Author Topic: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories  (Read 10503 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เจ้าบ้านบางกอกฯ

  • If you love classic cars, you are my friend.
  • Administrator
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2005
  • Posts: 11,080
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:August 06, 2023, 02:03:15 pm
    • Bangkok Classiccar
My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« on: May 15, 2006, 02:45:38 pm »
เพื่อความบันเทิงและอรรถรสใน "วันรวมมิตรครั้งที่ 6 ครบรอบสองปีบางกอกคลาสสิคคาร์"
ในวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2549  หน้าปราสาทแดนเนรมิตรกลางกรุง
ผมเลยอยากเชิญชวนเพื่อน ๆ เตรียมตัวเตรียมข้อมูลของรถตัวเองมางานนี้สักหน่อย

ในงานนี้เราใช้ธีมงานว่า
"ชีวิตกับรถยนต์คลาสสิค : โลกในนิทานดินแดนเนรมิตร" ... "My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories"

ที่อยากเชิญชวนให้เพื่อน ๆ เตรียมก็คือ

1) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของท่านมากที่สุดเท่าที่จะมากได้  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายะละเอียด สมรรถนะของรถ ตลอดจนวิธีการได้มา รูปภาพระหว่างทำรถ หรือหนังสือที่เกี่ยวกับรถคันนั้น
    เอาให้ได้ข้อมูลแบบไปงานมอเตอร์โชว์ หรือจะมีพ่วงพริตตี้ประจำรถให้ข้อมูลไปด้วยก็ไม่ห้ามนะครับ
2) เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เช่นแหล่งอะไหล่ ประสบการณ์สนุก ๆ มันส์ ๆ หรือความยากลำบากที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากกับรถของตัวเอง
3) นิทานปรำปราเรื่องราวของรถยนต์ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในความฝันอยากให้เป็นหรือเรื่องจริงของรถก็แล้วแต่

เมื่อรวบรวมทั้งหมดได้แล้วก็นำติดตัวไปงานวันรวมมิตร
ในขั้นนี้ขอแค่นี้ก่อนโปรดติดตามกฎกติกามารยาทต่อไป
If you love classiccars, you're my friend

1950 Riley RMA
‘55 MB 190SL / 1968 W112 Coupe /W108 280SE /W116 450SEL
‘57 MGA
‘68 AR 105 Gt Junior / Giulietta’77
‘82 RR Corniche


MB W180/111/110/108/114
AR Giulia Super/Spider
BMW E30 (2)
Jag XJ S1
Porsche 924 /911E
VW Golf MKI Cabrio/Thing


www.facebook.com/groups/bangkokclassiccar

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #1 on: May 15, 2006, 03:57:35 pm »
ให้ทำบอร์ด present หรือ เป็น powerpoint ครับ  ;D
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline เจ้าบ้านบางกอกฯ

  • If you love classic cars, you are my friend.
  • Administrator
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2005
  • Posts: 11,080
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:August 06, 2023, 02:03:15 pm
    • Bangkok Classiccar
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #2 on: May 15, 2006, 03:59:29 pm »
ตามสะดวกเลยน้อง Free Bar เอ้ย ... Free Style อยู่แล้วครับ
If you love classiccars, you're my friend

1950 Riley RMA
‘55 MB 190SL / 1968 W112 Coupe /W108 280SE /W116 450SEL
‘57 MGA
‘68 AR 105 Gt Junior / Giulietta’77
‘82 RR Corniche


MB W180/111/110/108/114
AR Giulia Super/Spider
BMW E30 (2)
Jag XJ S1
Porsche 924 /911E
VW Golf MKI Cabrio/Thing


www.facebook.com/groups/bangkokclassiccar

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #3 on: May 15, 2006, 05:04:02 pm »
รถยังไม่เสร็จนี่ต้องเตรียมไปรึปล่าวครับพี่ กลัวผิดกติกา แหะๆๆ ;D

รถยังไม่เสร็จนี่เขาบอกว่ามีแค่ไหนให้เอาไปเท่านั้น  :grin: :tongue:
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #4 on: May 15, 2006, 07:37:04 pm »
ถ้าไม่เสร็จ ก็ลากมา แบกมา ถ่ายรูปมายืนยัน ถ่ายสำเนาทะเบียนรถ คัดลอกเลขตัวถัง

หาพยานผู้ซื้อ ผู้ขาย เจ้าของรถเก่ามายืนยัน เอาใบเสร็จทุกใบมาแจกแจง


ไม่งั้นจะไม่ให้ดื่มน้ำหล่อลื่นสังคมระหว่างงาน  :o

ขอแนะนำอย่าเอยถึง น้ำหล่อลื่นสังคม ให้มาก เพราะไอ้คลั่งตะบันเก็บ กล่าวโจมตีมาว่าพวกเราขี้เมา... %:(

โธ่..ก็เขามีเพื่อนคบก็ต้องมีเรื่องแบบนี้บางสิ. .. :>D

Offline Toey

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2005
  • Posts: 55
  • Gender: Male
  • Last Login:February 21, 2015, 09:00:55 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #5 on: May 16, 2006, 09:45:32 am »
 O0..

sonorsotha

  • Guest
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #6 on: May 23, 2006, 12:44:42 pm »
รูปเก็บไว้ใน notebook ที่อยู่ดีๆ hard disk นิ่งไปเฉยๆ กำลังหาทางกู้คืนอยู่ครับ เท่าที่ได้มาเหลือแต่ folder รถคนอื่น ของตัวเองหายเกลี้ยง

Offline jpomme

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: May 2006
  • Posts: 916
  • Gender: Female
  • Last Login:June 19, 2013, 11:09:27 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #7 on: May 27, 2006, 11:45:34 pm »
ไปกันกี่โมงคะ ?

