะเป็น KDX 220 R ได้รถเมื่อไหร่ ไปขี่ ENDURO เล่นกันพี่ หาทางที่กวาดเล่นมันๆหน่อย หรือจะไปขี่แถวเชียงรายก็ได้นะพี่หลอกฝรั่งหัวล้านที่เชียงราย(พี่โทวัน)ขับรถขนของตาม  :ofireevil:

อ้าว...รู้จักโทวันด้วยเหรอ
เคยได้คุยกับแกครั้งสองครั้ง น่ารักมาก นึกว่าหลงไหลใน BMW อย่างเดียว
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Maddog on September 19, 2010, 10:27:34 am
เกือบ15ปี เวลาพี่วันมากรุงเทพฯทีไรก็มักจะมานอนที่บ้านแทบทุกครั้ง แต่ตอนนี้ไล่ไปนอนโรงแรมข้างบ้าน
ไม่วาย! ไม่ทันเจ็ดโมงเช้า พวกมายืนยิ้มอยู่หน้ารั้ว "เซงฉิบ" :buck2:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 19, 2010, 07:57:40 pm
วันนี้ช่างเล้งและหลาน พร้อมกับมือจูนจากกระทู้ bmw motorsport ข้างๆมาเยี่ยมเยือนยูคาฯ ออโตเวิร์ค
ปรับรายละเอียดกันมากมาย มีหลายอย่างที่ผมไม่เข้าใจเลยอธิบายไม่ถูก

มาชมกันละกันว่าเครื่องที่มันทำให้ล้อเส้นผ่าศูนย์กลาง 17 นิ้วมันมีเสียงดังเอี๊ยดตอนลงเกียร์สี่มันเป็นอย่างไร (คนขับยืนยันว่าไม่ใช่เสียงเบรกหรือสายพาน  :a_laugh: )

เข้าใจว่าตอนนี้มาได้สัก 95% แล้วล่ะ จินตนาการตอน 100% ไม่ออก

AN Tuning 2 (http://www.youtube.com/watch?v=E6nci-2tHTs#)
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 19, 2010, 11:38:31 pm
เสียงดุเดือดดีเหลือเกิน ขนาดหม้อพักกลาง/ท้าย ยังอยู่ครบ

AN Tuning 3 (http://www.youtube.com/watch?v=VD3cV-pd02s#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on September 20, 2010, 01:20:22 am
โหดมาก.. เสียอย่างเดียว...ไปอยู่ในป่าคันเดียว อิอิ  :grin:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: dome_yajima on September 20, 2010, 06:55:04 am
น่าจะปลอดภัยกว่านั่งโหนโรลบาร์นะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 20, 2010, 07:58:10 am
น่าจะปลอดภัยกว่านั่งโหนโรลบาร์นะครับ

อ๋อ อันนั้นไม่ได้ตั้งใจถ่ายน่ะครับ พอดีช่างเขานั่งไปคอยดูว่ามันยังสะดุดตอน 7200 rpm หรือเปล่า ลองแค่เกียร์สองเกียร์ เลยฝากกล้องเขาไป
( notebook แบตตารี่มันไม่ค่อยดีต้องเสียบปลั๊กตลอด เลยวิ่งไปเก็บ log ไปไม่ได้  :a_laugh: )

ตอนวิ่งลองจริงๆ คนขับนั่งไปคนเดียว ไอ้กล้อง onboard จิ๋วๆที่เอาไว้ mount กับรถโดยเฉพาะเลยรู้สึกว่าก็จะมีนะ ซื้อมาปีนึงแล้วมั้ง ไม่ได้เอามาใช้สักที
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 20, 2010, 08:13:43 am
โหดมาก.. เสียอย่างเดียว...ไปอยู่ในป่าคันเดียว อิอิ  :grin:

ช้างเผือกต้องอยู่ในป่า  :a_laugh:

ลงรูปที่ U.K เยอะๆๆๆนะ อยากดู (ไปดูกระทู้ข้างๆมาแล้ว)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on September 20, 2010, 10:58:40 am
ตอนติดไฟแดง  เห็น AFM มันอยู่แถว 16-17 ??? 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 20, 2010, 12:10:21 pm
เอามาฝาก เด้อ ซิ บอก ไห่.............
http://thaidriver.com/2010/othernews/PDF_files/85_siriboon.pdf (http://thaidriver.com/2010/othernews/PDF_files/85_siriboon.pdf)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: thanases on September 20, 2010, 12:36:17 pm
ตอนติดไฟแดง  เห็น AFM มันอยู่แถว 16-17 ??? 

เห็นเหมือนกัน บางช่วงฟ้องด้วยว่า Lean
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 20, 2010, 01:12:43 pm
โอ....ลืมหมายเหตุไป
ใน clip นั่นยังไม่ใช่ final tuning นะครับ หลังจากนั้นกลับมาจูนอีกหลายเที่ยวพอสมควร


บทความของ อ. ศิริบูรณ์แกดีครับ ในบางมุมก็เก็บเอามาเป็นข้อคิดดีเหมือนกัน อย่างน้อยเรื่องการเคลือบเซรามิกหัวลูกสูบของแกก็เป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ผมไม่สั่งทำแบบเคลือบเซรามิก เพราะมันต้องเป๊ะจริงๆ ในอนาคตหากจะต้องทำ Pocket ของมันใหม่ หรือปัจจุบันก็ตามเถอะหากจะต้องแต่งนิดๆหน่อยหลบวาล์วมันจะทำไม่ได้หากเคลือบลงไปแล้ว

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 20, 2010, 01:15:06 pm
มีใครตอบผมได้ ไหม ว่า รถจ่ายกับข้าวที่ขับกันอยู่ทุกวันนี้ เวลา รอบเดินเบา ค่า a/f มันมีค่าเท่าไรถ้ามีคนตอบถูกผมจะอธิบายต่อ แต่ถ้าไม่ถูก ผมจะไม่คุยต่อนะครับ  ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มาตอบแทน   อธิบายต่อนิด ว่า ความไวของหัวlamda  มันไวมาก การอ่านของมัน ไม่เพี้ยนหลอก การจับค่าไอเสีย เราจับรวม ทุกสูบนะครับ ไม่ได้จับสูบใดสูบหนึ่ง  บางช่วงที่ มัน lap กัน หัว  lamda  มันไม่ได้จับ ไอเสียอย่างเดียว  รอบเดินเบา มันห่าง บางช่วง ไม่มีการจุดระเบิด มันก้อจับ เอาอากาศมาแจ้ง มันก้อเลยบอกว่า lean     ผมขอถามกลับว่า  lean   มันดีหรือไม่ดีอย่างไรหรือครับ ช่วงอธิบายให้ฟังบ้างสิหวังว่าคงเข้าใจนะครับ ผมตอบตรงไปหน่อย แต่นี่คือความจริง 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 20, 2010, 01:36:17 pm
มีใครตอบผมได้ ไหม ว่า รถจ่ายกับข้าวที่ขับกันอยู่ทุกวันนี้ เวลา รอบเดินเบา ค่า a/f มันมีค่าเท่าไรถ้ามีคนตอบถูกผมจะอธิบายต่อ แต่ถ้าไม่ถูก ผมจะไม่คุยต่อนะครับ  ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มาตอบแทน   อธิบายต่อนิด ว่า ความไวของหัวlamda  มันไวมาก การอ่านของมัน ไม่เพี้ยนหลอก การจับค่าไอเสีย เราจับรวม ทุกสูบนะครับ ไม่ได้จับสูบใดสูบหนึ่ง  บางช่วงที่ มัน lap กัน หัว  lamda  มันไม่ได้จับ ไอเสียอย่างเดียว  รอบเดินเบา มันห่าง บางช่วง ไม่มีการจุดระเบิด มันก้อจับ เอาอากาศมาแจ้ง มันก้อเลยบอกว่า lean     ผมขอถามกลับว่า  lean   มันดีหรือไม่ดีอย่างไรหรือครับ ช่วงอธิบายให้ฟังบ้างสิหวังว่าคงเข้าใจนะครับ ผมตอบตรงไปหน่อย แต่นี่คือความจริง 

ไม่ต้องขออนุญาติ อธิบายได้เลยตามสะดวก
เพราะถ้าจะให้ผมอธิบาย ต้องขอเวลาไปศึกษาก่อนสักสองสามปี  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 21, 2010, 06:40:20 am
เอามาฝากครับ ฝรั่งเค้าจูน กล่อง ไม่รู้ว่าใช่ กล่องแบบเดียว กันกับที่คุยกันอยู่หรือป่าว สังเกตตอน ปล่อยลงมาเดินเบา  a/f  มันล่อไป 1:36  สงสัยเหมือนกัน ว่า  ที่ผมทำอยู่ บางท่านว่ามันแปลก แต่ ไอ้เจ้าคน จูนใน คลิปมันแปลกกว่าผม ไปไกลมากนะ วานท่านผู้รู้ช่วยบอกหน่อย เด้อ....... 
alpha n M3 AFR's with H&H chip (http://www.youtube.com/watch?v=TqxAnOmr8Y0&feature=related#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 21, 2010, 08:44:45 am
เอ้า...มาสรุปสถานการณ์ปัจจุบันก่อน

- TPS และ Hardware ทำงานสัมพันธ์กันถูกต้อง จากการ synchronize เจ้าตัว ITB ใหม่ของผม
- Timing องศาจุดระเบิด จากการที่ช่างเขาเช็คดูปรากฏว่ามันอยู่ที่ 0 ซึ่งผมก็เห็นตรงกันกับช่างเขาว่าโดยปกติแล้วไม่ว่ารถอะไรมันก็ไม่น่าเป็น 0 มันน่าจะ advance นิดนึง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้มันไปหนืดๆนิดนึงที่แถวๆ 7000 rpm เนื่องจากเครื่องตัวนี้มันเป็น Motronic ตั้งไฟไม่ได้และเจ้า AN มันคุมแต่การจ่ายน้ำมัน ส่วน ignition ยังคงอยู่ที่ ECU เหมือนเดิม เพราะฉนั้นคงอาจจะต้องลองตั้งแคมชาร์ฟใหม่ดูหากต้องการให้มันไหลลื่นขึ้นไป แต่ผมว่า 8000 rpm ก็น่าจะพอแล้ว เพราะเครื่องตัวนี้มันไม่ใช่ full race เดี๋ยวพัง เก็บเอาไว้ขับขำๆดีกว่า เอาไว้รอระเบิดเทิดเทิงปั่นจี๋เป็นเลื่อยยนต์ในเครื่องอีกตัวนึงในรถอีกคันนึงดีกว่า (ลูกสูบเดินทางออกมาจากโรงงานแล้ว)
- Compensation ตอนนี้ลองใช้จาก Lamda แต่ระบบ AN สามารถเซ็ท compensation ได้จาก air temp. ได้ด้วย เดี๋ยววันหลังลองกันดูว่าผลที่ออกมาจะแตกต่างอย่างไร ซึ่งมันอาจจะให้ผลที่แตกต่างก็ได้เพราะบ้านเราร้อนตับแลบ มวลอากาศมันขึ้นๆลงๆจนอาจจะมีผลต่อ fuel mixture ก็ได้

สนุกดีครับ ลองมาช่วยกัน explore ดู ผมเคยถามรายละเอียดการจูนจากพวกที่ใช้เจ้า AN ตัวนี้ทางฝั่งอเมริกา สิบคนก็ตอบสิบอย่าง สมัยโน้น ผมจำได้ว่า BMW Motorsport ใช้ Chip หลายตัวเหมือนกันเพื่อเปลี่ยนการทำงานของระบบจุดระเบิดให้เหมาะสมไปตามสถานะการณ์ของการแข่งขัน/สนามต่างๆ 


นี่คือ EPROM ที่ BMW Motorsport ใช้ในสมัยนั้น ของเราตอนนี้ใช้ของ Turner Motorsport วันหลังจะลองเอาของ Dinan ไปสลับดู
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 21, 2010, 08:58:48 am
มีกล่อง M4 M8 เอ็ม....บ้าบออื่นๆวางอยู่บนชั้นใกล้ๆนั่นแหละ หยิบมาเสียบมันก็จบ ปรับได้ทั้งน้ำมันและไฟ ง่ายกว่าเยอะ

แต่วัตถุประสงค์ของการทำมันไม่ใช่แบบนั้น อยากจะเดินย้อนอดีตของ BMW Motorsport มากกว่า
เจ้าระบบ AN เนี่ยอาจจะโบราณเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี่ในปัจจุบัน แต่ผมว่า knowledge ของพวก BMW เขาในตอนนั้นไม่ได้โบราณหรอก เขาเพียงทำแค่ให้มันไปสุดขอบที่กฏ homologation อนุญาติให้ทำได้เท่านั้นเอง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 21, 2010, 11:04:29 am
ครับจากได้ สัมผัส กับ กล่อง  an  ว่าเรื่องความเสถียร และแม่นยำผมว่ามัน เชื่อใจได้ เนื่องจากการที่ผมลองขยับ data  เปลี่ยนแปลง ค่า a/f   มันเปลี่ยนทันทีทันใด ไวมาก สามารถ จูน แบบ realtime ได้  ผมว่า hardware  ที่ใช้คงคุณภาพสูงมาก  ถ้าได้  chip ดีๆ การทำแรงม้าสูงๆ คงไม่ยาก ส่วน เทคโนโลยี่ มันต้องอิงจากกล่องเดิม ก้อคงทำไรมากไม่ได้ครับ ส่วนใครที่อยากจะหามาลองเล่นดูผมว่า ไม่ผิดหวัง แต่อาจต้องใช้เวลากับมันหน่อย ผมทำตอนแรก ยังเก้ๆกังๆ ยังต้องให้ เจ้าของกระทู้ช่วยสอนเลย ครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 21, 2010, 03:31:09 pm
ครับจากได้ สัมผัส กับ กล่อง  an  ว่าเรื่องความเสถียร และแม่นยำผมว่ามัน เชื่อใจได้ เนื่องจากการที่ผมลองขยับ data  เปลี่ยนแปลง ค่า a/f   มันเปลี่ยนทันทีทันใด ไวมาก สามารถ จูน แบบ realtime ได้  ผมว่า hardware  ที่ใช้คงคุณภาพสูงมาก  ถ้าได้  chip ดีๆ การทำแรงม้าสูงๆ คงไม่ยาก ส่วน เทคโนโลยี่ มันต้องอิงจากกล่องเดิม ก้อคงทำไรมากไม่ได้ครับ ส่วนใครที่อยากจะหามาลองเล่นดูผมว่า ไม่ผิดหวัง แต่อาจต้องใช้เวลากับมันหน่อย ผมทำตอนแรก ยังเก้ๆกังๆ ยังต้องให้ เจ้าของกระทู้ช่วยสอนเลย ครับ

สอนกันไปแชร์กันมาสนุกดีครับ ความรู้กระจายแพร่หลาย ไม่ลงหลุมไปกับตัว หรืออย่างน้อยก็ประหยัดเวลาที่จะต้องไปนั่งศึกษาที่ละอย่างๆๆๆๆไปเยอะ 

เวลาผมเขียนหนังสือก็เหมือนกัน อันไหนที่ผมติดขัด ผมก็ไปถามผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นเขา ผมรู้ว่าเรื่อง VW ต้องโทรไปหาคนโน้น เรื่อง Porsche ต้องโทรไปถามคนนี้ เรื่อง Fiat หมอนี่รู้ดีกว่าใครเพื่อน ฯลฯ แบ่งๆกันไป

สี่สูบจูนยาก มาจูนสูบเดียวแบบนี้ดีกว่า ไขควงปากแบนกับแหวนข้างเบอร์สิบอย่างละตัว สามนาทีรู้ผล ไม่ต้องมีมิเตอร์ ดูจากควันปลายท่อเอา คู่มือเขาบอกว่า fuel mixture= 25:1 บางคนบอกว่าหากลงแข่งสนามต้อง 32:1 หรือ 40:1 ผมเอาตามคำแนะนำของมือเก๋าที่ขับมานานที่บอกว่า 5 ลิตร/กระิทิงแดงหนึ่งขวด  :a_laugh: คำนวณออกมาน่าจะอยู่ที่ราวๆ 50:1 ก็เอาตามนั้น mixture ที่พูดถึงนี่ไม่ใช่น้ำมัน +อากาศนะ เป็นอัตราส่วนของน้ำมัน(เชื้อเพลิง) + น้ำมัน 2T

พูดไปก็กระดากปาก ฟังดูโบราณจังเพราะสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครมานั่งผสมน้ำมันกรอกใส่ถังกันอีกแล้ว เขาใช้สี่จังหวะกันหมดแล้ว  :a_laugh: Vintage ของจริง

KX500 (http://www.youtube.com/watch?v=QAU3T1nqyuU#)

