BKCC - Bangkok Classic Car House v.2016

General Category => รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจ => การบูรณะรถคลาสสิค => Topic started by: virtualchuta on December 20, 2005, 09:53:11 am

Title: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: virtualchuta on December 20, 2005, 09:53:11 am
ผมขับรถclassicอยู่คันหนึ่งในประเทศอังกฤษ อยากจะนำรถคันนี้กลับไปเมืองไทยด้วย
แต่มีเพื่อนบอกว่าจะนำกลับมาไม่ได้เพราะรถเก่าจะจดทะเบียนไม่ได้ เป็นความจริงแค่ไหนครับ
กฏหมายเป็นอย่างไรครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: Mee GHBC-100 on December 20, 2005, 10:33:42 am


รถเก่าเอาเข้ามาจดทะเบียนไม่ได้จริงครับ  :)

แต่ก็มีข้อยกเว้นไว้เหมือนกัน เช่น ใช้สิทธนักเรียน หรือ ไปทำงานที่นั้นๆแล้วครอบครองไว้เกินเวลาที่กำหนด

อันนี้จะทำให้เอาเข้ามาแล้วจดทะเบียนได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่เสียภาษี เสียเหมือนกันแต่ถูกกว่ารถใหม่ๆ

รถบางรุ่นที่มีราคาในบ้านเรา บางคันก็คุ้มที่จะเอากลับ บางคันก็ไม่คุ้มหรอก

ยกเว้น มีความพูกพันธ์พิเศษ กับรถคันนั้นๆ รายละเอียดครบๆไปดูจากเวปของกรมศุลได้ครับ.. ;)




Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on December 20, 2005, 06:05:52 pm
จดได้ครับ แต่ต้องเสียภาษีนำเข้า ถ้าคุณครอบครองรถนั้นอยู่ในอังกฤษเกินปีครึ่ง (ถ้ากฎหมายไม่เปลี่ยน)
แล้วมีสิทธิในการนำเข้าอย่างที่คุณหมีว่า ต้องเสียภาษีในอัตราประมาณ 130% ของราคาประเมินของกรมศุลไทย
ซึ่งเข้าใจว่ากรมศุลรู้ราคารถคลาสสิคดีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้ารถราคา 5,000 ปอนด์ ~350,000 บาท (ตย. รถ MGB สภาพธรรมดา ๆ ก็พอ)
ค่าส่ง+Insurance ประมาณ 1,500 ปอนด์ ~105,000 บาท + ภาษีนำเข้า (Import Duty) 6,500 ปอนด์ ~455,000 บาท
รวมแล้ว 910,000 บาท ยังไม่รวมต้องมาทำสี ทำเครื่องเก็บกิ๊กที่เมืองไทยอีก อย่างน้อยสองแสนครับ กว่าจะได้ MGB สวย ๆ ในราคาล้านกว่าบาท

จะเห็นว่ายังแพงมาก เลยไม่เหมาะสำหรับนำเข้าครับ ทำให้วงการรถยนต์คลาสสิคจของบ้านเราไม่ค่อยรุ่ง เนื่องจากไม่มีรถ
ใครจะปั้นรถคันหนึ่งต้องหาจากในประเทศเป็นหลัก บางคนเห็นว่าไม่คุ้มเลยนำเข้าแบบไม่เสียภาษี แล้วมาสวมทะเบียนลุ้นเอา
พอปั้นรถเสร็จก็มีคนแจ้งจับเอารางวัลนำจับ ไปสบาย ตัวเจ้าของเองได้แต่น้ำตาตกครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: classical on December 20, 2005, 06:44:47 pm
ข้อมูลจากกรมศุลฯครับ

การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวร

การนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคลหากในลักษณะนี้ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าภาษีอากรตามปกติ หากเป็นรถยนต์ใหม่ก็ให้ปฏิบัติพิธีการนำเข้าเช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้าอื่น ๆ แต่หากเป็นรถยนต์นั่งเก่าใช้แล้วจะถือเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้ามาในประเทศไทย ในหลักการไม่อนุญาตให้นำเข้า เว้นแต่เป็นการนำเข้าชั่วคราวหรือการนำเข้าเฉพาะตัวที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้เท่านั้น

