อนุบาลใจทมิฬ
ด.ช. มานพ เด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลชาติหิน เป็นเด็กฉลาดหัวไวไร้มลทิน เป็นเด็กเรียนประจำห้อง อ.3/2 เพื่อนๆ ต่างนิยมในตัวมานพที่ยอมให้ลอกการบ้าน แต่ไม่รักสมองของมันเพราะทำให้ mean ของห้องสูงเกินไปจนสอบตกกันเกือบครึ่งห้อง ทั้งรักแหละทั้งเกลียด คุณครูก็ไม่รักเพราะคิดว่ามานพปีนเกลียวอวดฉลาด ถามอะไรก็ (เสือก) ตอบได้หมด จนครูอดเฉลยกันพอดี มานพเลยเป็นต้นแบบของเด็กเรียนดีทั่วไปในประเทศนี้ คือ ไม่ค่อยมีคนคบ มีแต่คนหมั่นไส้ หน้าตาเหมือนเด็กเนิร์ด เก็บกด ชอบเล่นว่าวอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ มันเก่ง ไม่รู้เล่นได้ไงไม่มีลมเลย
วันหนึ่งคุณครูถามมานพว่า ‘มานพ สัตว์อะไรที่ชอบอยู่กันฝูง ชอบแย่งอาหารของสัตว์อื่น เอามาแบ่งกันกิน ทำงานกันเป็นทีม’ มานพอมยิ้มอย่างไร้เดียงสาปนอวดรู้ ช่างน่ารักและน่ากระทืบในเวลาเดียวกันอย่างลงตัว แล้วตอบกลับไปว่า ‘นักการเมืองในบางประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขึ้นต้นด้วยตัว ท ทหาร ฮะ’ วันรุ่งขึ้นครอบครัวของมานพถูกผู้ใหญ่ใจดี อุ้มไปเที่ยวหายไปหมดทั้งบ้าน เหลือแต่มานพคนเดียวเพราะเล่นว่าวติดพันอยู่ที่ห้องน้ำโรงเรียน มานพจึงกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่นั้นมา
มานพมีเพื่อนสนิทอยู่คน ส้ม สาวเปรี้ยวรุ่นน้อง ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปว่าสองคนนี้สนิทกันได้อย่างไร รู้แต่ว่ามีอยู่วัน ส้มเกิดเปรี้ยวอยากลองเข้าห้องน้ำชาย แล้วบังเอิญมานพกำลังทำกิจกรรมพิเศษอยู่ในนั้นพอดี หายไปสักครู่ออกมาก็สนิทเลย จนมีข่าวลือต่างๆ นาๆ เวลานักข่าวสัมภาษณ์ส้มก็บอกว่าเป็นแค่พี่น้องกัน สนิทกัน ไม่มีอะไร คุยกันเฉยๆ พี่เค้านิสัยดี จะเป็นแฟนกันมั้ยเหรอ ก็ดูๆ อยู่ค่ะ ตอนนี้ก็เป็นพี่น้องไปก่อน แต่พี่ๆ อยากรู้กันไปทำไมคะ เอาเวลาไปกลั่นกรองข่าวหรือเขียนข่าวที่มันเจริญๆ ดีกว่ามั้ยค่ะ
โหน่ง เด็กเกเรอยู่ห้องเดียวกับมานพ เป็นอริกับมานพในทุกเรื่องยกเว้นเรื่องการบ้าน โหน่งชอบแกล้งเด็กเรียนอย่างมานพตามสูตรหนังไทยทั่วไป วันหนึ่งโหน่งแกล้งเอา BBของมานพไปซ่อน แต่โดนครูจับได้เพราะซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อตัวเอง เลยโดนครูทำโทษเบาะๆห้ามหายใจ 5 นาที เกือบตาย โทษฐานซ่อนแบบโง่ๆ เสียทีเป็นลูกศิษย์ครู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโหน่งประกาศก้องทั่วอนุบาล ว่าจะไม่บอก pin แต่ขอลอกการบ้านต่อไปเพื่ออนาคตของชาติ