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #8 on: May 28, 2006, 12:24:20 am »
คงไปไวเตรียมงานก่อน สักบ่ายสามบ่ายสี่ เพราะต้องถ่ายภาพหมู่ก่อนพระอาทิตย์ตก เลิกสักตีสามคับ

lima

  • Guest
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #9 on: May 30, 2006, 10:37:50 am »

            .....อูย....ตีสาม แล้วโรงแรมแถวนั้น แบบที่ไม่ต้องขับรถ ใช้เดินเอามีไหมครับ :><:    Z-Z

Dinky

  • Guest
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #10 on: May 30, 2006, 04:21:08 pm »


   เป็นงาน Meeting งานนึง ที่คิดว่าเวลาเลิกดึกมาก ตี 3 ...  w:)

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #11 on: May 31, 2006, 02:23:42 am »
เลิกไวสองครั้งเพราะ

๑.ที่สวนศิลป์ เนื่องจากงานจัดกลางวัน(BKCC#2)
๒.บ้านประกันรัก เลิกราวๆห้าทุ่ม เพราะต้องขับรถกลับระยะทางพอประมาณ (แต่งานเริ่มตั้งแต่แปดงโมงเช้านะ)

ครั้งหน้าคงต้องไปค้างคืนแน่

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #12 on: June 04, 2006, 07:19:41 am »
ตอนนี้ปัญหาของเรื่องMy Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories นั้นคือ ผู้เขียนไม่รู้จะเริ่มเรื่องเล่ายังไง ผมเองว่าต่างคนต่างแบบ ต่างคนต่างสไตล์ แนวใครแนวมัน

แต่เพื่อความเข้าใจผมขอนำร่องให้เป็นตัวอย่าง เออเกือบลืมบอกไป เรื่องดังกล่าวผมจะเก็บไว้เป็นสองส่วนคือ

"Snap My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories"คือการแอบเอาเรื่องมาจากในบอร์ด และแบบผู้ส่ง ตั้งใจส่งมาครับ

เอางั้นผมของเริ่มเลยนะครับ

สมมุตินามตามท้องเรื่องว่าผมเป็นเจ้าต่อแล้วกัน :-!

   O:Dชีวิตของผมตั้งแต่จำความได้ พ่อผมก็ขับรถแบบจิ๊กกาโล่เป็นหลัก  "v"ไม่ว่าจะตรางู ตราเฟียต มีตราดาวบ้าง บีเอ็ม วอลลโว่ แต่พ่อผมก็ยังชอบรถมักกะโรนีเสมอ

แต่จะด้วยสันดานพาลพาโลโฉเก ผมก็ชอบรถแบบพ่อ และขับรถโฉบเฉียวไฉไลตามพ่อไปด้วย

จนวันหนึ่งเป็นวันแรกที่ผมขึ้นครู ปกติพ่อจะเอาผมนั่งตักขับรถเวลาก่อนเข้าบ้าน มาวันนั้น พ่อลงไปซื้อบุหรี่ แล้วเจอเพื่อนเลยตบไปเบียร์ไปสองขวด

ผมนั่งรอให้รถตรางูที่ติดแอร์เย็นฉ่ำ...เครื่องติดอยู่ เอาว่ะลองดู อย่างมากก็โดนบ้อง

สมัยนั้นผมอยู่ม.สามหนักแปดสิบโล ใจเกินร้อย เพราะกินเอ็มร้อยเวลาท่องหนังสือ..ผมค่อยก้าวข้ามเบาะไปนั่งหลังพวงมาลัย..

" ว๊าว พวงมายน้องอัลช่างอวบอิ่มน่าลูบไล้ คันเร่งก็เต็มอุ้งเท้า..(ผมนึกถึงหน้าเพื่อนที่แอบขโมยกินลูกชิ้นของผมในชามก๋วยเตี๋ยวที่โรงเรียนอาหารเมื่อกลางวันเลยเผลอกดคันเร่งไปที)

บรื๊อ...  :o เวลาเกียร์ว่าง เสียงเครื่องสะเด่าโห้ดีแท้...

ผมหันไปบอกพ่อผม..ถ้าจะยาวว่ะ เพราะแกสั่งยำแหนมกับยำไข่แดงมา พลางวุ้นขวดที่สามก็ถูกรินอีก..
 :><:

ไหนๆก็ไหนๆ ผมจำวิธีการขับของพ่อได้ ลองดู ว่ะ ว่าเลยมือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของผมก็ค่อยๆปลดเบรกมือลง..เบาๆ ราวๆกับตอนรูดซิบกางเกงเวลาติดปลายจู๋ :P

เท้าซ้ายกดไปที่ครัช พลางนึกถึงไอ้หัวหัวรีดโต๊ะข้างหน้าที่ผมชอบแกล้งถีบมัน

เท้าขวาค่อยๆกดคันเร่งพลางผ่อนเท้าซ้าย ... ::)

..กึ๊ก...รถดับพลางกระตุกไปนิดหน่อย... :-\

"เอาไงว่ะ" เช็ดครก ตูจะรุ่งไหมเนี่ย ผมขยับแว่นหันไปมองพ่อ.. พ่อผมกำลังจิบวุ้นแกล้มแหนม อยากรส คงไม่ได้สังเกตหรือนึกถึงว่าผมจะกล้าในสิ่งที่พ่อนึกไม่ถึง..

