Topic: projekt e30 coupe สองน้องช่วยปั้นดินให้เป็นดาว...หรือเปล่า

[unun]

มาแล้วเหรอน้า.. 
 
นั่งดูสีรถไปเรื่อยๆ เอามาให้ดู อันนี้ Santorini Blue

สีนี้ก็เล็งๆไว้อยู่เหมือนกัน สวยใช้ได้ทีเดียว
แต่สีฟ้าที่เอ้คากก็สวยดีนะ

[ae]

มาอัพเดทรถซะหน่อย สรุปว่ายังซื้ออะไหล่เข้ามาเรื่อยๆ เปลืองเงินใช่ย่อย
เพิ่งส่งล้อเอาไปที่อู่เพื่อจะได้ดึงโป่ง

เมื่อวานซืนไปเที่ยวเขาใหญ่มา อากาศเย็นสบายมากๆ เหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนมากๆ คนเยอะไปหน่อยแต่ก็ชิลมากๆๆ
ถ่ายรูปมาได้นิดหน่อยเอง พระอาทิตย์ตกสวยมาก

ฮ่ะ.. รูปสวยนะ ลงหย่ายๆหน่อยก็ด้าย 
 

[ae]

อันนี้ฟ้าอมเขียว สีใหม่หน่อย.. ไม่รู้สวยเพราะสีหรือเพราะรถ 
 
เอา link ไปดูเลยละกันนะรูปมันเยอะ http://www.clutchd.com/2009/10/one-of-a-kind-bmw-m3-by-ind.html/   
 
 

[ae]

เอาไปอีก link รูปใหญ่ๆ ถ่ายสวยๆ 
 
http://www.m5board.com/vbulletin/e90-m3-sedan-e92-m3-coupe-e93-m3-convertible-e46-m3-e36-m3-z4-m-z4-m-coupe/145394-ind-bmw-m3-atlantis-blue-cf-roof.html

[unun]

มาอัพเดทรถซะหน่อย สรุปว่ายังซื้ออะไหล่เข้ามาเรื่อยๆ เปลืองเงินใช่ย่อย
เพิ่งส่งล้อเอาไปที่อู่เพื่อจะได้ดึงโป่ง

เมื่อวานซืนไปเที่ยวเขาใหญ่มา อากาศเย็นสบายมากๆ เหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนมากๆ คนเยอะไปหน่อยแต่ก็ชิลมากๆๆ
ถ่ายรูปมาได้นิดหน่อยเอง พระอาทิตย์ตกสวยมาก

ฮ่ะ.. รูปสวยนะ ลงหย่ายๆหน่อยก็ด้าย 

ขนาดนี้พอแระ เดี๋ยวใหญ่เกินชาวบ้านจะรู้ว่ารถมันไม่ได้สวยอย่างที่คิด ฮ่าๆๆๆ

ว่าแต่ จองสนามได้หรือยังหว่า

[ae]

คุยแล้ว..เดี๋ยวหลังไมค์ไปนะ

[unun]

เอาไปอีก link รูปใหญ่ๆ ถ่ายสวยๆ 
 
http://www.m5board.com/vbulletin/e90-m3-sedan-e92-m3-coupe-e93-m3-convertible-e46-m3-e36-m3-z4-m-z4-m-coupe/145394-ind-bmw-m3-atlantis-blue-cf-roof.html

ขอบใจหลายๆ สีสันแบบว่าได้ใจจริงๆ
รู้สึกว่าเชียร์เหลือเกินนะสีเนี่ยะ

[unun]

มีจุ๊บลมเหลืออยู่ 5 ชุดครับ มีใครสนใจบ้างมั๊ยครับ
ของ original BBS นะครับ

[unun]

อันนี้ฟ้าอมเขียว สีใหม่หน่อย.. ไม่รู้สวยเพราะสีหรือเพราะรถ 
 
เอา link ไปดูเลยละกันนะรูปมันเยอะ http://www.clutchd.com/2009/10/one-of-a-kind-bmw-m3-by-ind.html/   

สีฟ้าที่คาดหน้ากระจังเอ้สีอะไรอะไรอ่ะ

[ae]

จำ code ไม่ได้ เดี๋ยวกลับบ้านไปดูให้นะ   

[Pan]

ไปเที่ยวปาลิโอมาด้วใช่ไหมครับ เหมือนเห็นตอนผมจะกลับผมากับผู้หญิงสามคนที่ใส่หน้ากากครับ

[jack]

มีจุ๊บลมเหลืออยู่ 5 ชุดครับ มีใครสนใจบ้างมั๊ยครับ
ของ original BBS นะครับ

สนใจจุ๊บลมครับผม

[dan K]

พี่ๆ ครับมีคำถาม เรื่องค่า k สปริงครับ
ถ้ามีสปริงหลอดอยู่ เราจะทราบได้ไงครับว่า สปริง กี่ k มีวิธีคำนวนหรือป่าวครับ
ขอบคุณครับ 

[unun]

ไปเที่ยวปาลิโอมาด้วใช่ไหมครับ เหมือนเห็นตอนผมจะกลับผมากับผู้หญิงสามคนที่ใส่หน้ากากครับ

ใช่ครับพี่แผน ผมนึกออกแล้ว พี่แผนจอดรถด้านหลังผมนี่เอง ผมถึงว่าทำไมเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนหว่า
เสียดายไม่ได้เจอกัน จะได้คุยด้วยซะหน่อย ไม่เคยได้เจอกันซะทีเลยครับ

[unun]

มีจุ๊บลมเหลืออยู่ 5 ชุดครับ มีใครสนใจบ้างมั๊ยครับ
ของ original BBS นะครับ

สนใจจุ๊บลมครับผม

คุณแจ๊คอยากได้กี่ชุดอ่ะครับ โทรมาหาผมได้มั๊ยครับ 081-903-3232 ครับ
เพราะมีเพื่อนที่อยากได้อีกเหมือนกัน

[jack]

มีจุ๊บลมเหลืออยู่ 5 ชุดครับ มีใครสนใจบ้างมั๊ยครับ
ของ original BBS นะครับ

สนใจจุ๊บลมครับผม

คุณแจ๊คอยากได้กี่ชุดอ่ะครับ โทรมาหาผมได้มั๊ยครับ 081-903-3232 ครับ
เพราะมีเพื่อนที่อยากได้อีกเหมือนกัน

แค่ชุดเดียวครับคุณอัน ยังไงเดี๋ยวผมโทรไปหา ขอบคุณครับ

[unun]

พี่ๆ ครับมีคำถาม เรื่องค่า k สปริงครับ
ถ้ามีสปริงหลอดอยู่ เราจะทราบได้ไงครับว่า สปริง กี่ k มีวิธีคำนวนหรือป่าวครับ
ขอบคุณครับ 

มีครับ

วิธีคิดคือ G(d^4) / 8(D^3)n

G = modulus of elasticity 12x10^6 psi อันนี้ค่าคงที่ของเหล็ก ไม่ต้องไปยุ่งกะมันครับ
d = coil diameter คือเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวเส้นลวดสปริง
D = OD - d คือเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่างกลางขดด้านหนึ่งถึงอีกด้านหนึ่ง
n = number of active coils คือจำนวนขดที่ทำงานครับ ถ้าขดไหนแตะกันแสดงว่าขดนั้นไม่ได้ทำงาน มันต้องแยกทำงานขดใครขดมันครับ

หน่วยทั้งหมดเป็น in นะครับ จะได้ค่าออกมาเป็น lbs/in ถ้าต้องการเป็น kgf/mm ให้เอา 0.0178 ไปคูณครับ

หรือไปดูที่นี่ได้ครับ จะได้เข้าใจง่ายขึ้น http://springcalculation.com/Rate_calculations.aspx