เย็น หรือ อีเย็น ของเพื่อนๆ เป็นเด็กตัวดำๆ อ้วนๆ อยู่ อ. 3 หนัก 80 โล แต่เวรกรรมทำให้เป็นคนสายตาสั้น ต้องนั่งหน้าสุดของแถว เพื่อนๆ ที่นั่งต่อจากเย็นสอบตกหมดทั้งแถวเพราะไม่มีใครมองเห็นกระดานซักคน ไม่มีใครกล้าบอกครูด้วยเพราะกลัวโดนอีเย็นจับกินเพราะหาว่าตัวใหญ่ ตอนที่ครูพาทั้งห้องไปเที่ยวสวนสัตว์ เย็นโดนเพื่อนล้อตอนที่ผ่านกรงหมี หมู ควาย เมื่อมาถึงกรงลิงกอริลล่า โหน่งแกล้งตะโกนฟ้องครูว่า ‘ครูฮะ เย็นแอบเข้าไปนั่งเล่นในกรงครับ กร้ากกกกกก’ เย็นหันกลับมาตอบอย่างเยือกเย็นว่า ‘ก็แม่เธอนอนเล่นอยู่ข้างใน ชั้นก็จะเข้าไปไหว้ไง’ โหน่งไม่คุยกับใครอีกเลยในวันนั้น
มานพนั่งรถตู้ไปโรงเรียน ระหว่างทางโหน่งสังเกตุเห็นตำรวจซ่องสุมกำลังกันอยู่ริมถนน โหน่งจึงถามคนขับว่าตำรวจพวกนี้ทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่ไปทำงาน คนขับบอกว่า ตำรวจพวกนี้เป็นพวกจราจรจัด ต้องตระเวณทำงานไปตามที่ต่างๆ จนกว่าจะหมดเวรหมดกรรมเพราะชาติที่แล้วเกิดเป็นสุนัขแล้วเที่ยวไปโขมยของกินตามที่ต่างๆ
โหน่งเลยเปิดกระจกตะโกนออกไปว่า ‘คุณตำรวจฮับ ชาติที่แล้วดุมากใช่มั้ยฮับ ชาตินี้เลยต้องใส่ตะกร้อปิดปากตลอดเวลา แหม สีขาวซะด้วย ทันสมัยจัง’ คนขับรถตู้หมดสติไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
ส้มกับเย็นขึ้นรถไฟฟ้ากลับด้วยกันวันหนึ่ง แต่ไม่มีผู้ใหญ่ใจดีคนไหนลุกให้เด็กอนุบาลทั้ง 2 คนนั่งเลย เย็น (ซึ่งหนัก 80 โล) ส่งสายตาต่อว่าผู้ชาย 2 คนที่นั่งอยู่ด้วยกัน ผู้ชายคนนึงมองเย็นแล้วพูดขึ้นมาว่า ‘ไม่ต้องมองหรอกหนู ตัวขนาดหนูถ้าจะนั่งคงต้องลุกหมดทั้งแถวอ่ะนะ’ ด้วยความเคืองส้มตอบกลับไปว่า ‘ไม่เป็นหรอกจ้ะ หนูเข้าใจ น้านั่งไปเถอะนะ คนอย่างน้าหนูเห็นมาเยอะแล้ว ไม่เคยเสียสละ ตอนเด็กน้าคงลำบาก พ่อแม่ให้ยืนกิน ให้นอนซอกข้างตู้ ให้เดินข้ามอำเภอไปโรงเรียน หนูสงสาร น้าคงอยากสบายบ้างใช่มั้ยจ้ะ’
มานพ ส้ม และเย็น จับกลุ่มคุยกันเรื่อง AF ‘ชั้นว่า AF ปีหลังๆนี้ ชายหญิงดูกลมกลืนไปหมด แยกเพศไม่ออกเลยนะเนี่ย’ ‘ชั้นท่องสูตรคูณเพราะกว่าบางคนร้องซะอีก’ ‘พี่คนนั้นแต่งตัวอย่างกับจะไปงานล้างป่าช้าแหนะ บางคนก็ตรุษจีนยังไม่เสร็จ’ ‘คอมเม้นท์ไม่ได้เรื่องเลย เอาแต่ลามก ชั้นก็อยากขำนะแต่ไม่รู้จะเลือกตอนไหนดี’‘เต้นก็น่าสงสาร สะกดคำว่าจังหวะยังไม่เป็นเลยมั้ง มาเรียนพละฟ้อนรำกับเราก่อนดีกว่านะ’ ‘อาทิตย์หน้าไม่ดูดีกว่า เอานิ้วจิ้มปลั๊กไฟเล่นยังสนุกกว่าเลย’
มานพ ได้มีโอกาสเจอหมอดูคนดัง หมอ ‘ขลิบ confirm’ ได้ความสงสัยในหลายๆเรื่องมานพเลยถาม ‘น้าหมอดูดวงดาราแม่นจริงๆ เลยครับ ทำยังไงอะครับ’ ‘อ๋อ ก็อาศัยเปิด gossip star เอ้ย ไม่ใช่ๆ ก็มีวิชาที่เรียนมาน่ะสิ’ ‘แต่ท่าทางน้าหมอขลิบจะดูดวงตัวเองไม่เห็นเลยใช่มั้ยครับ’ ‘ดวงตัวเองนี่ยิ่งง่ายใหญ่เลย เราทำตัวเราเองอยู่แล้วนี่' ‘งั้นน้าหมอก็ดูไว้เลยสิฮะ ว่าจะโดนฟ้องอีกเมื่อไหร่ หรือจะแพ้คดีใครบ้าง ที่สำคัญนะฮะ มีดวงจะต้องกราบตีนใครต่อหน้าธารกำนัลอีกมั้ย จะได้เตรียมดอกไม้ธูปเทียนไว้เลยไงฮะ’