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 28, 2010, 09:15:09 am
ลูกสูบเดินทางมาถึงแล้ว
Custom made ออกมาเป็นสเปกของตัวแข่ง Endurance Gr.A ขนาด 93.6 mm กำลังอัด 12.5 ตอนแรกจะทำเป็น 13.0 เค้าถามว่ายูมีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำกำลังอัดให้มันสูงถึงขนาดนั้น ก็เลยบอกว่าจะเอาไว้โม้กันในวงเบียร์...เอ้ย..ไม่ใช่ บอกเขาว่าต้องการ max output เขาเลยเลคเชอร์ให้ฟังยกใหญ่ ว่าแรงม้ามันไม่ได้มาจากกำลังอัดอย่างเดียวหรอก มาจากจากโน่น...นี่...นั่น อืม...โอเค 12.5 อีส โอเค

มันจะต่างจากลูกสูบสำหรับการแข่งขัน sprint ตรงที่เขาจะเหลือเนื้อบน piston crown รอบๆ valve pocket เอาไว้ (ขอโทษนะภาษาอังกฤษเยอะไปหน่อย ผมไม่รู้จริงๆว่าภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไร) การแข่งขัน sprint (กำหนดรอบ ใครวิ่งครบก่อนชนะ) จะต่างกับการแข่งขัน endurance (กำหนดเวลา ใครวิ่งได้มากรอบกว่าชนะ) ตรงที่เครื่องแบบ sprint จะแรงกว่าแต่จะทนน้อยกว่า หรือมีอายุการใช้งานสั้นกว่า เราไม่ได้ตั้งใจจะขนรถลงเรือไปแข่ง WTCC ที่มาเก๊าในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จึงเลือกเอาเรื่องอายุการใช้งานและความทนทานเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามน้ำหนักของมันเบามากๆเลย

pocket ของมันถูกทำให้ direct fit (หวังว่า) กับลิฟท์อันหนักหน่วงของแคมชาร์ฟ 320/308 องศา และมันจะทำงานกับชุดแคม/ชุดวาล์ว/สปริง SRD ที่เป็น motorsport part แท้ๆ ที่ดูดอากาศผ่านคาร์บอน airbox และหัวฉีด (อาจจะ) 8 หัวหากอากาศมันวิ่งเร็วมากเกินไป

ย้ำอีกครั้งว่าสมัยโน้นที่ BMW motorsport เขาใส่หัวฉีดเพิ่มเข้าไปอีก 1 ชุด (4 หัว) ก็เพราะที่รอบสูงมากๆ อากาศมันวิ่งเข้าไปเร็วมาก (เกือบ 1 เท่าของเสียง) มันจึงเกิดการบล็อกของอากาศ เขาจึงเอาหัวฉีดพ่นน้ำมันเข้าไปที่ปากทางของ airbox เพื่อให้ latent heat ของน้ำมัน มันไปทำให้อากาศเย็นลง เมื่ออากาศเย็นลง มวลอากาศจะ condense ซึ่งเปรียบเสมือนว่ามีอากาศเข้าเครื่องมากขึ้น*

* การเปลี่ยนสถานะของสสาร เช่นของแข็ง (น้ำแข็ง) เป็นของเหลว (น้ำ)  และจากของเหลว (น้ำ) เป็นก๊าซ (ไอน้ำ) จะต้องใช้พลังงานภายนอกเข้าไปเพื่อทำลายแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลของมัน เมื่อเอาน้ำมันฉีดเข้าไป และเมื่อน้ำมันวิ่งเข้าไปใกล้ๆเครื่องมันจะดึงความร้อนรอบๆตัวของมันเข้ามาเพื่อเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอ ความร้อนที่ดึงเข้าไปนี้จะทำให้อากาศของ ambient ควบแน่นและเย็นตัวลง ใครเรียนมาทาง thermodynamics มาอธิบายเพิ่มเติมก็ดีครับ เข้าใจว่ารถ F1 ที่วิ่งกันเกือบสองหมื่น rpm ในปัจจุบันก็ยังใช้หลักการแบบนี้อยู่

ลองดูครับ อย่างน้อยลูกสูบแบบที่เห็นอยู่นี่ทางเยอรมันเขาลองกับรถของเขาแล้วว่ามันวิ่งที่ Nurburgring ได้ถึง 800 รอบ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 28, 2010, 09:21:08 am
ชอบตรง ring land ที่เขาทำเป็น contact reduction grooves เอาไว้ให้ด้วย
น่าเสียดายน่าจะสั่งให้เขาทำ lateral gas port มาด้วย (ทำเป็นร่องเล็กๆที่ขอบร่องแหวนอัดตัวบนเพื่อให้กำลังอัดมันไหลมาที่หลังแหวนอัดได้นิดนึงเพื่อช่วยดันแหวนให้แน่นขึ้น)

เดี๋ยววันนี้ช่างเขาจะมาเอา สักอาทิตย์สองอาทิตย์น่าจะได้ยินเสียงของมัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 28, 2010, 09:23:32 am
ผมวัดไดเมนชั่นของมันเทียบกับของ motorsport แท้ๆ พบว่าใกล้เคียงทีเดียว ผิดกันที่ piston crown รอบๆ pockets ที่หนากว่าและ skirt ที่ยาวกว่าประมาณ 1 mm
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 28, 2010, 01:13:45 pm
เห็น โหวงเฮ้งแล้ว น่าใช้จิงๆ  \^^/ \^^/ \^^/
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 28, 2010, 05:40:37 pm
แรงมากเดี๋ยวคนแก่ขับไม่ได้
ยิ่งช่วงนี้กำลังเพลิดเพลินกับแรงบิดหนักๆที่รอบต่ำของ V8 อยู่ ไม่รู้ลืมวิธีขับแบบลากรอบรีดแรงม้าออกมาที่รอบสูงๆไปแล้วหรือยัง :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 28, 2010, 08:11:25 pm
สงสัยอ่ะพี่ต่อ ทำไมเค้าทำ valve pocket ซะคมขนาดนั้น มันไม่ทำให้เกิด pre-ignition ได้ง่ายๆเหรอครับ
ปล. เก็บสายเบรกให้ผมด้วยน๊า พลาดไปพลาดมาจนลืมไปเลย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 28, 2010, 09:44:00 pm
สงสัยอ่ะพี่ต่อ ทำไมเค้าทำ valve pocket ซะคมขนาดนั้น มันไม่ทำให้เกิด pre-ignition ได้ง่ายๆเหรอครับ
ปล. เก็บสายเบรกให้ผมด้วยน๊า พลาดไปพลาดมาจนลืมไปเลย

เรื่อง pre-ignition ตอนนี้ไม่ห่วงเพราะ engine management อันใหม่ของมันปรับได้หมดทั้งน้ำมันและไฟ เอาออกเทนอัดเข้าไป แล้วตั้งไฟให้มัน advance อยู่ในจุดที่เหมาะสมกับกับค่าออกเทนของมัน วิ่งระเบิดเทิดเทิง
 เรื่องการจูน Motec เสี่ย Columbus เขาถนัด

แต่ที่ห่วงคือหนึ่ง ชุด valvetrain มันจะเอาอยู่ไหม (ใช่มันเป็น Motorsport part แท้ๆ แต่อายุการใช้งาน unknown) และสอง...รอบสูงขนาดนั้นอัตราทดของเกียร์สแตนดาร์ดของ S14 (ถึงมันจะเป็น close ratio ก็เถอะ) มัน "Close" พอหรือยัง พยายามจินตนาการตอนที่วิ่งจี๋ๆอยู่เกียร์ห้าที่แปด-เก้าพันรอบแล้วเชนจ์ลงมาสี่แล้วล้อมันจะล๊อกหรือเปล่า


Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 29, 2010, 07:52:35 am
สงสัยอ่ะพี่ต่อ ทำไมเค้าทำ valve pocket ซะคมขนาดนั้น มันไม่ทำให้เกิด pre-ignition ได้ง่ายๆเหรอครับ
ปล. เก็บสายเบรกให้ผมด้วยน๊า พลาดไปพลาดมาจนลืมไปเลย

เรื่อง pre-ignition ตอนนี้ไม่ห่วงเพราะ engine management อันใหม่ของมันปรับได้หมดทั้งน้ำมันและไฟ เอาออกเทนอัดเข้าไป แล้วตั้งไฟให้มัน advance อยู่ในจุดที่เหมาะสมกับกับค่าออกเทนของมัน วิ่งระเบิดเทิดเทิง
 เรื่องการจูน Motec เสี่ย Columbus เขาถนัด

แต่ที่ห่วงคือหนึ่ง ชุด valvetrain มันจะเอาอยู่ไหม (ใช่มันเป็น Motorsport part แท้ๆ แต่อายุการใช้งาน unknown) และสอง...รอบสูงขนาดนั้นอัตราทดของเกียร์สแตนดาร์ดของ S14 (ถึงมันจะเป็น close ratio ก็เถอะ) มัน "Close" พอหรือยัง พยายามจินตนาการตอนที่วิ่งจี๋ๆอยู่เกียร์ห้าที่แปด-เก้าพันรอบแล้วเชนจ์ลงมาสี่แล้วล้อมันจะล๊อกหรือเปล่า
ถ้าจะหมุน 8-9000 รอบกะใช้น้ำมัน octane ขนาดนั้น ผมว่ายังไงพี่ต้องตั้ง advance ไว้เผื่อเยอะเหมือนกันแหละ ขนาดแต่ก่อนใช้ 100 ยังตั้งเผื่อตั้งหลายองศาเลย แต่จำไม่ได้เท่าไหร่แฮะ %:( นานเกินไป

ตอนแรกว่าจะเป็นสาวก Motec กะเค้าบ้างเหมือนกัน แต่หลังจากทำการบ้านมาหลายรอบแล้วผมว่าเอา piggy back คุมเอาตรงช่วงที่เราต้องการใช้ก็พอ ช่วงรอบเดินเบากะคลานๆในเมืองปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกล่องเดิม เดี๋ยวนี piggy back ก็ไม่แย่เหมือนสมัยก่อน function ต่างๆดีกว่าเยอะ ว่าจะลองแบบนี้ไปก่อน ไม่ดียังไงเดี๋ยวจะกลับไปซบอก Motec

ไม่รู้ว่าพวก motorsport engine ของ BMW มันจะเหมือนเครื่อง motorsport porsche หรือเปล่า เค้า rating ไว้ตั้ง 500 ชั่วโมงหรือไงเนี่ย เป็น off the shelf parts แต่ tolerance ดีกว่าเท่านั้น จำผิดถูกขออภัยด้วยคร๊าบ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2010, 08:43:16 am
สงสัยอ่ะพี่ต่อ ทำไมเค้าทำ valve pocket ซะคมขนาดนั้น มันไม่ทำให้เกิด pre-ignition ได้ง่ายๆเหรอครับ
ปล. เก็บสายเบรกให้ผมด้วยน๊า พลาดไปพลาดมาจนลืมไปเลย

เรื่อง pre-ignition ตอนนี้ไม่ห่วงเพราะ engine management อันใหม่ของมันปรับได้หมดทั้งน้ำมันและไฟ เอาออกเทนอัดเข้าไป แล้วตั้งไฟให้มัน advance อยู่ในจุดที่เหมาะสมกับกับค่าออกเทนของมัน วิ่งระเบิดเทิดเทิง
 เรื่องการจูน Motec เสี่ย Columbus เขาถนัด

แต่ที่ห่วงคือหนึ่ง ชุด valvetrain มันจะเอาอยู่ไหม (ใช่มันเป็น Motorsport part แท้ๆ แต่อายุการใช้งาน unknown) และสอง...รอบสูงขนาดนั้นอัตราทดของเกียร์สแตนดาร์ดของ S14 (ถึงมันจะเป็น close ratio ก็เถอะ) มัน "Close" พอหรือยัง พยายามจินตนาการตอนที่วิ่งจี๋ๆอยู่เกียร์ห้าที่แปด-เก้าพันรอบแล้วเชนจ์ลงมาสี่แล้วล้อมันจะล๊อกหรือเปล่า
ถ้าจะหมุน 8-9000 รอบกะใช้น้ำมัน octane ขนาดนั้น ผมว่ายังไงพี่ต้องตั้ง advance ไว้เผื่อเยอะเหมือนกันแหละ ขนาดแต่ก่อนใช้ 100 ยังตั้งเผื่อตั้งหลายองศาเลย แต่จำไม่ได้เท่าไหร่แฮะ %:( นานเกินไป

ตอนแรกว่าจะเป็นสาวก Motec กะเค้าบ้างเหมือนกัน แต่หลังจากทำการบ้านมาหลายรอบแล้วผมว่าเอา piggy back คุมเอาตรงช่วงที่เราต้องการใช้ก็พอ ช่วงรอบเดินเบากะคลานๆในเมืองปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกล่องเดิม เดี๋ยวนี piggy back ก็ไม่แย่เหมือนสมัยก่อน function ต่างๆดีกว่าเยอะ ว่าจะลองแบบนี้ไปก่อน ไม่ดียังไงเดี๋ยวจะกลับไปซบอก Motec

ไม่รู้ว่าพวก motorsport engine ของ BMW มันจะเหมือนเครื่อง motorsport porsche หรือเปล่า เค้า rating ไว้ตั้ง 500 ชั่วโมงหรือไงเนี่ย เป็น off the shelf parts แต่ tolerance ดีกว่าเท่านั้น จำผิดถูกขออภัยด้วยคร๊าบ

แล้วแต่เครื่องแต่ละยี่ห้อ แล้วก็แล้วแต่สเปกของแต่ละเครื่องด้วย มีตั้งแต่หลายร้อยชั่วโมงจนไปถึงไม่กี่ชั่วโมง อย่างเครื่อง sprint (ถึงจะยี่ห้อเดียวกันก็ตามเถอะ) มักจะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าเครื่องสเปก endurance เพราะเครื่อง sprint มีเท่าไหร่ใส่หมด


ถ้าจำไม่ผิดเครื่องของ Ford RS200 Gr.B มีอายุการใช้งานแค่ 10 (อ่านว่า "สิบ") ชั่วโมงเท่านั้นเอง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2010, 08:54:56 am
แต่นั่นคือตัวเลขอายุเฉลี่ยจากสนามในต่างประเทศ ที่สนามของเขามันจะใหญ่และยาวมากๆ ที่กดแช่กันที่ 8000-9000 rpm กันเป็นนาทีๆ หรือแม้แต่โค้งก็ใหญ่เสียจน full throttle กันได้เร็วกว่าความเร็วทางตรงบ้านเราเสียอีก

บ้านเราสนามไม่ใหญ่มาก เครื่องยนต์ไม่ถูกทรมานทรกรรมหนักหนาเท่าไหร่ อายุน่าจะยืนยาวกว่าได้อีกสักเท่าตัวหนึ่ง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2010, 09:11:41 am
ส่วนเรื่องออกเทน ทางเยอรมันเขาแนะนำให้ใช้ 100 AKA ซึ่งมันหมายความว่า 100 RON+ ไม่รู้ว่าจะหาที่ไหนมาใส่ได้หรือเปล่า เข้าใจว่าของ Maxima เขาเคยมีตัว 120 RON ไม่รู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า

เรื่องตั้งไฟ เข้าใจถูกต้องครับ การเอาออกเทนกรอกลงไปเฉยๆแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย (มีคนเข้าใจผิดตรงนี้กันเยอะ) โดยปกติแล้วเขามักจะไม่ตั้งให้หัวเทียนจุดระเบิดที่ TDC (Top Dead Center) พอดี แต่จะตั้งให้มันจุด advance ก่อนหน้านั้นนิดนึง (BTDC- Before Top Dead Center) เพื่อเหตุผลในเรื่องโมเมนตั้มของลูกสูบตอนชักลง เพราะฉนั้นจึงต้องใช้ออกเทนเข้ามาช่วย "หน่วง" เอาไว้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on September 29, 2010, 09:24:33 am
ส่วนเรื่องออกเทน ทางเยอรมันเขาแนะนำให้ใช้ 100 AKA ซึ่งมันหมายความว่า 100 RON+ ไม่รู้ว่าจะหาที่ไหนมาใส่ได้หรือเปล่า เข้าใจว่าของ Maxima เขาเคยมีตัว 120 RON ไม่รู้ว่ายังมีอยู่หรือเปล่า

เรื่องตั้งไฟ เข้าใจถูกต้องครับ การเอาออกเทนกรอกลงไปเฉยๆแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย (มีคนเข้าใจผิดตรงนี้กันเยอะ) โดยปกติแล้วเขามักจะไม่ตั้งให้หัวเทียนจุดระเบิดที่ TDC (Top Dead Center) พอดี แต่จะตั้งให้มันจุด advance ก่อนหน้านั้นนิดนึง (BTDC- Before Top Dead Center) เพื่อเหตุผลในเรื่องโมเมนตั้มของลูกสูบตอนชักลง เพราะฉนั้นจึงต้องใช้ออกเทนเข้ามาช่วย "หน่วง" เอาไว้

