Wine : Chateau des Brumes - Le Prestige ไวน์ไทย รสละมุนแห่งวังน้ำเขียว สวัสดีครับ
กลับมาพบกันอีกเช่นเคยในคอลัมภ์ชวนชิม ชวนเที่ยว ต้องขอโทษที่ช่วงนี้ห่างหายไปนะครับ
คราวนี้หลายท่านอาจจะสงสัยว่างานนี้ทำไมผมถึงไม่แนะนำอาหารเหมือนเช่นเคย ครับ!คราวนี้ผมขอแนะนำไวน์ชั้นดีซักหนึ่งขวดให้ท่านที่สนใจได้ลองชิมดู
ต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้รู้เรื่องไวน์อะไรมากมายนัก ไม่ได้เป็นเซียนไวน์อะไรทั้งนั้น เผอิญได้มีโอกาสชิม ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังประมาณนั้น ผิดพลาดประการใดก็อย่าถือสาหาความกันเลยนะครับ
เมื่อวันศุกร์ที่31 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมานั้น ผมมีโอกาสได้รับบัตรเชิญให้เข้าไปร่วมในงาน Sommelier 2009 (งานแข่งขันนักบริการไวน์มืออาชีพ) ที่จัดขึ้นที่โรงแรมดุสิตธานี
งานนี้ความหมายก็คือ รายการแข่งขันนักบริการไวน์มืออาชีพ และ เป็นรายการเดียวที่ได้รับการรับรองโดยสมาคมซอมเมลิเย่ นานาชาติ นั่นเองครับ มีคนไทยเก่งๆหลายต่อหลายท่านครับ มีผู้หญิงได้รับรางวัลด้วย น่าดีใจนะครับที่คนไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก แม้กระทั่งเรื่องไวน์ เราก็มีผู้ชำนาญการอยู่เยอะแยะมากมาย
งานนี้นอกจากไฮไลท์คือการแข่งขันนักบริการไวน์มืออาชีพในบ้านเราแล้ว ตอนค่ำยังมีการจัดเลี้ยงและเปิดโอกาสให้มีการชิมไวน์อีกด้วย ซึ่งผมเองมีโอกาสดีที่เข้าไปร่วมงานนี้ด้วย นับเป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่ได้รับ ต้องขอขอบคุณพี่ขาว และ พี่นกยูง มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ไวน์ไทยที่ผมขอเล่าสู่กันฟังในวันนี้
ชื่อว่า Chateau des Brumes - Le Prestige ครับ
เป็นไวน์ไทยแห่งดินแดนวังน้ำเขียว
โดยส่วนตัวผมไม่เคยชิมไวน์ไทยยี่ห้อนี้มาก่อน แต่เคยชิมไวน์ไทยยี่ห้ออื่นละแวก เขาใหญ่ ตามบุคคลิกลักษณะของไวน์ไทยนั้น มักจะทำออกมาให้รสชาดดื่มง่าย ติดหวานซักนิด หรือ ที่ผมชอบเรียกเล่นๆว่า รสหวาน รับประทานง่าย นั่นเอง อาจจะหอมน้อย หรือ หอมมาก ก็ต้องแล้วแต่กรรมวิธี
สำหรับ Chateau des Brumes - Le Prestige ฉลากสีแดง ขวดนี้
แรกสัมผัสจากการดมกลิ่นนั้น ให้ความหอม รู้สึกเหมือนไวน์ฝรั่งเศส จำพวกไวน์ Bordeaux ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจให้ผมไม่น้อย เพราะน้อยขวดของไวน์ไทยที่จะให้คุณลักษณะแบบนี้ได้
จิบแรกที่ได้ลิ้มรสสัมผัส ผมขอยอมรับตามตรงว่า รสชาดนั้นออกจะเปรี้ยวๆ ไม่ถูกปากซักเท่าไหร่ เมื่อแก้วแรกผ่านไป ผมหันไปเล่าให้เพื่อนสนิทของผมฟังถึงรสชาดดังกล่าว แต่เพื่อนผมก็บอกว่า ให้ลองแก้วที่สองต่อไป