หรือถ้าอยากได้ผมทำ excel sheet ไว้คำณวนสปริง เวลาไปซื้อจะได้เลือกง่ายๆหน่อย ถ้าอยากได้ส่งอีเมลล์มาล่ะกันครับ เดี๋ยวส่งไปให้

ตัวอย่างในรูป ด้านซ้าย 4.5 ขด ด้านขวา 5 ขด คือเริ่มนับขดจากอันที่ติดกับเบ้า ถ้าขดสุดท้ายไม่ครบรอบและยังไม่แตะกับแป้นรองสปริงให้นับเป็นครึ่งขดครับ

[unun]

มีจุ๊บลมเหลืออยู่ 5 ชุดครับ มีใครสนใจบ้างมั๊ยครับ
ของ original BBS นะครับ

สนใจจุ๊บลมครับผม

คุณแจ๊คอยากได้กี่ชุดอ่ะครับ โทรมาหาผมได้มั๊ยครับ 081-903-3232 ครับ
เพราะมีเพื่อนที่อยากได้อีกเหมือนกัน

แค่ชุดเดียวครับคุณอัน ยังไงเดี๋ยวผมโทรไปหา ขอบคุณครับ

ลืมบอกราคาไปครับ 1450 บาทพอดีๆ ครับ

[dan K]

dan_x_men@hotmail.com

ขอบคุณครับคุณ unun
รบกวนด้วยครับ

(ผมชื่อแดนครับ)

[Flying Dutchman]

พี่ๆ ครับมีคำถาม เรื่องค่า k สปริงครับ
ถ้ามีสปริงหลอดอยู่ เราจะทราบได้ไงครับว่า สปริง กี่ k มีวิธีคำนวนหรือป่าวครับ
ขอบคุณครับ 

มีครับ

วิธีคิดคือ G(d^4) / 8(D^3)n

G = modulus of elasticity 12x10^6 psi อันนี้ค่าคงที่ของเหล็ก ไม่ต้องไปยุ่งกะมันครับ
d = coil diameter คือเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวเส้นลวดสปริง
D = OD - d คือเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่างกลางขดด้านหนึ่งถึงอีกด้านหนึ่ง
n = number of active coils คือจำนวนขดที่ทำงานครับ ถ้าขดไหนแตะกันแสดงว่าขดนั้นไม่ได้ทำงาน มันต้องแยกทำงานขดใครขดมันครับ

หน่วยทั้งหมดเป็น in นะครับ จะได้ค่าออกมาเป็น lbs/in ถ้าต้องการเป็น kgf/mm ให้เอา 0.0178 ไปคูณครับ

หรือไปดูที่นี่ได้ครับ จะได้เข้าใจง่ายขึ้น http://springcalculation.com/Rate_calculations.aspx

หรือถ้าอยากได้ผมทำ excel sheet ไว้คำณวนสปริง เวลาไปซื้อจะได้เลือกง่ายๆหน่อย ถ้าอยากได้ส่งอีเมลล์มาล่ะกันครับ เดี๋ยวส่งไปให้

ตัวอย่างในรูป ด้านซ้าย 4.5 ขด ด้านขวา 5 ขด คือเริ่มนับขดจากอันที่ติดกับเบ้า ถ้าขดสุดท้ายไม่ครบรอบและยังไม่แตะกับแป้นรองสปริงให้นับเป็นครึ่งขดครับ

ส่วนใหญ่ถ้าเป็นสปริงดีๆก็จะมีเขียนเอาไว้ที่ตัวสปริงครับ ถ้าไม่เลือนไปเสียก่อน ถ้าเป็นของ Eibach เลขสี่ตัวท้ายของ serial# คือค่า k ยกตัวอย่างเช่น 0500.225.0700 หมายความว่าสปริงยาว (free length)= 5" เส้นผ่าศูนย์กลาง= 2.25" ค่า k= 700 lbs/in เป็นต้น 
 
วิธีง่ายๆอีกทางก็คือ ถือไปร้านที่เค้ามีเครื่องอัดไฮดรอลิก (แล้วเกจ์วัดไม่เสียด้วย) แล้วให้เขากดสปริงให้ยุบลงไป 1 นิ้วแล้วดูแรงที่ใช้ในการกดลงไปก็ได้ครับ ถ้าสเกลที่เกจ์เขาเป็น lb หน่วยจะออกมาเป็น lb/in

หลักๆแล้วค่า k จะอ้างถึงกันสองหน่วย คือ lb/in กัน N/mm แล้วแต่ว่าทวีปไหนเขานิยมอย่างไร

[dan K]

 ส่วนตัวคุ้นเคยกับหน่วย kgf/mm ครับ
1. ถ้าจะซื้อสปริงตามเก่าตามเซียงกง มาใช้ เราจะรุ้ได้ไงครับว่าสปริงไม่แข็งไปหรืออ่อนไป (กี่ K)
2. โจทย์คื่อ e30 coupe เครื่อง m40 สปริงหน้าหลัง ควรจะกี่K ครับ (ใช้ในชีวิตประจำวันครับ เป็นคนชอบช่วงล่างแบบหนึบๆครับ
ขอบคุณครับ  ununกับคุณFlying Dutchman

(ที่คุณununให้มายังไม่ค่อยเข้าใจครับ เอาแบบง่ายน่ะครับ)

 

[Flying Dutchman]

ปกติแล้วในระบบ SI กิโลกรัม (kg) จะเป็นหน่วยของ "มวล (mass)" แต่พอมาเป็น "แรง (force)" เพื่อกันงงเขาเลยเขียนว่า kgf (kilogram-force) แต่ผมก็ไม่เห็นใครใช้หน่วยนี้มาตั้งนานแล้ว เพราะ "แรง" ในระบบ SI จะมีหน่วยเป็น นิวตัน (N) ซึ่ง 1 kgf จะเท่ากับ 9.806 N (แรงที่กระทำต่อมวล 1 กิโลกรัมด้วยอัตราเร่งคงที่ 9.806 m/s2)

[ae]

ถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน ถนนบ้านเราด้วย..
 
ทำไมไม่ลองพิจารณาใช้ชุดโหลดปรกติหล่ะครับ
ไปเดินหาซื้อสปริงเก่าต้องลุ้น... ต้องลอง ...ถอดเข้าถอดออก กว่าจะชอบ... จะเสียทั้งเงินและเวลามากนะครับ 
 
ก่อนหน้านี้ผมเคยใช้สปริง ibach + โช้ค koni และโช้ค ibach (ใหม่) 
ขับถนนปรกติผมว่า "เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว" (แข็งแล้ว) นะครับ
ก็อีกนั่นแหล่ะ ความต้องการของคนเรามันไม่เหมือนกัน    ผมขอออกความเห็นตามนี้ครับ..
 
แต่ถ้าจะเอาไว้วิ่งสนามก็อีกเรื่องนึง..

[unun]

ส่วนตัวคุ้นเคยกับหน่วย kgf/mm ครับ
1. ถ้าจะซื้อสปริงตามเก่าตามเซียงกง มาใช้ เราจะรุ้ได้ไงครับว่าสปริงไม่แข็งไปหรืออ่อนไป (กี่ K)
2. โจทย์คื่อ e30 coupe เครื่อง m40 สปริงหน้าหลัง ควรจะกี่K ครับ (ใช้ในชีวิตประจำวันครับ เป็นคนชอบช่วงล่างแบบหนึบๆครับ
ขอบคุณครับ  ununกับคุณFlying Dutchman

(ที่คุณununให้มายังไม่ค่อยเข้าใจครับ เอาแบบง่ายน่ะครับ)

 