เคยคิดอยากซื้อ toluene ไปกรอกเครื่องเหมือนกันนะ ท่าทางจะลุ้นกันใจหาย O:D เอ...หรือเอา nitro methane พวกรถบังคับมากรอกใส่มันจะเป็นยังไงน๊อออ เคยผสมใส่รถบังคับเนี่ยแหละ เค้าให้มากสุด 50:50 แต่ผมซัดไป 100 เลย ผลคือ สูบเป็นรูโบ๋เลย  ;>#

จำได้ว่าเคยซื้อ maxima เป็นถังๆ แล้วมาหารแบ่งกันกะเพื่อนๆ แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังมีขายอยู่มั๊ย ห่างหายวงการแข่งรถมานานพอควร
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: dome_yajima on September 29, 2010, 10:46:14 am
เครื่องรถ Ford Mustang ของ John Force มีอายุแค่ 10 วิเอง    :grin:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2010, 07:36:05 pm
เครื่องรถ Ford Mustang ของ John Force มีอายุแค่ 10 วิเอง    :grin:

ใช่ พวกรถ Drag รุ่นไนโตรฯ นับอายุเครื่องยนต์กันเป็นวินาที
ระยะทาง 402 เมตรเท่านั้นเอง แต่ใช้เงินมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ  :angel:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2010, 08:06:35 pm
วันนี้อะไหล่มาอีกหนึ่งลัง F/D Garage น่าจะเปิดทำการได้
Main Bearing/Rod Bearing นั่นผมไม่ได้ใช้แล้วนะครับ (เหลือ 1 ชุด อีกชุดจะส่งไปประกอบที่ราชบุรี) เพราะเครื่องผมประกอบไปเรียบร้อยแล้ว หากใครจะเอา เดี๋ยวตามไปที่ classified นะครับ ยี่ห้อนี้โอเค พวกเซียนๆอีกฟากโลกนึงเขาก็นิยมใช้กันอยู่ Camshaft สองแท่งนั่นด้วย ไม่ได้ใช้แล้วเหมือนกัน

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 30, 2010, 06:11:05 am
วันนี้อะไหล่มาอีกหนึ่งลัง F/D Garage น่าจะเปิดทำการได้
Main Bearing/Rod Bearing นั่นผมไม่ได้ใช้แล้วนะครับ (เหลือ 1 ชุด อีกชุดจะส่งไปประกอบที่ราชบุรี) เพราะเครื่องผมประกอบไปเรียบร้อยแล้ว หากใครจะเอา เดี๋ยวตามไปที่ classified นะครับ ยี่ห้อนี้โอเค พวกเซียนๆอีกฟากโลกนึงเขาก็นิยมใช้กันอยู่ Camshaft สองแท่งนั่นด้วย ไม่ได้ใช้แล้วเหมือนกัน



  สนใจชุด bearing  ครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 30, 2010, 09:01:31 am



 
  สนใจชุด bearing  ครับ


เดี๋ยววันเสาร์เจอกัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: cefiro-man on September 30, 2010, 02:25:37 pm
 O:D สุดยอดดดดดดดดดดดดดด
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 02, 2010, 10:34:43 pm
วันนี้ไปเยี่ยมเยือนราชบุรี เอาอุปกรณ์ต่างๆไปส่งให้ช่างเขา

ลองเปรียบเทียบลูกสูบที่สั่งทำมา (ซ้าย) กับลูกสูบหัวนูนทั่วไปดูจะเห็นว่าโครงของของอันที่สั่งทำมามันเบาและแข็งแรงกว่ามากเลย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 02, 2010, 10:42:30 pm
อันหน้าในภาพคือแคมชาร์ฟของตัวแข่ง Gr.A ที่เป็น Motorsport part แท้ๆจาก BMW ที่จะเอามาใช้ อันหลังคือแคมชาร์ฟ after market ของ Schrick

ถึงจะองศาเท่ากัน แต่มีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน มีใครบอกความแตกต่างได้ไหม? นี่คือ trick อย่างหนึ่งของ BMW Motorsport

(บอกใบ้ว่าอยู่ที่ closing ramp และ open ramp)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: thanases on October 02, 2010, 10:56:33 pm
แก้มตุ่ย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 02, 2010, 10:59:39 pm
หลังจากเสร็จธุระสี่สูบ ก็มาสนุกสนานต่อกับแปดสูบ

หลายเดือนก่อนที่ผมเคยเขียนคอมเมนท์มันในหนังสือเล่มหนึ่งว่า "อารมณ์ฟอร์มูล่าวันในร่างสปอร์ตคูเป้" ก็คงจะไม่เกินจริงไปนัก จนในวันที่ฝนตกถนนลื่นมากอย่างวันนี้ต้องปรับให้มันทำงานในโหมด "คนแก่"  :a_laugh:

เมื่อกดปุ่มข้างๆเบาะ ระบบจะเข้าสู่โหมด "คนแก่ plus" โดยเบาะมันนวดหลังแก้เมื่อยให้ในขณะขับไปด้วย (อันหลังนี่พูดจริงๆนะ)

 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 02, 2010, 11:05:18 pm
อยากรู้เหมือนกันว่ามีใครเคยอัดเจ้ารุ่นนี้โดยปิดระบบ DSC บ้างหรือเปล่า?  :freddie:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 02, 2010, 11:27:27 pm
อ้อ...ข้ามอันนี้ไป แคมชาร์ฟชุดนี้มากับชุดวาล์ว/สปริงวาล์ว/retainers ของตัวแข่ง Gr.A (SRD 7) ที่เป็น Motorsport part ครบชุดของมัน  ด้วยเช่นกัน

ซื้อมาสองปีได้แล้วมั้ง เพิ่งจะได้ออกงาน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 02, 2010, 11:46:06 pm
เพิ่งกลับมาจากอู่  ติดฝนที่อู่อยู่นาน หลาย ชม. คุยกับช่างเค้า วันจันทร์ คงส่งคว้าน ครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 03, 2010, 08:13:58 am
วันนี้ไปเยี่ยมเยือนราชบุรี เอาอุปกรณ์ต่างๆไปส่งให้ช่างเขา

ลองเปรียบเทียบลูกสูบที่สั่งทำมา (ซ้าย) กับลูกสูบหัวนูนทั่วไปดูจะเห็นว่าโครงของของอันที่สั่งทำมามันเบาและแข็งแรงกว่ามากเลย


 เห็นมีอะหลั่ยกองพะเนิน พร้อม สายไฟขยุ้ม ใหญ่ๆ  พร้อมกล่อง สีทองๆ อีกสองใบ ให้เลือกใช้ กำลังสำรวจทรัพยากรที่มีจะออกแบบไหนดี trigger  ออกแบบทำไปแล้ว ส่วน  coil  กำลังคิดอยู่ว่าจะใช้แบบไหน เอาของ  motorsport มาให้ชม
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 03, 2010, 08:16:00 am
อันหน้าในภาพคือแคมชาร์ฟของตัวแข่ง Gr.A ที่เป็น Motorsport part แท้ๆจาก BMW ที่จะเอามาใช้ อันหลังคือแคมชาร์ฟ after market ของ Schrick

ถึงจะองศาเท่ากัน แต่มีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน มีใครบอกความแตกต่างได้ไหม? นี่คือ trick อย่างหนึ่งของ BMW Motorsport

(บอกใบ้ว่าอยู่ที่ closing ramp และ open ramp)
 
    ตรงไหนหว่า :idiot2: :idiot2: :idiot2: :idiot2:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 03, 2010, 09:31:41 am
(http://file:///C:/DOCUME%7E1/TorpanKo/LOCALS%7E1/Temp/moz-screenshot.png) :idiot2: :idiot2: :idiot2: :idiot2:    <==  %:(
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 03, 2010, 10:22:14 am
เมื่อวานลืม สาย usb ไป เลยไม่ได้ลอง กล่องสีทองๆ อีกใบ วันนี้คงได้รู้ว่ากล่องมัน โดนล๊อกมาป่าว ถ้าโดนล๊อก ก้อเสียเวลา ไปให้คน ทำคนเก่าเค้าปลดก่อนครับ  อาจจะยุ่งหน่อย แต่มันก้อเปนเรื่องปกติสำหรับคนทำกล่องยี้ห้อนี้ ถ้าผม ทำก้อต้องล๊อคเหมือนกันนะครับ เพราะมันเปน know how  อย่างเครื่องคันขาว กว่าจะวิ่งดี และ สมบูรณ์  เสียเวลาพอควรครับ ผมโดนมาแล้ว คำโบราณเขาว่าชุบมือเปิบ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 03, 2010, 01:44:08 pm
ถ่ายทอดสดจาก F/D Garage
น่าจะติดเครื่องได้ภายในก่อนหมดวัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2010, 09:42:20 pm
เยอรมันบอกว่าใส่ทำไม Competition Package มันเป็นแค่ออปชั่น
เอาแบบนี้ดีกว่า ชุดแต่ง GT4 ผลิตจาก Wethje แท้ๆ

"Wie viel kostet es?"
"2,950 euro"

Ich bin....เอ่อ....ไอ แอม ฟายน์ แทงค์กิ้ว แอนด์ ฮาว อาร์ ยู


Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: dome_yajima on October 06, 2010, 10:11:49 pm
แค่เคราดำๆใต้คางนั่นนะพี่?...ก้อด
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 07, 2010, 08:50:18 am
นั่นนะสิ...
แต่ที่แพงเข้าใจว่า หนึ่ง..มันเป็น Motorsport part ไม่ใช่แค่ออปชั่นสวยงาม
สอง..มันทำโดย Wethje บริษัทนี้ทำชิ้นส่วนคาร์บอนให้รถแข่ง BMW มาหลายสิบปี ทั้ง airbox และ aero part ต่างๆ แล้วก็ตัว M3 E46 CSL ด้วย (แล้วก็ทำโครงเบาะคาร์บอนให้ Recaro ด้วย)
สาม...มันน่าจะไม่ใช่แค่ lip เฉยๆ น่าจะเป็น tray แผ่นใหญ่ชิ้นเดียวต่อลงไปเป็นแผ่นปิดใต้ท้องด้วย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 07, 2010, 08:55:13 am
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 07, 2010, 09:04:49 am
BMW Motorsport announced today <Feb 2009>  the launch of the  BMW M3 GT4 race cars aimed at private teams and drivers. Unfortunately  the German carmaker has not released any images or technical details of  the BMW M3 GT4 yet. The BMW M3 GT4 price is 120,000 Euros.

 The company says the BMW M3 GT4 was developed on its private race track  in Aschheim, Bavaria, and that it can customize it to the owner's  specification to fit in the respective racing class.

 "In 2009, we will witness the BMW M3 racing not only for the BMW Rahal  Letterman Racing Team in the American Le Mans series. The new BMW M3 GT4  now also provides private teams with numerous


เห็นราคาแล้วกลุ้มใจ ราคาพอๆกับรุ่นปกติเซคกั้นแฮนด์ที่ประเทศสารขันธ์
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 07, 2010, 08:51:18 pm
 มาแจ้งข่าว กล่องทองๆ ที่ให้มา ติด password ทั้งสองใบ ช่วยส่งไปปลด  C:)   ด้วยครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JOEcUSTOM on October 08, 2010, 12:18:13 am
พี่ครับ ขอตวามรู้นิดนึงครับ คือผมอยากทราบถึงข้อดี ของ ITB อะครับ ผมติดตามกระทุ้พี่มานานพอสมควรแล้ว กระทุ้ของพี่แต่ละอันสุดยอดมากครับ ได้ความรู้มาก นับถือครับพี่ :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 08, 2010, 09:19:46 am
ประโยชน์หลักของ ITB คือเรื่อง throttle response อันนี้ไม่ได้หมายความว่ามันจะแรงขึ้นโดยตรง มันเพียงแต่ทำให้คันเร่งตอบสนองได้เร็วขึ้น (คงไม่มีใครอยาก [พึมพัมกับตัวเองว่า "f#%k" ก่อนที่จะ] ยัดเกียร์ลงมาช่วยดึงรถออกไปในขณะเข้าด้ายเข้าเข็มที่ปากทางออกโค้ง) เนื่องจากอากาศจะประจุเข้าไปใน Intake port โดยตรงด้วยระยะทาง (ที่สั้น) เท่ากันทุกๆสูบ หากเป็นแบบ throttle เดียวส่วนใหญ่เขาจะเอา throttle body ไปไว้แถวๆสูบกลางๆ หากเป็นหกสูบมันจะอยู่แถวสูบ 3-4 ซึ่งหมายความว่าระยะทางจาก throttle ถึงสูบ 1-2 และ 5-6 มันจะไกลกว่า หรือไม่ก็ต้องออกแบบท่อไอดีให้ดีให้มันมีระยะทางที่วิ่งไปที่ intake port เท่าๆกันทุกสูบ ซึ่งบางทีมันจะขดไปขดมาเกะกะมาก แต่ไม่ว่าแบบไหน มันต้องใช้เวลาจำนวนหนึ่งให้อากาศมันวิ่งไปถึง Intake port

ในรถเครื่องแรงๆ หรือเครื่องยนต์ที่ทำงานรอบสูงๆ แรงดูดจะสูงมาก ซึ่งหากเอามารวมกันผ่าน throttle เดียวบางทีแรงเฉื่อยของมันอาจจะดันจนลิ้นอากาศไม่ยอมปิดเลยก็ได้ จึงต้องแยกกันเปิด/ปิดสูบใครสูบมัน

ข้อเสียก็น่าจะเป็นเรื่องความละเอียดอ่อนในการจูน/calibrate อย่าลืมว่าถึงจะมีหลายลิ้นแต่มันจะมี TPS (Throttle Position Switch) เพียงตัวเดียวซึ่งระบบ Engine Management จะอ่านค่าจาก TPS (เปิดเยอะ=> อากาศเยอะ=>จ่ายน้ำมันเยอะ) ซึ่งเจ้า TPS มันไม่รู้หรอกว่าลิ้นข้างในมันเปิดเท่ากันหรือไม่ หาก TPS อ่านค่า (มุม) ได้อันนึง แต่ลิ้นข้างในเปิดจริงอีกมุมนึงก็ทำให้ส่วนผสมของน้ำมัน/อากาศเพี้ยนได้แล้ว (ใน throttle เดียวก็เพี้ยนได้แต่มันยังดีที่หากมันเพี้ยนมันจะเพี้ยนเท่าๆกันทุกสูบ แบบสูบโน้นเพี้ยนสูบนี้ไม่เพี้ยนเลวร้ายกว่ามาก) เพราะฉนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้อง calibrate การทำงานทางกลไกของลิ้นให้เท่าๆกันก่อน

Hope this helps!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JOEcUSTOM on October 08, 2010, 12:33:43 pm
ขอบคุณครับสำหรับ ความรู้ที่มอบให้ครับ  &v& กระจ่างเลย จะติดตามกระทุ้ของพี่ต่อไปนะครับ  $^$
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 08, 2010, 10:04:29 pm
มาแจ้งข่าว กล่องทองๆ ที่ให้มา ติด password ทั้งสองใบ ช่วยส่งไปปลด  C:)    ด้วยครับ

เอ่อ....เมื่อกี้โทรมาเห็นพูดแต่เรื่องปีกหน้ากับล้อชุดแต่งของ M3 GT4  :a_laugh: เอา AFM ของเดิมต่อวิ่งไปก่อนได้ไหม  :a_laugh:

ขอบคุณครับสำหรับ ความรู้ที่มอบให้ครับ  &v& กระจ่างเลย จะติดตามกระทุ้ของพี่ต่อไปนะครับ  $^$

ขอบคุณมากครับ รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกันที่ติดตามครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 08, 2010, 10:28:26 pm
คืนวันศุกร์อากาศเย็นสบายเอาเสียหน่อย
อีกฟากโลกหนึ่งเขาบอกว่าน้ำมันเกียร์ synthetic เบอร์ 75W90 มันเหมาะกับเกียร์ตัวนี้มาก เลยต้องลอง
(แล้วทำไมกรูไม่เปลี่ยนเสียแต่ตอนที่มันอยู่นอกรถ [วะ]  %:( เปลี่ยนท่านี้ยากชิบเป๋ง)

แต่ไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่ากับกระดกเบอร์เบิ้นแล้วมุดเข้าไปหาความสุขส่วนตัวใต้ท้องรถในคืนวันศุกร์
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 10, 2010, 12:19:19 pm
คงต้องลากเอาไปเดินท่อก่อนที่จะติดเครื่อง ขืนติดตอนนี้หลานอายุห้าเดือนที่นอนอยู่อีกบ้านหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปห้าสิบเมตรคงสะดุ้งสุดตัวขึ้นมาจากเตียง ครั้งก่อนขนาดแค่เสียงโมโตครอสยังร้องไห้จ้า

