Author Topic: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร  (Read 26862 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : วองโซ ผู้โชคดี
« Reply #75 on: July 22, 2008, 12:24:24 am »
ชีวิตของวองโซเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คุณหมอธาดาให้การรักษาอย่างเอาใจใส่ และพาวิ่งออกกำลังกายที่ชายหาด วองโซได้เริงร่า เล่นน้ำทะเลทุกวัน ได้วิ่งไปวิ่งมากระโดดโลดเต้นอย่างอิสระ และได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจากคุณหมอผู้เป็นนายคนใหม่  วองโซในวันนี้น้ำหนักลดลงแล้ว สุขภาพแข็งแรงดังเดิม ที่สำคัญคือหัวใจที่เหี่ยวเฉาหมดอาลัยตายอยากจากเมื่อครั้งที่เศร้าซึมอยู่ในกรงขัง ได้รับการเยียวยาจนกลับมาเป็นวองโซตัวใหม่ที่มีความสุข และพร้อมที่จะรักนายใหม่ของมันอย่างสุดหัวใจตราบจนอายุขัย

เรื่องของวองโซจบลงแล้วอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ท่ามกลางการเอาใจช่วยของหลายๆ คน ...แต่ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นของวองโซอีก ๘ ตัว ที่ยังรอคอยวันนี้อยู่ในกรง พวกเขาคงจะยินดีกับวองโซ ที่มีผู้มารับอุปการะ ส่วนชะตากรรมของเขาเหล่านั้น ใครจะเป็นผู้กำหนด เขาจะต้องกินแล้วนอน เดินอยู่ในกรงแคบๆ ไปอีกนานเท่าใด  เขาจะต้องโศกเศร้าใจไปกับชีวิตบั้นปลายที่ต้นสังกัดไม่เห็นประโยชน์จากเขาไปจนวันตายหรือ

ถ้าคุณอ่านเรื่องของวองโซแล้ว ส่งเมล์นี้ต่อไปให้เพื่อนผู้รักหมา อาจจะมีคนอยากไปเยี่ยมเพื่อนๆ อีก ๘ ตัวของวองโซ ก็สามารถไปเยี่ยมได้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบในเวลาราชการ พวกเขาจะดีใจทุกครั้งที่เห็นคนเดินผ่าน จะเห่าทักทายอย่างมีความหวัง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที แต่ก็เท่ากับได้เติมน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจให้กับสุนัขทหารของชาติผู้มีคุณต่อแผ่นดิน

จะดีไปกว่านั้น ถ้าคุณมีกำลังพอที่จะพาเขากลับบ้านด้วยได้ มีกำลังทรัพย์ที่จะดูแลสุนัขชั้นดีมีการศึกษา มีวินัย วัย ๘ ขวบ ที่รอความรักความเอาใจใส่จากคุณอยู่ทุกลมหายใจ คุณสามารถขอรับไปอุปการะได้ทันทีโดยไม่มีค่าตัว

จะดีที่สุด หากกองทัพเรือรักสุนัขเหมือนกับที่สุนัขรักแผ่นดิน ปรับนโยบายใหม่ที่จะหยิบยื่นชีวิตที่ผาสุกให้กับสุนัขที่ถูกใช้งานจนวัยเกษียณ เขาก็เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นเดียวกับคุณ เกษียณอายุในวัยหกสิบเหมือนคุณอีกนั่นแหละ คุณเองคงไม่อยากจบชีวิตวัยเกษียณอันทรงเกียรติของคุณอยู่ในกรงแบบนี้ แค่จ้างแรงงานคนไม่กี่คนมาช่วยดูแลคงไม่สิ้นงบประมาณไปสักเท่าไหร่ จะได้มีคนพาเขาออกวิ่ง ได้ออกกำลังกาย พูดคุยกับเขา กอดรัดสัมผัสเขาอย่างรักใคร่ ทำให้เขาเห็นหน่อยว่าชีวิตเขาก็มีความหมาย  ไม่ใช่ทอดทิ้งราวกับเป็นสิ่งของเหลือใช้ที่หาประโยชน์อันใดไม่ได้ และรอความตายไปวันๆ

ประทานพร  สิงหะ
081-685 8640
20 /07/2008
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : สมเด็จพระเทพฯ
« Reply #76 on: August 19, 2008, 07:40:22 pm »
เนื้อหาใน fwd mail เป็นอย่างงี้ครับ

ท่านอยากทอดพระเนตรวิ่งคบเพลิงแต่ไม่ได้วางหมายกำหนดการเลยต้องแอบมาทอดพระเนตรข้างรั้วแบบนี้ เพราะทรงเกรงใจเจ้าหน้าที่เนื่องจากงานจะป่วนถ้าจะไปปรากฎพระองค์ใกล้ๆ

ปล. เครดิตจากฟอร์เวิร์ดเมลล์ครับ

[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline Pan

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 6,862
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:December 21, 2023, 05:16:03 pm
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #77 on: August 20, 2008, 04:57:41 am »
ชีวิตของวองโซเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คุณหมอธาดาให้การรักษาอย่างเอาใจใส่ และพาวิ่งออกกำลังกายที่ชายหาด วองโซได้เริงร่า เล่นน้ำทะเลทุกวัน ได้วิ่งไปวิ่งมากระโดดโลดเต้นอย่างอิสระ และได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจากคุณหมอผู้เป็นนายคนใหม่  วองโซในวันนี้น้ำหนักลดลงแล้ว สุขภาพแข็งแรงดังเดิม ที่สำคัญคือหัวใจที่เหี่ยวเฉาหมดอาลัยตายอยากจากเมื่อครั้งที่เศร้าซึมอยู่ในกรงขัง ได้รับการเยียวยาจนกลับมาเป็นวองโซตัวใหม่ที่มีความสุข และพร้อมที่จะรักนายใหม่ของมันอย่างสุดหัวใจตราบจนอายุขัย

เรื่องของวองโซจบลงแล้วอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ท่ามกลางการเอาใจช่วยของหลายๆ คน ...แต่ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นของวองโซอีก ๘ ตัว ที่ยังรอคอยวันนี้อยู่ในกรง พวกเขาคงจะยินดีกับวองโซ ที่มีผู้มารับอุปการะ ส่วนชะตากรรมของเขาเหล่านั้น ใครจะเป็นผู้กำหนด เขาจะต้องกินแล้วนอน เดินอยู่ในกรงแคบๆ ไปอีกนานเท่าใด  เขาจะต้องโศกเศร้าใจไปกับชีวิตบั้นปลายที่ต้นสังกัดไม่เห็นประโยชน์จากเขาไปจนวันตายหรือ

ถ้าคุณอ่านเรื่องของวองโซแล้ว ส่งเมล์นี้ต่อไปให้เพื่อนผู้รักหมา อาจจะมีคนอยากไปเยี่ยมเพื่อนๆ อีก ๘ ตัวของวองโซ ก็สามารถไปเยี่ยมได้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบในเวลาราชการ พวกเขาจะดีใจทุกครั้งที่เห็นคนเดินผ่าน จะเห่าทักทายอย่างมีความหวัง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที แต่ก็เท่ากับได้เติมน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจให้กับสุนัขทหารของชาติผู้มีคุณต่อแผ่นดิน

จะดีไปกว่านั้น ถ้าคุณมีกำลังพอที่จะพาเขากลับบ้านด้วยได้ มีกำลังทรัพย์ที่จะดูแลสุนัขชั้นดีมีการศึกษา มีวินัย วัย ๘ ขวบ ที่รอความรักความเอาใจใส่จากคุณอยู่ทุกลมหายใจ คุณสามารถขอรับไปอุปการะได้ทันทีโดยไม่มีค่าตัว

จะดีที่สุด หากกองทัพเรือรักสุนัขเหมือนกับที่สุนัขรักแผ่นดิน ปรับนโยบายใหม่ที่จะหยิบยื่นชีวิตที่ผาสุกให้กับสุนัขที่ถูกใช้งานจนวัยเกษียณ เขาก็เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นเดียวกับคุณ เกษียณอายุในวัยหกสิบเหมือนคุณอีกนั่นแหละ คุณเองคงไม่อยากจบชีวิตวัยเกษียณอันทรงเกียรติของคุณอยู่ในกรงแบบนี้ แค่จ้างแรงงานคนไม่กี่คนมาช่วยดูแลคงไม่สิ้นงบประมาณไปสักเท่าไหร่ จะได้มีคนพาเขาออกวิ่ง ได้ออกกำลังกาย พูดคุยกับเขา กอดรัดสัมผัสเขาอย่างรักใคร่ ทำให้เขาเห็นหน่อยว่าชีวิตเขาก็มีความหมาย  ไม่ใช่ทอดทิ้งราวกับเป็นสิ่งของเหลือใช้ที่หาประโยชน์อันใดไม่ได้ และรอความตายไปวันๆ