หลักเกณฑ์การนำเข้ารถยนต์นั่งเก่าใช้แล้วแบบถาวร
 
1.นำเข้ามาใช้ได้เองเพียงคนละ 1 คัน
2.กรณีเป็นชาวต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ที่จะเข้ามาอยู่ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีหนังสืออนุญาตการเข้าเมืองจากกองตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และใบอนุญาตทำงานของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมมาแสดงในการนำเข้าด้วย
3.กรณีชาวไทยมีคู่สมรสเป็นชาวต่างประเทศ จะต้องมีหลักฐานแสดงว่าเป็นคู่สมรสและนำรถยนต์เข้ามาเพื่อมีภูมิลำเนาในประเทศไทย รวมทั้งผู้นำเข้าต้องถือกรรมสิทธิ์หรือครอบครองรถยนต์คันนั้นระหว่างอยู่ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์จนถึงวันที่เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย
4.กรณีเป็นชาวไทย ต้องเป็นชาวไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี 6 เดือน แล้วเดินทางกลับมามีภูมิลำเนาในประเทศไทย และถือกรรมสิทธิ์ครอบครองรถยนต์คันนั้นอยู่ในระหว่างอยู่ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือนและมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์

เอกสารที่ควรจัดเตรียมการนำเข้ารถยนต์แบบถาวร

เอกสารทั่วไป

1.ใบขนสินค้าขาเข้า ประกอบด้วยต้นฉบับและสำเนา 1 ฉบับ
2.ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading or Air Waybill)
3.เอกสารการซื้อขายรถยนต์ (ถ้ามี)
4.ใบสั่งปล่อยสินค้า (กศก.100/1)
5.แบบธุรกิจต่างประเทศ (Foreign Transaction Form) กรณีสินค้านำเข้ามีราคา CIFเกิน 500,000 บาท
6.ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice)
7.เอกสารอื่น ๆ เช่น หนังสือมอบอำนาจ

เอกสารเพิ่มเติมกรณีเป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว

1.ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน
2.หนังสือเดินทาง กรณีย้ายภูมิลำเนา
3.ทะเบียนรถยนต์ที่จดทะเบียนการใช้งานที่ต่างประเทศมาแล้ว
4.ใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ

1.ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบต่อฝ่ายการนำเข้าที่ 4 ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้า
2.กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และประเมินค่าภาษีอากรที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ
3.ผู้นำเข้าหรือตัวแทนไปชำระเงินค่าภาษีอากรที่ฝ่ายบัญชีและอากร
4.ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการชำระเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ส่วนตรวจสินค้าเพื่อรับของออกจากอารักขาศุลกากร



Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: classical on December 20, 2005, 07:01:49 pm
หลักเกณฑ์การประเมินอากร

1. กรมศุลกากรกำหนดเกณฑ์การประเมินราคาโดยใช้ราคา CIF ( ราคา + ค่าประกันภัย+ค่าขนส่ง ) เป็นฐานการประเมินอากรนำเข้า
2. ราคารวมค่าภาษี เป็นราคาที่รวมการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิต ( ถ้ามี ) เข้าไว้ ณ. วันที่ชำระค่าภาษีรถยนต์
3. กรณีที่เป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว จะกำหนดส่วนลดตามระยะเวลาที่จดทะเบียนให้ ดังนี้

อัตราส่วนลดราคารถยนต์นั่งใช้แล้ว
     1. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  1 ปี แต่ไม่เกิน 1 ปี2 เดือน หักส่วนลด 16.67 %
     2. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  2 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี2 เดือน หักส่วนลด 26.67 %
     3. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  3 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี2 เดือน หักส่วนลด 36.67 %
     4. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  4 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปี2 เดือน หักส่วนลด 46.67 %
     5. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  5 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี2 เดือน หักส่วนลด 55.83 %
     6. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  6 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี2 เดือน หักส่วนลด 60.50 %
     7. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  7 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี2 เดือน หักส่วนลด 63.50 %
     8. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  8 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี2 เดือน หักส่วนลด 66.33 %
     9. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า  9 ปี แต่ไม่เกิน 9 ปี2 เดือน หักส่วนลด 68.33 %
   10. จดทะเบียนใช้แล้วเกินกว่า 10 ปี                            ประเมินราคาตามสภาพรถ

4. หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าภาษีอากร เป็นไปตามที่กรมศุลกากรประกาศกำหนดไว้ชัดเจน


 


 

Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: classical on December 20, 2005, 07:17:22 pm
.
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: classical on December 20, 2005, 07:20:19 pm
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีความประสงค์จะขอทราบรายละเอียดพิธีการนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวร สามารถติดต่อฝ่ายการนำเข้า ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้าทุกแห่งในวันและเวลาราชการ


สรุปว่าแพงอย่างที่ท่านเจ้าบ้านว่าครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: gowest on December 20, 2005, 10:41:00 pm
ซื้อรถร้อนมาจากต่างประเทศในราคาถูกๆ
แอบนําเข้ามา
แล้วถอดอะไหล่mainๆออกมาก่อน
แจ้งจํบรถตัวเอง
รอประมูล
ได้รางวัลนําจับคืนอีก30%ชิวๆ

ถ้ามีคนมาสู้ก็ดันทะลุ เอาเงินรางวัล >:D
แล้วรอขายอะไหล่  O0
ลองดูครับ

ลือบอกไป :P ถ้าโดนก็ตัวใครตัวเผือกนะครับ ผมไม่เกียว อิ อิ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: virtualchuta on December 21, 2005, 12:25:32 am
ขอขอบคุณพี่ๆที่ให้ความรู้ครับ ผมคงจะต้องตัดสินใจฝากเพื่อนรักไว้ดูแล
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on December 21, 2005, 01:16:10 am
ขอขอบคุณ คุณ classiccal มากครับ ที่เอาข้อมูลโดยละเอียดมาฝากเพื่อนบ้านบางกอกครับ
ผมเคยถามจาก ก.พ. ครั้งนึงตอนเรียนจบสิบกว่าปีก่อน รู้ว่าภาษีนำเข้าร้อยกว่าสองร้อยเปอร์เซนต์
ถามจากกรมศุลฯ อีกครั้งเมื่อหกเจ็ดปีก่อนตอนกลับจากไปประจำที่แอลเอ ก็ยังไม่เคนได้ข้อมูลชัดเจนเท่าของคุณ classiccal เลยครับ

สำหรับคำแนะนำของคุณ gowest เป็นเทคนิคส่วนตัว สำหรับผมเคยได้ยินมาพอสมควรแล้ว
ไม่เคยรู้จักคนทำจริงนะครับ ใครจะทำก็ ... buffet ... ดีกว่า ... ตัวใครตัวมันแล้วกันครับ ...
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: Niki on December 21, 2005, 10:12:36 am
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากครับ

ขออนุญาติแนะนำให้ท่านเจ้าบ้านจัดเก็บกะทู้ไว้ในฟอรั่ม"รวมกระทู้ที่น่าสนใจ" เพราะเชื่อว่าต้องมีสมาชิกในอนาคตมาถามอีกแน่ๆ

Title: hidden
Post by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on December 21, 2005, 11:46:28 am
ตั้งใจไว้แล้วครับ

ขอให้กระทู้ตกไปหน้าสองก่อน แล้วค่อยย้ายนะครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: surach101 on December 22, 2005, 03:27:07 pm
ขอเพิ่มเติมว่าการขออนุญาตนำเข้าจากกระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการก่อนเรือเข้านะครับมิฉะนั้นจะถูกปรับ 1-2 หมื่นบาท เคยโดนมาแล้วครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: OouVintage on December 22, 2005, 07:10:17 pm
อยากลองอยู่เหมือนกันครับแบบเอามาเองแจ้งจับเองและประมูลเองเนี้ย >:D
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: Maximus Hippopotemus on December 22, 2005, 08:25:07 pm
อยากลองอยู่เหมือนกันครับแบบเอามาเองแจ้งจับเองและประมูลเองเนี้ย >:D

เค้าทำกันเยอะแยะครับพี่ แต่เสี่ยงตรงไม่รู้จะประมูลกลับมาได้รึเปล่า อิอิ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on December 22, 2005, 11:46:23 pm
ก็บางคนพี่เล่นถอดอะไหล่จนไม่เหลือซาก ทำให้ไม่มีใครอยากประมูล เพราะได้ไปยังต้องเหนื่อยอีกแยะ
บางคนประมูลไปแล้วเอาไปขายเจ้าของเดิมต่อ ทำกำไรก็มีครับ เรื่องพวกนี้ผมว่าแล้ว Buffet ครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: asw on September 15, 2006, 11:39:10 pm
อ่านจากข้างบนแล้ว  หยั่งงี้การที่เอานำรถที่ประมูลจากอีเบย์ก็หมดสิทธิ์สิครับ :police: :police:
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on September 16, 2006, 01:28:11 am
อ่านจากข้างบนแล้ว  หยั่งงี้การที่เอานำรถที่ประมูลจากอีเบย์ก็หมดสิทธิ์สิครับ :police: :police:

ebay คงซื้อเฉพาะอะไหล่นะครับ ถ้าคนปกติจะซื้อรถมา
ทั้งคันคงหมดสิทธิ์ครับ ซื้อมาถึงก็จดทะเบียนไม่ได้
รถไม่มีทะเบียน ไม่เสียภาษีนำเข้าถือเป็นรถเถื่อนผิดกฎหมาย
ตำรวจจับยึดแล้วยึดเลยนะครับใครโดนแบบนี้กับรถตัวเอง
เสียดายแย่ ทั้งเสียเงิน เสียใจเสียดายด้วย เสียอารมณ์อีก
แย่ไปหมดนะครับ

มีข้อยกเว้นว่าถ้าซื้อแล้วไปอยู่เมืองนอกด้วย จะไปเรียนหรือไป
ทำงานก็ได้อย่างน้อยปีครึ่ง เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการนำรถซึ่งถือเป็นของใช้ส่วนตัว
กลับเข้าประเทศ มิฉะนั้นต้องใช้สิทธิ์ของลูกหลานหรือนักเรียนที่ไว้วางใจได้
ให้เค้าจดทะเบียนรถเป็นชื่อของตัวเอง ถือกรรมสิทธิ์อย่างน้อยปีครึ่งขึ้นไป
แล้ว ship กลับมาเสียภาษี ตอนกลับเมืองไทยครับ

ใจเย็นครับ บ้านเรายังมีรถให้เล่นอีกแยะครับ

 w^w
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: JOYSA007 on January 22, 2009, 08:35:26 am
มีใครพอทราบข่าวไหมค่ะ ภาษีนำเข้ารถจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่   ขอบคุณค่ะ :a_smiley:
 
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: chalome on April 06, 2009, 07:53:50 am
ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลจาก คุณ classical ปัจจุบัน ภาษีการนำรถใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักร จะอยู่ที่ประมาณ 230% (car invoice+ transport + insurance) คิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันเรือเทียบท่าครับ
ก่อนจะดำเนินการเมื่อครบ กำนด 1 ปี 6 เดือน แล้ว ให้นำหลักฐานตามที่ คุณ classical แนะนำ ไปที่ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  เสียค่าธรรมเนียม ประมาณ 3000 บาท (ราคานี้ไม่แน่ใจเพราะให้ตัวแทน ดำเนินการให้) ขอแนะนำให้คนที่รู้เรื่องดำเนินการแทนให้ ไปยื่นเรื่องเองก็ได้  ถ้าท่านพิมพ์เอกสารโดยใช้เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าได้ ถ้าพิมพ์ผิดตัวเดียวต้องเปลี่ยนกระดาษใหม่ เจ้าหน้าที่เขาไม่ทำให้ครับ ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ สองสัปดาห์ เมื่อได้ใบอนุญาตแล้ว ก็ไปติดต่อบริษัท shipping  นำรถลงเรือได้เลย เมื่อเรือมาถึง บริษัท shipping จะมีหนังสือมาแจ้ง ให้ไปรับรถ เมื่อได้รับหนังสือก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่กรมศุลกากร เพื่อประเมินราคา (ระวังเจ้าหน้าที่ประเมินราคา เคี่ยวจริง ๆ ครับ ต้องคุยดี ๆ) หรือไปที่ ท่าเรือ ให้เจ้าหน้าที่ ศุลกากรประจำโกดัง ประเมินราคา แล้วไปจ่ายราคาประเมินที่ การเงินกรมศุลกากร การประเมินราคา ถ้าเป็นรถเก่ามาก น่าจะเกิน 20 ปีขึ้นไป ทางศุลกากรเขาคิดเป็นรถ classic ที่มีราคาแพง และเจ้าของรักถึงนำเข้ามา เมื่อรู้จุดอ่อนของเราอย่างนี้ ทางศุลกากรเลยคิดแพงกว่าปกติครับ เรื่องนี้ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวครับ ทางเราก็อยากได้ของถูก ทางศุลกากรก็อยากได้เงินเข้าหลวงมากขึ้น เรื่องนี้ต้องเจรจาหาจุดเหมาะสมครับ ก็ไม่ง่ายครับในขั้นตอนนี้ เมื่อดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อย ก็สามารถนำรถออกมาได้เลยครับ  มีข้อแนะนำ ต้องทำ พ ร บ ก่อนนะครับ มิฉนั้นจะขับไม่ได้ หรือติดต่อรถลาก แต่รถลากมีระยะเวลากำหนดการเข้าออกจากโกดังครับ แล้วแต่สดวกจะใช้วิธีไหน ก่อนออกจากท่าเรือต้องนำเอกสารการเสียภาษีมายื่นที่ประตูป้อมยาม ขั้นตอนนี้น่าจะมีซองเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ มิฉนั้นท่านจะนำรถออกยาก  เมื่อนำรถออกมาแล้วก็นำรถไปตรวจสภาพที่กรมขนส่งทางบกที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ ขั้นตอนนี้ไม่ยากครับ เจ้าหน้าที่เขาดูที่ chassi and engine serial number ว่าตรงตามเอกสารหรือไม่ หลังจากนั้นก็ไปขอเลขทะเบียน ถ้าอยากได้ทะเบียนสวยก็ไปประมูลหรือแจ้งความประสงค์ ว่าอยากได้หมายเลขอะไร เมื่อดำเนินการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ท่านก็ได้รถใช้สมใจอยากครับท่าน หลังจากนั้น ท่านก็ต้องไปหาอู่ เพื่อดำเนินการปรับปรุงตามที่ท่านชอบต่อไปครับ เรื่องราคาค่าปรับปรุงก็ตามคุณภาพของรถครับ
สรุป ขั้นตอนทุกอย่าง ที่ยากลำบากที่สุด คือ ช่วงศุลกากรคำนวณภาษี ครับ  แต่ถ้าท่านมีเงินเยอะ ก็ไม่ยากครับ ขั้นตอนทุกอย่างถ้าท่านยอมเสียค่าธรรมเนียมตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ก็ไม่ยุ่งยากครับ
ข้อมูลนี้ น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ต้องใช้ประกอบกับข้อมูลของคุณ classical นะครับ
ขอให้โชคดีครับ
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: Maximus Hippopotemus on April 07, 2009, 09:45:45 pm
ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลจาก คุณ classical ปัจจุบัน ภาษีการนำรถใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักร จะอยู่ที่ประมาณ 230% (car invoice+ transport + insurance) คิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันเรือเทียบท่าครับ
ก่อนจะดำเนินการเมื่อครบ กำนด 1 ปี 6 เดือน แล้ว ให้นำหลักฐานตามที่ คุณ classical แนะนำ ไปที่ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  เสียค่าธรรมเนียม ประมาณ 3000 บาท (ราคานี้ไม่แน่ใจเพราะให้ตัวแทน ดำเนินการให้) ขอแนะนำให้คนที่รู้เรื่องดำเนินการแทนให้ ไปยื่นเรื่องเองก็ได้  ถ้าท่านพิมพ์เอกสารโดยใช้เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าได้ ถ้าพิมพ์ผิดตัวเดียวต้องเปลี่ยนกระดาษใหม่ เจ้าหน้าที่เขาไม่ทำให้ครับ ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ สองสัปดาห์ เมื่อได้ใบอนุญาตแล้ว ก็ไปติดต่อบริษัท shipping  นำรถลงเรือได้เลย เมื่อเรือมาถึง บริษัท shipping จะมีหนังสือมาแจ้ง ให้ไปรับรถ เมื่อได้รับหนังสือก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่กรมศุลกากร เพื่อประเมินราคา (ระวังเจ้าหน้าที่ประเมินราคา เคี่ยวจริง ๆ ครับ ต้องคุยดี ๆ) หรือไปที่ ท่าเรือ ให้เจ้าหน้าที่ ศุลกากรประจำโกดัง ประเมินราคา แล้วไปจ่ายราคาประเมินที่ การเงินกรมศุลกากร การประเมินราคา ถ้าเป็นรถเก่ามาก น่าจะเกิน 20 ปีขึ้นไป ทางศุลกากรเขาคิดเป็นรถ classic ที่มีราคาแพง และเจ้าของรักถึงนำเข้ามา เมื่อรู้จุดอ่อนของเราอย่างนี้ ทางศุลกากรเลยคิดแพงกว่าปกติครับ เรื่องนี้ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวครับ ทางเราก็อยากได้ของถูก ทางศุลกากรก็อยากได้เงินเข้าหลวงมากขึ้น เรื่องนี้ต้องเจรจาหาจุดเหมาะสมครับ ก็ไม่ง่ายครับในขั้นตอนนี้ เมื่อดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อย ก็สามารถนำรถออกมาได้เลยครับ  มีข้อแนะนำ ต้องทำ พ ร บ ก่อนนะครับ มิฉนั้นจะขับไม่ได้ หรือติดต่อรถลาก แต่รถลากมีระยะเวลากำหนดการเข้าออกจากโกดังครับ แล้วแต่สดวกจะใช้วิธีไหน ก่อนออกจากท่าเรือต้องนำเอกสารการเสียภาษีมายื่นที่ประตูป้อมยาม ขั้นตอนนี้น่าจะมีซองเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ มิฉนั้นท่านจะนำรถออกยาก  เมื่อนำรถออกมาแล้วก็นำรถไปตรวจสภาพที่กรมขนส่งทางบกที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ ขั้นตอนนี้ไม่ยากครับ เจ้าหน้าที่เขาดูที่ chassi and engine serial number ว่าตรงตามเอกสารหรือไม่ หลังจากนั้นก็ไปขอเลขทะเบียน ถ้าอยากได้ทะเบียนสวยก็ไปประมูลหรือแจ้งความประสงค์ ว่าอยากได้หมายเลขอะไร เมื่อดำเนินการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ท่านก็ได้รถใช้สมใจอยากครับท่าน หลังจากนั้น ท่านก็ต้องไปหาอู่ เพื่อดำเนินการปรับปรุงตามที่ท่านชอบต่อไปครับ เรื่องราคาค่าปรับปรุงก็ตามคุณภาพของรถครับ
สรุป ขั้นตอนทุกอย่าง ที่ยากลำบากที่สุด คือ ช่วงศุลกากรคำนวณภาษี ครับ  แต่ถ้าท่านมีเงินเยอะ ก็ไม่ยากครับ ขั้นตอนทุกอย่างถ้าท่านยอมเสียค่าธรรมเนียมตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ก็ไม่ยุ่งยากครับ
ข้อมูลนี้ น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ต้องใช้ประกอบกับข้อมูลของคุณ classical นะครับ
ขอให้โชคดีครับ


 &v& &v& &v& :good:
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: chalome on April 08, 2009, 07:53:54 am
ขอต่ออีกนิดครับ ถ้ามีหลักฐานครบตามที่กล่าวและจะนำเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องคิดให้หนักนะครับ เพราะท่านสามารถนำเข้ามาได้แค่ หนึ่งคันในชีวิตเท่านั้นครับ ดังนั้นต้องเป็นรถที่ท่านรักจริง ๆ มีหนึ่งไม่มีสองครับ ชนิดรักจริงหวังแต่งเลยครับ แต่งแล้วเปลี่ยนแปลงยากนะครับ 55555
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: Flying Dutchman on April 15, 2009, 08:10:25 am
ข้อมูลละเอียดดีมากเลยครับ

น่าแปลกว่าทำไมเมืองไทยจึงไม่เปิดใจให้กว้างกับเรื่องพวกนี้ วัตถุประสงค์การตั้งกำแพงภาษีก็เพื่อต้องการให้ใช้ของในประเทศ แต่ของอย่างรถคลาสสิก หรือรถ collectible เหล่านี้ผลิตไม่ได้ในประเทศ หรือไม่มีขายในประเทศอยู่ดี จึงไม่ทราบเหตุผลว่าจะกีดกันเพื่อวัตถุประสงค์อะไร สู้เปิดให้นำเข้ามาได้แล้วเก็บภาษีเข้าหลวงน่าจะได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่า ซึ่งผมว่ามีคนจำนวนมากที่ยินดีที่จะยอมเสียเงินตรงจุดนี้ ดีกว่ามานั่งไล่จับกันเป็นคราวๆไป แถมสร้างความอันตรายเพิ่มเข้ามาบนท้องถนนจากรถที่ประกอบกันขึ้นมาแบบไม่ได้มาตรฐานอีก ถ้าเข้ามาทั้งคันก็โอเค แต่ถ้าแบบต่อหัวต่อหางนี่น่ากลัวมาก ขออนุญาตคอมเมนท์ในฐานะผู้ร่วมใช้ถนนคนหนึ่งนะครับ

สิบกว่าปีก่อนตอนไปเรียนหนังสือเคยคิดจะเอา M3 E30 เข้ามาเหมือนกัน แต่พอคำนวณบวกนั่น บวกนี่ บวกโน่น แล้วราคาน่าตกใจ นี่ขนาดใช้สิทธิ์นักเรียนแล้วนะเนี่ย 
Title: Re: จะนำรถClassicเข้าเมืองไทย
Post by: MR.MaRK on December 03, 2009, 12:38:07 pm
ลองดูครับ

http://www.dft.moc.go.th/the_files/ (http://www.dft.moc.go.th/the_files/)$$8/level4/used_sedani.htm