เห็นแผ่นกันความร้อนแล้วอ่อนใจ ขนาดใช้แบบมาตรฐานจาก BMW แล้วความร้อนมันยังจารึกริ้วรอยเอาไว้ถึงขนาดนนี้ บางทีผมว่ามันเป็นข้ออ้างที่ต้องทำออกมาแต่ LHD หรือเปล่า
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on October 12, 2010, 03:50:35 pm
เยี่ยมเลยพี่ต่อ ยังไม่มีโอกาสไปดูโรงงานซะที
พี่ต่อพอรู้ร้านที่ขาย aluminum sheet บ้างมั๊ยครับ แล้วก็อยากได้ก้อนมิเนียม 60xx / 70xx อ่ะครับ ชี้โพรงให้กระรอกอย่างผมด้วยครับ :2funny:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 12, 2010, 10:06:02 pm
แถวโอเดียนมีเยอะเลยครับ สารพัดแบบ ขนาดและเบอร์ เมื่อก่อนซื้อมากลึงอะไรเล่นบ่อยๆ เอาไปทิ้งไว้ตามอู่ก็เยอะ
ถ้าใช้ไม่เยอะมาเอาที่บ้านก็ได้ครับ ไม่ต้องไปซื้อ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on October 13, 2010, 03:41:20 pm
แถวโอเดียนมีเยอะเลยครับ สารพัดแบบ ขนาดและเบอร์ เมื่อก่อนซื้อมากลึงอะไรเล่นบ่อยๆ เอาไปทิ้งไว้ตามอู่ก็เยอะ
ถ้าใช้ไม่เยอะมาเอาที่บ้านก็ได้ครับ ไม่ต้องไปซื้อ

ขอบคุณมากครับพี่ต่อ ถามไว้เผื่อต้องใช้นะครับ ให้รุ่นน้องไปแกะแบบ camber plates ที่ซื้อมาน่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเสร็จะเมื่อไหร่เหมือนกัน

ถามเพิ่มเติมหน่อยครับพี่ต่อ ผมหา camshaft spec ของเครื่อง M42 ไม่ได้เลย อยากได้แบบละเอียดหน่อยตามนี้เลยครับ
ex open BBDC
ex close ATDC
in open BTDC
in close ABDC

พอจะทราบบ้างหรือเปล่าครับ จะเอาไปลองคำณวนท่อ primary น่ะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 13, 2010, 04:58:18 pm
แถวโอเดียนมีเยอะเลยครับ สารพัดแบบ ขนาดและเบอร์ เมื่อก่อนซื้อมากลึงอะไรเล่นบ่อยๆ เอาไปทิ้งไว้ตามอู่ก็เยอะ
ถ้าใช้ไม่เยอะมาเอาที่บ้านก็ได้ครับ ไม่ต้องไปซื้อ

ขอบคุณมากครับพี่ต่อ ถามไว้เผื่อต้องใช้นะครับ ให้รุ่นน้องไปแกะแบบ camber plates ที่ซื้อมาน่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเสร็จะเมื่อไหร่เหมือนกัน

ถามเพิ่มเติมหน่อยครับพี่ต่อ ผมหา camshaft spec ของเครื่อง M42 ไม่ได้เลย อยากได้แบบละเอียดหน่อยตามนี้เลยครับ
ex open BBDC
ex close ATDC
in open BTDC
in close ABDC

พอจะทราบบ้างหรือเปล่าครับ จะเอาไปลองคำณวนท่อ primary น่ะครับ

จำบ่ได้ เดี๋ยวต้องไปเปิดตำราดูก่อนนะ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 14, 2010, 08:28:49 am
ถ้าจะโมกันถึงขนาดนั้น standard spec คงเอาไม่อยู่ (ของ std อยู่ราวๆ 7 องศา BTDC/33 องศา ATDC - Intake)
ลองเอา 258/228 กับ 264/240 องศาไปคำนวณดีกว่าครับ

รายละเอียดตามรูป อันนี้เป็นสเปกของ Metric Mechanic เขา
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 14, 2010, 08:34:12 am
หากใช้ 264 องศา เข้าใจว่าเขาแนะนำให้ใช้ solid lifter แทน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: unun on October 15, 2010, 07:49:38 am
ขอบคุณครับพี่ แต่ผมคงใช้แคมเดิมเป็นแน่แท้ น่าจะเหมาะกับ FI มากกว่าครับ
แต่เท่าที่สืบค้นมาก็ไกล้ๆเคียงๆกับที่พี่ให้มาครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 20, 2010, 08:17:37 am
BMW Motorsport Director Mario Theissen comments:The entire team at BMW Motorsport is approaching this exciting project with absolute commitment. We began making technical preparations following our declaration of intent in April, and established parameters for a high-performance vehicle concept for deployment in the DTM..."
ตื่นตาตื่นใจที่จะได้เห็น BMW Motorsport ใน DTM อีกครั้ง หลังจากหายไปเกือบ 20 ปี
หน้าตาจะออกมาไฮเทคเหมือนฟ้ากับดินเมื่อเทียบกับตัวแข่ง DTM ตัวสุดท้ายในปี 1992
แต่อาจจะเป็นเรื่องเศร้าที่จะไม่ได้เห็น BMW Works Team ใน WTCC อีกต่อไป
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 20, 2010, 08:23:19 am
ปีที่แล้วไปยืนมองเจ้าตัวนี้และภาวนาว่ามันคงไม่เป็นอนุสาวรีย์ของ BMW ใน DTM ไปตลอดกาล
สุดท้ายแล้ว BMW กำลังจะกลับมาจริงๆ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 20, 2010, 08:47:26 am
แต่......เราจะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้อีกต่อไปแล้วจริงๆหรือ?

F1 จากไป, WTCC จากไป.....DTM กับ WRC (ภายใต้ Prodrive's Mini Countryman) กลับเข้ามา
....เท่าทุนพอดี...
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Modd on October 22, 2010, 05:05:38 pm
มีใครตอบผมได้ ไหม ว่า รถจ่ายกับข้าวที่ขับกันอยู่ทุกวันนี้ เวลา รอบเดินเบา ค่า a/f มันมีค่าเท่าไรถ้ามีคนตอบถูกผมจะอธิบายต่อ แต่ถ้าไม่ถูก ผมจะไม่คุยต่อนะครับ  ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มาตอบแทน   อธิบายต่อนิด ว่า ความไวของหัวlamda  มันไวมาก การอ่านของมัน ไม่เพี้ยนหลอก การจับค่าไอเสีย เราจับรวม ทุกสูบนะครับ ไม่ได้จับสูบใดสูบหนึ่ง  บางช่วงที่ มัน lap กัน หัว  lamda  มันไม่ได้จับ ไอเสียอย่างเดียว  รอบเดินเบา มันห่าง บางช่วง ไม่มีการจุดระเบิด มันก้อจับ เอาอากาศมาแจ้ง มันก้อเลยบอกว่า lean     ผมขอถามกลับว่า  lean   มันดีหรือไม่ดีอย่างไรหรือครับ ช่วงอธิบายให้ฟังบ้างสิหวังว่าคงเข้าใจนะครับ ผมตอบตรงไปหน่อย แต่นี่คือความจริง 
ที่เคยเห็นรถเพื่อน Yaris เดินเบา AF อยู่ประมาณ 14.7-15.4  แจ๊สอยู่ประมาณ 14.7-15.3 นะครับ  เดิมๆทั้งคู่ก่อนที่เค้าจะเริ่มจูนกล่องพ่วง ยังไงช่วยอธิบายเป็นความรู้ต่อด้วยครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 22, 2010, 07:11:59 pm
มาอธิบายต่อก็ดีครับ เพราะเป็นอันเข้าใจกันโดยทั่วไปว่าเครื่องยนต์ที่ใช้แกสโซลีน (ปกติ) เป็นเชื้อเพลิงจะมี Stoichiometric air-fuel ratios อยู่ที่ 14.7:1

มีกรณีใดบ้างที่ค่าของมันจะแตกต่างไปจากนั้น
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 24, 2010, 08:24:53 pm
มีใครตอบผมได้ ไหม ว่า รถจ่ายกับข้าวที่ขับกันอยู่ทุกวันนี้ เวลา รอบเดินเบา ค่า a/f มันมีค่าเท่าไรถ้ามีคนตอบถูกผมจะอธิบายต่อ แต่ถ้าไม่ถูก ผมจะไม่คุยต่อนะครับ  ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มาตอบแทน   อธิบายต่อนิด ว่า ความไวของหัวlamda  มันไวมาก การอ่านของมัน ไม่เพี้ยนหลอก การจับค่าไอเสีย เราจับรวม ทุกสูบนะครับ ไม่ได้จับสูบใดสูบหนึ่ง  บางช่วงที่ มัน lap กัน หัว  lamda  มันไม่ได้จับ ไอเสียอย่างเดียว  รอบเดินเบา มันห่าง บางช่วง ไม่มีการจุดระเบิด มันก้อจับ เอาอากาศมาแจ้ง มันก้อเลยบอกว่า lean     ผมขอถามกลับว่า  lean   มันดีหรือไม่ดีอย่างไรหรือครับ ช่วงอธิบายให้ฟังบ้างสิหวังว่าคงเข้าใจนะครับ ผมตอบตรงไปหน่อย แต่นี่คือความจริง 
ที่เคยเห็นรถเพื่อน Yaris เดินเบา AF อยู่ประมาณ 14.7-15.4  แจ๊สอยู่ประมาณ 14.7-15.3 นะครับ  เดิมๆทั้งคู่ก่อนที่เค้าจะเริ่มจูนกล่องพ่วง ยังไงช่วยอธิบายเป็นความรู้ต่อด้วยครับ

     มาทำความเข้าใจ กับคำว่ารอบเดินเบา หมายถึง การที่เครื่องไม่มีภาระ ติดเครื่องอยู่เฉยๆ ลิ้นปีกผีเสื้อ ปิด บางทีก้อเปิดแอร์ เปนเวลาอย่างน้อย 5-10นาที และลิ้นเร่งมอเตอร์เดินเบาปิดสนิท วัดรอบทีปรากฏน่าจะประมาณ 800  rpm. นั่นคือสิ่งที่ผมหมายถึงคำว่ารอบเดินเบา ตัวเลข a/f ที่บอกมา มีให้เห็น แน่ แต่ไม่ใช่รอบเดินเบาที่ผมหมายถึง   ลองหา a/f  meter  ที่น่าเชื่อถือแล้วไปวัด ดู แล้วมาบอกผมใหม่ ว่าวัดได้เท่าไร แล้วมาแจ้งใหม่นะครับ  หวังว่าคงไม่ยากเกินไปนะครับ  แล้วจะได้พบคำตอบ ว่าสิ่งที่เห็นมันไม่ได้ เป็นอย่างที่คิด     
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 24, 2010, 09:17:50 pm
ขอมาตอบให้ละกันนะครับ ไม่งั้นคงต้องรออีกนานกว่าจะได้คำตอบ

ตัวเลข 14.7 นั่นคือตัวเลขอ้างอิงที่เขาคำนวณมาแล้วว่านั่นคืออัตราส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดของของเครื่องยนต์ที่ใช้แกสโซลีนเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งในการใช้งานจริงมันอาจจะน้อยกว่านั้น หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพการทำงานของเครืองยนต์ทั้งตอนที่ไม่มี load (idle) หรือตอนที่มี load ในระดับต่างๆกัน รวมไปถึงระดับการประจุอากาศเข้าสู่กระบอกสูบของเครื่องยนต์ชนิดนั้นๆด้วย (เช่นองศาของแคมชาร์ฟ) ฯลฯ

ลองอ่านอันนี้ดูครับ http://autospeed.com/cms/title_Tuning-AirFuel-Ratios/A_1595/article.html (http://autospeed.com/cms/title_Tuning-AirFuel-Ratios/A_1595/article.html) ผมดูแล้วน่าจะเป็นการสรุปที่ค่อนข้างกระชับที่พอจะให้เห็นภาพกว้่างๆขององค์ประกอบต่างๆที่มีผลต่อ A/F ratio ถึงจะไม่ละเอียดมากแต่ก็พอเป็นไอเดียได้สำหรับ user ที่ต้องการเริ่มศึกษาเรื่องนี้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 24, 2010, 09:28:43 pm
ย้อนกลับไปที่เจ้า Alpha N ตอนนี้ยังเหลือ parameter อีกหนึ่งตัวที่ยังไม่ได้ปรับ มันคือตัว air temp เซนเซอร์ ที่ฝังอยู่ที่ปากทางเข้าของเจ้า airbox ตัวนี้จะมาช่วย compensate การจ่ายน้ำมันให้อีกชั้นหนึ่ง ตอนนี้ค่า A/F ที่อ่านได้ใช้แค่ parameter จาก มุมของ throttle และ รอบเครื่องยนต์
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Modd on October 24, 2010, 10:25:48 pm
มีใครตอบผมได้ ไหม ว่า รถจ่ายกับข้าวที่ขับกันอยู่ทุกวันนี้ เวลา รอบเดินเบา ค่า a/f มันมีค่าเท่าไรถ้ามีคนตอบถูกผมจะอธิบายต่อ แต่ถ้าไม่ถูก ผมจะไม่คุยต่อนะครับ  ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มาตอบแทน   อธิบายต่อนิด ว่า ความไวของหัวlamda  มันไวมาก การอ่านของมัน ไม่เพี้ยนหลอก การจับค่าไอเสีย เราจับรวม ทุกสูบนะครับ ไม่ได้จับสูบใดสูบหนึ่ง  บางช่วงที่ มัน lap กัน หัว  lamda  มันไม่ได้จับ ไอเสียอย่างเดียว  รอบเดินเบา มันห่าง บางช่วง ไม่มีการจุดระเบิด มันก้อจับ เอาอากาศมาแจ้ง มันก้อเลยบอกว่า lean     ผมขอถามกลับว่า  lean   มันดีหรือไม่ดีอย่างไรหรือครับ ช่วงอธิบายให้ฟังบ้างสิหวังว่าคงเข้าใจนะครับ ผมตอบตรงไปหน่อย แต่นี่คือความจริง 
ที่เคยเห็นรถเพื่อน Yaris เดินเบา AF อยู่ประมาณ 14.7-15.4  แจ๊สอยู่ประมาณ 14.7-15.3 นะครับ  เดิมๆทั้งคู่ก่อนที่เค้าจะเริ่มจูนกล่องพ่วง ยังไงช่วยอธิบายเป็นความรู้ต่อด้วยครับ

     มาทำความเข้าใจ กับคำว่ารอบเดินเบา หมายถึง การที่เครื่องไม่มีภาระ ติดเครื่องอยู่เฉยๆ ลิ้นปีกผีเสื้อ ปิด บางทีก้อเปิดแอร์ เปนเวลาอย่างน้อย 5-10นาที และลิ้นเร่งมอเตอร์เดินเบาปิดสนิท วัดรอบทีปรากฏน่าจะประมาณ 800  rpm. นั่นคือสิ่งที่ผมหมายถึงคำว่ารอบเดินเบา ตัวเลข a/f ที่บอกมา มีให้เห็น แน่ แต่ไม่ใช่รอบเดินเบาที่ผมหมายถึง   ลองหา a/f  meter  ที่น่าเชื่อถือแล้วไปวัด ดู แล้วมาบอกผมใหม่ ว่าวัดได้เท่าไร แล้วมาแจ้งใหม่นะครับ  หวังว่าคงไม่ยากเกินไปนะครับ  แล้วจะได้พบคำตอบ ว่าสิ่งที่เห็นมันไม่ได้ เป็นอย่างที่คิด     
มาทำความเข้าใจว่า ในวิดิโอที่โพสอยู่วินาทีที่ 30-40 ที่รถเดินเบา เป็นช่วงที่คนขับเหยียบคลัช รถจอด รุ้สึกคันนี้จะไม่มีแอร์ และคันเร่งปิดสนิท  ทำไม AF ถึงอยุ่ประมาณ 17-18  น้ำมันไม่บางไปหรอครับ ตามที่เคบได้ยิน น่าจะอยู่แถวๆ 14.7  ไม่ได้สงสัยตอนวิ่งครับ ตอนวิ่งแล้วยกคันเร่งน้ำมันบางเป็นเรื่องปกติ  ที่อยากทราบคือทำไมเครื่องตัวนี้เดินเบาบางจัง ช่วยอธิบายที ผมไม่มี AF มาวัดหรอกครับ  :grin: 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: caution69 on October 25, 2010, 02:30:43 am
ติดตามอ่านกระทู้นี้มานาน
ขอ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้
และขอเป็นกำลังใจให้ทำรถออกมาสมบูรณ์ๆ
 \^^/ \^^/ \^^/ \^^/ \^^/ \^^/
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:04:56 am
มีใครตอบผมได้ ไหม ว่า รถจ่ายกับข้าวที่ขับกันอยู่ทุกวันนี้ เวลา รอบเดินเบา ค่า a/f มันมีค่าเท่าไรถ้ามีคนตอบถูกผมจะอธิบายต่อ แต่ถ้าไม่ถูก ผมจะไม่คุยต่อนะครับ  ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วย ที่มาตอบแทน   อธิบายต่อนิด ว่า ความไวของหัวlamda  มันไวมาก การอ่านของมัน ไม่เพี้ยนหลอก การจับค่าไอเสีย เราจับรวม ทุกสูบนะครับ ไม่ได้จับสูบใดสูบหนึ่ง  บางช่วงที่ มัน lap กัน หัว  lamda  มันไม่ได้จับ ไอเสียอย่างเดียว  รอบเดินเบา มันห่าง บางช่วง ไม่มีการจุดระเบิด มันก้อจับ เอาอากาศมาแจ้ง มันก้อเลยบอกว่า lean     ผมขอถามกลับว่า  lean   มันดีหรือไม่ดีอย่างไรหรือครับ ช่วงอธิบายให้ฟังบ้างสิหวังว่าคงเข้าใจนะครับ ผมตอบตรงไปหน่อย แต่นี่คือความจริง 
ที่เคยเห็นรถเพื่อน Yaris เดินเบา AF อยู่ประมาณ 14.7-15.4  แจ๊สอยู่ประมาณ 14.7-15.3 นะครับ  เดิมๆทั้งคู่ก่อนที่เค้าจะเริ่มจูนกล่องพ่วง ยังไงช่วยอธิบายเป็นความรู้ต่อด้วยครับ