ประทานพร  สิงหะ
081-685 8640
20 /07/2008



อยากเอามเลี้ยงจัง เดี๋ยวเเอบเอาเข้าบ้านดีกว่า
ถ้าเราไม่ แสดงตัวออกมา ให้บ้านบางกอก เห็นว่าเรายังอยู่
เเล้วเราจะ web บ้านบางกอกจะมีไว้ให้ใครดูครับ

สมัครยาก คนดูน้อย เพื่อนๆ หายไป
ผมอยากให้ ทุกคนเข้ามาดูได้นะครับ
บ้านบางกอกจะได้อยู่ต่อไป ใครสมัครไม่ได้ ให้แจ้งทาง Facebook ได้ลยครับ

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : ขำๆ birthday gift
« Reply #78 on: September 04, 2008, 07:10:10 pm »
A wife mentioned to her husband that for her birthday, she would like something that
accelerates from 0-100 in 4 seconds.
She was expecting something like this....




But her husband presented her with something very different..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.



The husband is in a critical but stable condition in ICU!!
« Last Edit: September 04, 2008, 07:12:53 pm by thaidub »
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline auseebkk

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2007
  • Posts: 3,056
  • Country: th
  • Gender: Male
  • Last Login:November 25, 2014, 07:07:28 am
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #79 on: September 09, 2008, 01:01:02 pm »
fwd : แม่กูสอน

เพื่อน ๆ ถามผมว่า
ทำไมมรึงดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่ กรูสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน
 
เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไม พอมรึงมีตังค์ มรึงชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กรูสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา

เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไมมรึงชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง แล้วไม่เคยเห็นมรึงป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กรูสอน ให้กรูออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บป่วยจะลำบาก
 
เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไมมรึงอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กรูสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข แล้วจะสบายใจกันทุกคน >

เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไมมรึงพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุง แก่ ๆ เป็นเด็กเสริฟอาหาร
หรือแม้แต่ขอทานที่ *** ให้เศษตังค์แล้วเขาอวยพรให้มรึง ทำไมมรึงต้องขอบคุณขอทานวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า แม่กรูสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา

Offline auseebkk

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2007
  • Posts: 3,056
  • Country: th
  • Gender: Male
  • Last Login:November 25, 2014, 07:07:28 am
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #80 on: September 09, 2008, 01:03:48 pm »
เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ *** ตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กรูสอน ให้พี่น้องรักกันทุกคน เพราะหมากับแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้
ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้

เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไมมรึงถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง มากมายนักวะ
ผมบอกเพื่อนว่าแม่กรูสอน ให้กรูสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
แม่กรูสอน ให้กรูรู้จักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่กรูยังไม่รู้ความหมาย จนทุกวันนี้ กรูรู้แล้วว่า
คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด

 

เพื่อน ๆ ผมถามว่า
ทำไมแม่มรึงถึงสอนอะไรมรึงมากมายจังเลยวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
ที่กรูเป็นกรูอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ ' แม่กรูสอน '
แม่กรูสอนอะไร กรูทำตามแม่กูสอนทุกอย่าง
มีอย่างเดียวที่แม่กรูไม่ได้สอน แต่กรูทำ แล้วกรูทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
แม่กรูไม่ได้สอนให้รักแม่ แต่......กรูรักแม่ว่ะ

ใครไม่รัก.................. กรูรัก

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
โปรดเห็นใจลูกแมวลูกหมาตาดำๆ
รายงานโดย :เรื่อง : รัฐพร คำหอม / ภาพ : คลังภาพโพสต์ทูเดย์:   วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2551
“แต้มเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี มีใครจะรับไปอุปการะต่อบ้าง” ..

 
“หนูส้มที่น่าสงสาร...
มีลูกแมวสีส้ม (เหมือนการ์ฟิลด์) 2 ตัว แม่แมวถูกรถชนตาย มีใครจะช่วยรับไปดูแลมั้ยคะ”
“เจ้าบิงโก สุนัขไทยสีขาว ถูกรถชน แต่พาไปหาหมอ รักษาจนใกล้หายแล้ว มีใครจะรับไปดูแลต่อบ้าง เพราะที่บ้านรับดูแลสุนัขไว้เยอะแล้ว ฉีดยารักษาโรคกลัวน้ำให้เรียบร้อย” ฯลฯ

ในแต่ละวันถ้าคุณๆ ได้มีโอกาสเข้าไปอ่านกระทู้ต่างๆ ในเว็บไซต์พันทิป www.pantip.com แล้วแวะเข้าไปในห้องจตุจักร ซึ่งเป็นห้องที่เปิดไว้สำหรับผู้ชื่นชอบในสัตว์เลี้ยงได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รวมทั้งได้เป็นที่ให้ได้นำบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรัก มาโชว์ตัว (รูป) มีหลายคน เอ้ย หลายตัว ที่มีลีลาน่ารักเป็นที่ถูกอกถูกใจของสมาชิกชาวห้องจตุจักร ถึงขั้นเป็นพ่อยกแม่ยก ส่งอาหารไปให้กันบ่อยๆ ก็มี
เรียกได้ว่าเป็นสถานที่แห่งมิตรไมตรี เป็นชุมชนคนชอบสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งในหลายๆ เว็บไซต์ก็จะมีพื้นที่ในลักษณะนี้ให้คนเลี้ยงสัตว์ทั้งหลายได้มาพบปะกัน แต่สำหรับดิฉันแล้วค่อนข้างที่จะเข้ามาชมความน่ารักจากรูปถ่าย วิธีการพูดคุยที่บางคนก็สมมติตัวเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงที่พูดได้เสียเอง เป็นบรรยากาศของความน่ารักและมิตรไมตรี ไม่มีการแบ่งแยกที่จะนำไปสู่ความขัดเคือง แม้จะเลี้ยงสัตว์ต่างประเภทกัน

ต่อมาสิ่งที่ดิฉันได้พบตามชุมชมออนไลน์ที่เกี่ยวกับเรื่องสัตว์เลี้ยง ก็จะได้เห็นภาพของความพยายามหาที่อยู่ให้กับสัตว์ ซึ่งสัตว์เหล่านั้นก็จะมี สุนัข และแมว เป็นระดับต้นๆ ซึ่งสุนัขและแมวที่มีผู้คนมาประกาศหาบ้านให้นี้ ที่พบส่วนใหญ่คือเป็นกลุ่มสัตว์จรจัด ไม่ปรากฏว่ามีเจ้าของ หรือบางครั้งก็อาจจะมีบ้างในกลุ่มผู้ที่จำใจต้องจาก เช่น ต้องไปอยู่ต่างประเทศ หรือต้องย้ายกลับประเทศ มีเหตุให้ต้องพาสัตว์เลี้ยงไปด้วยไม่ได้ ก็เห็นมีมาลงกระทู้หาผู้สนใจรับช่วงดูแลสัตว์เลี้ยงต่อเช่นกัน ซึ่งผู้ที่รักสัตว์แต่ละท่านก็มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และคนที่รักสัตว์จริงๆ ก็มักจะไม่เลือกรักเพียงแต่สัตว์เลี้ยงในความดูแลของตน มักจะมีความเอื้ออาทรแผ่ขยายออกไปอยู่เสมอ

ดิฉันจึงได้เห็นการรวมตัวของผู้มีใจเอื้ออารีเหล่านี้ในการทำกิจกรรมอยู่อย่างเสมอ ทั้งการจัดเป็นงานเล็กๆ เพื่อที่จะหาบ้านให้สุนัขและแมวจรจัด ซึ่งสุนัขและแมวเหล่านี้พวกเขาจะหาทุน หรือหากลุ่มสนับสนุน ในการฉีดยารักษาโรคต่างๆ ขั้นพื้นฐานให้ หรือในสัตว์เลี้ยงบางตัวที่ถึงวัยทำหมันแล้ว ก็จะจัดการให้เรียบร้อย ก่อนส่งต่อไปให้ผู้ที่ต้องนำไปเลี้ยงที่แจ้งความจำนงมา ซึ่งดิฉันเห็นว่า สำหรับผู้ที่พร้อมจะมีสัตว์เลี้ยงสักตัวสองตัว วิธีการนี้ก็น่าจะเหมาะดีให้ได้ลองไปมองหาสัตว์เลี้ยงมาอยู่คู่บ้าน