"ไอ้อ้วนทำไรว่ะ" เสียงไอ้เปี๊ยก เด็กขายเรียงเบอร์แถวบ้าน เดินมาเกาะกระจกรถตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

เดี๋ยวนี้ขับรถแล้วหรือ เท่ห์โคตร มันถามแบบไม่ประสา

ผมหมุนกระจกลงแล้วบอกมันว่า "ตูมาพ่อมากินเหล้าว่ะ พอดีเบื่อๆเลยมาฟังวิทยุในรถ บัวชมพูออกชุดใหม่พอดี" ผมมั่วไปนั้น

ไอ้เปี๊ยก ชะโงกหัวเข้ามาในรถ "ไหนว่ะ ไม่ได้ยินเสียงเพลงเลย"

..ตายเห่อ >*| ผมลืมไปว่าพ่อแกะวิทยุไปซ่อม (ที่จริงแกถอดไปไหนไม่รู้ ผมเลยว่าซ่อมไว้ก่อน)

ผมเลยมั่วไปว่า "เพิ่งปิดไป พอดีเพิ่งจูนเครื่องมา ลุงสืบจูนให้ เสียงหวานมาก "


ว่าแล้วผมก็บิดกุญแจติดเครื่อง แล้วเบิ้ลๆเบาๆให้มันฟังพอเป็นพิธี

ทว่าไอ้เปี๊ยกยังไม่ยุ่งสอด
"เฮ้ยๆไอ้ต่อ ขอตูลองเข้าไปนั่งได้ไหม รถสวยตูชอบว่ะ"

ผมหันรีหันขวาง สองจิตสองใจ แต่อาศัยว่าน้าไอ้เปี๊ยก น้าแมวที่ทำร้านเสริมสวยอยู่ปากซอยก็สวยถูกใจ ว่าจะได้ให้มันไปปล่อยข่าวสักหน่อย

"เอาๆขึ้นมานั่งข้างหลังแล้วกัน อย่าตดแบบตอนเล่นซ่อนแอบนะโว๊ย เหม็นยังกะฮิปโปโดนหมกเชิงดอยสุเทพ"

ไอ้เปี๊ยกไม่เถียงอะไร มันก็รีบเปิดประตูรถขึ้นมานั่ง..

"เฮ้ยต่อ ตอนรอป๋าตู่ เอ็งพาข้าไปวนๆปากซอยหนังหนียวหน่อยสิ วันก่อนแม่ค้าขายบัวมาใหม่น่ารักโคตร" $^$

ผมจะอยู่เฉยก็เสียฟอร์ม เลยพันไปบอกมันว่า

"เออ รีบไปรีบกลับนะ เดี๋ยวพ่อตูหันมาไม่เจอเขาจะบ่นเอา"(ที่จริงจะตื๊บเอา) *c*

ว่าแล้ววงล้อแรกในชีวิตของผมก็เริ่มขึ้น.... w^w

"บรื๊อ...บรื๊อสสสสสส"รถไม่ดับวุ๊ย ผมดีใจ รถค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

"เก่งนี่หว่า"เจ้าเปี๊ยกตบบ่าแล้วชมผม

...ถนนนี้ช่างแสนจะสวยงาม อากาศเย็นๆ แสงไฟจากโคมรถส่องไปข้างหน้าอย่างรื่นรมย์..

มันเป็นมันรู้สึกแรกที่ผมปล่อยวิญญาณไปกับรถตรางู...

คืนนั้นพ่อผมจิบวุ้นไปโหลเต็มๆ ปล่อยให้ผมเอารถไปวนในซอยแถวบ้านราวๆสามกิโล แล้วกลับมาจอดกลับหัว

แต่พ่อผมแกจำไม่ได้ ผมนอนหลับที่เบาะคนนั่ง ไอ้เปียกก็เสือกหลับที่เบาะหลัง

มันยุ่งที่พ่อเรียกผมขึ้นไปนอน โดยไม่เห็นไอ้เปี๊ยก และผมก็ลืมว่าไปว่าไอ้เปี๊ยกหลับอยู่ในรถ :o

กว่าครึ่งวันที่ไอ้เปี๊ยกตื่นมาแล้วนั่งเหงื่อตก ปากคอสั่นในรถ ดีที่พ่อรถแง้มกระจกดูดหรี่ตอนขับรถกลับบ้าน...มันเลยยังมีอากาศหายใจ

ผมโดนพ่อบ้องกบาลไปสองทีในฐานะเอารถไปแอบขับ ที่จริงแกบ้องเรื่องไอ้เปี๊ยกมากกว่า %:( ที่ไม่บอกแก

ทุกวันนี้เวลาผมขับรถ ผมก็หันไปมองเบาะหลังเป็นประจำ และคิดถึงเพื่อนผมตอนนี้ที่มันเรียนวิศวะยานยนต์ เพราะข้องใจที่หาที่เปิดรถอิตาลีไม่เจอ

เนี่ยแหละครับนิทานฝันหลังพวงมาลัยของผม ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเล่า เพราะมันเสียหายและเป็นผู้เป็นคนมากที่สุด นอกนั้นมันวินาศสันตะโลกันโดยแท้

ถึงอย่างไรผมก็ยังมีใจรักในรถแบบสปอร์ต  จนตั้งชื่อสถาปนาตัวเองว่า "หนุ่มน้อยหัวใจสปอร์ต ยอดมือระเบิด เกิดผิดยุค ฮุคหมัดตรง จริงใจจริงจังฟันนี่ครับ" \^^/

..