     มาทำความเข้าใจ กับคำว่ารอบเดินเบา หมายถึง การที่เครื่องไม่มีภาระ ติดเครื่องอยู่เฉยๆ ลิ้นปีกผีเสื้อ ปิด บางทีก้อเปิดแอร์ เปนเวลาอย่างน้อย 5-10นาที และลิ้นเร่งมอเตอร์เดินเบาปิดสนิท วัดรอบทีปรากฏน่าจะประมาณ 800  rpm. นั่นคือสิ่งที่ผมหมายถึงคำว่ารอบเดินเบา ตัวเลข a/f ที่บอกมา มีให้เห็น แน่ แต่ไม่ใช่รอบเดินเบาที่ผมหมายถึง   ลองหา a/f  meter  ที่น่าเชื่อถือแล้วไปวัด ดู แล้วมาบอกผมใหม่ ว่าวัดได้เท่าไร แล้วมาแจ้งใหม่นะครับ  หวังว่าคงไม่ยากเกินไปนะครับ  แล้วจะได้พบคำตอบ ว่าสิ่งที่เห็นมันไม่ได้ เป็นอย่างที่คิด     
มาทำความเข้าใจว่า ในวิดิโอที่โพสอยู่วินาทีที่ 30-40 ที่รถเดินเบา เป็นช่วงที่คนขับเหยียบคลัช รถจอด รุ้สึกคันนี้จะไม่มีแอร์ และคันเร่งปิดสนิท  ทำไม AF ถึงอยุ่ประมาณ 17-18  น้ำมันไม่บางไปหรอครับ ตามที่เคบได้ยิน น่าจะอยู่แถวๆ 14.7  ไม่ได้สงสัยตอนวิ่งครับ ตอนวิ่งแล้วยกคันเร่งน้ำมันบางเป็นเรื่องปกติ  ที่อยากทราบคือทำไมเครื่องตัวนี้เดินเบาบางจัง ช่วยอธิบายที ผมไม่มี AF มาวัดหรอกครับ  :grin:   

ผมนึกไว้แล้วว่าจะต้องได้รับคำตอบแบบนี้  แล้วถ้าผมบอกว่า  a/f ที่กำลัง สงสัยกันอยู่ก้อคือ 1 : 20  บางคันถ้าเปนรุ่นใหม่ๆ  ได้ถึง 1: 21   จะมีใครเชื่อผมไหมก้อไม่เชื่ออยู่ดี  ผมถึงได้ให้ไปลองวัดไง ผมจะอธิบายแบบง่ายๆนะครับ เวลาคนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำงาน ร่างกายต้องออกแรงไหมครับ กล้ามเนื้อก้อไม่ต้องเกร็ง
พลังงานก้อไม่ต้องใช้  แถมถ้าไม่ได้ทำงาน อดข้าวก้อยังไหว  แต่ตอนยกของต้องออกแรง กล้ามเนื้อก้อเกร็ง ต้องใช้พลังงาน จากอาหาร ที่กิน ก้อคือใช้พลังงานเหมือนเครื่องยนต์  พอทำงานมากๆ  มีความร้อนสะสมมากๆ ก้อมีเหงื่อออกมาระบาย  เหมือนเครื่องยนต์มีหม้อน้ำระบายความร้อน พูดง่ายๆก้อคือ จ่ายน้ำมันตามความจำเป็น  แล้วที่ผมถามว่าบางนั้นมันไม่ดีอย่างไร บางแล้วประหยัดน้ำมันไม่ดีเหรอครับ หรือบางแล้วความร้อนมันขึ้น แล้วมันขึ้นหรือยัง ก้อยังเห็นวิ่งดีอยู่เหมือนคนกลัวผี ถามว่ามีใครเคยเห็นบ้าง เขาว่าทั้งนั้น ครับสิ่งที่เห็นไม่เป็นอย่างที่คิดทั้งนั้น  ถ้าอยากเห็นจริงๆว่างๆมานั่งวัดด้วยกันก้อได้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:23:57 am
 :coolsmiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:24:53 am
 \^^/ \^^/
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:26:13 am
 :a_smiley: :a_smiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:27:21 am
 (8-) (8-)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:28:56 am
 :a_smiley: :a_smiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:31:36 am
 :a_smiley: :a_smiley:   บางกว่า 1:20
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 25, 2010, 06:36:14 am
ขอจบแค่นี้นะครับไม่อธิบายต่อแล้วขอบคุณ  รถ honda ดูไมล์เอาว่าวิ่งมาเท่าไหร่คงไม่เก่าเหมือน m40  ที่วิ่งมา เเปดหมื่นกว่านะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on October 29, 2010, 10:32:50 pm
ได้เข้าไปอ่าน link ใน thaidriver http://thaidriver.com/2010/othernews/PDF_files/85_siriboon.pdf (http://thaidriver.com/2010/othernews/PDF_files/85_siriboon.pdf) 
ตามที่คุณ columbus ได้แนะนำเอาไว้
 
พบว่า  อ.ศิริบูรณ์ให้ความเห็นว่า
 
1. อัตราส่วนผสมที่เผาใหม้ดีสุด  หมดจดที่สุด 14.7
2. อัตราส่วนผสมที่น่าจะให้แรงม้าสูงที่สุด 12.5 
สองอย่างนี้ ผมเข้าใจว่าการจูนรถที่เน้นเอาแรงเข้าว่า  น่าจะออกมาทางฝั่งส่วนผสม rich มากกว่า
 
*** และพออ่านต่อไป  อาจารย์อธิบายว่า   ที่รอบเดินเบา  ลิ้นปีกผีเสื้อแทบจะปิดสนิท  ทีอากาศไหลเข้าได้เล็กน้อย
เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันคงที่  ทำให้อัตราส่วนผสม ณ รอบเดินเบา  น่าจะ rich เอามากๆๆ   
 
 
>>> ผมอ่านแล้วอาจจะเข้าใจอะไรผิด  ใครรู้เรื่องวานแก้ไขให้ผมด้วย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ae on October 29, 2010, 10:53:56 pm
วาย ตอบผิดกระทู้  :buck2:   &v& 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 30, 2010, 05:55:19 am
เห้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเหนื่อย    :idiot2: :idiot2: :idiot2: :idiot2:
งานบางแสน มานั่งคุยกันดีกว่ามั้ย ขอชวนท่านที่สนใจมาร่วมเสวนากันก้อดีนะครับ  หวังว่าคงสนุกดี
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 30, 2010, 08:55:34 am
เอ้า....ดี...เดี๋ยวบางแสนมาเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้กัน น่าจะสนุก

กลับมาที่อีดำของผมหลังจากห่างเหินไปนาน

สองสามวันก่อนจะลองติดเครื่อง ปรากฏว่าท่อน้ำมันจากถังดันเปื่อยเสียอีกน้ำมันไหลโกรก (ไม่ได้ขี้เหนียวน้ำมัน แต่กลัวไฟไหม้บ้าน) วันรุ่งขึ้นก็จัดแจงเปลี่ยนใหม่ ทีนี้แห้งสนิท หลังจากสตาร์ทยาวๆสี่ห้าทีให้น้ำมันเข้ามาเต็มระบบเครื่องก็ติดโดยไม่มีอิดเอื้อน แต่ดังเหมือนใครเอาโซ่ไปลากบนหลังคาสังกะสี ติดเอาไว้ห้านาทีเลยพอก่อน ขี้เกียจควักเงินราวๆเกือบครึ่งแสนไปซื้อกลไกกดโซ่มาเปลี่ยนใหม่  แต่เดาเอาไว้ว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก มันอาจจะมีแค่ air trap อยู่ในกลไกกดโซ่ของมัน ไล่ลมออกก็น่าจะหาย

วันนี้อากาศดีมากจนอารมณ์ดีนึกอยากจะมือเลอะ เลยจัดแจงไล่ลมเจ้าตัวกดโซ่มันเสียหน่อย ขั้นตอนไม่มีอะไรมาก ใน manual เขาก็บอกให้ทำแบบนี้ ส่วนใครจะมีเทคนิคอื่นๆก็เชิญตามอัธยาศัยขอเพียงให้น้ำมันเครื่องมันเข้าไปอยู่เต็มกระบอกโดยไม่มีอากาศอยู่ในนั้นก็เป็นพอ

ผมเลือกทำตาม manual ไม่มีอะไรมาก คลายน๊อตที่ปลายกระบอกมันออกนิดนึงแล้วเอาน้ำมันเครื่องอัดเข้าไปจนมันล้นทะลักออกมา ขันน๊อตปิดกลับเข้าไปก็เป็นอันเสร็จพิธี หนึ่งนาทีเสร็จ แต่ผมใช้เวลาสามนาทีเพราะมัวแต่เล็งกล้องถ่ายภาพเอามาอวดให้ดู
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 30, 2010, 09:06:39 am
สตาร์ทเปรี้ยงเดียวติด กลไกโซ่ดังแก๊กๆๆแก้เขินหลังจากรู้ว่าผมจับไต๋ได้พอเป็นพิธีอยู่ราวห้าวินาที แล้วก็เงียบสนิท
ปรับกระเดื่อง/สายคันเร่งนิดนึง หมุน ICV อีกหน่อย ก็เดินเรียบส่งเสียงกระแทกกระทั้นที่คุ้นหูตามระเบียบที่ควรจะเป็นของ S14 ที่ดี (แปลว่าอะไรวะ) แต่ผมว่าเครื่อง S14 ตัวก่อนของผมมันหนักหน่วงกว่านี้มาก แต่อย่างว่าตัวนั้นมัน build ใหม่ทั้งตัว ตัวนี้แค่เปลี่ยนแหวนบดวาล์วเฉยๆ ที่เห็นควันพวยพุ่งอยู่นั่นไม่ต้องตกใจ สีที่พ่นเอาไว้ที่เฮดเดอร์มันไหม้ เดี๋ยวพอมันไหม้หมดก็จะหายไปเอง (แล้วจะพ่นเอาไว้ทำไมวะ  %:( ) และควันที่ปลายท่อนั่นน่าจะเป็นน้ำมันที่ค้างอยู่ในเครื่องตอนประกอบ

ว่าจะปรับแวคคั่มที่ throttle body มันเสียหน่อยแต่หาท่อยางไม่เจอ ไม่รู้ไปเก็บเอาไว้ที่ไหน เอาไว้วันหลังละกัน วันนี้วันเสาร์เหมาะแก่การไปขี่มอเตอร์ไซค์ในป่ามากกว่ามานั่งมือเลอะอยู่ในโรงรถ โบราณเค้าถือ  :a_laugh:

2 nd S14 first start (http://www.youtube.com/watch?v=F5JFkx_MSm4#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 30, 2010, 09:15:55 am
Have a nice weekend!!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on October 30, 2010, 09:49:24 am
 ได้เข้าไปอ่าน link ใน thaidriver http://thaidriver.com/2010/othernews/PDF_files/85_siriboon.pdf[/] (http://thaidriver.com/2010/othernews/PDF_files/85_siriboon.pdf) 
ตามที่คุณ columbus ได้แนะนำเอาไว้
 
พบว่า  อ.ศิริบูรณ์ให้ความเห็นว่า
 
1. อัตราส่วนผสมที่เผาใหม้ดีสุด  หมดจดที่สุด 14.7
2. อัตราส่วนผสมที่น่าจะให้แรงม้าสูงที่สุด 12.5 
สองอย่างนี้ ผมเข้าใจว่าการจูนรถที่เน้นเอาแรงเข้าว่า  น่าจะออกมาทางฝั่งส่วนผสม rich มากกว่า
 
*** และพออ่านต่อไป  อาจารย์อธิบายว่า   ที่รอบเดินเบา  ลิ้นปีกผีเสื้อแทบจะปิดสนิท  ทีอากาศไหลเข้าได้เล็กน้อย
เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันคงที่  ทำให้อัตราส่วนผสม ณ รอบเดินเบา  น่าจะ rich เอามากๆๆ   
 
 
>>> ผมอ่านแล้วอาจจะเข้าใจอะไรผิด  ใครรู้เรื่องวานแก้ไขให้ผมด้วย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Modd on October 30, 2010, 05:21:54 pm
วันก่อนเจอเื่ืพื่อนของเพื่อนที่เป็นจูนเนอร์เลยขอให้เค้าลองวัดดูกับแจ๊สปี 2008 เดิมสนิท วัดโดยแหย่เข้าปลายท่อเหมือนกัน ไม่รุ้ว่า AF ยี่ห้อนี้แม่นรึป่าว   :rolleyes: รถเดินเบาจอแสดงอยู่ 0.99  หน่วยเป็นแลมด้า เพื่อนบอกว่าให้เทียบได้โดยคุณ 14.7 0.99 x 14.7 = AF14.55 ครับ  รถพึ่งวิ่งมาจอด อุณหภูมิร้อนได้ที่แล้ว ทั้งปิดแอร์เิปิดแอร์ อยู่ที่ 0.99 ตลอดครับผมตั้งข้อสังเกตุว่า AF ยี่ห้อนี้  อาจจะความแม่นยำสู้ของคุณ Columbus ไม่ได้
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 01:03:39 am
อืม...ชักน่าสนใจ หากใครมาอธิบาย ช่วยเพิ่มเติมประเด็นว่า การวัดก่อน KATและหลัง KAT (ที่ปลายท่อ) มันให้ผลแตกต่างกันอย่างไร? และการวัดที่หลัง KAT มันจะได้ค่าเป็น Stoichiometric เสมอไปหรือไม่ ถึงแม้ไอเสียจริงที่พ่นออกมาจากกระบอกสูบมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น?

แต่ดูจากรถ Honda ที่เอามาวัดทั้งสองค่าย (HKS และ Motec) ก็น่าจะยังมี KAT อยู่ทั้งสองคัน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: siam911 on October 31, 2010, 07:20:35 am
อืม...ชักน่าสนใจ หากใครมาอธิบาย ช่วยเพิ่มเติมประเด็นว่า การวัดก่อน KATและหลัง KAT (ที่ปลายท่อ) มันให้ผลแตกต่างกันอย่างไร? และการวัดที่หลัง KAT มันจะได้ค่าเป็น Stoichiometric เสมอไปหรือไม่ ถึงแม้ไอเสียจริงที่พ่นออกมาจากกระบอกสูบมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น?

แต่ดูจากรถ Honda ที่เอามาวัดทั้งสองค่าย (HKS และ Motec) ก็น่าจะยังมี KAT อยู่ทั้งสองคัน

ปรกติผมวัดเพื่อจูนรถที่ทำเครื่องแรงๆนั้นผมเจาะรูฝังO2senserที่ท่อไอเสียห่างจากจุดร่วมเฮดเดอร์ประมาณหนึ่งฟุต นั้นหมายถึงรถซิ่งซึ่งไม่ต้องใช้แคทนะครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 08:56:11 am
อืม...ชักน่าสนใจ หากใครมาอธิบาย ช่วยเพิ่มเติมประเด็นว่า การวัดก่อน KATและหลัง KAT (ที่ปลายท่อ) มันให้ผลแตกต่างกันอย่างไร? และการวัดที่หลัง KAT มันจะได้ค่าเป็น Stoichiometric เสมอไปหรือไม่ ถึงแม้ไอเสียจริงที่พ่นออกมาจากกระบอกสูบมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น?

แต่ดูจากรถ Honda ที่เอามาวัดทั้งสองค่าย (HKS และ Motec) ก็น่าจะยังมี KAT อยู่ทั้งสองคัน

ปรกติผมวัดเพื่อจูนรถที่ทำเครื่องแรงๆนั้นผมเจาะรูฝังO2senserที่ท่อไอเสียห่างจากจุดร่วมเฮดเดอร์ประมาณหนึ่งฟุต นั้นหมายถึงรถซิ่งซึ่งไม่ต้องใช้แคทนะครับ

นั่นนะสิครับ ตอนจูนคันโน้นก็เสียบเข้าไปที่รู O2 เซนเซอร์เดิมตรงแถวๆเฮดเดอร์เหมือนกัน ซึ่งมันน่าจะเป็นแบบนั้น
แต่สงสัยว่าหากมี KAT (ที่ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้) แล้วไปวัดที่ปลายท่อมันจะทำให้ค่า A/F เป็น Stoichiometric เสมอไปหรือไม่
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 11:29:06 am
มาว่ากันที่ปากทางตอนที่อากาศมันเข้าไปผสมกับน้ำมันก่อนที่จะพ่นออกมาเป็น A/F ที่กำลังเสวนากันก่อน
เพราะถ้า junk in มันก็ junk out

วันนี้หาท่อยางเจอ เลยจัดการปรับแวคคั่มที่ throttle body มันก่อน
ได้ออกมาตามนั้น หมุนไปหมุนมา สูบนี้ขึ้นสูบโน้นลง พอเท่ากันรอบดันขึ้นไปสูงอีก วางเกจ์ไปหยิบไขควงหมุน ICV ลดรอบลงมา แล้วกลับมาวัดใหม่ หมุนไปหมุนมาอีกสามสิบนาที ทุกสูบไปจบที่ 34 เท่าๆกัน

ป.ล บางคนเคยถามผมว่าแล้วจุดเริ่มวัดครั้งแรก ไอ้เจ้า air valve นั่นมันควรจะอยู่ตรงไหน เปิดสุด? ปิดสุด?
เป็นคำถามที่ดีมาก ใน manual ก็ไม่ได้บอกไว้ แต่จากการถามผู้เชี่ยวชาญในเยอรมัน เขาบอกว่า หมุนปิดสุดแล้วคลายออกมา 1 1/2 รอบ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on October 31, 2010, 11:46:10 am
วัดที่ปลายท่อมันจะทำให้ค่า A/F เป็น Stoichiometric เสมอไปหรือไม่


A เริ่มจากเรื่องติดWideBand O2 ก่อนหรือหลัง Cat ก่อน  ตัว WB อาศัยความร้อนมาทำให้อยู่
ในอุณหภูมิทำงาน  ถ้าอยู่ใกล้ก็ร้อนและทำงานได้ไวและแม่นกว่า  ถ้าอยู่ปลายท่อก็นานกว่าจะร้อนถึง
อุณหภูมิทำงานและค่าไม่เสถียร  เมื่อเทียบกับอยู่ต้นๆ 

B ทีนี้ต่อมา  Cat ทำงานโดยการ
1 แตก NOx เป็น    NO2 และ  O2
2 เอา O2 จากข้อ1  มาเปลี่ยน CO ในไอเสียให้เป็น CO2
3 เอา O2  จากข้อ1  มาเปลี่ยน HCO ในไอเสียให้เป็น H20 และ CO2

>> ผลคือหน้าที่ของ cat คือการผลิต O2 ตามข้อ 1 และช่วยกำจัดสารที่อันตราย CO และ HCO ออกจากบรรยากาศ   
    ตาม 2 และ 3
 
ดังนั้น  ผมสรุปเอง  ว่าถ้าเอา A และ B มารวมกัน  การติด Wideband O2 ที่ปลายท่อนั้น  ยังไงก็ lean กว่าเดิม   ค่า Stoich ก็ต้องสูงกว่า 14.7 แน่นอน
 
ติดตั้งตำแหน่งแบบพี่ siam911 หน่ะแม่นที่สุดแล้วครับ

[/]
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 06:15:30 pm
Mission Impossible เตรียมพร้อมสำหรับ Bangsaen Speed Festival?
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 06:16:48 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 06:21:16 pm
มีทุกอย่างตั้งแต่เครื่องสารพัด Version, แคมสารพัดองศา , ข้อเหวี่ยง, airbox, ลูกสูบ, วาล์ว, เกียร์ ฯลฯ แต่ไม่มีตัวนี้  :a_laugh:
นั่งประดิดประดอยให้สุดกำลัง หวังว่าอี FINA จะได้ไปโลดแล่นในบางแสนได้ทัน  "v"
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 31, 2010, 06:24:28 pm
ตอนบ่ายช่างมาเก็บสายไฟ ติดตั้งพัดลมไฟฟ้าให้
ตอนเย็นๆก่อนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้ยินเสียงอันน่าทึ่งของสายเลือด BMW Motorsport ในแบบที่ควรจะเป็น
ขอรันอินอีกสัก 24 ชั่ั่วโมงและรอช่วงล่างส่งมาจากเยอรมันแล้วจะพามันไปหาความสุขในสนาม

MVI 2535 (http://www.youtube.com/watch?v=STzLqjf2vSs#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Modd on October 31, 2010, 11:39:18 pm
เพื่อนส่งมาให้ เป็นบทควาทที่ Motec อธิบายถึงเรื่อง AF หน้า CAT และหลัง CAT โดยตรง :good:
Re: Lambda Measurement after CAT

on Thu May 21, 2009 10:04 am
The narrow band sensor provides an output voltage corresponding to the quantity of oxygen in the exhaust relative to that in the atmosphere. An output voltage of 0.2 V represents a lean 0.8 V represents a rich mixture, one which is high in unburned fuel and low in remaining oxygen. At approximately 0.45 V the mixture is slightly lean but near to stoichiometric. The voltage produced by the sensor is not linear with respect to oxygen concentration, because of the way the sensor reacts with other components in the exhaust gas, which is ok for most automotive (gasoline) applications as the sensor is most sensitive near the stoichiometric point and less sensitive when either very lean or very rich, but useless when tuning a race engine or where very lean mixtures are used (e.g. Diesels).

The wideband sensor operation is completely different. It is based on a zirconia cell and incorporates an electrochemical gas pump. An electronic circuit loop controls the gas pump current to pump enough oxygen in to (or out of) the measurement cell to keep the output of the electrochemical cell constant. The the pump current directly indicates the oxygen content of the exhaust gas. We then apply a table (Lambda Characteristic Table) to this to translate this in to a Lambda value. Because the pump current is fairly linear as a function of oxygen content we are able to get acurate Lambda readings over a very wide range.

The limitation with any lambda sensor is that, because they rely on O2 measurement to detrmine Lambda (Air Fuel Ratio), they are reliant on “complete” combustion. For example if an engine is running at Lambda 1 the Lambda sensor will measure this ok but if the engine then missfires the Lambda sensor will give a lean reading. The Air-Fuel ratio has not changed but the fuel hasn’t ignited so there is an excess of oxygen in the exhaust. There is also excess un-burnt fuel in the exhaust but the Lambda Sensor can not detect this so it just reads lean. Similarly, as stated in the previous post, a lambda sensor voltage on a narrow band sensor will be lower on a sensor mounted downstream of a functioning catalyst. This is because the catalyst operation uses oxygen the lambda sees this as a richer mixture even though (of course) the air-fuel ratio has not changed.


MoTeC Research Centre
Melbourne, Australia.


*Note: PLM คือ Motec AF meter ครับ
เพื่อนบอกว่าการวัดปลายท่อ ปกติจะมี adapter ใส่ไปในปลายท่อ เืืืืืื่พื่อกันอากาศไหลย้อนเข้าท่อไอเสียเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง
แต่มีหรือไม่มี adapter จะไม่มีผลกับ AF ที่รอบเดินเบาครับ



Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 01, 2010, 08:13:51 am
เพื่อนส่งมาให้ เป็นบทควาทที่ Motec อธิบายถึงเรื่อง AF หน้า CAT และหลัง CAT โดยตรง :good:
Re: Lambda Measurement after CAT

on Thu May 21, 2009 10:04 am
The narrow band sensor provides an output voltage corresponding to the quantity of oxygen in the exhaust relative to that in the atmosphere. An output voltage of 0.2 V represents a lean 0.8 V represents a rich mixture, one which is high in unburned fuel and low in remaining oxygen. At approximately 0.45 V the mixture is slightly lean but near to stoichiometric. The voltage produced by the sensor is not linear with respect to oxygen concentration, because of the way the sensor reacts with other components in the exhaust gas, which is ok for most automotive (gasoline) applications as the sensor is most sensitive near the stoichiometric point and less sensitive when either very lean or very rich, but useless when tuning a race engine or where very lean mixtures are used (e.g. Diesels).

The wideband sensor operation is completely different. It is based on a zirconia cell and incorporates an electrochemical gas pump. An electronic circuit loop controls the gas pump current to pump enough oxygen in to (or out of) the measurement cell to keep the output of the electrochemical cell constant. The the pump current directly indicates the oxygen content of the exhaust gas. We then apply a table (Lambda Characteristic Table) to this to translate this in to a Lambda value. Because the pump current is fairly linear as a function of oxygen content we are able to get acurate Lambda readings over a very wide range.

The limitation with any lambda sensor is that, because they rely on O2 measurement to detrmine Lambda (Air Fuel Ratio), they are reliant on “complete” combustion. For example if an engine is running at Lambda 1 the Lambda sensor will measure this ok butif the engine then missfires the Lambda sensor will give a lean reading. The Air-Fuel ratio has not changed but the fuel hasn’t ignited so there is an excess of oxygen in the exhaust. There is also excess un-burnt fuel in the exhaust but the Lambda Sensor can not detect this so it just reads lean. [/]Similarly, as stated in the previous post, a lambda sensor voltage on a narrow band sensor will be lower on a sensor mounted downstream of a functioning catalyst. This is because the catalyst operation uses oxygen the lambda sees this as a richer mixture even though (of course) the air-fuel ratio has not changed.


MoTeC Research Centre
Melbourne, Australia.


*Note: PLM คือ Motec AF meter ครับ
เพื่อนบอกว่าการวัดปลายท่อ ปกติจะมี adapter ใส่ไปในปลายท่อ เืืืืืื่พื่อกันอากาศไหลย้อนเข้าท่อไอเสียเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง
แต่มีหรือไม่มี adapter จะไม่มีผลกับ AF ที่รอบเดินเบาครับ

[/]




ที่ขีดเส้นใต้นั่นน่าสนใจมากครับ  :good:

ที่คอมเมนท์ข้างล่างเรื่องอากาศย้อน นั่นคือเหตุผลที่ผมเชื่อมาตลอดว่าถึงแม้รถแข่งก็ควรจะต้องมีหม้อพักท้าย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 01, 2010, 09:09:07 am
ก่อนไปทำงานสตาร์ทเครื่องรันอินเอาไว้สักหน่อย

stoichiometric ?
I'm happy with that !

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 01, 2010, 09:15:08 am
ตำราพูดเอาไว้ถูกเสมอ

3 rd run in (http://www.youtube.com/watch?v=gTh1rHLQi-s#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 03, 2010, 10:12:17 pm
ตัดภาพกลับมาที่การเตรียมความพร้อมสู้บางแสนของทีม คนแก่เรซซิ่ง

เมื่อวานเจ้าของรถขนเอารถขึ้นมา วันนี้ผมเลยไปประกอบ ITB อันใหม่พร้อม Intake Insulator อันใหม่ของมันเข้าไปให้ (ขอบคุณคุณชาติอีกครั้งสำหรับการให้ยืมเจ้า Insulator ใหม่เอี่ยมมาใช้ก่อน)

รถแข่งเหมือนก๋วยเตี๋ยว ทำเอาไว้ก่อนนานๆมันกินไม่อร่อยหรืออาจจะบูดเน่า ต้องทำเอาวันใกล้ๆถึงจะดี  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 03, 2010, 10:14:39 pm
ยืนคลำอยู่ราวหนึ่งชั่วโมงเศษๆก็เสร็จเรียบร้อย (ขอบคุณหนุ่ม ASC สำหรับสถานที่)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 03, 2010, 10:19:50 pm
ปรับนิดจูนหน่อยตามจินตนาการของผมเองไปสักพัก ได้ออกมาราวๆนี้
แต่ยังไงก็คงต้องไปให้มือจูนกล่องมืออาชีพเขาจัดการอีกทีครับ อย่างมาหวังลมๆแล้งๆอะไรกับผมเลย  :a_laugh:

เหลือแค่ช่วงล่างกับยางก็น่าจะยกไปสนามได้แล้ว

MVI 2543 (http://www.youtube.com/watch?v=-qRKK4UGqUA#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 03, 2010, 10:29:41 pm
 :good: 
 
did the owner has a good time at SAC?  :wink:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 03, 2010, 10:39:27 pm
:good:   
 
did the owner has a good time at SAC?  :wink:

Nah, the owner was in the woods at home. Tomorrow is his turn to come to take the car to the suspension shop.

D#mn, it's SAC, not ASC? Sorry about that.  :a_laugh:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 04, 2010, 08:04:26 am
ตัดภาพกลับมาที่รถของเพื่อนคนหนึ่งที่นิวซีแลนด์ที่เคยเขียนถึงนานมาแล้ว เขา restore เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นตัวแข่ง SuperTouring แท้ๆที่ทำมาจาก Schnitzer ลงแข่งหลายแห่งในยุโรปและเอเซีย และครั้งหนึ่งเคยอยู่ในเมืองไทย น่าจะเป็นคันที่ขับโดย Charles Kwan/Three Crowns Racing (เบอร์ 11) ก่อนเพื่อนผมคนนี้จะซื้อไป

สวยงามมาก ในภาพเป็นงาน Lady Wigram Trackday เขาส่ง link มาให้ดู รถที่เหมือนในแมกกาซีนที่เราเคยเห็นสมัยก่อนนั่นคือตัวแข่งสมัยนั้นแท้ๆ ตัวแข่ง SuperTouring ทั้งสามคันเป็นของแท้ทั้งหมด

บ้านเราคงสิ้นหวัง เอาเป็นว่า replica พอให้เหมือนๆก็ยังดี เป็นสีสันของการแข่งขันดี

http://www.flickr.com/photos/warwickrobinson/sets/72157625271247270/ (http://www.flickr.com/photos/warwickrobinson/sets/72157625271247270/)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:19:29 pm
นิดๆหน่อยๆในวันควอลิฟายด์
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:22:32 pm
ผมชอบสไตล์ BMW Art Car คันนี้มาก
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:25:21 pm
ไม่ค่อยมีสมาธิถ่ายสักเท่าไหร่
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:27:37 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:38:08 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:40:45 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:43:03 pm
เวรี่...เวรี่...ฟาสต์

กริด นัมเบอร์ วัน ออฟ 2000+ คลาส
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:47:29 pm
กริด นัมเบอร์ ทู
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:49:48 pm
แอนด์........กริด นัมเบอร์ ทรี

That's the way [aha..aha..] I like it [aha..aha..]

KC & The Band- That's the way i like it. (http://www.youtube.com/watch?v=-zu0p7xWLoU#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 13, 2010, 10:55:06 pm
พรุ่งนี้คงจะน่าตื่นเต้นที่จะได้ลุ้นว่าม้า (เติม "S") เยอรมันจาก Munich จะรับมือกับม้า (ล่ำๆ) จาก Stuttgart ชาติเดียวกันได้หรือไม่
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 15, 2010, 08:48:21 am
สามปีของเดินทางที่ผ่านความยากลำบาก กับสามอาทิตย์ก่อนตัดสินใจนำมันลงสนามถ้าความสำเร็จ (ที่ตั้งเอาไว้) คือ 100% ภาพที่เห็นอยู่นี้คือ 50% สุดท้ายที่เหลือหากเขาเรียกผมว่า "ผู้จัดการทีม" ก็ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังของรถคันนี้ทุกคัน....จากใจ
Bangsaen 2010 (http://www.youtube.com/watch?v=fcB99SmN3YA#)




และขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกท่านด้วยครับ  w^w
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: ท่านขุน on November 15, 2010, 10:45:11 am
เร็วมากๆๆ   :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on November 15, 2010, 03:06:38 pm
สามปีของเดินทางที่ผ่านความยากลำบาก กับสามอาทิตย์ก่อนตัดสินใจนำมันลงสนามถ้าความสำเร็จ (ที่ตั้งเอาไว้) คือ 100% ภาพที่เห็นอยู่นี้คือ 50% สุดท้ายที่เหลือหากเขาเรียกผมว่า "ผู้จัดการทีม" ก็ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังของรถคันนี้ทุกคัน....จากใจ
Bangsaen 2010 (http://www.youtube.com/watch?v=fcB99SmN3YA#)




และขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกท่านด้วยครับ  w^w

ยินดีด้วยครับ สำหรับความสำเร็จ  ทั้งถ้วยรางวัล และ ความพยายาม  แล้วปีหน้าผู้จัดการ จะเปลี่ยนมาเป็นนักแข่งแล้วไม่ใช่เหรอ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 15, 2010, 06:20:56 pm
ถ้าโมโตครอสไม่แย่งความรักไปจากผมทั้งหมด ก็ตั้งใจเอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมมีความสุขกับการโลดแล่นไปป่าเขาและต้นไม้ที่ยืนสงบเงียบมากกว่า



หลังจากที่เคยนั่งโม้เรื่อง M3 ให้ชาวบ้านเขาฟังมาหลายปี ในวันนั้นผมได้มีโอกาสได้เห็นและพิสูจน์สมรรถนะความเยี่ยมยอดของระบบอากาศพลศาสตร์ที่ BMW Motorsport ซ่อนเอาไว้ในตัวมัน ที่พวกเขามักพููดอยู่เสมอว่ามันคือสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าพละกำลังจากเครื่องยนต์อันทรงพลังที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขาในยุค 80-90 

มันทำงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ! เราคิดถูกที่ใช้ล้อ 17" และไม่ทำให้ช่วงล่างของมันเตี้ยและแข็งไปกว่านั้น

วันหลังจะมาเขียนรายละเอียดให้ฟังครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 16, 2010, 02:52:20 am
Congratulation to both of you especially Pu Yai Baan krub. Finally you had chance to drive what you'd been waiting & paid for  :good:
any podium picture?
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 16, 2010, 11:22:11 am

any podium picture?

credit ภาพ www.modernbug.com (http://www.modernbug.com)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: lomonza on November 17, 2010, 01:46:55 am
 :grin: :grin: :grin:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: lomonza on November 17, 2010, 01:48:21 am
 :grin: :grin: :grin:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 17, 2010, 08:08:56 am
เพื่อนผู้ที่เป็นทั้ง supplier, ผู้ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือสารพัดที่เยอรมันฝากคำยินดีมา

เขาเห็น clip แล้วบอกว่าทำไมสนามมันแคบน่ากลัวจังเลย แหงล่ะ..มันจะไปใหญ่โตเหมือนสนามที่กั้นภูเขาทั้งลูกแข่งกันอย่าง Nurburgring ของยูได้อย่างไร

วันหลังถ้า Jochen Krumbach ว่างช่วยมาเทสรถให้หน่อย เดี๋ยวจ่ายค่าที่พักให้เอง  :a_laugh:

Onboard BMW E30 M3 J.Krumbach RCN 3 2010 (http://www.youtube.com/watch?v=2so44aMp90g#ws)

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 21, 2010, 10:24:58 pm
หลังจาก Bangsaen Speed Festival ผ่านไปเมื่อวีคก่อน วีคนี้ไปโผล่ที่ Macau ใน Macau GP ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามของรายการ FIA WTCC ซึ่งเป็นสนามแบบ street circuit เหมือนบางแสนของเรา แต่เขามีอะไรที่แตกต่างจากของเราเป็นอย่างมาก ถึงขนาด FIA มา sanction ให้ ก็อย่างว่าละนะ เขาจัดมาตั้ง 57 ปีแล้ว

ตั้งใจไปเชียร์ Andy Priaulx แห่ง BMW Motorsport เป็นการเฉพาะ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 21, 2010, 10:35:08 pm
ถึงจะเป็นถนน แต่ไฮสปีดสุดๆ
หามุมยืนให้ดีๆ เล็งให้พอดีกับตอนที่รถเช็ด apex แล้ววิ่งตรงดิ่งมาที่ตัวเราก่อนหักเลี้ยวเฉียดเราไปสองเมตร เสียงปานฟ้าผ่าตัวแข่ง Porsche GT3 (ในรุ่นการแข่งขันรุ่น GT) และลมที่อัดเข้ามาตอนวิ่งผ่านเราไปแค่สองเมตร พร้อมเสียงที่สะเทือนตั้งแต่พื้นดินที่ฝ่าเท้าขึ้นไปถึงทรวงอกเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 21, 2010, 10:35:55 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 21, 2010, 10:45:35 pm
เหมือน Andy Priaulx จะรู้ว่าผมมาเชียร์ เลยอัดเข้ากับกำแพงที่อยู่ห่างจากตัวผมไปแค่ 2-3 เมตรโชว์ให้ดูต่อหน่าต่อตา
ผมมองไม่เห็นว่าเขาตาเหลือกหรือเปล่า แต่หวังว่าเขาคงมองไม่เห็นผมตาเหลือกยืนถือกล้องมือสั่นอยู่นั่น

เหตุการณ์เกิดขึ้่นในราว 5-10 วินาทีแรกของการแข่งขัน หลังจาก re-start ใหม่ Andy Priaulx เอารถกลับออกมาได้อีกครั้งหนึ่ง

Macau Grand Prix 2010 Andy Priaulx Crashed (http://www.youtube.com/watch?v=IdgJuM920dA#)

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 21, 2010, 10:56:14 pm
Andy Priaulx หมายเลข 11 จากทีมแข่งโรงงานของ BMW

ถึงแม้ปีหน้าจะไม่ได้เห็น BMW ใน WTCC แต่หวังว่าคงจะได้เห็น Priaulx ไปโลดแล่นอยู่ใน DTM (หรือเปล่า?)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 21, 2010, 10:57:46 pm
Augusto Farfus เพื่อร่วมทีมหมายเลข 10
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: rikuta on November 21, 2010, 11:06:23 pm
ผมจะไส่ลิ้งค์ แต่ทำไมมันไม่ขึ้นครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 22, 2010, 05:21:26 am
More More :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 08:15:02 am
ทำไม error box "operation is not allowed" มันขึ้นตลอดเลยแฮะ  %:(
 
 
 ผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ใน clip ข้างต้น เละใช้ได้เลย แต่คนขับปลอดภัยเดินออกมาสนามบนขาสองข้างของตนเอง
 ผู้คนปรบมือให้กำลังใจลั่นสนาม
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 08:22:14 am
อีกหนึ่งขุนศึกบน BMW : Franz Engstler ถึงแม้จะเป็น privateer ไม่ใช่นักแข่งของ BMW works team แต่ก็ขับได้ดุเดือดไม่แพ้กัน
ถ้าจำไม่ผิดเขาเคยมาที่พีระบ้านเราด้วย
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 08:27:58 am
Sister car อีกคันหนึ่งของทีม Liqui Moly Team Engstler: Adrei Romanov
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 08:41:29 am
พระเอกของปี 2010: Yvan Muller และ Rob Huff
BMW จะอยู่ใน WTCC ต่อหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะพวกเขามี SEAT ให้กังวลใจมากกว่า
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 11:13:51 am
ภาพของ BMW Motorsport ใน WTCC ในศตวรรษที่ 21
พยายามจิตนาการภาพ Roberto Ravaglia/Jochim Winkelhock/Steve Soper ฯลฯ ที่นี่เมื่อราว 20 ปีก่อน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 11:25:31 am
Colin Turkington อีกหนึ่ง BMW privateer
คะแนนสะสมเป็นที่ 10 ของปี
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 11:35:23 am
Sergio Hernandez อันดับหนึ่งในรุ่น Yokohama Independents' Trophy (วิ่งรวมอยู่ใน FIA WTCC)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 11:39:10 am
Franz Engstler ตามมาเป็นอันดับสองของ Yokohama Independents' Trophy
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 12:04:27 pm
พักเบรกเติมกระเพาะก่อน ตอนนั่งดูได้กลิ่นหอมของ burger ลอยตามลมมา อดไม่ได้ต้องไปเดินตามหาจนเจอ

ความสุขแบบง่ายๆ ในสนามที่มีรั้วคั่นบางๆระหว่างนักแข่งและคนดู ที่แต่ละด้านมีกำแพงที่มองไม่เห็นอีกชั้นหนึ่งที่ความหนาของมันขึ้นอยู่กับความหลงไหลในมอเตอร์สปอร์ตของคนดูและ "the will to win" ของนักแข่ง

ร้อนเสียจนต้องนั่งถอดเสื้อดู เห็นหมวยในชุด winter ครบชุดพร้อมท๊อปบู๊ตแล้วแปลกใจว่ามันหนาวอะไรกันนักกันหนา แต่ก็น่ารักดี
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 03:02:04 pm
สลับฉากมาดูรุ่น GT กันบ้าง สนามนี้ถ่ายภาพไม่มากเพราะรั้วเต็มไปหมดจนหามุม/โฟกัสไม่ถนัด เลยหนักไปทางวิดิโอแทน

เสียงของรถแข่ง GT ให้ความรู้สึกสุดยอดมาก ผมชอบเสียงของ Porsche GT3 และ Aston Martin เป็นพิเศษ มันกระแทกกระทั้นบอกไม่ถูก

Macau 2010 GT (http://www.youtube.com/watch?v=VFoAwI-KnS4#)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 03:09:36 pm
ขยันทำงาน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพให้ดี เผื่อวันนั้นจะมาถึง
เมื่อหลายปีก่อนแอบสัญญาอะไรบางอย่างไว้กับตัวเอง มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์แล้วหนึ่งคน
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 22, 2010, 03:17:47 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: grunweiBus on November 22, 2010, 05:30:45 pm
เมื่อวานเดินผ่านเชลฟ์หนังสือ เลยได้ CAR mag. ติดมือกลับบ้านมาด้วย
เป็นสกูปพิเศษเล่าตำนานความยิ่งใหญ่ของยนตรกรรมตราใบพัด
ชอบสำนวนคุณต่อมากครับ อ่านเพลินจริงๆ
แต่ผู้น้อยอย่างผมสงสัยนิดครับว่าทำไมไม่มีกล่าวถึงรถรุ่น 700 ไว้บ้างเลย??
 :good: :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 22, 2010, 11:46:08 pm
samo samo  :azn:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 22, 2010, 11:47:04 pm
 :smitten:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 22, 2010, 11:48:09 pm
like it
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on November 22, 2010, 11:49:13 pm
 :op
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 23, 2010, 08:34:28 am
เมื่อวานเดินผ่านเชลฟ์หนังสือ เลยได้ CAR mag. ติดมือกลับบ้านมาด้วย
เป็นสกูปพิเศษเล่าตำนานความยิ่งใหญ่ของยนตรกรรมตราใบพัด
ชอบสำนวนคุณต่อมากครับ อ่านเพลินจริงๆ
แต่ผู้น้อยอย่างผมสงสัยนิดครับว่าทำไมไม่มีกล่าวถึงรถรุ่น 700 ไว้บ้างเลย??
 :good: :good:

ขอบคุณที่ให้เกียรติติดตามครับ
แต่...เอ....BMW Special ฉบับไหน? เข้าใจว่าผมไม่ได้เขียนนะครับ  %:(
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 23, 2010, 08:36:26 am
เห็นรูปของ Niki แล้วอยากไปยุโรปจังวุ้ย มี event ให้ดูรถเจ๋งๆอยู่เรื่อยๆ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 23, 2010, 08:36:58 am
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: grunweiBus on November 23, 2010, 10:17:07 am
เมื่อวานเดินผ่านเชลฟ์หนังสือ เลยได้ CAR mag. ติดมือกลับบ้านมาด้วย
เป็นสกูปพิเศษเล่าตำนานความยิ่งใหญ่ของยนตรกรรมตราใบพัด
ชอบสำนวนคุณต่อมากครับ อ่านเพลินจริงๆ
แต่ผู้น้อยอย่างผมสงสัยนิดครับว่าทำไมไม่มีกล่าวถึงรถรุ่น 700 ไว้บ้างเลย??
 :good: :good:
ขอบคุณที่ให้เกียรติติดตามครับ
แต่...เอ....BMW Special ฉบับไหน? เข้าใจว่าผมไม่ได้เขียนนะครับ  %:(

เล่มนี้ครับ!! เห็นมี M3 E30 จากบ้านบางกอกไปร่วมขบวนกับ M3 อีก 3 เจเนอเรชั่น E36 / 46 /92

(http://www.magazinedee.com/images/549/11219/CARSPECIAL2010-11-001_00-001.jpg)
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 23, 2010, 10:35:15 am
เมื่อวานเดินผ่านเชลฟ์หนังสือ เลยได้ CAR mag. ติดมือกลับบ้านมาด้วย
เป็นสกูปพิเศษเล่าตำนานความยิ่งใหญ่ของยนตรกรรมตราใบพัด
ชอบสำนวนคุณต่อมากครับ อ่านเพลินจริงๆ
แต่ผู้น้อยอย่างผมสงสัยนิดครับว่าทำไมไม่มีกล่าวถึงรถรุ่น 700 ไว้บ้างเลย??
 :good: :good:
ขอบคุณที่ให้เกียรติติดตามครับ
แต่...เอ....BMW Special ฉบับไหน? เข้าใจว่าผมไม่ได้เขียนนะครับ  %:(

เล่มนี้ครับ!! เห็นมี M3 E30 จากบ้านบางกอกไปร่วมขบวนกับ M3 อีก 3 เจเนอเรชั่น E36 / 46 /92

(http://www.magazinedee.com/images/549/11219/CARSPECIAL2010-11-001_00-001.jpg)

ไอซี... น่าจะเป็นเรื่องเก่าของเมื่อต้นปีเอามารวมเล่มใหม่
ออกเร็วจัง เพิ่งคุยกับบรรณาธิการแกไปเมื่อเร็วๆนี้เอง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: caltech7777 on November 23, 2010, 10:51:37 am
 :good: :good: :good: :smitten: เพิ่งได้มาเหมือนกันครับ เนื้อหาเยี่ยมครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: tops on November 23, 2010, 04:02:08 pm
เพิ่งได้มาเหมือนกานครับ... :coolsmiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 24, 2010, 08:43:12 am
ขอบคุณแทน CAR ครับที่ช่วยอุดหนุน
 
 
 มาดูรูปกันต่อ
 Fredy Barth ที่สามของ WTCC Rookie Challenge (วิ่งรวมอยู่ในรายการหลักของ  FIA WTCC)  เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจที่สนับสนุนให้นักแข่ง/ทีมแข่งใหม่ๆก้าวเข้ามาใน WTCC  มากขึ้น ไม่งั้นมีแต่ทีมโรงงาน ใครชนะก็ชนะ (แมง) อยู่นั่นแหละ น่าเบื่อ
 
 จากการสังเกตุตามโค้งแคบๆ รถ hot hatch เล็กๆแบบนี้วิ่งได้เร็วมาก  แต่ปีหน้าไม่รู้จะหน้าเบื่อหรือเปล่า ได้อ่านกฏคร่าวๆแล้วเริ่มจะหาวนอน
http://argent.fia.com/web/fia-public.nsf/E7BD5F8737B9F304C12576900041726E/ (http://argent.fia.com/web/fia-public.nsf/E7BD5F8737B9F304C12576900041726E/)$FILE/263D%20%282010%29-031209.pdf

 มีอีก class หนึ่งเรียกว่า CTM ที่ใช้กฏ Super 2000 ด้วย คุณปิติ  ภิรมย์ภักดีแห่งทีม Singha ขนรถข้ามน้ำข้ามทะเลไปลงแข่งด้วยหนึ่งคัน  เห็นธงชาติไทยปลิวไสวอยู่ที่นั่นแล้วปลื้มใจ  :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 24, 2010, 10:12:03 pm
  มาอ่านเรื่องราวของเจ้า Macau GP กันบ้างดีกว่า ดูแต่รูปเฉยๆน่าเบื่อตายชัก ทีแรกผมตั้งใจว่าจะเขียนเป็นสกู๊ปลงให้กับ CAR แมกกาซีนเขา แต่ตอนไป ผมติดต่อไปทาง Yokohama หนึ่งในสปอนเซอร์ของรายการนี้เพื่อให้เขาจัดทำ Pit Pass หรือ Press Pass ให้จะได้ไปมีสิทธิ์เข้าไปใช้พื้นที่ที่เขาเตรียมเอาไว้สำหรับผู้สื่อข่าวช้าไปหน่อย ซึ่งเขาจะจัดเป็น stand ให้นักข่าวเป็นการเฉพาะโดยไม่ต้องมานั่งถ่ายรูปผ่านลูกกรงอย่างที่เห็นในรูปของผม ซึ่งหากจะเอารูปถ้วยๆแบบนี้ไปลงหนังสือก็ออกจะดูเป็นการเอาเปรียบผู้อ่านที่อุตส่าห์ควักเงินออกมาซื้อหนังสือมากเกินไป แต่ไหนๆก็เขียนร่างเอาไว้บางส่วนแล้วก็ถือโอกาสเอามาลงที่นี่ให้อ่านกันฟรีๆเลยเสียก็แล้วกัน


...


