BKCC - Bangkok Classic Car House v.2016

General Category => รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจ => การบูรณะรถคลาสสิค => Topic started by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on October 18, 2005, 11:01:18 pm

Title: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on October 18, 2005, 11:01:18 pm
ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ (http://www.pantown.com/board.php?id=4305&name=board1&topic=369&action=view)
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: rg0143 on January 24, 2008, 10:13:17 am
นังดู...เห็นหัวข้อเลย หยากถาม.............?????
1. สีนกแก้ว กลับ สีดูปอง..นอกจากราคาต่างกัน แล้ว อะไล ต่างอิกครับ...
2. สีนกแก้ว ผสมที่ไหน แถว ลำสาลี ครับ..เต็มระบบ
      ขอเบอร์ ร้านหนอยครับ...รถจะต้องลงสีจิง แล้ว..ขอบคุณ ครับ
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: joehotrod on February 18, 2009, 03:04:52 pm
ตามนี้เลยครับ

http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=11610.0
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: 1600cc on February 19, 2009, 11:48:51 am
อยากทราบเพิ่มเติมจากท่านเจ้าบ้านว่า..
นอกจาก นกแก้วและตราพัดแล้ว ที่ทำๆกันนี่มียี่ห้ออื่นหรือไม่ เพราะสีแห้งช้าบางอู่ก่เห็นมีหลายยี่ห้ออ่ะคับ
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: joehotrod on February 19, 2009, 09:44:39 pm
อยากทราบเพิ่มเติมจากท่านเจ้าบ้านว่า..
นอกจาก นกแก้วและตราพัดแล้ว ที่ทำๆกันนี่มียี่ห้ออื่นหรือไม่ เพราะสีแห้งช้าบางอู่ก่เห็นมีหลายยี่ห้ออ่ะคับ

Glasurit นกแก้ว - German
DuPont   - USA
Sikken  - Sweden
StandDox - German
Mipa - German
ICI - England

TOA - Japan
Nippon Paint (Nax) ตราผึ้ง- Japan
KanSai Paint ตราพัด - Japan
BBP Big Ben Paint - ?
Impirial - ?
Layland -?


และอื่นๆ อีกมาก แต่ที่กล่าวมา หาซื้อได้ทั่วไป

Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: OSBIL on February 21, 2009, 01:29:24 am
ทำสีมีกี่แบบ? ผมคงไม่นึกถึงยี่ห้อมากนักนะครับ

กรรมวิธีในการพ้นที่ผมเข้าใจมีมากกว่า 4 แบบครับ

แบบแรกจะเรียกว่า 1K คือกรรมวิธีพ้นครั้งเดียว สีนั้นจะมีส่วนผสมของแลกเกอร์ในตัว
เมื่อพ้นตามเที่ยวที่กำหนดแล้วหลังจากนั้น พอแห้งก็จะขัดเงาได้เลย เป็นสูตรและลักษณ์
เฉพาะของสีที่เราเรียกกันว่า ดูโก้ หรือ ไม่มี Metalic สีนี้เป็นที่นิยมกันในหมู่รถคลาสสิคในยุคก่อน
เป็นหนึ่งในตระกูลสีแห้งช้า

แบบที่ 2 เรียกว่า 2K คือ กรรมวิธีการพ้น 2 ครั้งคือพ้นเนื้อสีก่อน แล้วจึงทับด้วยแลกเกอร์
กรรมวิธีนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถเน้นคุณภาพของแลกเกอร์ได้ ทำให้งานขัดง่ายกว่า
และมักใช้พ้นกับสี Metalic เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มแห้งช้า

แบบที่ 3 DIY (do it yourself) เป็นกรรมวิที่สะดวก รวดเร็ว ง่าย ใช้สำหรับงานที่มีพื้นผิวขรุขระ
ไม่เน้นความเงางาม ตามที่เราทุกคนรู้จักก็คือสีกระป๋อง คุณภาพก็จะด่อยกว่า เป็นหนึ่งในสีตระกูลแห้งเร็ว