และอย่างไรก็ไม่ทราบนะคะ...ดิฉันคิดว่า สุนัขและแมว พันธุ์ไทยธรรมดาๆ ไม่ต้องไปซื้อหา และถูกทิ้งเหล่านี้ เหมือนกับมีสัญชาตญาณติดตัวมาอยู่แล้ว ว่าจะจงรักภักดีกับผู้คนที่เอื้ออาทรให้ข้าวให้น้ำต่อชีวิตให้ และดูจะมี “ความอึด” ในการมีชีวิตอยู่ มากกว่าสัตว์เลี้ยงที่เราไปชี้ๆ เลือกซื้อมาจากกรงเสียอีก
ผู้ที่สนใจ ลองค่อยๆ ศึกษาดูได้ เพราะตามชุมชนออนไลน์ต่างๆ เหล่านี้ จะมีผู้คอยแนะนำชี้แนะ ไม่เพียงที่คุณจะได้สัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ยังมีสังคมเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น ให้ได้พูดจาในเรื่องเดียวกันได้ โดยในเว็บไซต์พันทิปขณะนี้มีโครงการสั่งจองซื้อปฏิทินรูปแมวน่ารักๆ ขวัญใจของห้องจตุจักร พร้อมเทคนิคในการเลี้ยงดู เพื่อหาทุนไว้สำหรับโครงการรักษ์แมว เป็นโครงการที่ช่วยเหลือแมวที่ไม่มีเจ้าของ เจ็บป่วย อุบัติเหตุ ทำหมัน และเป็นค่าอาหาร ซึ่งมีคุณวชิรา ทวีสกุลสุข เป็นผู้ดูแลโครงการอยู่
สุนัข-แมว จรจัด เร่ร่อนไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัว

จากข้อมูลของ องค์กรเพื่อนสุนัขและแมวจรจัด (SCAD) บอกว่า ทุกวันนี้กรุงเทพมหานครมีสุนัขจรจัด จำนวนกว่า 3 แสนตัว ที่เร่ร่อนอยู่ตามท้องถนน และมีแมวจรจัดอีกเป็นจำนวนมากที่เราไม่เห็น หลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ เป็นเวลากว่าหลายปีแล้วที่สุนัขและแมวจรจัดได้ถูกกำจัดทิ้งหรือถูกจับไปปล่อยตามที่ต่างๆ นอกเมือง เพราะเข้าใจว่า วิธีนี้จะสามารถช่วยลดจำนวนประชากรของสุนัขและแมวจรจัดและคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าได้ แต่จากเวลาและประสบการณ์ที่ผ่านมา สามารถเป็นตัวพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า วิธีการเหล่านี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะยาวได้

สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถแพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว โดยเมื่อพบว่าที่ไหนมีอาหาร ที่พัก และไม่มีสุนัขเจ้าถิ่น พวกมันจะเข้ามาอาศัยอยู่ และทำการขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ซึ่งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตและสืบพันธุ์นั้น ภายในระยะเวลา 6 ปี สุนัขตัวเมีย 1 ตัวจะสามารถให้กำเนิดลูกได้ถึง 67 ตัวเลยทีเดียว

องค์กรเพื่อนสุนัขและแมวจรจัด ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ และเห็นว่าการทำหมันนั้น เป็นวิธีที่ช่วยควบคุมและลดจำนวนประชากรสุนัขและแมวจรจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีมนุษยธรรมกับสัตว์ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยให้สุขภาพกายและใจของสุนัขและแมวดีขึ้นด้วย องค์กรเพื่อนสุนัขและแมวจรจัด ใช้วิธีเข้าไปในกลุ่มชุมชนเป้าหมาย เพื่อให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ให้ความรู้ และรณรงค์ให้เข้าร่วมโครงการคุมกำเนิดสุนัขและแมวจรจัด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากคนในชุมชนเป็นอย่างดี โดยสุนัขและแมวจรจัดในชุมชนจะถูกนำไปทำหมันที่ศูนย์ทำหมันขององค์กร ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และทำการรักษาพยาบาลสำหรับตัวที่ป่วยหรือบาดเจ็บ และเมื่อมีสุขภาพที่ดีพอแล้ว จึงส่งคืนกลับสู่ชุมชนซึ่งเป็นบ้านของพวกเขาต่อไป
จะบริจาคหรือรับไปเลี้ยงคุณเลือกได้

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า ในการที่องค์กรต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดนี้ ก็ต้องการการสนับสนุนในเรื่องเงินทุน เพื่อที่จะทำกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผู้สนใจบริจาคสามารถติดต่อกับองค์กรเหล่านี้ได้ตลอดเวลา หรือถึงขั้นที่สุดจะแบ่งเบารับสุนัขหรือแมวไปเลี้ยง องค์กรต่างๆ เหล่านี้ก็ยินดี

สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย หรือ TSPCA (Thai Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีหลายกิจกรรมเกี่ยวกับสัตว์ ที่พวกเขามองว่าสัตว์ต่างๆ ก็ถือเป็นเพื่อนร่วมโลก ย่อมต้องได้รับสิทธิอันสมควร ไม่ใช่จะมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่จะได้รับความเป็นธรรม หนึ่งในกิจกรรมของสมาคม คือ โครงการอุปการะสัตว์จรจัด โครงการบ้านอุปถัมภ์
ปัจจุบันสมาคมดูแลสุนัขจรจัดอยู่ราว 6,000 ตัว และยังมีแมวอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งสุนัขและแมวจรจัดเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่าสมาคมไปเที่ยวเก็บแล้วนำมาขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของสมาคม แต่จะใช้วิธีติดตามข่าวว่ามีใคร หรือกลุ่มใด ที่รับดูแลสุนัขและแมวจรจัดอยู่แล้ว ก็จะเข้าไปช่วยเหลือ

“จะเป็นคุณลุง คุณป้า คุณน้า ที่เขาเลี้ยงอยู่แล้ว หรือสมาคมเห็นตามสื่อต่างๆ อย่างกรณีป้ามณี แสงจันทร์ สมาคมก็เห็นข่าวจากโพสต์ทูเดย์ ก็ติดต่อป้าเขาไปเพื่อให้การช่วยเหลือ เพราะเราทราบดีว่าผู้ที่มีใจเมตตาเหล่านี้ บางครั้งเขาก็ไม่ได้มีความพร้อมเรื่องทรัพย์สินเงินทอง แล้วยิ่งไปเจอกรณี พอคนรู้ว่าบ้านนี้นะรับสุนัข รับแมวจรจัดมาเลี้ยง ก็ไปสร้างปัญหาเพิ่มให้เขา เอาสุนัข เอาแมว ที่ตัวเองไม่อยากเลี้ยงแล้ว มาแอบปล่อยไว้ให้ ปัญหาและภาระก็ตกมาสู่คนเหล่านี้มากขึ้น สมาคมเลยคิดกันว่าต้องช่วยเหลือ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนำเอาอาหารไปให้ ไปช่วยเลือกการรักษาโรค ฉีดวัคซีน และทำหมัน หรือบางทีเห็นสภาพบ้านหลังคารั่ว น้ำขัง ก็จะช่วยซ่อมแซม เพื่อให้สภาพความเป็นอยู่ทั้งคนและสัตว์ดีขึ้น” คุณกิ๊กเจ้าหน้าที่สมาคมบอกกล่าวให้ทราบ

นอกจากนี้ สมาคมยังได้เชิญภาคเอกชนและภาคธุรกิจที่มีความเข้าใจและเมตตาต่อสัตว์ให้รับอุปการะสัตว์จรจัดดังกล่าวโดยเป็นรายตัว หรือเป็นกลุ่มด้วย ซึ่งผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ จัดส่งความช่วยเหลือไปให้สม่ำเสมอ เช่น อาหาร ยารักษาโรค และสิ่งจำเป็น เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ (เพื่อไว้รองอาหาร หรือสิ่งปฏิกูล) ผงซักฟอก เพื่อให้เครือข่ายที่ดูแลสัตว์จรจัดของสมาคมนำไปช่วยเหลือสัตว์จรจัดที่อยู่ภายใต้การดูแลของตน ก็สามารถติดต่อไปได้ หรือจะขอสุนัขหรือแมวไปเลี้ยง สมาคมก็จะเป็นผู้ติดต่อประสานงานให้ โดยสัตว์ทุกตัวได้รับการฉีดวัคซีน และทำหมันให้เช่นกัน