เป็นเรื่องแปลก ที่เวลาผมลงจากเครื่องบินหลังเที่ยงคืนมันจะต้องเป็นสถานที่แปลกๆไปเสียทุกครั้ง ครั้งแรกคือที่อลาสก้า และนี่เป็นครั้งที่สอง ที่ว่าแปลกเพราะผมแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย จะว่าไปผมไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าประเทศหรือเปล่าเสียด้วยซ้ำ ทุกสิ่งดูสับสนยุ่งเหยิง ความมีระเบียบปนอยู่ในความไม่มีระเบียบเหมือนไม้บรรทัดตรงดิ่งที่หล่นระเกะระกะอยู่บนพื้น ภาพอารยะธรรมตะวันตกเต็มรูปแบบที่ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษแทบจะไม่เป็นคำ หลังจากหงุดหงิดจากการโดนแซงคิวโดยหมวยกลุ่มใหญ่ที่หน้าช่องตรวจคนเข้าเมือง และโดยอาเจ็กที่ขนครอบครัวฝูงใหญ่กลับมาจากที่ไหนสักแห่งที่ท่ารอรถแท๊กซี่ในขณะที่คนอีกสองกลุ่มกำลังแหกปากทะเลาะแย่งรถแท๊กซี่คันข้างหน้ากัน ผมยืนหัวเราะกับตัวเองและบอกตัวเองว่าผมไม่จำเป็นต้องสนหรอกว่าคนหรือประเทศนี้จะเป็นอย่างไร อะไรที่จะเกิดขึ้นบนถนนในเมืองยาว 6.2 กิโลเมตรที่ถูกกั้นเป็นสนามแข่งที่เรียกว่า Guia Circuit ในวันพรุ่งนี้ตะหากคือสิ่งสำคัญสำหรับผมและมันคือวัตถุประสงค์หลักที่ผมมาที่นี่ในคืนนี้
Macau ในความแปลกของผมอีกอย่างก็คือมันเป็นสถานที่ที่ใช้จัดการแข่งขัน WTCC ที่ถือว่าเป็น F1 แห่งการแข่งขันรถทัวริ่ง คำถามที่ว่าประเทศเล็กๆที่มีทั้งประชากรรถและคนจำนวนจิ๊บจ้อยแค่นี้ทำสิ่งนี้ขึ้นมาได้อย่างไร? วนเวียนอยู่ในหัวของผมมาโดยตลอด
 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 26, 2010, 10:56:20 am
  สิ่งที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันทำให้ Macau มีวันนี้ก็เพราะการเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวโดยยึดมั่นในกฏมาตรฐานมาตลอด 57 ปี เส้นทางเดินอันยาวไกลนี้แบ่งออกเป็น 8 ยุค ยุคแรกเริ่มในปี 1964-1971 ซึ่งเรียกว่ายุค Production ต่อมาในปี 1972 จึงเปลี่ยนมาใช้กฏ Gr.4 และ Gr.5 ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มจะมีทีมแข่งนำรถแข่ง Gr.5 แรงๆในสมัยนั้นมาร่วมการแข่งขันอย่างเช่น Hans-Joachim Stuck และ Manfred Winkelhock/BMW 320i Turbo และ Helmut Greiner/Porsche Carrera RSR แข่งกันได้อยู่สิบปีจึงเปลี่ยนมาใช้กฏ Gr. A ตาม FIA ในปี 1983 ซึ่งยุค Gr.A ระหว่างปี 1983-1992 นี้โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการยกระดับสิ่งที่เรียกว่า Guia Race of Macau ให้ขยับเข้าใกล้การแข่งขันที่เป็นมาตรฐานอย่าง BTCC หรือ ETCC ในยุโรปมากขึ้น ในยุคนี้จะได้เห็นนักแข่งชื่อดังและตัวแข่งโรงงาน Gr.A แท้ๆอย่างเช่น BMW 635CSi (Hans-Joachim Stuck/Dieter Quester/Gerhard Berger), BMW M3 (Roberto Ravaglia/Alftfrid Heger/Joachim Winkelhock/Emanuele Pirro), Ford Sierra RS500 (Andy Rouse/Tim Harvey) โลดแล่นอยู่ในสนามเต็มไปหมด ทั้งๆที่มันเป็นเพียงการแข่งแค่ระดับแชมป์เปี้ยนชิพเท่านั้นเอง

ต่อมาปี 1992 Guia Race of Macau ได้เปลี่ยนมาใช้กฏ DTM ที่กำลังฮิตอยู่ยุโรปในตอนนั้นและนักแข่ง/ตัวแข่งดังๆอย่าง M3 Evolution และ MB 190E Evolution ก็ขนรถมาลงแข่งกันอีกเหมือนเช่นเคยจนกระทั่ง FIA ได้ยกเลิก Gr.A และเปลี่ยนมาใช้กฏ Super Touring ในปี 1994 Guia Race of Macau ก็ขยับกฏตามมาอีกครั้ง และเปลี่ยนเป็น Super Production (2000-2003) จากนั้น Super 2000 จนกระทั่งปี 2004

ในปี
2004 นี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมันจากการที่ FIA ได้เข้ามา sanction และขยับฐานะให้ Guia Race of Macau เป็นหนึ่งในสนามของ World Touring Car Championships ของโลก ส่วนหนึ่งของความสำเร็จครั้งต้องยกเครดิตให้กับ Sociedade de Turismo e Diversoes de Macau (STDM) ภายใต้การผลักดันของสแตนลีย์ โฮ ก็อดฟาเธอร์แห่งคาสิโนตะวันออก 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 26, 2010, 11:10:55 am
ภาพประกอบ: booklet ที่เขาแจกตอนซื้อบัตรเข้าชม ($250-$300 สำหรับ Grand Stand ที่อ่างเก็บน้ำ ส่วนที่ Lisboa Grand Stand $900 !!) บางแสนของเราทำแจกก็ดีเหมือนกัน ผมเหน็บมันไว้ที่กระเป๋าหลังเป็นลายแทงในการ "เดิน" ไปรอบๆสนาม

ในภาพบนเป็นภาพที่ถ่ายจากจุดวงกลมสีแดงเอาไว้ ที่เห็นตึกสีทองๆอยู่ไกลๆข้างหน้านั้นคือ Lisboa ตามที่วงกลมสีเหลือง ซึ่งจะเป็นจุดที่รถจะ U-turn ขึ้นไปบนถนนคดเคี้ยว (และแคบมาก) ที่อยู่บนเขา

Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on November 28, 2010, 08:10:23 am
  เจ็ดโมงเช้าเสียง wake up call ดังขึ้นตามที่สั่งเอาไว้ ผมลุกงัวเงียขึ้นไปเปิดม่านดูวิวด้วยความที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วตอนเช็คอินไม่ได้สนใจเลยว่าโรงแรมหน้าตามันเป็นอย่างไร ขึ้นเตียงแล้วนอนทันทีด้วยความง่วง ไม่กี่วันก่อนหน้านั้นผมเปิดอินเตอร์เน็ตกดมั่วๆดูพบว่าส่วนใหญ่มันเต็มหมดแล้วเหลือที่นี่แค่อันเดียวที่ราคาของมันนอนแล้วไม่เหมือนโดนปล้น โรงแรมเก่าๆโทรมๆแต่วิวสวยใช้ได้มองออกไปเห็นอ่าวกับสะพานข้ามไปเกาะ Taipa และเจ้าหอคอย Macau อยู่ตรงหน้าต่างพอดี ซึ่งหากเป็นโรงแรมสิบสองดาวในเมืองก็คงเห็นแต่ตึกที่คนห้องฝั่งตรงข้ามกำลังชะโงกหน้าออกมามองมาที่ผมอยู่เหมือนกัน อาบน้ำแต่งตัวลงไปนั่งรอรถกระสวย (shuttle bus) ที่วิ่งเข้าไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่รอบแรกตอนเก้าโมง 8.59.59 น. อาเจ็กคนขับเตรียมเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ อาเฮียสองคนโวยวายบอกว่าเพื่อนอีกคนยังไม่มาให้รอก่อน คนขับส่งเสียงล้งเล้งเป็นภาษาจีนแล้วชี้ไปที่นาฬิกาที่อยู่ในรถก่อนขับรถออกไป หมอนี่คงได้รางวัลคนขับรถเมล์ดีเด่นจากรัฐบาลจีนเมื่อปีที่แล้ว
  รถวิ่งเข้าไปในเมืองวนไปวนมาได้ราวสิบนาทีผู้โดยสารก็ทะยอยลงระหว่างทางเหลือแค่ผมกับคนขับ อาเจ็กหันหน้ามาปุจฉาผมเป็นภาษาจีนซึ่งผมเดาว่าคงจะถามผมว่าจะไปไหน ผมบอกว่าไปท่าเรือเฟอร์รี่ (เพราะ grand stand มันอยู่ที่นั่น) อาเจ็กทำหน้าไม่เข้าใจตอบเป็นภาษาจีนกลับมาอีกจำนวนหนึ่ง ผมจึงต้องใช้ภาษาสากล- จินตนาการผมยกสองมือกำไปข้างหน้าโยกไปโยกมาแล้วทำปากเสียงปรื้นๆๆ- ในขณะที่ตาเหลือบไปเห็นแผงรั้วกั้นสีเหลือง-ดำยาวเป็นทางอยู่ทางขวา เลยบอกให้แกจอดตรงนี้แหละ ปรากฏว่ามันตรงกับทางเข้า grand stand ที่ท่าเรือเฟอร์รี่พอดี หายสงสัยว่าทำไมเจ็กแกถึงถามว่าผมจะไปไหนเพราะตรงนี้มันสุดทางพอดี 
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on December 05, 2010, 11:42:54 pm
สลับฉากหน่อย

นี่น่าจะเป็นภาพที่สมบูรณ์ที่สุดของการพิสูจน์เทคโนโลยี่ Alpha-N ของ BMW Motorsport
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Niki on December 06, 2010, 12:18:30 am
 :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on December 09, 2010, 02:58:03 pm
Clearly showing how rear wing and front splitter work.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on December 09, 2010, 03:09:49 pm
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JOEcUSTOM on December 11, 2010, 02:20:09 am
 :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: dan K on January 26, 2011, 03:47:39 pm
 :good: "v" :good: "v"
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Power By NAT on February 02, 2011, 12:22:01 pm
ชอบกระทู้นี้ครับ  :good: :good: :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2011, 09:18:41 am
BOURNE ULTIMATUM: The Final Chapter

NO MORE !
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on September 29, 2011, 10:29:20 am
ว้าวๆๆๆ w^w
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: toonhyper on September 29, 2011, 11:30:54 am
หล่อมากๆ  :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on September 29, 2011, 12:30:35 pm
And...hope it will be a beautiful epilogue for the life time...
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: scoot2 on October 05, 2011, 05:10:58 pm
And...hope it will be a beautiful epilogue for the life time...

สวัสดีครับพี่ Flying Dutchman เห็นรถพี่ตัวจริงที่สนามพีระ แล้ว รถพี่สวยมากๆ ครับ......แต่ว่าไม่กล้าเดินเข้าไปทัก :grin: :grin:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 05, 2011, 05:16:10 pm
And...hope it will be a beautiful epilogue for the life time...

สวัสดีครับพี่ Flying Dutchman เห็นรถพี่ตัวจริงที่สนามพีระ แล้ว รถพี่สวยมากๆ ครับ......แต่ว่าไม่กล้าเดินเข้าไปทัก :grin: :grin:

วันหลังทักได้เลยครับ ยินดีที่จะได้มีเพื่อนคอเดียวกัน

บาย เดอะ เวย์ คันนี้ไม่ใช่รถผมครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: scoot2 on October 05, 2011, 05:28:33 pm
And...hope it will be a beautiful epilogue for the life time...

สวัสดีครับพี่ Flying Dutchman เห็นรถพี่ตัวจริงที่สนามพีระ แล้ว รถพี่สวยมากๆ ครับ......แต่ว่าไม่กล้าเดินเข้าไปทัก :grin: :grin:

วันหลังทักได้เลยครับ ยินดีที่จะได้มีเพื่อนคอเดียวกัน

บาย เดอะ เวย์ คันนี้ไม่ใช่รถผมครับ

ขอบคุณมากครับพี่ ไว้เข้าไปสอบถามพูดคุยเรื่องรถนะครับ  ....  &v& &v&
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: tu_three crowns on October 05, 2011, 05:46:26 pm
ขอบคุณสำหรับกระ่ทู้ดีๆ ที่เป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นที่เล่นBMWเหมือนกัน :a_smiley:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 07:59:23 am
ความสวยงามต้องยกเครดิตให้ RUSH STICKER
รวดเร็ว มืออาชีพ ส่ง file ไปให้ อีกสองวันตัดมาครบพร้อมติดตั้ง
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 08:10:11 am
และขอส่งท้ายการเดินทางอันยาวนานของรถคันนี้ด้วยรูปชุดนี้ครับ

ขอบคุณแฟนๆทุกท่านที่ติดตามชม  :-!
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: columbus on October 06, 2011, 08:15:04 am
และขอส่งท้ายการเดินทางอันยาวนานของรถคันนี้ด้วยรูปนี้ครับ

ขอบคุณแฟนๆทุกท่านที่ติดตามชม  :-!


ยินด้วยครับกับความสำเร็จ \^^/ \^^/ \^^/ \^^/ \^^/
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 08:19:04 am
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 08:22:24 am
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 08:26:13 am
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 08:31:11 am
.
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 08:37:22 am
RACING: THE WINNER MAY NOT BE THE ONE WHO CAN GO A LITTLE FASTER, BUT THE ONE WHO CAN STAY A LITTLE LONGER.








Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: kongkiet01 on October 06, 2011, 09:16:17 am
เห็นตัวจริงที่สนามพีระมาแล้วครับ เป็นรถแข่งที่สวยสะอาด เดินผ่านที่ไรต้องเหลียวมองทุกที  :good: :good: :good:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: scoot2 on October 06, 2011, 10:31:24 am
RACING: THE WINNER MAY NOT BE THE ONE WHO CAN GO A LITTLE FASTER, BUT THE ONE WHO CAN STAY A LITTLE LONGER.


หลังจากไปดูการแข่งขันบ่อยๆ แล้วคิดเหมือนกันเลยครับพี่ ....ผมคิดว่า .."รถที่แรงที่สุดหรือเร็วที่สุด อาจจะไม่ใช่รถที่ได้รับชัยชนะก็เป็นได้"  :good: :good:


เห็นตัวจริงที่สนามพีระมาแล้วครับ เป็นรถแข่งที่สวยสะอาด เดินผ่านที่ไรต้องเหลียวมองทุกที  :good: :good: :good:
พี่ Flying Dutchman พี่ user นี้แกชอบบอกผมว่ารถพี่สวยมากวิ่งดี ฮ่าๆๆ แต่ไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย  :grin: :grin:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on October 06, 2011, 01:02:04 pm
ทักทายได้ครับ ยินดี เหตุผลที่อยากมาสนามก็ตรงนี้แหละที่จะได้พบเพื่อนใหม่ๆ แข่งรถมันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเองแหละ  :a_laugh:
 
 ขอบคุณครับสำหรับคำชม วันควอลิฟายด์วันศุกร์รถวิ่งดีมาก (อาจจะเป็นตอนเย็นอากาศไม่ร้อนตับแลบ) .17 something ถือว่าดีมากๆสำหรับรถสเตปราวๆ Group N แบบนี้ที่ไม่ใช่ Full Race (สังเกตุดีๆ ที่ท้ายรถยังมีกล่องเครื่องมืออยู่เลย  :a_laugh: ) เครื่องยนต์เดินขึ้นไปถึง 8000 rpm ในแบบที่ควรจะเป็นและแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
 
 วันเสาร์/อาทิตย์แข่งสิบโมงกว่า อากาศร้อนมาก ปัญหาเรื่องเชื้อเพลิงร้อนก็ผุดขึ้นมา ทำให้เครื่องยนต์เดินไม่เต็มที่ที่รอบสูงเหมือนวันศุกร์ สะดุดเป็นช่วงๆที่รอบสูงเมื่อการแข่งขันผ่านไปได้ราวครึ่งทาง ซึ่งเป็นจุดที่เชื้อเพลิงเริ่มร้อนสูงสุด เมื่อก่อนไม่เคยเกิดเพราะเครื่องยนต์มันยังไม่เคยทำงานขึ้นไปถึงขีดสูงสุด ของมันแบบนี้ ซึ่งกลายเป็นปัญหายิ่งใหญ่สำหรับรถที่ power curve จาก 0-5000 rpm แทบจะไม่มีแรงบิดเลย ต้องลากขึ้นไปใช้รอบเรียกกำลังออกมาในช่วง 6500-8000 rpm แต่พอไปถึงจุดนั้นกลับเหี่ยวเอาดื้อๆ
 
 ก็แก้ไขกันไปตามสถานะการณ์อำนวย ประคับประคองจนสามารถวิ่งจนจบการแข่งขันได้
 
 แต่โดยรวมแล้วน่าพึงพอใจครับ
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: JORYOR on April 26, 2012, 05:01:24 pm
Spa 24h 1984~1992 Digest 1/5 (http://www.youtube.com/watch?v=SqkWdgptBX0#)














ฟังไม่รู้เรื่องแต่ดูแล้วมันดีครับ มี 5 ตอน รถสวยๆทั่งนั้น  :smitten:
Title: Re: BMW MOTORSPORT PIT STOP
Post by: Flying Dutchman on April 27, 2012, 08:04:16 am
เป็น clip ที่รวบรวมเอาไว้ได้ดีมากเลย เป็นรายการแข่งขันที่ Spa ช่วงปี 1984-1992
BMW เอาไปกิน 6 ใน 9 ครั้ง (635CSi สองครั้ง M3 สี่ครั้ง) ที่เหลือเป็น Jaguar XJS, Ford RS500, และ Skyline GT-R คนละครั้ง