Offline AKE

  • สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,105
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:October 23, 2023, 12:13:13 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #13 on: June 04, 2006, 12:32:37 pm »
อ่านแล้ว จินตนาการได้เลยครับว่า น้องหนุ่มน้อยหัวใจสปอร์ตนี่ สร้างวีรกรรมอะไรในวัยเด็กไว้บ้าง ?
คติธรรม : "คนเราเมื่อมีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมีศุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เปนของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้" โดย ธมมวิตกโก ภิกขุ

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #14 on: June 04, 2006, 11:58:17 pm »
 !o!ถ้ารถมันพูดได้มันคงบอกว่า "โชคดีที่ตายก่อน"  :-!

Offline AKE

  • สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,105
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:October 23, 2023, 12:13:13 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #15 on: June 10, 2006, 11:32:20 am »
อย่าลืมกันนะครับท่านสมาชิกทั้งหลาย
อย่าลืมแต่งเรื่องราวอันน่าประใจของท่าน แล้วนำมาในวันงานฯด้วยนะครับ

งานนี้มีได้ลุ้นด้วยครับ

ห้ามพลาด และ อย่าลืมนะครับ
คติธรรม : "คนเราเมื่อมีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมีศุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เปนของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้" โดย ธมมวิตกโก ภิกขุ

Offline Pearl

  • Valvoline Go go!!!
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2006
  • Posts: 871
  • Gender: Female
  • Last Login:February 05, 2011, 10:24:59 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #16 on: June 15, 2006, 08:17:01 pm »
น่าเสียดาย ตอนแรกนึกว่าจะไปได้
ติดธุระอ่ะคะ meeting ครั้งหน้าเมื่อไหร่
บอกด้วยนะคะ
อย่าลืมถ่ายรูปมาให้ดูนะ

Offline rob666

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 231
  • Gender: Male
  • Last Login:August 06, 2012, 04:51:26 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #17 on: June 16, 2006, 08:37:04 am »
 w^wเย้ จะมีงานพรุ่งนี้แล้ว ตื่นเต้นจัง

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #18 on: June 17, 2006, 11:16:36 am »
คุณจอมและคุณโจ้ที่ส่งมาให้ผมคงช้าไปแล้วนะครับ ขอโทษด้วย ตอนนี้ผมไม่ได้รับดำเนินเรื่องดังกล่าว

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #19 on: June 17, 2006, 02:37:15 pm »
สวัสดีค่ะ
ขอส่งบันทึกเรื่องราว ที่เตรียมไว้สำหรับงานวันพรุ่งนี้มาให้ค่ะ ไม่ได้เป็นเรื่องราว หรือขั้นตอนในการบูรณะรถที่น่าสนใจ แต่เป็นเพียงแค่เรื่องราวส่วนตัวกับรถคันนี้ของคุณพ่อค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
จาก  JPOMME


ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ รถคันแรกที่ได้นั่ง ก็ โฟล์คเต่า สีครีม ไม่กี่ปีต่อมา รถเต่าเริ่มดูจะเล็กไปสำหรับครอบครัวคน 4 คน พ่อ-แม่ก็เลยตัดสินใจหารถใหม่ที่ใหญ่ขึ้นหน่อย เลยทำให้มาเจอกับ Alfa 1750 คันนี้ ซึ่งได้มาในปี 2525 สีเหลืองมัสตาร์ด พ่อถือเป็นเจ้าของรถคนที่ 3 เจ้าของมือแรกเป็นตำรวจ มือที่ 2 เจ้าของร้านอาหารทะเลจันทร์เพ็ญ ที่อยู่บนถ.พระราม 4 (ปัจจุบันร้านนี้ก็ยังอยู่) รถคันนี้คงจะถูกชะตากับพ่อมาก เพราะพอพ่อไปเห็นรถคันนี้ปุ๊ป พ่อก็หยุดดูคันอื่น และตัดสินใจซื้อคันนี้จากเจ้าของร้านจันทร์เพ็ญโดยทันที ในราคา 85,000 บาท ตั้งแต่ได้นั่งรถคันนี้มาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เคยมีความรู้สึกผิดหวัง รถคันนี้ไม่เคยดื้อกับเจ้าของ ไม่เคยต้องเสียกลางทางให้เจ้าของเข็ญ ไม่เคยเจออุบัติเหตุ ไม่เคยชนใคร ไม่มีใครเคยชน และ ก็ไม่เคยมีมือดีมางัดหรือมาแงะรถ ถึงแม้ว่าประตูรถคันนี้เวลาไปจอดที่ไหนจะไม่เคยล็อคเลยก็ตาม!!!!!! (เนื่องจากที่ล็อคประตูเสียมาตั้งนานแล้ว ให้ลุงสุธีดูก็บอกว่าซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น แล้วลุงสุธีก็ไม่มีของใหม่ พ่อก็ไม่รู้จะหาที่ไหน เลยใช่อยู่แบบนี้เรื่อยมา) ...รถคันนี้ มีแต่คนที่เห็นแล้วต้องเข้ามาขอชม ขอดู  หลายครั้งที่เอารถไปจอดตามที่ต่างๆ ก็จะมีคนเอานามบัตร หรือกระดาษเขียนโน๊ตมาเสียบไว้ที่หน้ารถ มีทั้ง “รถคุณสวยมาก ถ้าขายเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะครับ” “รถสวยมากครับ จากชมรมคนรัก ALFA”, “รถคันนี้ขายมั๊ยครับ” ไม่ก็เขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ดื้อๆ อย่างนั้นแหล่ะ  หรือบางทีเวลาขับรถอยู่ ครั้งนึงติดไฟแดง รถข้างๆก็บีบแตรเรียก ชี้มาที่รถเรา แล้วก็ยกนิ้วโป้งพร้อมกับยิ้มให้  เคยจอดตรงทางม้าลายให้คนเดินข้าม มีฝรั่งคนนึงเดินข้ามอยู่ หันมาเห็นรถเราพอดี ก็เดินเข้ามาทักพ่อเลย บอกรถสวยมาก เขาชอบคันนี้มาก เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ซึ่งทำให้พ่อภูมิใจในรถคันนี้มากเช่นเดียวกัน... 
ตอนเด็กๆไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมพ่อถึงไม่ใช้รถแบบคนอื่นนะ  แบบที่มันขึ้นลงง่ายๆ มี 4 ประตู จะขึ้นรถคันนี้ที คนนั่งข้างหน้าก็ต้องลง แล้วยกเบาะขึ้น คนข้างหลังถึงจะขึ้นได้ แล้วมันต้องขึ้นลงทุกวัน ขอรถที่เป็นแบบเกียร์ออโต้ได้มั๊ย พวงมาลัยก็แสนจะหนัก  ตอนที่พ่อหัดขับรถให้ ถึงที่ u-turn ทีไร ต้องเดินหน้าถอยหลังไม่รู้กี่รอบ เพราะหักไม่พ้นซักที บอกให้พ่อช่วยหักให้หน่อย พ่อก็บอกให้ทำเองจะได้รู้จังหวะของรถ ถึงตอนนี้ใครจะมาให้เปลี่ยนรถยังงัย ก็คงบอกคำเดียวว่าไม่ และรถคันนี้ก็คงไม่อยากไปไหนแล้วด้วย มันเหมือนผ่านเรื่องราวตลอดมาด้วยกัน คงอยากอยู่ด้วยกันตรงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไปแล้ว และก็เป็นภาพความทรงจำเกี่ยวกับพ่อด้วย จำได้ถึงภาพพ่อเวลา สตาร์ทรถ เพื่ออุ่นเครื่อง ก่อนออกจากบ้าน เวลารถติด พ่อต้องคอยดูว่าเครื่องร้อนหรือเปล่า ถ้าเครื่องร้อนพ่อก็จะเปิดพัดลมให้ตัวเครื่อง เวลาที่พ่อนั่งรออยู่ในรถตอนไปรับกลับจากโรงเรียน, ไม่เคยแอบเอารถคันนี้ออกไปเที่ยวตอนกลางคืน เพราะเวลาสตาร์ททีเสียงเครื่องดังมากจนพ่อ-แม่ต้องได้ยินแน่ๆ

พ่อรู้ดีว่ารถคันนี้ได้ถูกเจ้าของเก่าเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นแบบรุ่น 2000  ถ้าพ่อรู้ว่ายุคสมัยนี้ การสื่อสารมันรวดเร็ว และก็กว้างไกลที่พอจะสั่งหาอะไหล่จากต่างประเทศมาเปลี่ยนให้รถกลับไปเป็นแบบสภาพเดิมได้ไม่ยากนัก พ่อคงสนุกน่าดู เวลาไปเดินตลาดนัดของเก่าพ่อก็คอยหาแต่อะไหล่รถคันนี้มาเก็บไว้ พ่อชอบดูแต่รถเก่าๆ เพื่อนๆพ่อ และทุกคนรู้ดีว่าพ่อเห็นรถเก่าเป็นไม่ได้ เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว จำได้ว่ามีคนขับรถของเจ้าของบ้านย่านสาธรหลังหนึ่ง มาบอกกับพ่อว่า เจ้านายเขาอยากจะขายรถ Oldsmobile กับ Cadillac ซื้อคู่กันเลย ขายให้ 50,000 บาท พ่อก็ไปดูรถมากับน้องปอม โรงรถเขามีรถอยู่หลายคันทีเดียว คลุมผ้าไว้อย่างสวยงามทุกคัน Oldsmobile ที่จะขายคันนี้ใหญ่ขนาดเบาะข้างหลังนอนยาวยืดขาได้สบาย (ปัจจุบันบ้านหลังนี้ก็ยังคงเดิมแบบเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นบ้านเก่าๆ มีเนื้อที่เยอะๆ ) ไปดูรถแล้วกลับบ้านมา พ่อกับน้องอยากได้อย่างมาก แต่แม่ไม่เห็นด้วยเพราะรถใหญ่จริงๆ ไม่รู้จะเอาไปจอดไว้ไหน เข้าประตูหน้าบ้านยังไม่น่าจะได้เลย พ่อกับน้องบอกว่าเอามาปลูกผักชีไว้ก่อนก็ยังดี!!  ในที่สุดก็ไม่ได้รถ 2 คันนี้มาอยู่ด้วย เมื่อ 2 ปีที่แล้วคิดถึงรถ 2 คันนี้ขึ้นมาใหม่  ก็ลองขับไปบ้านหลังเดิมที่สาธรนี้ทุกอย่างยังดูเหมือนเดิม ประตูรั้วเจ้าของบ้านก็เหมือนเดิม ไปกดกริ่งอยู่หน้าบ้านกับน้อง 2 คน คิดว่าถ้ายังอยู่จะขอซื้อแล้วขับกลับมาเลย เมื่อก่อนต้องพึ่งเงินแม่ เลยต้องให้แม่ตัดสินใจ ตอนนี้ทำงานเอง มีเงินเองแล้ว ก็ตัดสินใจซื้อเองได้เลย แม่บ้านมาเปิดประตูก็ทำหน้างงๆ ยิ่งพอเราบอกว่า เมื่อ10 ปีที่แล้วเคยมาดูรถ มือก็ชี้ไปที่โรงจอดรถ แล้วอธิบายให้เขาฟัง ถามว่า รถ 2 คันนี้ยังอยู่มั๊ย แม่บ้านดูท่าทางจะไม่รู้เรื่อง แต่มองเข้าไปที่โรงจอดรถเอง ไม่มีทีท่าว่า 2 คันนี้จะอยู่แล้ว แต่รถในบ้านก็ยังมีอยู่หลายคันเหมือนเดิม พอถามถึงเจ้าของบ้าน แม่บ้านก็บอกว่าก็ไปต่างประเทศ... วันดีคืนดีอาจจะแวะไปถามใหม่ดีกว่า