ตามที่พี่ต่อว่ามาก็ได้ครับง่ายดี ในกรณีที่เป็นของเดิม eibach หรือยังมี part number อยู่
แต่อย่างของผมบางทีมันไม่มีให้ดู เวลาไปซื้อสปริงจะถูกกองไว้กระจัดกระจาย เวลาผมไปซื้อก็จะถือ vernier caliper ไปด้วย เพื่อวัดและจะได้ป้อนเลขต่างๆเข้าไปในตาราง excel ที่ผมทำไว้ไงครับ ง่ายดี สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องมานั่งจิ้มเครื่องคิดเลข ผมก็เอา excel sheet เนี่ยใส่มือถือ แล้วจิ้มค่าโลด

คิดว่าที่ไม่เข้าใจนี่เป็นตรงจำนวนขดหรือเปล่าครับ ลองหาอ่านดูครับ เค้าจะมีอธิบายไว้พร้อมภาพประกอบ ถ้าจะเอาให้เข้าใจง่ายๆต้องเอาของจริงให้ดูแล้วจะร้องอ๋อทันทีเลยครับ

อย่างที่เอ้พูดมาก็ถูกครับ ซื้อของที่มีอยู่แล้วสะดวกกว่าเยอะ เราจะทำให้มันยากเย็นทำไม กว่าเค้าจะทำชุดโหลดมาให้เราใช้ เค้าต้องผ่านการทกสอบและคำณวนออกมาว่าเหมาะสมแล้ว ความรู้วิศวะกรมากกว่าความรู้ที่ผมมีมากมายก่ายกอง ยกเว้นจากไปแปลงไป coil over strut ไปซะแล้วก็อีกเรื่อง มันได้อย่างเสียอย่างนะผมว่า แต่ผมว่าเน้นที่การใช้งานชีวิตประจำวันดีกว่า

ส่วนที่ถามว่าควรใช้สปริงกี่ K นั้น ต้องถามก่อนว่า เอารถไปใช้เพื่ออะไร โช้ค damping force มากน้อยแค่ไหน พอจะหยุดการเต้นของสปริงได้หรือเปล่า และสองอย่างที่สำคัญคือ รถเรามีช่วงการทำงานกี่นิ้วกี่มิลก็ว่าไป แล้วก็น้ำหนักรถครับ สำคัญมาก ถ้าไม่รู้น้ำหนักนี่แท่บทำอะไรไม่ได้เลย

อธิบายง่ายๆ ก่อนอื่นเอารถไปชั่งน้ำหนักก่อน อยากได้ stroke เท่าไหร่ล่ะ ผมว่ารถทั่วไปสัก 3" ก็กำลังดีนะ เผื่อหลุมบ่อ เนินต่างๆ ก็เอาสองอย่างจับมาหารกัน ก็ได้ค่า K สปริงคร่าวๆที่จะใช้แล้ว

ต้องลองถามพี่ต่อครับ จำได้เค้าเคยมีบทความเรื่องการหาค่า K สปริงเนี่ยแหละ ละเอียดกว่าที่ผมอธิบายพร้อมภาพประกอบ จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่หลักการพื้นฐานก็อย่างที่ผมกล่าวมาน่ะครับ

ปล. ส่งไปให้แล้วนะครับ

[Flying Dutchman]

+1 สำหรับคอมเมนท์เรื่องการใช้ชุดคิทธรรมดาหากจะใช้งานบนถนนเพราะสปริงแบบนั้นเขาจะทำเป็น progressive rate ช่วงนิ้วแรกอาจจะนิ่มปกติ แต่พอกระแทกนิ้วต่อไปจึงเริ่มแข็ง ซึ่งมันจะผ่อนหนักผ่อนเบาตามสภาพถนนจริงได้ดีกว่า พวกสปริงหลอดจะเป็น linear แข็งเท่าๆกันตั้งแต่นิ้วแรกจนนิ้วสุดท้าย แต่ก็สามารถทำให้มันเป็น progressive ได้โดยเอาพวก Tender spring ที่มีค่า k น้อยกว่ามาซ้อนเอาไว้อีกชุดนึง (แล้วจะไปทำให้มันยุ่งยากถึงขนาดนั้นทำไม?)