เป็นที่น่าประหลาดใจว่า พอแก้วที่สองผ่านไป รสชาดความเปรี้ยวที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็น ความนุ่มละมุนและอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างนี้ก็ต้องชิมต่อเป็นแก้วที่สามซิครับ
ความเห็นส่วนตัวของผมจากการชิม ผมคิดว่าถ้าได้ลองนำเข้าเก็บต่อในไวน์เซลล่าต่ออีกซักปี หรือ สองปี รสชาดน่าจะดีขึ้นกว่านี้อีก
แต่ที่แน่ๆ ไวน์ขวดนี้ไม่ได้มีรสชาดเพียงระนาบเดียบ หรือ รสชาดเดี่ยวๆ แบบที่ไวน์โลกใหม่บางตัวเป็น
รสชาดเป็นไวน์ที่มีทั้งความเปรี้ยวนิดๆ ฝาดหน่อยๆ นุ่ม ละมุนลิ้น ดื่มง่าย มีความเข้มจัดอยู่ในระดับแน่นทีเดียว เรียกว่า เป็นไวน์ที่มีรสชาดลึก มีหลายรสประกอบกัน ซับซ้อนชวนให้ค้นหา และ ดื่มแก้วต่อไป
ความหอมของไวน์ตัวนี้ ค่อนข้างดีครับ หอมนุ่มนวล หอมตลบอบอวนในปากนานพอดู ไม่ได้ละลายหายสูญไปโดยทันที
ที่สำคัญ ไวน์ตัวนี้ผมคิดว่า เป็นไวน์ที่เข้าคู่ได้ดีกับอาหาร โดยเฉพาะ อาหารไทย หรือ ชีส
ในงาน ผมได้ดื่มไวน์ตัวนี้แกล้มชีสและขนมปัง อร่อยจริงๆครับ
ผมมาคิดเมนูเล่นๆว่า ถ้าได้ "เนื้อย่าง จิ้มแจ่ว" แกล้ม ไวน์ขวดนี้ ท่าจะอร่อยเหาะทีเดียว
หลังจากชิมแก้วที่สามผ่านไปแล้ว เผอิญได้สนทนากับท่านผู้ผลิตไวน์ตัวนี้ ได้รับทราบมาว่า ท่านตั้งใจที่จะผลิตไวน์ตัวนี้ให้มีความโดดเด่นในระดับสากล และ มีรสชาดที่เรียกว่า เยี่ยม ลึก ชวนให้ค้นหา ไม่ใช่ประเภทแก้วเดียวจอด แก้วเดียวเลิก
เห็นความตั้งใจจริง การดูแลเอาใจใส่ และความทุ่มเทของผู้ผลิตแล้ว น่ายกย่องจริงๆครับ มิน่าถึงได้ไวน์อร่อยๆแบบนี้
ไวน์ Chateau des Brumes - Le Prestige ขวดนี้ เป็นไวน์ที่ผสมระหว่างองุ่น Shiraz และ Cabernet Sauvigon ในอัตราส่วน Shiraz 70% และ Cabernet Sauvigon 30%
หมักบ่มโดยใช้ยีสต์สายพันธุ์ฝรั่งเศส ในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศส นานกว่า 16 เดือน ในห้องมืดที่อุณหภูมิ 18 องศา
มิน่าเล่า ไวน์ตัวนี้ถึงได้มีรสชาดเหมือนไวน์ฝรั่งเศส ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เรียกว่า ดีกว่าไวน์ฝรั่งเศสบางยี่ห้อซะด้วยซ้ำไป
จริงๆแล้วผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้ยังมีอีกหลายตัวที่เยี่ยมยอดไม่แพ้กัน ที่ผมติดใจมากๆ ก็ยังมีอีกรุ่นหนึ่งนะครับ เอาไว้คราวหน้ามาเล่าให้ฟังดีกว่าครับ
เอาหละครับ เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว ขอตัวไปจิบไวน์แกล้มเนื้อเซอร์ลอยด์ย่างจิ้มแจ่วก่อนนะครับ อุตส่าห์คิดเมนูเด็ดๆแล้ว ก็เลยให้พรรคพวกไปจัดทำมาซะเลย
พรรคพวกกวักมือเรียกแล้วครับ ต้องขอตัวก่อนนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ แล้วพบกันใหม่ครับ