แบบที่ 4 Air Brush เป็นกรรมวิธีพ้นแบบศิลปะ ที่ต้องการใช้สีที่หลากหลาย ส่วนมากจะเป็นงานมอร์เตอไซ
หรือรถก็คงเป็นสไตล์อเมริกัน เป็นอีกหนึ่งของสีแห้งช้า
นอกนั้นยังมีอีกหลายวิธี ที่มักจะเห็นการสร้างสีในสไตล์อเมริกัน เป็นกลุ่มที่ทำสีได้เทพมากๆครับ
บางคันแปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เยี่ยมจริงๆ :good:
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: Pan on February 21, 2009, 07:32:56 am
โรงงานผมก็ทำครับทั้ง 1 K 2 K แต่ทำเป็นโปรเจคๆไป ส่วนใหญ่ทำงานพวกรถขนโค้ก ขน Pepsi อะครับ

แต่ระบบ 2 K นี้ผมเข้าใจว่าเป็นระบบสีที่แยกกันมา 2 ส่วนคือ สีกับตัวเร่งแห้ง เวลาใช้ต้องนำมาผสมกันให้ได้สัดส่วน
มิฉะนั้นสีจะไม่แห้งครับ


แต่ของเพิ่มเติมเรื่องการพ่นสีอะลูมีเนี่ยม

ที่ปัญหามันคือสีจะไม่เกาะกับพื้นผิว จะมี Product นึงเรื่องว่า Wash primer ไว้รองพื้นก่อนแล้วพ่น Epoxy รองพื้นตาม
แล้วถึงทับหน้าด้วยสีนะบบ 2 K ครับ
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: jojoejoez on February 21, 2009, 09:42:29 am
โรงงานผมก็ทำครับทั้ง 1 K 2 K แต่ทำเป็นโปรเจคๆไป ส่วนใหญ่ทำงานพวกรถขนโค้ก ขน Pepsi อะครับ

แต่ระบบ 2 K นี้ผมเข้าใจว่าเป็นระบบสีที่แยกกันมา 2 ส่วนคือ สีกับตัวเร่งแห้ง เวลาใช้ต้องนำมาผสมกันให้ได้สัดส่วน
มิฉะนั้นสีจะไม่แห้งครับ


แต่ของเพิ่มเติมเรื่องการพ่นสีอะลูมีเนี่ยม

ที่ปัญหามันคือสีจะไม่เกาะกับพื้นผิว จะมี Product นึงเรื่องว่า Wash primer ไว้รองพื้นก่อนแล้วพ่น Epoxy รองพื้นตาม
แล้วถึงทับหน้าด้วยสีนะบบ 2 K ครับ


พี่แผนครับ ขอถามเป้นความรู้นิดนึงนะครับ แล้วปรกติ ถ้าอลูมีเนียมมัน ผุ เหมือนเป็นสนิม ขาวๆ อย่างงี้มันพอมีน้ำยาที่เอาไว้ทามั่งไหมครับ
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: thaidub on February 21, 2009, 10:16:17 am
ทำสีมีกี่แบบ? ผมคงไม่นึกถึงยี่ห้อมากนักนะครับ

กรรมวิธีในการพ้นที่ผมเข้าใจมีมากกว่า 4 แบบครับ

แบบแรกจะเรียกว่า 1K คือกรรมวิธีพ้นครั้งเดียว สีนั้นจะมีส่วนผสมของแลกเกอร์ในตัว
เมื่อพ้นตามเที่ยวที่กำหนดแล้วหลังจากนั้น พอแห้งก็จะขัดเงาได้เลย เป็นสูตรและลักษณ์
เฉพาะของสีที่เราเรียกกันว่า ดูโก้ หรือ ไม่มี Metalic สีนี้เป็นที่นิยมกันในหมู่รถคลาสสิคในยุคก่อน
เป็นหนึ่งในตระกูลสีแห้งช้า

แบบที่ 2 เรียกว่า 2K คือ กรรมวิธีการพ้น 2 ครั้งคือพ้นเนื้อสีก่อน แล้วจึงทับด้วยแลกเกอร์
กรรมวิธีนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถเน้นคุณภาพของแลกเกอร์ได้ ทำให้งานขัดง่ายกว่า
และมักใช้พ้นกับสี Metalic เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มแห้งช้า

แบบที่ 3 DIY (do it yourself) เป็นกรรมวิที่สะดวก รวดเร็ว ง่าย ใช้สำหรับงานที่มีพื้นผิวขรุขระ
ไม่เน้นความเงางาม ตามที่เราทุกคนรู้จักก็คือสีกระป๋อง คุณภาพก็จะด่อยกว่า เป็นหนึ่งในสีตระกูลแห้งเร็ว

แบบที่ 4 Air Brush เป็นกรรมวิธีพ้นแบบศิลปะ ที่ต้องการใช้สีที่หลากหลาย ส่วนมากจะเป็นงานมอร์เตอไซ
หรือรถก็คงเป็นสไตล์อเมริกัน เป็นอีกหนึ่งของสีแห้งช้า
นอกนั้นยังมีอีกหลายวิธี ที่มักจะเห็นการสร้างสีในสไตล์อเมริกัน เป็นกลุ่มที่ทำสีได้เทพมากๆครับ
บางคันแปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เยี่ยมจริงๆ :good:


เข้าใจว่า K มาจาก component มากกว่าครับ prind

สีแบบ lacquer ในต้วก็เป็น 2K มี hardener เหมือนกัน  แต่พ่นแค่ครั้งเดียวครับ


quote มาให้จาก link ข้างบนครับ


ขอบคุณมาก ครับท่านขุน สูตร500 ที่ว่านี่จะเงาน้อยกว่ามีแลคเกอร์ แต่เนื้อสีแข็งกว่า และราคาสูงกว่าใช่ไหมครับ (ได้ยินว่ารถโบราณเดิมๆ จากโรงงานมักจะใช้วิธีนี้จริงไหมครับ) ไว้จะแวะไปคารวะด้วยตัวเองถ้ามีโอกาสครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

โดย: สนุกนุก [28 ก.ย. 47 14:45] ( IP A:203.116.21.19 X: )

   
ความคิดเห็นที่ 7
   เดิน ไปถามช่างพร้อมๆ กับขอกะป๋องสี 500 มานั่งดู ตกลงมันคือสี 2 Component (2K) Enamel นั่นเอง ไอ้เลข 500 นั่นมันชื่อรุ่น อย่าไปใส่ใจเลยดีกว่า
ราคา สูงกว่าไหม......ตัวสีเองแพงกว่าสีปกติ แต่ว่าไม่ต้องสาด lacquer ทับ (ปริมาณที่ใช้ต่อคัน ค่า lacquer แพงกว่าค่าสี .... เฉพาะในกรณีของอู่ผมคือ ใช้ lacquer ตัวดีที่สุดที่งบประมาณอนุญาต)
พอถึงตรงนี้ รวมๆ แล้ว สีแบบ Enamel นี้จึงมีราคาโดยรวมไม่น่าจะแพงกว่าสีแบบ 2K ปกติ แต่ว่าลดขั้นตอนการทำงาน ลดเวลาการทำงานของอู่ลงได้เป็นวันๆๆ (กำไรตรงนี้ ยกให้อู่ละกันครับ นิดหน่อยเอง)

โดย: ท่านขุน [28 ก.ย. 47 18:12] ( IP A:203.156.21.166 X: )
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: joehotrod on March 02, 2009, 09:31:17 pm
ทำสีมีกี่แบบ? ผมคงไม่นึกถึงยี่ห้อมากนักนะครับ
กรรมวิธีในการพ้นที่ผมเข้าใจมีมากกว่า 4 แบบครับ
ข้าใจว่า K มาจาก component มากกว่าครับ prind
สีแบบ lacquer ในต้วก็เป็น 2K มี hardener เหมือนกัน  แต่พ่นแค่ครั้งเดียวครับ
quote มาให้จาก link ข้างบนครับ
ขอบคุณมาก ครับท่านขุน สูตร500 ที่ว่านี่จะเงาน้อยกว่ามีแลคเกอร์ แต่เนื้อสีแข็งกว่า และราคาสูงกว่าใช่ไหมครับ (ได้ยินว่ารถโบราณเดิมๆ จากโรงงานมักจะใช้วิธีนี้จริงไหมครับ) ไว้จะแวะไปคารวะด้วยตัวเองถ้ามีโอกาสครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

โดย: สนุกนุก [28 ก.ย. 47 14:45] ( IP A:203.116.21.19 X: )

โดย: ท่านขุน [28 ก.ย. 47 18:12] ( IP A:203.156.21.166 X: )

ประเภทของสีพ่นรถยนต์

โดยทั่วไปเราแบ่งสีพ่นรถยนต์ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. สี 1K :
คือสีระบบ 1 องค์ประกอบ (1 Komponent เป็นภาษา เยอรมัน หรือ อเมริกันอิงลิช ผมไม่ค่อยแน่ใจ) คือประกอบด้วยส่วนของตัวสีเพียงอย่างเดียว ในการใช้ งานอาจนำมาผสมกับตัวทำละลาย เช่นทินเนอร์เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น  โดยทั่วไปแล้ว เราจะเข้าใจว่าสี 1K หมายถึง “สีแห้งเร็ว” ซึ่งไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากสี 1K มีด้วยกัน หลายชนิด

      สี 1K ซินเทติกอีนาเมล หรือสีน้ำมัน เป็นสี 1K แบบแห้งตัวช้า ซึ่งแห้งตัวโดยการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ (Qxidation)

      สี 1K ไนโตรเซลลูโลส เป็นสี 1K แบบแห้งตัวเร็ว ซึ่งแห้งตัวโดยการระเหยตัวของตัวทำละลาย เช่นทินเนอร์ (Physical Drying)

สี 1K อะคริลิค เป็นสี 1K แบบแห้งตัวเร็ว ซึ่งแห้งตัวโดยการระเหยตัวของตัวทำละลาย เช่นทินเนอร์ (Physical Drying)

2. สี 2K :
คือสีระบบ 2 องค์ประกอบ (2 Komponent) คือประกอบด้วยส่วนของตัวสี ซึ่งคือองค์ประกอบที่ 1 และตัวเร่งปฏิกิริยา (Hardener หรือ Activator) ซึ่งคือองค์ประกอบที่ 2 โดยก่อนใช้งานต้องนำทั้ง 2 องค์ ประกอบมาผสมกันตามอัตราส่วน เพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยาทางเคมี ซึ่งจะทำให้สีเกิดการแห้งตัว (Chemical Drying) สี 2K ที่ใช้ในงานสีรถยนต์ จะมี 2 ชนิดหลักด้วยกัน คือสี 2K แบบ “อีพ็อกซี่” และสี 2K แบบ “โพลียู รีเทน” (หรือผสมกับอะครีลิค) สำหรับตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้จะเป็นสารประเภท ไอโซไซยาเนท (Isocyanate) ซึ่งจะ ทำให้สีเกิดการแห้งตัวภายหลังผสมตามอัตราส่วนที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด สี 2K หลังจากแห้งตัวแล้ว จะมีคุณ สมบัติในด้านความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง มีความทนทานต่อตัวทำละลายเช่นทินเนอร์ หรือน้ำมันเบนซิน / ดีเซลได้ดีมาก และทนทานต่อสารเคมีต่างๆ เช่นน้ำมันเบรกได้ดี นอกจากนี้ยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ให้ความ เงางามสูง มีเนื้อสีมาก รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดี จึงไม่ซีดจางง่าย มีความคงทนสูงและคงสภาพ เดิมได้นานมาก กล่าวคือมีคุณสมบัติที่เทียบเคียงได้กับสี OEM

3. สี OEM :
คือสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์ สีชนิดนี้มีเพียงองค์ประกอบเดียว ในการใช้งานอาจนำมาผสมกับ ตัวทำละลายเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น สีชนิดนี้จะแห้งตัวโดยการการอบที่อุณหภูมิสูงประมาณ 120- 160 C จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “สีอบ”(High Bake Paint) หลังจากสีแห้งตัวแล้ว จะมีฟิล์มสีที่มีคุณภาพดีมาก ความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง มีความทนทานต่อตัวทำละลายเช่นทินเนอร์ หรือน้ำมันเบนซิน / ดีเซลได้ดีมาก และทนทานต่อสารเคมีต่างๆ เช่นน้ำมันเบรกได้ดี นอกจากนี้ยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ให้ความเงาที่ดี มีเนื้อสี มาก รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดี จึงไม่ซีดจางง่าย มีความคงทนสูงและคงสภาพเดิมได้นานมาก

โดยทั่วไป เราจะเรียกสี 2K ว่า “สีแห้งช้า” ซึ่งก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว สี 2K ในปัจจุบันนี้ ได้ถูกพัฒนาให้สามารถแห้งตัวได้เร็วขึ้นมาก โดยที่คุณสมบัติยังเหมือนเดิม

การพ่นซ่อมสีรถยนต์ในอู่ซ่อมสีทั่วไปนั้น จะเลือกใช้สีได้แค่ 2 แบบ คือสี 1K หรือสี 2K เท่านั้น จะไม่สามารถนำสี OEM มาใช้ได้ เนื่องจากสี OEM จะต้องอบอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งอู่ไม่สามารถทำได้ ในปัจจุบันนี้อู่ซ่อมสีชั้นนำจะหันมาใช้สีระบบ 2K เนื่องจากมีคุณภาพโดยรวมที่ดีกว่าสี 1K มาก

การแห้งตัวของสีถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลถึงคุณภาพของสี ซึ่งการแห้งตัวที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่าง ระหว่างองค์ประกอบ 2 ส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในเรซิ่น (RESIN) ของสี และอีกส่วนอยู่ในตัวเร่ง หรือ ฮาร์ดเดนเนอร์ (HARDENER) นั้น ถือว่าเป็นการแห้งตัวที่ทำให้ได้ฟิล์มที่แห้งสมบูรณ์ ฟิล์มสีจึงค่อนข้างแข็งแกร่งและมีคุณสมบัติในด้าน อื่นๆ ดีมาก ดังนี้
Durability - ความทนทาน รถยนต์ที่ซ่อมสีโดยใช้ระบบสี 2K จะคงสภาพเดิมและมีระยะเวลาคงสภาพเดิมได้ ไม่ต่ำกว่า 5 ปี
Weather resistance - ความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ
Chemical resistance - สามารถทนทานต่อสารเคมีต่างๆ ได้ดี เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบรก
Color retention - สามารถคงสภาพสีเดิม ไม่ซีดจางจากเดิมง่าย
Gloss - มีความเงางามสูง
ให้คุณสมบัติเหมือนสีรถที่ออกจากโรงงานกระกอบรถยนต์ O.E.M ( Original Equipment Manufacturing )
 
ขอความบางส่วนคัดลอกมาจากใน เวป ผมจำไม่ได้ว่าเวปไหน ขออภัยครับ

ตาม ลิงค์นี้เลยครับ เอามาจากบริษัทสีแห่งหนึ่ง (จำไม่ได้)
http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=11610.msg201204#msg201204
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: auseebkk on March 06, 2009, 11:17:38 am
สีพ่นรถยนต์ และสารเคมีที่ใช้ สีพ่นรถยนต์ในเมืองไทย ที่อู่ซ่อมรถยนต์ต่างๆนิยมใช้ ก็จะมีอยู่ 3 ชนิด(ขอใช้ภาษาทีง่ายต่อการทำความเข้าใจ)

   1. สีแห้งเร็ว
      - ตัวทำละลายหรือตัวผสม(Solvent) คือ ทินเนอร์ (Thinner) 3A หรือจะใช้ Acrylic Thinner 3609 ก็ได้
      - แลคเกอร์ (Lacquer) ชนิดแห้งเร็วโดยผสมในสีและทินเนอร์ พร้อมกันตามอัตราส่วนที่ระบุไว้
      - เป็นสีผสมเสร็จ ตามเบอร์สีของแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น
   2. สีแห้งเร็วที่มีขั้นตอนการเคลือบทับหน้าด้วย แลคเกอร์ แบบระบบสีแห้งช้า
      - สี Acrylic แห้งเร็ว ต้องมีการผสมแม่สีเข้าด้วยกันตาม สูตรและน้ำหนัก ของเบอร์สีที่ต้องการ
      - ตัวทำละลายหรือตัวผสม(Solvent) คือ Acrylic Thinner 3609 เท่านั้น
      - การเคลือบทับหน้าจะใช้ แลคเกอร์ แห้งเร็ว ชนิดที่มีตัวเร่ง(Hardener)
   3. สีแห้งช้า 2K
      - สี 2 K ต้องมีการผสมแม่สีเข้าด้วยกันตามสูตรและน้ำหนัก ของเบอร์สีที่ต้องการ
      - ตัวทำละลายหรือตัวผสม (Solvent) คือ 2 K Thinner หรือ Acrylic Thinner 3609 (แต่ไม่แนะนำ)
      - การเคลือบทับหน้าจะใช้ แลคเกอร์ 2K แห้งช้า ชนิดที่มีตัวเร่ง(Hardener)
      **กรณีที่เป็นสี Solid บางยี่ห้อ สามารถใช้แลคเกอร์ 2K อีกชนิด ผสมในเนื้อสี พ่นในขั้นตอนเดียวก็ได้

ถ้าแบ่งตามลักษณะของสี คือ

   1. สีเมทัลลิค Metalic มีเม็ดบรอนซ์ผสมอยู่ในสี
   2. สีธรรมดา Solid สีที่ไม่มีเม็ดบรอนซ์ผสมอยู่ในสี
   3. สีมุก Pearl สีที่ผสมผงมุก ลงในเนื้อสี

ปกติ อู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไป จะนิยมใช้ สีแห้งเร็วที่มีขั้นตอนการเคลือบทับหน้าในแบบแห้งช้า หรือจะเรียกว่า แห้งเร็ว 2K หรือจะเรียกว่า กึ่งแห้งช้า ก็ได้

การใช้สี แห้งเร็วแบบที่ 1 นั้นไม่นิยมใช้แล้วเนื่องจากคุณภาพของงานที่ออกมาไม่ดี สีไม่เงางามเท่าที่ควร และราคาวัสดุที่ใช้ก็ไม่ต่างกันมากเหมือนก่อน อู่จึงหันมาใช้แบบ ที่ 2 กันมากที่สุด

ระบบสีแห้งช้า 2K ไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก เพราะขั้นตอนการทำงานจะช้ามาก เช่นต้องปล่อยให้แห้งตัว 10 ชั่วโมงขึ้นไป ถึงจะทำการขัดสีได้ หรือหากเกิดความผิดพลาด ต้องทำการพ่นซ่อมได้ต้องหลังจากนั้น 8 - 10 ชั่วโมง ส่วนระบบกึ่งแห้งช้า นั้นสามารถพ่นซ่อมได้หลัง 4 ชั่วโมงและทำการขัดสีได้ภายใน 8 ชั่วโมง

ทีมาครับ http://automix.blogspot.com/2007/03/blog-post_8341.html
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: GOF C110 on March 09, 2009, 07:27:28 pm
ได้ความรู้เยอะเลย

 &v&  &v&  &v&
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: freedom_fly on March 09, 2009, 10:10:18 pm
Thanks krub
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: oakgb400tt on March 17, 2009, 10:51:56 pm
สาระความรู้ทั้งนั้น ขอบคุณครับสำหรับสิ่งดีๆที่นำมาร่วมแบ่งปัน  :good:
Title: Re: ทำสีมีกี่แบบครับ ใครทราบช่วยบอกกันหน่อยครับ ได้เข้าใจตรงกันกับอู่ โดย สนุกนุก
Post by: dEluXe on July 01, 2009, 02:22:26 am
อยากทราบ การพ่นการสังเกตุว่าพ่นเกาะเหล็กหรือไม่ ขั้นตอนการพ่นทุกขั้นนับหนึ่งตั้งแต่ต้น อะครับ