ปัจจุบันที่บ้านมีรถ 2 คัน คือ  Alfa กับ Jeep พ่อ-แม่ ตั้งใจไว้ว่ารถ alfa เป็นของจอมซึ่งดูเป็นรถสำหรับลูกผู้หญิง ส่วน Jeep เป็นของน้องปอม ซึ่งเหมาะจะเป็นรถสำหรับผู้ชาย เคยถามพ่อว่า ซื้อรถทั้งทีทำไมถึงต้องซื้อรถเก่าอยู่นั่นแหล่ะ ทำไมถึงไม่เห็นเคยซื้อแบบรถใหม่ป้ายแดง พ่อไม่ชอบรูปทรงของรถรุ่นใหม่ด้วย และพ่อก็บอกว่ารถใหม่เดี๋ยวมันก็เก่า ไม่มีค่า รถเก่าทรงก็สวย และมีคุณค่ามากกว่าเยอะ

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #20 on: June 17, 2006, 02:38:04 pm »
อันนี้ของคุณโจ้ครับ

บันทึกของ “ษต 30 กทม.”

นายพิษณุ ยอดทอง (โจ้) เกิดเมื่อ 29 มีนาคม 2520 ได้เล่าถึงประวัติเจ้า Nissan Skyline R30 ในนาม ษต 30 กทม. ซึ่งอยู่ในครอบครองอย่างคร่าว ๆ ไว้ดังนี้
ครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบเจอกันต้องย้อนไปเมื่อประมาณปี 2544 ขณะที่ทั้งสองยังไม่เคยสนใจกัน เพราะคุณโจ้มีเจ้า Peugeot 404 เป็นพาหนะคู่ใจในการวิ่งขึ้น-ล่อง กรุงเทพ ฯ  - ลพบุรี และเจ้า 30 ก็ยังคงรับใช้เจ้านายที่แสนดีวัยใกล้ 60 ปีอย่างซื่อสัตย์ ถึงแม้ทั้งสองจะได้พบเจอกันแทบทุกเช้าวันจันทร์ วิ่งตามกันบ้าง แซงกันบ้าง แต่คงยังไม่ถึงเวลาที่บุพเพสันนิวาตจะขีดเส้นให้มาบรรจบกัน
จนกระทั่งประมาณกลางปี 2544 คุณโจ้ได้มีโอกาสไปสัมมนาที่ห้างแฟร์รี่แลนด์ จังหวัดนครสวรรค์ ขณะกำลังทอดใจไปตามสายลมและสายควันของบุหรี่มวนเล็กบริเวณลานจอดรถบนตึก บังเอิญสายตาก็เหลือบไปเห็นรถเก่าคันหนึ่ง สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่ใต้ชายคาโรงรถภายในบ้านที่มีรั้วติดกับตึกดังกล่าว ด้วยความที่เป็นคนชอบรถเก่าอยู่เป็นทุน เค้าจึงรอให้บุหรี่หมดมวนและรีบเดินจ้ำอ้าวลงไปยังหน้าบ้านหลังนั้น เมื่อไปถึง สภาพบ้านเป็นแหล่งชุมชนแออัด ชาวบ้านในซอยดูไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อย บ้านหลังที่เป็นเป้าหมายก็เป็นบ้านไม้สภาพเอียง ๆ เมื่อเห็นประตูรั้วสังกะสีเปิดอ้าทิ้งไว้ และสังเกตไม่เห็นคนในบ้าน คุณโจ้จึงได้แอบย่องเข้าไปเพื่อจะลองเรียกเจ้าของบ้าน แต่เมื่อผ่านรั้วเข้าไปก็พบกับรถคันดังกล่าวจอดอยู่ติดกับรั้วใต้ชายคาโรงรถเก่า ๆ ความอดใจไม่มีอีกต่อไป รีบเดินวนรอบเพื่อสำรวจรายละเอียดที่ไม่คุ้นเคย มันเป็นรถญี่ปุ่น 4 ประตูขนาดกลาง สีบรอนซ์เงิน สภาพปานกลาง ไฟหน้ากลม 4 ดวง ไฟท้ายเหมือนขนมปังก้อนสี่เหลี่ยมวางเรียงกันข้างละ 3 ก้อน ติดฟิล์มราคาถูกที่มีร่องรอยฟองอากาศ กระจังหน้ายังดูเรียบร้อยดี สีโครเมียมต่าง ๆ รอบคันหมองไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดเห็นจะเป็นเส้นข้างตัวถังทั้งสองฝั่งที่พาดมาจากท้ายรถ ผ่านซุ้มล้อหลัง และมาสุดอยู่ที่ประตูด้านหลัง จากโลโก้รอบคันหลายชิ้น แต่มีชิ้นเดียวที่ทำให้สรุปได้ว่ามันคือรถยี่ห้อ Nissan แต่เมื่อจะหาเจ้าของบ้านเพื่อพูดคุย และขออภัยที่บุกเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต กลับไม่พบคนในบ้าน ทั้ง ๆ ที่ประตูบ้านก็เปิดอยู่ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนในบ้านจริง จึงเดินกลับออกมาโดยเก็บแค่ความทรงจำที่ประทับใจไว้เท่านั้น
เมื่อกลับมาบ้านที่ลพบุรีจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่ไปเจอมาให้น้าซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันฟัง เพราะเห็นว่าน้าคนนี้เป็นช่าง Nissan เก่า เค้าจึงหยิบแม๊กกาซีนเล่มเก่าเล่มหนึ่งออกมาให้ดู พร้อมกับชี้ไปที่รูปเล็กจิ๋วแล้วถามว่ามันหน้าตาแบบนี้ใช่ไหม เค้าเล่าว่าชื่อของมันคือ Nissan Skyline C10 เป็นรถสปอร์ตชื่อดังของบริษัท Nissan แต่บ้านเราเอารถรุ่นนี้ที่เป็นแบบซีดาน 4 ประตูมาทำเป็นแท็กซี่ หลังจากนั้นก็เปิดหนังสือเล่มอื่นอีก 2 – 3 เล่ม เพื่อให้ดูภาพของ Skyline R34 ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดขนาดนั้น ความสนใจของคุณโจ้จึงเริ่มนับแต่นั้นมา

 


เมื่อกลับมาลองพิจารณาถึงความทรงจำเกี่ยวกับรถญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เป็นไฟท้ายโดนัท จึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ตัวเขาเองก็เคยเจอรถรุ่นนี้อยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน จนกระทั่งปลายปี 2544 ได้มีโอกาสพบรถคันดังกล่าวอีกครั้งบริเวณถนนสายสระบุรี – ลพบุรี เขาจึงค่อย ๆ ขับรถตามรถคันดังกล่าวอย่างตั้งใจ พร้อมทั้งสังเกตรายละเอียดที่พอจะมองเห็นได้ รถคันนี้เป็นรถรุ่น R30 สีน้ำตาล สภาพโดยรวมถือว่าดีมาก ท่อไอเสียคู่พ่นควันออกมาเล็กน้อยตามการเหยียบคันเร่งของคุณลุงท่านหนึ่ง ที่ขับรถกินลมยามเช้ากับภรรยาไปยังที่ทำงาน แต่ในใจลึก ๆ ยังบอกว่าไม่ค่อยชอบเท่าไร เนื่องจากสีตัวถังที่ดูแล้วไม่โดนใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ใจของคุณโจ้กลับรบเร้าอยากดูอีกครั้ง เมื่อมีโอกาสเจอกันอีกคราวนี้คุณโจ้ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป ขับตามไปจนถึงที่ทำงานของคุณลุงและคุณป้าท่านนี้ ทีแรกท่านงงมากเมื่อคุณโจ้วิ่งไปแล้วบอกว่าขอดูรถคันนี้ แต่ท่านก็ใจดีให้เราชมโดยไม่ว่าอะไร สมาธิของคุณโจ้ขณะนั้นพยายามจดจำสิ่งที่เห็นให้แม่นยำที่สุดเนื่องจากไม่มีกล้องถ่ายรูป และตั้งใจจะเปรียบเทียบรายละเอียดจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา โดยรายละเอียดที่สังเกตได้คือสีตัวถังยังดูสวยงาม เป็นสีน้ำตาลแบบรถสมัยเก่า เมื่อโดนแดดจะมีประกายแวววาวให้เห็นโดยทั่ว ไฟหน้า ไฟท้ายอยู่ในสภาพดี ไม่มีร่อยรอยของการชน ยกเว้นรอยที่มุมกันชนหน้าที่ท่านบอกว่าเฉี่ยวกับรั้วบ้านตอนท่านเมา ยางต่าง ๆ ขอบโครเมียม ยังอยู่ในสภาพดี โลโก้รอบคันยังอยู่ครบ ขาดแค่ที่กระจังด้านหน้าหนึ่งอัน ภายในมีกลิ่นไอของรถเก่าด้วยเบาะกำมะหยี่สีครีม พาดด้วยผ้าปักลายลูกไม้บนพนักพิงทั้งหน้าและหลัง คอนโซลเดิมสามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่น หน้าปัทม์แอร์สีเงินซีด บ่งบอกถึงอายุการใช้งานได้ดี แต่ความเย็นที่สัมผัสได้นั้นก็ไม่น้อยหน้ารถสมัยใหม่ กระจกเป็นระบบไฟฟ้าบนแผงประตูสีแดง – ดำ ขัดตากับเบาะสีครีม และสุดท้ายคือกลิ่นไอของความเป็นคนไทย ด้วยเครื่องรางของขลัง และพระเกจิอาจารย์ ที่ติดอยู่ทั่วไปบริเวณคอนโซล เมื่อคุณโจ้ได้ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ในเวลาอันสั้น จึงได้ขอซื้อจากคุณลุงโดยที่ยังไม่รู้จักชื่อกันและกันเลย แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบกลับมาว่า “บ้านลุงมีรถคันเดียว ลุงคงขายให้ไม่ได้หรอกพ่อหนุ่ม” สร้างความผิดหวังให้คุณโจ้ชั่วขณะ แต่เมื่อรวบรวมสติได้อีกครั้ง จึงขอแลกเบอร์โทรศัพท์กัน พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าคุณลุงเปลี่ยนใจเมื่อไร ให้บอกคุณโจ้เป็นคนแรก

 

หลังจากนั้นเมื่อคุณโจ้กลับมาไตร่ตรองให้รอบคอบ และถามใจตัวเองอยู่หลายครั้ง ก็ได้ผลสรุปว่ารถคันนี้เป็นรถที่คุณโจ้ต้องการจริง ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงได้โทรศัพท์ขอเข้าไปถ่ายรูปรถที่บ้าน ด้วยหวังว่าการตื้อจะทำให้ท่านใจอ่อนได้บ้าง คุณโจ้ได้แวะเวียนเข้าไปหาหลายครั้ง ถ่ายรูปบ้าง ซื้อขนมไปฝากบ้าง ซื้อเบียร์ไปฝากบ้าง บางครั้งท่านก็เลี้ยงข้าวบ้าง จนกระทั่งหลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม 2545 คุณโจ้ได้รับโทรศัพท์จากคุณลุงท่านนี้ พร้อมได้รับข่าวดีว่าท่านพร้อมจะขายให้แล้ว เนื่องจากท่านเห็นใจที่คุณโจ้อยากได้จริง ๆ และตอนนี้ท่านก็หารถใหม่ที่ถูกใจได้แล้ว นั่นคือจุดบรรจบกันของชายหนึ่งคนกับรถหนึ่งคันที่เป็นเนื้อคู่ซึ่งกันและกัน………

 

 

........แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตอีกมากมาย.........

Offline OouVintage

  • PainKiller Racing Team
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 10,531
  • Gender: Male
  • Last Login:February 04, 2023, 01:13:03 pm
    • OouVintage
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #21 on: June 18, 2006, 03:53:30 pm »
เรื่องของทั้งคุณ Jomm และ คุณโจ้ ทั้งซาบซึ้งและสนุกมากครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ทั้ง 3 ท่านครับ  \^^/

Offline AKE

  • สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,105
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:October 23, 2023, 12:13:13 pm
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #22 on: June 18, 2006, 04:05:48 pm »
อ่านเรื่องราวจากทั้งคุณJPOMME และ คุณโจ้แล้ว
รู้สึกซาบซึ้งและประทับใจมากๆเลยครับ
ผมขอส่งกำลังใจให้ทั้ง 3 ท่านด้วยนะครับ
 \^^/ \^^/ (8-)
คติธรรม : "คนเราเมื่อมีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมีศุขก็มีทุกข์ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เปนของคู่กันมาเช่นนี้ จะไปถืออะไรกับปากมนุษย์ ถึงจะดีแสนดีมันก็ติ ถึงจะชั่วแสนชั่วมันก็ชม นับประสาอะไร พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ยังมีมารผจญ ยังมีคนนินทาติเตียน ปุถุชนอย่างเราจะรอดพ้นจากโลกธรรมดังกล่าวแล้วไม่ได้" โดย ธมมวิตกโก ภิกขุ

Offline เจ้าบ้านบางกอกฯ

  • If you love classic cars, you are my friend.
  • Administrator
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2005
  • Posts: 11,080
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:August 06, 2023, 02:03:15 pm
    • Bangkok Classiccar
Re: My Life, My Classical car : The Fairy Tale Stories
« Reply #23 on: June 18, 2006, 04:41:47 pm »
เมื่อวานเราให้รางวัล รางวัลเรื่องสั้นความทรงจำกับรถคลาสสิคดีเด่น
My Life, My Classiccal Car, The Fairy Tale Stories
ในวันรวมมิตรบางกอกคลาสสิคคาร์ ครั้งที่ 6
ให้กับคุณ Steed และคุณ NTC

พอดีคุณจอม คุณปอมกลับไปก่อน เลยไม่ได้มอบรางวัลเรื่องสั้นดีเด่นไปครับ
วันนี้มาได้อ่านเรื่องราวของคุณโจ้ ประทับใจเช่นกัน

เพื่อน ๆ ชาวบางกอกขอปรบมือให้กับทั้งสี่คนที่ได้ลงเรื่องราวความทรงจำที่น่าสนใจ
กับรถคลาสสิคของตัวเอง ได้อย่างน่าประทับใจยิ่งครับ

ขอให้คุณจอมกับคุณโจ้ pm ที่อยู่เบอร์โทรศัพท์มาที่ผม
และทีมงานจะได้จัดส่งรางวัลตามไปให้นะครับ
If you love classiccars, you're my friend

1950 Riley RMA
‘55 MB 190SL / 1968 W112 Coupe /W108 280SE /W116 450SEL
‘57 MGA
‘68 AR 105 Gt Junior / Giulietta’77
‘82 RR Corniche


MB W180/111/110/108/114
AR Giulia Super/Spider
BMW E30 (2)
Jag XJ S1
Porsche 924 /911E
VW Golf MKI Cabrio/Thing


www.facebook.com/groups/bangkokclassiccar

Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments