BKCC - Bangkok Classic Car House v.2016
General Category => Bangkok Classiccar Webboard => Topic started by: fatboy on November 05, 2008, 12:16:04 am
-
รถโฟล์คตู้คันนี้มีคนเอามาใช้หนี้เพื่อนผมครับ เท่าที่ทราบคือ จดทะเบียนปี 74 ไฟเลี้ยวบน สภาพตามรูป แต่ปัจจุบันสตาร์ทไม่ติดแล้วครับ ทะเบียนก็ขาดมา 2 ปีแล้วครับ กำลังชั่งใจว่าจะทำเก็บ หรือจะขายดีครับ
- อยากทราบข้อมูลพื้นฐานของรถหัวแตงโมนี้ ว่า ไฟเลี้ยวบน-ล่าง มีอะไรแตกต่างกันบ้างครับ อะไหล่หายากมั๊ยครับ
- ถ้าจะขายควรขายราคาเท่าไหร่ครับ ควรทำให้วิ่งได้ และต่อทะเบียนให้เสร็จก่อนขายมั๊ยครับ หรือขายตามสภาพดีครับ
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
-
รูปห้องเครื่องครับ
-
รถโฟล์คตู้คันนี้มีคนเอามาใช้หนี้เพื่อนผมครับ เท่าที่ทราบคือ จดทะเบียนปี 74 ไฟเลี้ยวบน สภาพตามรูป แต่ปัจจุบันสตาร์ทไม่ติดแล้วครับ ทะเบียนก็ขาดมา 2 ปีแล้วครับ กำลังชั่งใจว่าจะทำเก็บ หรือจะขายดีครับ
- อยากทราบข้อมูลพื้นฐานของรถหัวแตงโมนี้ ว่า ไฟเลี้ยวบน-ล่าง มีอะไรแตกต่างกันบ้างครับ อะไหล่หายากมั๊ยครับ
- ถ้าจะขายควรขายราคาเท่าไหร่ครับ ควรทำให้วิ่งได้ และต่อทะเบียนให้เสร็จก่อนขายมั๊ยครับ หรือขายตามสภาพดีครับ
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
เอาเท่าที่ทราบละกันนะครับ รอท่านอื่นมาเสริม
- ไฟเลี้ยวล่าง เป็นรุ่นแรกของหัวแตงโม ไฟท้ายทรงแคปซูล ออกมาหลังจากหน้าวี ประมาณปี 68 ไปจนถึง 71 (ปีสิ้นสุดไม่ค่อยแน่ใจ แต่จะมีช่วงรอยต่อก่อนจะเปลี่ยนเป็นไฟเลี้ยวบน หน้าตาจะเป็นลูกครึ่ง คือ ไฟเลี้ยวล่าง แต่ไฟท้ายยาว)
รุ่นย่อยๆมีเยอะ เช่น ตู้ทึบบรรทุก, ตู้โดยสาร, ปิคอัพ (ซิงเกิ้ลและดับเบิ้ลแค็บ), เดอลุกซ์ (มีคิ้วรอบคัน)
รายละเอียดอื่นๆ ก็เครื่องยนต์อาจมีหลายแบบ (อันนี้ไม่ค่อยชัวร์) 1600cc มี AS, AD, AJ ประมาณเนี้ยครับ
ล้อห้ารูห่างๆ เหมือนเต่า ฝาครอบล้อนูน ดรัมเบรกสี่ล้อ คานหน้าปี 68 นิยมนำไปใช้กับตู้ปีอื่นๆ เนื่องจากการทรงตัวดี (อันนี้เคยได้ยินมาหลายเสียง แต่เหตุผลแน่ชัดไม่ทราบครับ)
- ไฟเลี้ยวบน จะมีไฟท้ายยาว ตั้งแต่ปี 71 ไปถึงประมาณ 79 (จากนั้นก็เป็นตู้ T3) กันชนหน้าใหญ่ยื่นกว่า
รุ่นย่อยๆเยอะเช่นกัน ส่วนใหญ่เหมือนไฟเลี้ยวล่าง จะมีเพิ่มก็พวกรุ่นพิเศษที่ออกจากไลน์การผลิตที่บราซิล เช่น แคมเปอร์ หลังคาสูง เปิดออกได้, รุ่นที่มีหลายๆหน้าต่างไปจนถึงมุมเสาหลังเป็นกระจกโค้งๆ (เคยเห็นเรียกว่ารุ่นบราซิล)
เครื่องยนต์-รุ่นใหม่กว่า สมรรถนะดีกว่าแน่นอนครับ (ไม่แน่ใจรายละเอียดครับ)
ล้อห้ารูชิด ฝาครอบล้อแบน รุ่นนี้มีดิสก์เบรคหน้า
ถ้าเอาใช้ังานรุ่นที่คุณบอกก็เหมาะสมอย่างยิ่งเลยครับ
อะไหล่ทั้งสองรุ่นนี้มีัให้เลือกเยอะนะครับ เท่าที่เห็น สังเกตได้จากมีรถสวยๆครบๆบางคันแรงๆ ให้เราเห็นมาก
หวังว่าคำตอบของผมคงมีส่วนช่วยคุณ fatboy ได้บ้างนะครับ
ขอให้โชคดีครับ :good: :good:
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ คุณ grunweiBus
-
รถสวยนะครับ ผมว่าอะไหล่แตงโมหาไม่ยากนะครับเพราะรถไม่ได้เก่าขนาดนั้น ดูจากสภาำพรถแล้วก็ไม่น่าจะทำเพิ่มอีกเยอะ เพราะทรงสวยอยู่แล้วของก็ครบ ถ้าชอบก็เก็บไว้ดีกว่าครับ ผมว่าแตงโมยังเป็นรถที่ใช้งานประจำได้ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ขับแตงโมประจำ ขับง่ายดีครับ
-
รถโฟล์คตู้คันนี้มีคนเอามาใช้หนี้เพื่อนผมครับ เท่าที่ทราบคือ จดทะเบียนปี 74 ไฟเลี้ยวบน สภาพตามรูป แต่ปัจจุบันสตาร์ทไม่ติดแล้วครับ ทะเบียนก็ขาดมา 2 ปีแล้วครับ กำลังชั่งใจว่าจะทำเก็บ หรือจะขายดีครับ
- อยากทราบข้อมูลพื้นฐานของรถหัวแตงโมนี้ ว่า ไฟเลี้ยวบน-ล่าง มีอะไรแตกต่างกันบ้างครับ อะไหล่หายากมั๊ยครับ
- ถ้าจะขายควรขายราคาเท่าไหร่ครับ ควรทำให้วิ่งได้ และต่อทะเบียนให้เสร็จก่อนขายมั๊ยครับ หรือขายตามสภาพดีครับ
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
เอาเท่าที่ทราบละกันนะครับ รอท่านอื่นมาเสริม
- ไฟเลี้ยวล่าง เป็นรุ่นแรกของหัวแตงโม ไฟท้ายทรงแคปซูล ออกมาหลังจากหน้าวี ประมาณปี 68 ไปจนถึง 71 (ปีสิ้นสุดไม่ค่อยแน่ใจ แต่จะมีช่วงรอยต่อก่อนจะเปลี่ยนเป็นไฟเลี้ยวบน หน้าตาจะเป็นลูกครึ่ง คือ ไฟเลี้ยวล่าง แต่ไฟท้ายยาว)
รุ่นย่อยๆมีเยอะ เช่น ตู้ทึบบรรทุก, ตู้โดยสาร, ปิคอัพ (ซิงเกิ้ลและดับเบิ้ลแค็บ), เดอลุกซ์ (มีคิ้วรอบคัน)
รายละเอียดอื่นๆ ก็เครื่องยนต์อาจมีหลายแบบ (อันนี้ไม่ค่อยชัวร์) 1600cc มี AS, AD, AJ ประมาณเนี้ยครับ
ล้อห้ารูห่างๆ เหมือนเต่า ฝาครอบล้อนูน ดรัมเบรกสี่ล้อ คานหน้าปี 68 นิยมนำไปใช้กับตู้ปีอื่นๆ เนื่องจากการทรงตัวดี (อันนี้เคยได้ยินมาหลายเสียง แต่เหตุผลแน่ชัดไม่ทราบครับ)
- ไฟเลี้ยวบน จะมีไฟท้ายยาว ตั้งแต่ปี 71 ไปถึงประมาณ 79 (จากนั้นก็เป็นตู้ T3) กันชนหน้าใหญ่ยื่นกว่า
รุ่นย่อยๆเยอะเช่นกัน ส่วนใหญ่เหมือนไฟเลี้ยวล่าง จะมีเพิ่มก็พวกรุ่นพิเศษที่ออกจากไลน์การผลิตที่บราซิล เช่น แคมเปอร์ หลังคาสูง เปิดออกได้, รุ่นที่มีหลายๆหน้าต่างไปจนถึงมุมเสาหลังเป็นกระจกโค้งๆ (เคยเห็นเรียกว่ารุ่นบราซิล)
เครื่องยนต์-รุ่นใหม่กว่า สมรรถนะดีกว่าแน่นอนครับ (ไม่แน่ใจรายละเอียดครับ)
ล้อห้ารูชิด ฝาครอบล้อแบน รุ่นนี้มีดิสก์เบรคหน้า
ถ้าเอาใช้ังานรุ่นที่คุณบอกก็เหมาะสมอย่างยิ่งเลยครับ
อะไหล่ทั้งสองรุ่นนี้มีัให้เลือกเยอะนะครับ เท่าที่เห็น สังเกตได้จากมีรถสวยๆครบๆบางคันแรงๆ ให้เราเห็นมาก
หวังว่าคำตอบของผมคงมีส่วนช่วยคุณ fatboy ได้บ้างนะครับ
ขอให้โชคดีครับ :good: :good:
ช่วยเพิ่มเติมเท่าที่ผมจำได้นะครับ เพราะตอนที่ ที่บ้านมียังเด็กอยู่ รุ่นนี้มีเครื่อง 1600 c.c. กับ 2000 c.c. เคยมีทั้งสองรุ่นเลย ทีแรกซื้อ 1600 c.c. ก่อน แล้วพอไปต่างจังหวัดบรรทุกคนเต็มคันแล้วแซงลำบากมาก เลยเปลี่ยนเป็นรุ่น 2000 c.c. พอเป็นรุ่น 2000 c.c. ก็โดนทางหลวงจับบ่อย เพราะวิ่งได้เร็วหน่อย จำได้ว่าประมาณ 120-130 speedometer มีอยู่ 140 เลยต้องให้เพื่อนคุณพ่อหิ้ว radar detector มาให้จาก U.S.A. ตอนเด็กๆจำได้ว่ามันเจ๋งมาก เป็นไฟ led วิ่งๆ เหมือน รถ kit (Knight rider)ที่ดูใน tv เลย มีเสียงเตือนก่อนจะถึงที่จับความเร็วสัก 2 km. แล้วไฟจะหยุดวิ่งกลายเป็นค่อยๆติดเพิ่มทีละดวงแทนจนถึงที่ตรวจจับก็จะติดครบทุกดวง พอใกล้ๆจะติดครบก็จะต้องมองหาว่าตำรวจแอบอยู่ตรงไหน ไปต่างจังหวัดทีไรต้องคอยนั่งจ้องเอาไว้ทุกที
รุ่น 2000 c.c.จะมีบันไดที่ใต้ประตูslide ด้านข้างด้วย เวลาเปิดประตูจะยื่นออกมาให้เหยียบขึ้นรถได้ง่าย แล้วก็มีรุ่นประตู slide สองด้านด้วยนะครับ เพราะว่าคันของน้าเขยของแม่ เป็นแบบนี้ ไปเล่นบ้านเขาทีไรต้องเปิดประตูสองข้าง แล้ววิ่งทะลุออกอีกข้างทุกที
ตรงสันโค้งที่กระจกมองข้างติดอยู่จะมีคิ้วโครเมี่ยมติดอยู่รอบคัน คัน 1600 ไม่มีอันนี้จำแม่นเพราะว่า คุณแม่จะโดนคุณพ่อดุประจำเลยว่าขับไม่ระวังแล้วเอาคิ้วตัวนี้ไปเบียดกับเสา
รูน็อตล้อจะเท่ากับรถ benz ที่ทราบเพราะว่าเคยไปต่างจังหวัดแล้วยางแตกสองเส้นพร้อมกันแล้วเอายางอะไหล่จากรถ benz เพื่อนคุณพ่อมาใส่วงนึงได้เลยรอดไม่ต้องกินข้าวลิง อันนี้น่าจะเหมือนกันทั้งสองคัน
คิ้วกระจกหน้าหลัง มีเส้นโครเมี่ยม คัน 1600 ไม่มี เป็นยางดำๆเฉยๆ
คัน 2000 มีตัวกั้นสัมภาระที่กระจกหลัง ขึ้นมาครึ่งบานเป็น แท่ง aluminium สองเส้น คาดตามแนวนอน กระจกข้างบานสุดท้าย ก็มาสองเส้นคาดเฉียงๆ แนวเดียวกับกระจกหลังลาดลงไปตรงเหนือเบาะหลัง
หน้าปัดช่องซ้ายสุด 1600 จะเป็นแผ่นปิดเอาไว้ คัน 2000 เป็นนาฬิกา
battery สองลูกซ้ายขวา คัน 1600 มีลูกเดียว
ถังน้ำมันน่าจะใหญ่กว่ากันเพราะว่า คัน 2000 c.c. วิ่งได้ไกลกว่า คัน 1600 c.c. ไม่งั้นหมดกลางทาง คัน 1600 c.c. ต้องเติมแถวหัวหิน ส่วนคัน2000c.c. เลยปราณบุรีไปแล้วถึงต้องเติม
+++เรื่อง battery กับถังน้ำมันไม่แน่ใจว่า มีการดัดแปลงเพิ่มหรือเปล่านะครับ แต่สองคันที่เคยมีต่างกันแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะเหมือนกัน+++
ระบบเบรคมีหม้อลมเบรค หน้า disc หลัง drum ทั้งสองคัน
clutch สาย จำได้ว่าตอนนั้น สาย clutch แพงมั่กๆเส้นยาวตั้งแต่หัวถึงท้ายเลย
จำได้เท่านี้ครับผม
-
ดีครับคุณ oak2.7
เพื่อนๆพี่ๆชาวโฟล์คเข้ามาร่วมถ่ายทอดได้นะครับ
\^^/ \^^/
-
เอามาฝากครับ.. :wink:
Introduction to BUS (ตู้รุ่นไหนเป็นยังไง?) http://www.thaivwclub.com/k-intro-bus.html
-
ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับทุกข้อมูล มีประโยชน์ทั้งนั้นครับ
-
หม้อลมเบรคนี่มีปัญหาบ่อยมั๊ยครับ รถเพื่อนของเพื่อนหม้อลมเค้าเสีย เบรคไม่อยู่ไปทิ่มคันหน้าครับ เลยกลัวๆครับ แล้วความร้อนมีปัญหามั๊ยครับเวลารถติดๆ ตั้งแต่ได้มาก็ไม่มีใครขับเลยครับ ขอโทษที่ถามเยอะนะครับ อยากได้ข้อมูลในการตัดสินใจครับ
-
ถ้าเดินระบบมาดีๆ แผงบังคับลมครบๆ ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลยครับ แต่ก่อนขับบ่อยๆ ขับในเมืองรถติดๆก็ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลยครับ
-
สภาพทั่วไปดูแล้วแห้งดีครับ ลองเช็คช่วงล่างกับฟิตเครื่องใหม่ งบไม่มาก แล้วลองขับดูซักเดือนนึง ถ้าไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลยแล้วค่อยตัดสินใจลำดับต่อไป (แต่ส่วนใหญ่จะชอบกันนะ) ขอให้มีความสุขครับ
-
ผมคนนึงที่ไม่เคยขับรถตู้มาก่อนในชีวิตเพิ่งมาเริ่มขับตอนอายุ 29 แล้วก็ติดใจ รถใหญ่แต่ไม่รู้สึกเทอะทะ จอดง่าย พวงมาลัยเบากว่าที่คิด ทัศนวิศัยดี เห็นแต่ไกล ถ้าคันหน้าไกลๆเบรค เราก็ชะลอไว้ก่อนได้เลย ไม่เหมือนรถเก๋งเล็งแต่ไฟเบรคคันหน้าได้อย่างเดียว ยิ่งขับต่างจังหวัดเปิดหูช้างลมตีหน้า ฟังเพลงเพราะๆ เอา coke หรือ beer เย็นๆ วางไว้ ขับไปเพลินๆ หลังคาสูงโปร่งสบาย ได้อรรถรสยิ่งนัก
-
ขอบคุณครับ :good:
-
แตงโมเป็นรถที่ซื้อง่ายขายคล่องดีฮะ....
ดูรูปรวมๆแล้ว ผมว่าจากสภาพรถกับทรงยังสวยดีฮะ
ถ้าทำเก็บไว้ใช้งานผมว่าก็โอเคนะ รถรุ่นนี้ขับง่ายคล่องตัวดีด้วย
ไม่ใหญ่อุ๊ยอ้ายจนเกินไป ถ้าทำเครื่องกับช่วงล่างให้ดีๆ
ถ้าทำให้วิ่งได้มันคงใช้งานได้พักใหญ่เลย... ส่วนเรื่องตัวถังกับสี
มีเงินบูรณะใหม่ ออกมาได้รถสภาพใหม่ป้ายแดงคันนึงก็ว่่าได้ฮะ
ส่วนอะไหล่ก็ตามที่พี่ๆ แต่ละท่านว่ากันมาฮะ
แตงโมอะไหล่หาง่ายกว่ารุ่นหน้าวีเยอะ....
-
ส่วนราคาขายก็ขึ้นอยู่กับท่านผู้ขายฮะ
จะตามสภาพก็ดี จะตามท่านผู้ขายก็ดี
ลองดูแล้วกันนะครับ
ขอให้โชคดีครับ :)
-
จากรูป ดูแล้วรถสวยดีครับ ทรงยังดีอยู่ แต่งขึ้นครับ
ส่วนตัวใช้หน้าวีอยู่ครับ อะไหล่แตงโม หาไม่ยากครับ หาซื้อได้ตลอด และพอรับได้ครับ
แหล่งซื้ออะไหล่ ในเวปก็ www.vwshowtime.com www.thaivwclub.com
ถามว่าเก็บไว้ หรือ ขายดี ถ้าชอบแบบท่องเทียว สบายๆ พาครอบครัว(ส่วนใหญ่ผมนั่งคนเดียว อิอิ)เที่ยว น่าเก็บไว้เล่นๆครับ
อนาคตมี เบื่อเมื่อไหร่ก็ขายได้ครับ แต่สำหรับผมมองว่า รถตู้สามารถใส่อะไรที่ต้องการในรถได้หมด
รถเพื่อนๆหลายคัน จอดปุ๊บตั้งวงเหล้าได้ทันที ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ เหล้า น้ำแข็ง พร้อมรบ แถมกลางคืนนอนในรถได้อีก
อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ ....ขอให้สนุกกับการเล่น แตงโมฮะ
-
ผมจำได้ครับคล้ายครับคราว่า
ประมาณปี 1975 ? มีโฆษณารถรุ่นนี้ว่า
เอาใข่ไก่ใส่ตระกร้า
ติดตั้งไว้ที่บังโคลนหน้า ๑ ตระกร้า
เอาติดตั้งไว้ที่ดุมล้อ ๑ ตระกร้า
แล้วเอารถไปวิ่งทางลูกระนาด
เพื่อทดสอบความนิ่มนวลของช่วงล่าง
ปรากฏว่า
ใข่ในตระกร้าที่ดุมล้อแต่หลายฟอง
แต่ใข่ในตระกร้าที่บังโคลน
ไม่แตกเลย
จำได้ จำได้ เพราะตอนเป็นเด็กเล็ก ชอบโฟลค์ :smitten:
โฟลค์สวาเก้นคุ้มค่าเสมอ สโลเกน เค้าว่างั๊น :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes:
-
ผมเกิดไม่ทันได้เห็นโฆษณาอยากเห็นจังเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ &v&
แต่สรุปว่าไข่ที่วางที่ดุมล้อแตกใช่มั้ยครับ
-
รูปภายในครับ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
-
ผมจำได้ครับคล้ายครับคราว่า
ประมาณปี 1975 ? มีโฆษณารถรุ่นนี้ว่า
เอาใข่ไก่ใส่ตระกร้า
ติดตั้งไว้ที่บังโคลนหน้า ๑ ตระกร้า
เอาติดตั้งไว้ที่ดุมล้อ ๑ ตระกร้า
แล้วเอารถไปวิ่งทางลูกระนาด
เพื่อทดสอบความนิ่มนวลของช่วงล่าง
ปรากฏว่า
ใข่ในตระกร้าที่ดุมล้อแตก่หลายฟอง
แต่ใข่ในตระกร้าที่บังโคลน
ไม่แตกเลย
จำได้ จำได้ เพราะตอนเป็นเด็กเล็ก ชอบโฟลค์ :smitten:
โฟลค์สวาเก้นคุ้มค่าเสมอ สโลเกน เค้าว่างั๊น :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes:
&v& &v&
-
รบกวนถามผู้รู้อีกหน่อยนะครับ จริงๆแล้วผมกับเพื่อนชอบรุ่นหน้าวีมากกว่า รุ่นหน้าวีกับหัวแตงโม รุ่นไหนน่าใช้กว่ากันครับในเรื่องการใช้งาน การบำรุงรักษา และอะไหล่ครับ คราวนี้จะได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายแล้วครับ ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งครับ
-
ถ้าถามเรื่องใช้งานต้องลองไปขับดูก่อนได้ครับ ส่วนตัวผมเคยลองขับหน้าวีแล้วเนื่องจากผมตัวใหญ่เบาะค่อนข้างชิดและกระจกหลังคาเตี้ยกว่าแตงโมทำให้นั่งแล้วสบายสู้แตงโมไม่ได้ครับ เรื่องอะไหล่แตงโมก็น่าจะถูกกว่า ส่วนเรื่องการดูแลรักษาอันนี้แล้วแต่สถาพรถครับ ยังไงลองไปที่ศูนย์ติดต่อ sales แ้ล้วไปลองขับดูได้ครับ จะได้ตัดสินใจถูก อิอิอิอิ ล้อเล่นนะครับ
-
อยู่ที่วัตถุึประสงค์ของคุณ fatboy อะครับ
ว่าจะชอบแนวไหน....
ส่วนตัวผมเคยขับหน้าวีมา ได้ทั้งความหล่อและความเท่ กับฟิลลิ่งที่ขับแล้วสนุกสนานก็จริง
แต่มีสิ่งนึงที่ตามมาหลังจากการขับขี่คือ ปวดเมื่อยฮะ......
สาเหตุเพราะอะไร....
เนื่องจากหน้าวี เป็นทัศนวิสัยการขับขี่ต่างจากแตงโมเยอะ กระจกหน้ามันจะเตี้ยกว่าแตงโมพอสมควร
ทำให้เวลาขับขี่ การจะมองข้างหน้าต้องก้มหรือไม่ต้องขยับเบาะถอยหลังไปได้อีกหน่อย
เพื่อช่วยในการมองเห็นด้านหน้าได้ถนัดและสะดวกด้วย
ส่วนการจับบังคับพวงมาลัย การขับก็ไม่เหมือนแตงโม ประมาณว่าหน้าวีขับเหมือนรถเมล์
แตงโมขับเหมือนรถตู้สมัยใหม่ก็ว่าไปตามนั้นอะครับ....
การขับขี่ช่วงล่างจะรู้สึกแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดฮะ
พื้นที่ด้านหน้าบริเวณคนขับกับข้างคนขับมันอาจจะกว้างสู้แตงโมไม่ได้
แตงโมนั่งเหยียดขาได้สบาย รู้สึกได้เลยว่าข้างหน้า พื้นที่ำไม่โดนบีบเหมือนหน้าวี
ถ้าผมเป็นคุณ fatboy นะครับ เป็นผมเลือกแตงโมฮะ
จะได้ความสะดวกสบาย+ใช้งาน+เท่และหล่อตามมาเหมือนกันกับหน้าวี
แต่ถ้าไม่ได้ขับไว้ใช้งาน เอาไว้ขับออกทริปสนุกๆ+ขับรถเล่น+ความเท่ถึงที่สุด
ต้องเป็นหน้าวีครับ
ถ้าเป็นไปได้จริงๆ อยากให้ทดลองขับดูทั้งหน้าวีกับแตงโมฮะ
จะทำให้ตัดสินใจได้อีกทางเลือกนึง
-
ขอบคุณครับ ได้ข้อมูลในการตัดสินใจแล้วครับ สงสัยต้องไปทดลองขับซะแล้วเพราะตัวผมใหญ่ใช้ได้เลยครับ กลัวจะติดพวงมาลัยครับ ตัดสินใจได้แล้วจะบอกนะครับเผื่อจะได้ร่วมชมรมด้วยอีกคนครับ