ผู้ที่สนใจบริจาคหรือจะติดต่อขอสัตว์ไปเลี้ยง สามารถติดต่อได้ที่
- เว็บไซต์พันทิปห้องจตุจักร http://www.pantip.com/cafe/jatujak/
- โครงการรักษ์แมว wachira.bloggang.com/ อีเมล wachira_rux@yahoo.com
- องค์กรเพื่อนสุนัขและแมวจรจัด (SCAD) อาคารเลครัชดา คอมเพลกซ์ 193-195 ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 02-661-8874 เว็บไซต์ www.scadbangkok.org
- สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) 120 อาคารเกษมกิจ ห้อง 301 ชั้น 3 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก
กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 02-2670372 อีเมล : info@thaispca.org เว็บไซต์ : www.thaispca.org
« Last Edit: October 19, 2008, 09:04:51 pm by thaidub »
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #82 on: October 26, 2008, 11:11:46 pm »
ฝาก Forward ด้วย
เรื่อง: ช่วยลูกสาวผมด้วยครับ ด่วนมากครับ!!
ก่อนจะลบเมล์นี้ทิ้ง ช่วยส่งต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนนะ ทำบุญครับ
เป็นการทำบุญ 1 ชีวิต

เรียน ผู้ใจบุญทุกท่าน โปรดช่วยลูกสาวผมด้วยเถิดครับ
ส่งต่อ เป็นการทำบุญ 1 ชีวิต

นันทิยาได้โทรไปสอบถามคุณพ่อของน้องเกศรินทร์เพราะเห็น e-mail นี้เยอะมาก เลย คิดว่าน่าจะหาผู้บริจาคได้แล้วจะได้ไม่ forward ต่อแต่ปรากฏว่าคุณพ่อของน้องเค้าบอกว่ายังไม่มีผู้บริจาคคนไหนมี HLA ตรงกับน้องเค้า เลย ยังหาอยู่ เลย ช่วยกระจายต่อค่ะ........ช่วยส่งต่อด้วยนะคะแต่ถ้าสามารถไปบริจาค ได้ ก็เชิญนะคะ ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่เพราะเลือดเพียงน้อยนิดของเรา สามารถช่วยชีวิตอีกหนึ่งชีวิตได้ค่ะ

ผู้ที่อ่านข้อความนี้ท่านใดมีจิตกุศลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่วัย ของเธอแค่ 17 ปี กำลังเผชิญกับโรคร้าย Leukemia มะเร็งในเม็ดเลือดขาว คือน.ส.เกศรินทร์ สุวรรณโน ต้องขาดเรียนเป็นเวลานานเพราะต้องรักษาตัวอยู่ขณะนี้ที่ร.พ จุฬาโดยฉีดเคมีบำบัดหรืออาจตลอดชีวิต และ เธอกำลังรอรับการบริจาคโลหิตเพื่อปลูกถ่ายไขกระดูก ตัวเธอเลือดกรุ๊ป B ซึ่งผู้ที่สามารถบริจาคเลือดได้ต้องผ่านการบริจาคเลือดแล้วถึง 2 ครั้งที่สภากาชาดไทย
ผู้บริจาคต้องมีร่างกายสมบูรณแข็งแรงไม่มีโรคติดเชื้อร้ายแรง ลักษณะเนื้อเยื่อ HLA ตรงกับผู้ป่วยถึงจะรับการบริจาคได้ซึ่งยากมากที่จะหาผู้บริจาคที่มี เนื้อเยื่อตรงกันจึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากผู้มีน้ำใจละจิตเมตตาจะ
บอกกล่าวต่อๆกันก็ได้นะคะ ผู้ป่วยรายนี้กำลังรอชีวิตใหม่จากพวกคุณอยู่ สามารถบริจาคโลหิตได้ที่สภากาชาดไทย TEL 02-7149124 กด 1 (ด.ต.สมพร สุวรรณโน : บิดา) กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ชั้นม. 4 ได้รับแล้ว ส่งต่อกับไปเยอะๆนะครับ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันครับ

[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline nostaigic-hero

  • อยากสวยอย่ากลัวแพง อยากแรงอย่ากลัวพัง
  • Member
  • *****
  • Join Date: Oct 2008
  • Posts: 576
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:September 21, 2012, 07:56:07 am
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #83 on: October 26, 2008, 11:18:49 pm »
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ สอนใจ ครับคุณthaidub
RRF Mini4wd

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #84 on: October 28, 2008, 08:22:06 pm »
จดหมายฉบับนี้ยาวมาก หากรัก ' พระองค์ท่าน ' กรุณาอ่านให้จบด้วย

เรื่องของในหลวงที่เรา(อาจ)ไม่เคยรู้
1. ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45 น.
2. นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6ปอนด์
3. พระนาม ' ภูมิพล ' ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
4. พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช
5. ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก
6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า 'H.H Bhummibol Mahidol' หมายเลขประจำตัว 449
7. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า ' แม่ '
8. สมัยทรงพรเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง
9. แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม
10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต
11. สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า ' บ๊อบบี้ '
12. ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์ต้องลุกขึ้นบ่อยๆ
13. สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว
14. ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ
15. ทรงได้รับการอบรมใหู้้จัก ' การให้ ' โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า ' กระป๋องคนจน ' เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก ' เก็บภาษี ' หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
16. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า ' ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน '
17. กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซ้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา
18. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง
19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก ' การเล่น ' สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา ซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง
20. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์
21. ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)
22. ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้
23. ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส
24. ทรงพระราชนิพนธ์พลงครังแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ ' แสงเทียน ' จนึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง
25. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง ' เราสู้ '
26. รู้ไหม.. ? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่ 5
27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย
28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง ' นายอินทร์ ' และ ' ติโต ' ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่ ' พระมหาชนก ' ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ' กีฬาซีเกมส์ ') ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ. 2510
30. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพาะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
31. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ ' กังหันชัยพัฒนา ' เมื่อปี 2536
33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์ , ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว
34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง
35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่าน่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง
37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
37. SPAN lang=TH style="FONT-SIZE: 18pt; COLOR: #2f2f2f">หลังอภิเษกสมรส ทรง ' ฮันนีมูน ' ที่หัวหิน
38. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา15 วัน
39. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
40. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น
41. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา
42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่มอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ
43. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม
44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง
45. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำนวนกว่า 3,000โครงการ
46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ
47. ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน
48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่มโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน
49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #85 on: October 28, 2008, 08:22:48 pm »
50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน32,866.73 บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห้นกันทุกวันนี้
51. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา ในหวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด
52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า ' ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
53. ทรงนึกถึงแต่ประชชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสังให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
54. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา
55. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย
56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก
57. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง
58. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง
59. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส ของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก
60. ทรงฟัง จส. 100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที่ จส. 100 ด้วย โดยใช้พระนามแฝง
61. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯล ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก
62. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดสื้อในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว
63. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ
64. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว
65. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า 'นายหลวง ' ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง
66. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน
67. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดให้กรอกในช่อง อาชีพ ของพระองค์ว่า ' ทำราชการ '
68. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี
69. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็นแซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า ' อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก '
70. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
71. หัวใจทรงเต้นไม่ปรกติ ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี
72. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
73. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6 ล้านคน
74. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
75. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง
76. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง
77. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด

              อ่านจบแล้วจะส่งต่อหรือไม่ พิจารณาเอาเองก้อแล้วกัน
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #86 on: November 18, 2008, 09:18:18 pm »
Subject: เรื่องเล่าจากในวัง- อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ

เรื่องเล่าจากในวัง- อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ
ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดทีจังหวัดตาก
เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ
และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด
และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า 'ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ'
แม่ค้าตอบว่า 'ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ'
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน
---------------------------------------
เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า
นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย
ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์
นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์
แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ............ ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง
------------------------------------
อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน
เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล
ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้จึงมีคำกราบทูลว่า
'ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่าบัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้า..'
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน
ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว..
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า
มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย
และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว'
เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง
-------------------------------------
เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า 'ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์'
--------------------------------------
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน
ว่า 'ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ'
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า
'เออ ดี เราชื่อเดียวกัน...'
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย
เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
-----------------------------------
มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย
ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า 'ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า'
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า
'เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก'
------------------------------------
เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
อยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
'ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์'
ในหลวงทรงตรัสว่า 'ขอเดชะ พระหมดแล้ว '
------------------------------------
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย
พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท
แล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า
'ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง'
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย
แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น
ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
'เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ
ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก'
-------------------
ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว
พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา

คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์
ก็กราบบังคมทูลว่า 'เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ
อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ'
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า 'ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง'
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ
ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะ
เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป
------------------------------

เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า
มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร
อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ
ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว
ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า
'เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว'
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...
ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป
พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท
ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง
เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน>**
*
ถ้ารักท่านก็ส่งไปเรื่อยๆนะ
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline koko1

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2008
  • Posts: 817
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:February 12, 2024, 12:03:33 pm
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #87 on: November 20, 2008, 11:04:46 pm »
ขอบคุณครับนีลที่เอาเรื่องดี ๆ มาฝากกัน อ่านแล้วมันสบายใจจนบอกไม่ถูก

ขอให้ประชาชนอย่างเรา ๆ มีความสุขอย่างนี้อีกนานเท่านานด้วยเทิด :><:

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
หวัดดีครับ


ขอเล่าความคืบหน้า กรณีบริษัทข้ามชาติดำเนินการก่อสร้างคอนโดมิเนียมสูง ขนาบรั้วที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์และมูลนิธิ จักรพันธ์ โปษยกฤต นะครับ

ขณะ นี้ทางมูลนิธิ และบริษัทข้ามชาติ ได้ตกลงหาข้อยุติที่ลงตัวกันทั้งสองฝ่าย หนึ่งในนั้นคือ ให้ทางมูลนิธิซื้อที่ดินผืนนี้ต่อจากโครงการ ในราคา 180 ล้านบาท เพราะนอกจากจะหมดปัญหาแล้ว ทางมูลนิธิก็ยังมีพื้นที่ในการขยายพิพิธภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย

แต่ด้วยราคาที่มากขนาดนั้น อาจารย์จักรพันธุ์ถึงกับเปิดใจว่า "ใน วัย 65 ปี เช่นนี้ หากจะให้เขียนรูปเพื่อระดมทุนให้ครบ คงต้องเขียนรูปไปถึงอายุร้อยกว่าเป็นแน่ ผมมีเวลาอีกไม่มากนักจนกว่าจะหาไม่"

บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของอาจารย์ จึงได้ช่วยกันระดมทุน แต่จะขอเปล่าก็เห็นว่าไม่สมควร จึงได้มีการนำภาพจิตรกรรมต้นแบบของอาจารย์ มาจัดพิมพ์คุณภาพดี เพื่อมอบเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ที่ร่วมบริจาคช่วยมูลนิธิ

นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจบูชา องค์พระพุทธมหาปารมีนุภาพพิสุทธ์อนุตตรสังคามวิชัย สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงหุ่นกระบอกเรื่องตะเลงพ่าย ตอนสำคัญคือ สมเด็จพระนเรศวรหลั่งน้ำทักษิโณทก ประกาศอิสรภาพ โดยมี มล.จักรพล รัชนี เป็นผู้ปั้นตามการออกแบบของอาจารย์จักรพันธุ์ 


นอกจากนี้ยังมี หนังสือความเรียง ของศศิิวิมล (นามปากกาของอาจารย์ เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมาก เรียกเสียงหัวเราะดังๆได้อย่างดี มีภาพประกอบสวยๆฝีมืออาจารย์เต็มเล่ม) หรือ ไปรษณียบัตร์สวยๆ สูจิบัตรหุ่นกระบอกตะเลงพ่าย หนังสือหุ่นวังหน้า และอีกมากมาย 


ผมว่าของที่ระลึกต่างๆเหล่านี้ เหมาะแก่การให้เป็นของขวัญปีใหม่ เพราะเป็นของขวัญที่ให้สองต่อ คือหนึ่งให้การสนับสนุนสบทบทุนมูลนิธิ และสองให้เป็นของขวัญแก่คนที่คุณรัก รับรองว่าผู้รับจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง 


สนใจร่วมสมทบทุน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ มูลนิธิได้ที่ 02 392 7754 หรือที่เว็ป www.chakrabhand.org

สนใจชมของสมนาคุณต่างๆ หรือเรื่องราวรายละเอียดของกรณีสร้างคอนโด เชิญแวะที่ Friends of Chakrabhand เว็ปไซต์  www.focgang.com หรือ (เข้าอีกทางที่ http://friendsofchakrabhand.multiply.com)

นอกจากร่วมสมทบทุนแล้ว ผมขอเสนอขั้นตอนง่ายๆ ที่จะสนับสนุนมูลนิธิ ที่ทุกคนสามารถทำได้เดี๋ยวนี้ ทันทีทันใด คือส่งเมล์นี้ต่อๆไป ช่วยกระจายข่าวให้เครือข่ายของคุณ โดยเฉพาะเครือข่ายที่อยู่ต่างประเทศ เป็นการระดมทุนจากต่างแดนไงครับ

ถ้าใครมีความคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ในการระดมทุนขอเชิญแนะนำได้เลยครับ

หวัดดีครับ
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
ผู้ จัดการออนไลน์-- ทีมวิจัยทางชีววิทยาชุดหนึ่งเพิ่งกลับจาก จ.กัมโป้ท (Kampot) พร้อมข่าวดีเกี่ยวกับการพบ "โอชิ" นาคพันธุ์จมูกขน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์และหายากที่สุดในโลก
       
       ปัจจุบัน อายุประมาณสี่เดือน ชาวประมงที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งพบและนำไปเลี้ยงมาประมาณ 2 เดือนแล้ว จัดทำอาณาบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิดให้อย่างดี และ "โอชิ" ดูมีความสุขดีที่มีปลารับประทานไม่เคยขาด
       
       เรื่องนี้ เป็นที่ชื่นชมยินดีสำหรับกองทุนเพื่อการอยู่รอดของนาค (International Otter Survival Fund) หรือ IOSF ที่พยายามหาทางช่วยเหลือนาคสายพันธุ์ต่างๆ ในทั่วโลก มีการเผยแพร่ข่าวนี้วันศุกร์ (21 พ.ย.) ที่ผ่านมาในประเทศอังกฤษ
       
       ก่อนหน้านี้เข้าใจกันว่านาคจมูกขนได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2541 แต่หลังจากนั้นได้พบประชากรกลุ่มเล็กๆ ในหลายแห่ง ทั้งในกัมพูชา เวียดนาม ไทยและเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย
       
       การพบโอชิยังช่วยพิสูจน์ด้วยว่า มีนาคสายพันธุ์หายากนี้อาศัยอยู่ในเขตป่าสงวนชายทะเลของกัมพูชา
       
       เดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่เวียดนามได้ประกาศการค้นพบนาคจมูกขนในเขตป่าสงวน จ.ก่าเมา (Ca Mau) ทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งนับเป็นการค้นพบครั้งแรกในประเทศนี้ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
       
       อย่างไรก็ตามในข่าวดีย่อมมีข่าวร้าย หนังของนาคยังคงเป็นที่ต้องการในท้องตลาด การบุกเข้าจับยึดในเมืองลาสา (Lhasa) ทิเบต เมื่อเร็วๆ นี้ได้พบหนังของนาครวม 778 ชิ้น (ตัว)
       
       กองทุน IOSF ได้รณรงค์โครงการที่ชื่อ Furget-Me-Not ต่อต้านการล่าและฆ่านาค ซึ่งถือว่าเป็นเหยื่อของอาชญากรรมการค้าสัตว์ป่าที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ มากนัก
       
       นอกจากโอชิแล้วก็ยังมีนาคสายพันธุ์เดียวกันอีก 1 ตัวคือ "ดารา" อยู่ที่สวนสัตว์ตาขะเขมา (Takhmao) ชานกรุงพนมเปญ ปัจจุบันดาราเป็น "ดารา" อย่างแท้จริง นาคจมูกขนตัวนี้ได้กลายเป็นขวัญใจประชาชน และเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์เพื่ออนุรักษ์
       
       กองทุน IOSF ทำงานร่วมกับองค์การอนุรักษ์ระหว่างประเทศแห่งกัมพูชา (Conservation International Cambodia) ให้ความรู้แก่ราษฎรชาวเขมรในเขตรอบๆ ทะเลโตนเลสาบ (Tonle Sap) และฝึกอบรมอาสาสมัครและตั้งกลุ่มนักศึกษาชีววิทยา กลุ่มเฝ้าระวัง เพื่อคุ้มครองสัตว์ป่า และรายงานความเคลื่อนไหวการกระทำผิดกฎหมาย
       
       เจ้าหน้าที่ของ IOSF กล่าวว่า จะนำโอชิไปยังสวนสัตว์ตาขะเมาเร็วๆ นี้ และจะจัดที่อยู่ให้อยู่เป็นเอกเทศ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งโอชิจะไปใช้ชีวิตร่วมกับ "ดารา" ได้.
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
" บ้านโฮมฮัก" อบอุ่นด้วยรักแต่แร้นแค้น

" บ้าน โฮมฮัก" เป็นบ้านแห่งความรักของเด็ก ๆ นับร้อยชีวิตที่มาอาศัยพักพิงในยามที่ไม่เหลือใคร เด็กๆ ที่นี่มีทั้งเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์จากพ่อแม่   เด็กกำพร้าไม่ติดเชื้อแต่ถูกชุมชนผลักไสด้วยความรังเกียจ เด็กที่พ่อแม่มีปัญหาไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เด็กที่มีปัญหายาเสพติด เด็กบางคนมาด้วยหัวใจที่แตกสลายพร้อมกับร่างกายที่บอบช้ำจากการกระทำ ทารุณกรรมของผู้ใหญ่   เรื่องราวของเด็กบางคนดั่งนิยายที่กรีดกระชากใจผู้ที่ได้รับรู้

เด็ก ที่นี่มี ทั้งหมด 104 ชีวิต ตั้งแต่อายุ 4 วันไปจนถึง 20 ปี บางรายถูกพ่อแม่เร่ขายให้ไปเป็นขอทาน   บางรายกำลังถูกขายไปเป็นหญิง*** และอีกหลายกรณีที่สะเทือนใจ อาทิ

กรณีของน้องส้ม (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 3 ขวบ แววตาสดใสน่ารัก แต่โดนผู้ใหญ่ใจโหดร้ายป้ายบาดแผลทั้งร่ายกายและจิตใจให้เธอด้วยการข่มขืน   เธอมาในสภาพอวัยวะเพศฉีกขาด จิตใจบอบช้ำ ซ้ำร้ายเธอติดเชื้อเอดส์   

หรือ กรณีของน้องโฟร์ (นามสมมุติ)   พ่อแม่เสียชีวิตเพราะเอดส์ เธอเองก็ได้รับเชื้อเช่นกัน   บ้านเธอยากจน ยามหิวโหยก็เคี้ยวข้าวสารประทังชีวิต เพราะไม่มีใครดูแล   มีวัดใกล้บ้านเธอจึงไปขอเศษข้าวเศษแกงประทังชีวิต แต่ซ้ำร้ายโดนพระใจโฉดข่มขืน ทุกวันนี้ร่างกายเธอแคระแกรนเพราะขาดสารอาหาร และเอดส์ทำให้เธอมีอาการชักหลายครั้ง จนมีผลทางสมองทำให้เธอพัฒนาการช้ากว่าเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน

" แม่ ต้อย"   ของเด็ก ๆ   หรือ สุธาสินี น้อยอินทร์ หญิงเหล็กหัวใจแกร่งที่มีความตั้งใจงานเพื่อสังคมมาโดยตลอดนับตั้งแต่เรียน จบ   จากจุดเริ่มต้นที่ได้ทำงานเกี่ยวกับการดูแลเด็ก โดยไม่รับเงินเดือน   

จน กระทั่งมาตั้ง " มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน " อยู่ที่เลขที่ 3 หมู่ 12 บ้านประชาสรรค์ ต.ตาดทอง อ.เมือง ยโสธร โทร 0-4572-2241

แม่ต้อยก่อตั้งบ้านโฮมฮักมา 20 กว่าปีแล้ว   แต่จดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา   เป็นพินัยกรรมเพื่อความอยู่รอดของเด็กๆเมื่อเธอต้องจากไป ทรัพย์สินทั้งหมด บ้าน รถ ที่ดิน มรดก ของพ่อแม่ก็ขายหมดมาเป็นค่ายา ค่าอาหาร ค่าเทอม ค่าน้ำ ค่าไฟ ของเด็ก ๆ ที่สูงถึงเดือนละ 4-5 แสนบาท สุดท้ายแม้กระทั่งสร้อยที่ใส่ติดคอยังต้องขาย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้เด็กๆ ซึ่งเปรียบเสมือนลูกๆ   ของเธอก่อนเมื่อเปิดเทอม

แม่ต้อย เล่าว่า บ้านโฮมฮักเป็นบ้านหลังที่อบอุ่นเพื่อเด็ก ๆ ที่ยากไร้   ขาดที่พึ่งพิง เราอยู่กันด้วยความรัก แต่แร้นแค้น   ปัจจุบันขายสมบัติจนหมดเกลี้ยงตัว   แม้จะมีเงินบริจาคเข้ามาแต่ ่ก็ไม่พอ เด็ก ๆ ที่บ้านโฮมฮักต้องช่วยเหลือกัน แบบพี่ดูแลน้อง ปลูกผัก หาแมลงกินประทังชีวิต แต่ด้วยความแห้งแล้งก็ยากลำบากเหลือเกิน แค่น้ำใช้อาบทั้งบ้านก็ไม่พอ จะเอาน้ำที่ไหนไปรดผัก   แมลงที่หาได้ต้องเอาไปคั่วแล้วป่น โรยข้าวเพื่อให้พอกินกันทั้งบ้าน   เด็กก็มีแต่ตัวเล็ก ๆ   บางส่วนก็ป่วย บางส่วนไปโรงเรียน   ที่โตขึ้นมาหน่อยก็ต้องดูแลน้องตัวเล็ก ๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้   และบางคนก็ต้องพยาบาลน้องๆ   ที่เจ็บป่วย

" ที่น่าเศร้าใจคือสังคมยังมีการเลือกปฏิบัติและอคติต่อผู้ติดเชื้อเอดส์   เมื่อส่งเด็กไปโรงเรียนต้องหาโรงเรียนที่ไกลออกไป   บางครั้งเมื่อรู้ว่าเด็กมาจากที่นี่   พ่อแม่ ผู้ปกครองก็ประท้วงให้ไล่เด็กออก   เพราะสังคมยังขาดความเข้าใจว่าไม่สามารถติดเชื้อจากการอยู่ร่วมกัน แต่ติดทางเลือดและการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น   ทำให้ไม่เข้าใจเด็กเหล่านี้ว่าป่วยแค่ร่างกายแต่ยังมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิด   ร้องไห้ได้เหมือนกับเรา เด็กเหล่านี้โดนมองเหมือนเป็นตัวประหลาดที่ไม่มีใครอยากเฉียดกรายเข้าใกล้     ขนาดเหลือแต่ร่างไร้ลมหายใจจะเผาในวัดยังไม่ได้ ชาวบ้านกลัวขี้เถ้าฟุ้งไปในอากาศตกหลังคาบ้านแล้วจะติดเอดส์กันทั้งหมู่บ้าน " แม่ต้อย เล่าทั้งน้ำตา
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
มี เด็กระยะสุดท้ายที่แพทย์พิพากษาว่า อยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน หรือ 2 เดือน   กับเด็กที่แพทย์หยุดยา เพราะดื้อยาแล้ว ส่งมาอยู่รอความตายที่นี่   แต่ด้วยความรัก ความอบอุ่น และบรรยากาศที่ดูแลกันเหมือนพี่น้อง เด็ก ๆ หลายคนกลับมีชีวิตอยู่ได้เกินกำหนดที่แพทย์บอก   เช่น น้องก้อง ( นามสมมุติ)   มาตอนอายุ  8 เดือน ซึ่งหมอไม่รักษาแล้ว เพราะเชื่อว่าอยู่ได้อีก 2 เดือน แต่ตอนนี้น้องก้องสุขภาพแข็งแรงดี อายุ 12 ขวบแล้ว ช่วยพี่ๆ   รดน้ำผักทุกวัน


แต่ตอนนี้ผักปลูกได้น้อย แมลงหาจนไม่มีให้หาแล้ว   ข้าวกินได้ครึ่งท้องเพื่อแบ่งอีกครึ่งให้น้อง ๆ ซ้ำร้ายแม่ต้อยของเด็กกำลังป่วยด้วย "มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย"    ซึ่ง หมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกไม่เกิน 6 เดือน   แต่หัวใจแม่เกินร้อยที่เธอมอบให้เด็กๆ ทำให้เธอสู้   บางคืนเธอถูกรุมเร้าด้วยอาการปวดที่ไม่ได้พักผ่อนจากการทำงานหนัก พอ ช่วงกลางคืนถึงกับนอนไม่ได้   ต้องลุกออกมาเดิน หาก ใครไปบ้านโฮมฮักไม่รู้คนไหนแม่ต้อยละก็ ให้สังเกตที่ข้อเท้าจะมีกระดิ่งเป็นลูกกระพรวนห้อยไว้ เพราะยามเธอออกมาเดิน เด็ก ๆ ได้ยินเสียงกระดิ่งจะได้ไม่กลัวคิดว่าเป็นผี ...
แต่ จะมีวันไหนที่แม่ต้อยไม่ลุกออกมาเดินอีกแล้วก็ไม่รู้ ! ?! แล้วเด็ก ๆ จะอยู่กันได้อย่างไร ต้องกำพร้าครั้งที่สองในชีวิตกันอีกแล้วหรือ ?

ปัจจุบันบ้านโฮมฮักกำลังประสบภาวะขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างหนัก   และยังขาดครูพี่เลี้ยง   ขาดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ทยอยถอนตัวออกไป เราลองมาช่วยกันสร้างปาฏิหาริย์ให้บ้านโฮมฮักเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้ง ใครที่เคยคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นส่วนเกิน   เป็นส่วนที่ต้องกันไว้ให้อยู่อีกโลก   เป็นอีกชนชั้นของสังคม ก็น่าจะมองกันใหม่ เพราะพวกเขาเป็นเพียงเด็ก เป็นชีวิตที่ไร้เดียงสา แววตาบริสุทธิ์ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้   เด็กน้อยเหล่านี้เกิดมาจากปัญหาที่พวกผู้ใหญ่สร้างขึ้นทั้งนั้น

ถ้า หากใครได้ไปสัมผัสเยี่ยมเยือน เด็กๆ ที่บ้านโฮมฮัก จะเห็นแววตาที่สดใส ร่าเริง ทุกคนจะดีใจที่มีพี่ๆ ไปเยี่ยม ยิ่งถ้าไปเล่นไปสัมผัสเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยจิตกุศล ด้วยความรักก็เหมือนได้ต่อเติมชีวิตอันสดใส จากเด็กที่ไม่ลุกเดิน ซึมเศร้าเหม่อลอย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม   เมื่อเห็นผู้มาเยี่ยมเยือนจะดีใจ ลุกขึ้นมาต้อนรับ มีรอยยิ้ม เพราะนานมากแล้วที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ค่อยมีใครไปเยี่ยมเยือน

" พี่ ๆ จะกลับมาหาพวกหนูกันอีกมั๊ยคะ"

" พี่หนูอยากได้เสื้อสีแดงไว้ใส่   หนูจะได้ใส่ก่อนตายมั๊ยคะ"   

และ อีกมากมายคำพูดอันเสียดแทงหัวใจพี่ๆ ทุกคน อยากให้สังคมได้รับรู้ ก่อนจากกันโบกมือลาด้วยน้ำตา และแววตาของเด็ก ๆ ที่มองรถจนลับตาพร้อมกับความหวังว่า จะมีใครมาเยี่ยมเยือนและนึกถึงพวกเขาเหล่านั้นกันอีกบ้าง …

สำหรับผู้ มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยเหลือเด็ก ๆ โอนเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เลขที่ 561-2-21187-7

โทร. 0-4572-2241

หรือจะบริจาคเสื้อผ้า หนังสือการ์ตูน หนังสือเรียน ของเล่น และสิ่งจำเป็นได้ตามจิตศรัทธาเป็นของใหม่หรือของใช้แล้วก็ได้   เพราะของที่ท่านไม่ใช้แล้วยังมีค่ากับเด็ก ๆ เหล่านี้อย่างมาก
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #92 on: March 10, 2009, 09:05:30 pm »



อ่านให้จบ เรื่องสำคัญ
มากๆ
เรื่องที่ 1 เหตุเกิดตอนประมาณ 21.00 ที่ลานจอดรถชั้นใต้ ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ผมเป็นคนที่สังเกตสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ ดังนั้นหากมองเผินๆเหมือนกับว่าผมเดินไปดื่มน้ำในมือไปเรื่อยเปื่อย
สิ่งที่ผมรู้สึกก็คือ รู้สึกว่ามีคนเดินตามผมห่างๆแต่ผมยังไม่คิดอะไรในทีแรก
เพราะคงเป็นผู้มาใช้บริการที่จอดอยู่ชั้นเดียวกัน
อีกอย่างที่รถที่จอดชั้นเดียวกับผมนี้ยังค่อนข้างเยอะ
บังเอิญว่าผมอยากจะทิ้งแก้วน้ำในมือก็เลยมองหาถังขยะ
ซึ่งมันไม่ค่อยมีหรอกตามที่จอดรถ
เพราะทางศูนย์การค้าพวกนี้เค้ากลัวเรื่องการรอบวางระเบิด
ระหว่างที่ผมเดินหาที่ทิ้งในดวงใจอยู่นั้น
ผมก็เดินเลยที่จอดรถตัวเองไปหลายคันเหมือนกัน แต่ก็ไม่มี
จะทิ้งมั่วๆมันก็น่าเกลียด
ก็ตัดสินใจว่าเอาไปไว้ตรงที่วางแก้วในรถก่อนก็ได้
( ซึ่งตลอดเวลาไอ้บ้านี่ก็ยังเดินตามผมอยู่)
พอหมุนตัวจะกลับมาที่รถตัวเอง ไอ้บ้านี่มันก็ทำเป็นเดินให้เลยผมไปก่อน
แล้วก็หยุดเหมือนมองหารถมันว่าจอดไหน ไอ้ช่วงที่หมุนตัวกลับมานี่เอง
ที่ผมเห็นมันชัดๆว่า สภาพมันไม่ใช่ลักษณะคนขับรถเก๋งแน่นอน
คือมันมีสายร้อยกุญแจแบบ Flex( สายที่วนๆคล้ายสปริง)กับกุญแจดอกเดียว
ใส่แจ๊คเก็ตสีดำ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ไม่หวังดีรึเปล่า
ก็เลยแกล้งทำเป็นเดินเลยรถตัวเองอีกสักสี่ห้าคัน
แล้วไปหยุดทำท่าทางจะไขกุญแจรถคันหนึ่ง ซึ่งมันก็รีบเดินตามกลับมา
คงกลัวว่าจะไม่ทันเดี๋ยวผมขึ้นรถไปเสียก่อน
แต่ผมก็ทำทางเป็นเปลี่ยนใจอีกครั้งมองหาที่ทิ้งแก้วน้ำ
แล้วเดินสวนกับมันในระยะที่ปลอดภัยสำหรับผมเอง
แต่เป็นอันตรายสำหรับมันเพราะผมก็พร้อมอยู่แล้ว
แน่นอนว่าผมเดินกลับไปหารถผมเองอย่างแท้จริง ซึ่งคราวนี้มันหลงกลผมเต็มๆ
เพราะมันไปยืนอยู่ท้ายรถคันที่ผมทำท่าจะไขประตู
มันไปยืนแบบแอบๆเพราะเดี๋ยวผมต้องกลับมาแน่นอน
แต่คราวนี้ผมเดินไปปั๊บ กดรีโมทปุ๊บ ขึ้นรถได้ผมก็สตาร์ทเครื่อง
กดเซ็นทรัลล็อค ขณะที่ผมขับออกไป ผมมองไปที่มันซึ่งกำลังทำหน้างงๆ
แต่ไม่กล้ามองแบบเต็มๆนัก เห็นหน้าตามันเหวอๆ ผมก็เลยคิดว่ายังไงต้องแจ้ง
ร.ป.ภ. ไว้ก่อน ไม่ว่ามันจะใช่อย่างที่ผมคิดหรือไม่ก็ตามแต่เพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ
ผมขับเลยไปจอดตรงที่คืนบัตรจอดรถ แล้วแจ้งทางเจ้าหน้าที่ห้าง
รวมทั้งน ำเจ้าหน้าที่ 4 คนไปเองด้วย
เพราะผมรู้อยู่คนเดียวนินา ไปเจอมันผลุ๊บๆโผล่ๆอยู่
ทางเจ้าหน้าที่จึงตรงเข้าไปสอบถามว่า ทำอะไร
มันตอบว่าไงรู้ไหมครับ......มันมาซื้อของแต่จำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน
แต่พอสักไปสักมาว่ารถยี่ห้ออะไร ทะเบียนอะไร มันก็อึกอักตอบมาว่า
มันนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เอามอเตอร์ไซด์มา ม ั่วๆแล้วก็แถ
พอเจ้าหน้าค้นตัวก็พบมีดปอกผลไม้หนึ่งเล่ม ทีนี้หน้ามันซีดอย่างชัดเจน
ที่จริงหน้าผมก็ซีดครับ ผมก็เลยบอกให้เจ้าหน้าที่คุมตัวแล้วแจ้งตำรวจเพื่อขยายผลต่อไป......
ต้องระวังนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด ถ้าเป็นสุภาพสตรี อย่าลีลาอย่างผม
เพราะไม่คุ้มแน่นอนถ้าเราพลาด
เป็นห่วงทุกคนนะครับ
โจ


เรื่องที่ 2 อ่านเรื่องข้างล่างแล้วระวังตัวให้มากๆนะคะ
เพราะพี่ต่อก็เคยโดนลักษณะเดียวกัน โดยขับรถกลับบ้านตนเดียวประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ
พอเข้าซอยรู้สึกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์ขับตามมา และเลี้ยวเข้าซอยเดียวกัน
และตามมาเรื่อยๆ พอพี่ต่อจอดรถหน้าบ้านเขาก็ขับเลยเข้าไปในซอยซึ่งเป็นซอยตัน
และเลี้ยวกลับมาจอดอยู่ใกล้ๆ และลงมาเปิดประตูข้างคนขับที่พี่ต่อนั่งอยู่
พอดีคอยระวังอยู่แล้วและคอยมองอยู่ และรถก็ล็อคอยู่ เขาจึงเปิดไม่ได้
แต่ทำท่าบุ้ยใบ้ให้เราเปิดประตูเหมือนจะถามอะไร
พี่ต่อก็เลยบีบแตรดังมากๆหลายครั้ง แล้วโบกมือให้รู้ว่าไม่เปิด
พอดีแม่บ้านเดินมาที่ประตู เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถขับออกไป
ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเร็วมากนับจากที่จอดรถหน้าประตูบ้าน ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
ปกติเมื่อถึงบ้านพี่ต่อจะบีบแตร แล้วเปิดประตูรถ เพื่อส่งกุญแจประตูใหญ่ให้แม่บ้านไขประตูบ้านให้
พอดีวันนั้นมองเห็นรถมอเตอร์ไซด์คันนี้อยู่ เลยยังไม่ได้กดแตร
เขาอาจจะคิดว่าเราจะลงจากรถมาเปิดประตูบ้านเองก็ได้
ไม่อยากคิดเลยว่า ถ้ารถไม่ได้ล็อคอยู่จะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้หน้าบ้านเราเอง
พวกมิจฉาชีพพวกนี้จะลงมือเร็วมาก คนม าช่วยก็อาจช่วยไม่ทัน
ดังนั้น ขอย้ำให้ระมัดระวังมากๆ เพราะเหตุการณ์ประเภทนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ

ฌลาวิภา เมฆใจดี

เรื่องที่ 3 ระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง
ทั้งคู่กระตุกประตูหลังคนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่ 1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก
แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอดไม่ว่ามืดหรือสว่าง
เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ
Regards,
Suraphong

เรื่องที่ 4
ภรรยาผม จะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซนทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่องและก่อนดับเครื่อง
มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพ
ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ ก็ได้ยินเสียงตึ๊กจากข้างหลัง
ภรรยาผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา
แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนที่ภรรยาผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมคิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวันแสกๆ แท้ๆ
ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถ
พวกผู้ร้ายมักจะ ลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะ ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย

เรื่องที่ 5
หลังจาก จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง
ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำงาน )
ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ
โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัดนิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว
คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า
พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน ( นี่มันปล้นกันชัดๆ)
แล้วรถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถสองคน) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป
น่ากลัวที่สุด

เรื่องที่ 6
ตอนรถจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่
สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20กว่า สองคน
แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง
พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า 'รถมันล๊อคหมด' แล้วก็ขับเลย ไป

ขอให้ช่วยกัน Forward มากๆทั้งชายทั้งหญิงนะคะ
ส่งแค่คนสองคนก็ได้บุญมากแล้วค่ะ
 

[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline auseebkk

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2007
  • Posts: 3,056
  • Country: th
  • Gender: Male
  • Last Login:November 25, 2014, 07:07:28 am
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง

เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง

เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง

เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น

เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า

แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น............

เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง

เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง

เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง

ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ

เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว

จงแสวงหา การหยั่งรู้

จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…

จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….

กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป

ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด

เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย

น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้

เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม

บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน

อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง



บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย...
ทำ.....ในสิ่งที่อยากจะทำ

อยากให้ทุกคนได้อ่าน

Offline thaidub

  • dub dub ba dee dub
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 12,330
  • Gender: Male
  • Last Login:December 25, 2019, 08:58:03 am
    • my fleet
จดหมายถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
6 ตุลาคม 2547
พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


พระราชหัตถเลขาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีไปถึงสมเด็จ พระเทพ รัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗


สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำเผยแพร่


ลูกพ่อ
ในพื้นแผ่นดินนี้ ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่ว
ถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้ว ทุกคนปรารถนาความสว่างปรารถนาความดีด้วยกันทุกคน
แต่ความปรารถนานั้นจักสำเร็จลงได้ จักต้องมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่าง หรือ ความดีนั้น
ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดีก็คือรักผู้อื่น เพราะความรักผู้อื่น สามารถแก้ปัญหาได้ทุกปัญหา
ถ้าให้โลกมีแต่ความสุขและเกิดสันติภาพ ความรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้
พ่อขอบอกลูกดังนี้...
1. ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่า เป็นเพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตายด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าอดีต...ปัจจุบัน...อนาคต
2. มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น ควรมองโลกจากความเป็นจริง อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง และเหมาะสม
3. มีความสันโดษ คือ
• มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้ คือได้อย่างไร ก็เอาอย่างนั้น ไม่ยึดติด ขอให้คิดว่ามีก็ดี ไม่มี
ก็ได้ พอใจตามกำลัง คือมีน้อยก็พอใจตามที่ได้น้อย
• ไม่เป็นอึ่งอ่างพองลมจะเกิดความเดือดร้อนในภายหลัง
• พอใจตามสมควร คือทำงานให้มีความพอใจเหมาะสมแก่งาน
• ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน
4. มีความมั่นคงแห่งจิต
คือให้มองเห็นโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียร และเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาให้ภาวนาว่า...มีลาภ มียศ สุขทุกข์ปรากฏ สรรเสริญนินทา เสื่อมลาภ เสื่อมยศ เป็นกฎธรรมดา อย่ามัวโศกานึกว่า ' ชั่งมัน '


พ่อ
6/10/2547
---------------------------------------------------------------------------------------

สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชปรารภทิ้งท้าย

*** ฉันหวังว่า คำสอนพ่อที่ฉันได้ประมวลมานี้ จะเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน ที่ได้พบเห็น และลูกอันเป็นที่รักของพ่อทุกคน

ฉันรัก พ่อฉันจัง
สิรินธร
[img width= height=]http://www.damnlol.com/pics/597/422dd996a42a0a5f7e4b2a3a28d689ef.gif[/img]
THE RETRO WATERCOOLED VW REGISTRY http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=21593.0
MY FLEET BUILD THREAD http://www.bangkokclassiccar.com/forum/index.php?topic=3592.420

Offline auseebkk

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jun 2007
  • Posts: 3,056
  • Country: th
  • Gender: Male
  • Last Login:November 25, 2014, 07:07:28 am
Re: fwd mail : ช้อนยาวหนึ่งเมตร
« Reply #95 on: November 05, 2009, 04:33:08 pm »
ขอบพระคุณมากครับพี่นิว


 &v& &v& &v&


Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments