ทิดเอกชวนชิม : " Peperoni Italian Restaurant "สวัสดีครับทุกท่าน
เป็นบ้างไหมครับที่ว่า เวลาตกตอนเย็นๆแล้ว ไม่รู้จะไปหาอะไรรับประทาน ผมคนหนึ่งหละครับที่บางครั้งก็นึกไม่ออก คิดไปคิดมาก็มักจะคิดออกแต่ที่เก่าๆที่คุ้นเคย ซึ่งสุดท้ายก็มักจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆเสมอ
แต่เดี๋ยวนี้กาลเวลามันเปลี่ยนไป ร้านเก่าๆที่คุ้นเคยก็ปิดกิจการไปบ้าง เลิกกิจการไปบ้าง ด้วยสาเหตุรวยแล้วเลิก ขี้เกียจทำแล้ว อะไรทำนองนี้
วันนี้ก็เช่นกันครับ ผมนึกอะไรไม่ออกว่าอาหารเย็น ค่ำนี้จะกินอะไรดี ขับรถมาบนถนนสีลม ผ่านเซ็นทรัลสีลม ซึ่งก็มลายหายสูญไปแล้ว กลายเป็น ท๊อปซุปเปอร์เพียงอย่างเดียว จะไปกลับรถเพื่อไปเข้าถนนปั้น ไปหาอาหารไทยๆรับประทาน โอ้โห้ ฝั่งนั้นก็รถติดซะเหลือเกิน
ขับรถจนถึง "โรงแรมนารายณ์" ฝั่งซ้ายมือพอดิบพอดี ผมไม่คิดแล้วครับเลี้ยวซ้ายเข้าที่นี่หละครับ ฝากท้องไว้ที่นี่ดีกว่า ที่เก่าๆที่คุ้นเคย
พอจอดรถเสร็จ มุ่งหน้าขึ้นชั้นสอง กะว่าจะหา สุกี้บุฟเฟ่ห์ลักษมี รับประทาน อ้าว เลิกกิจการไปซะแล้ว
มองไปฝั่งตรงข้าม โอ้โห้ ห้องอาหารระเบียงทอง บุฟเฟ่ห์เจ้าประจำ คนก็เดินให้ขวักไขว่น่าเวียนหัว
ผมเลยเดินลงมาสำรวจด้านล่าง ที่เดิมเป็นนารายณ์พิซเซอเรีย
เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นห้องอาหารอิตาเลียนชื่อน่ารักดีครับ ชื่อ Peperoni
ฝากท้องไว้ที่นี่ดีกว่า สืบถามได้ความว่าพ่อครัวเป็นชุดเดิมสมัยอยู่เป็นนารายณ์พิซเซอเรีย และ มีอาหารอิตาเลียนรสเด็ดๆ ให้ลองชิมด้วย
งานนี้พ่อครัวบอกว่า พิซซ่าอร่อยเด็ดกว่าสมัยเดิมมาก เพราะทำแบบสไตล์อิตาเลียนแท้ๆๆ ถ้างั้นไม่รอช้าครับ ดูเมนูแล้วก็สั่งอาหารสองอย่างมารับประทานควบกันเลยทีเดียว
จานแรก ได้แก่ "พิซซ่าSurf & Turf"
เป็นพิซซ่าแบบสองหน้าครับ โดยครึ่งหนึ่งเป็นหน้าแบบทะเล อีกครั้งหนึ่งเป็นแบบอิตาเลียน ซอสเสจ มีเบคอนด้วย
จานนี้อร่อยยกนิ้วให้ครับ เพราะเครื่องเยอะมากๆ ของทะเลสดอร่อย แป้งบางกรอบ รสชาดโดยรวมลงตัวจริงๆ จิบไวน์แดงแกล้มไปด้วย มันเข้าจริงๆครับ
จานต่อไป จานนี้ถือว่าอร่อยเด็ดขาดครับ ชื่อว่า " Stewed Lamb Shank " ซึ่งก็คือ สตูว์แกะ นั่นเอง
ท่านที่ชอบทานแกะก็คงทราบนะครับว่า แกะนั้นเป็นเนื้อที่มีกลิ่นสาบแรงซึ่งหากนำมาปรุงไม่ดี ก็จะมีกลิ่น แต่ถ้าตุ๋นไม่ได้ที่ เนื้อแกะก็จะแข็งเกินไป ไม่อร่อย หรือไม่ถ้าตุ๋นนานเกินไป เนื้อก็จะยุ่ยเละเกินเสียอีก
สตูว์จานนี้ เนื้อแกะนุ่มกำลังดี เคี้ยวเพลิน ไม่เหนียว ไม่เละ หอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ไม่ฉุนเครื่องเทศจนเกินไป แถมกระดูกนั้นยังมีเอ็นเป็นชิ้นๆตรงกระดูก ให้เลาะรับประทานอีก ที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นสาบสางมากวนใจตั้งแต่รับประทานคำแรก จนหมดคำสุดท้าย
กินแกล้มไวน์แดง เข้ากันราวกับฟัง ซิมโฟนี่วงใหญ่ที่เก่งกาจ โดย วาทยากรมือฉมัง ยังไงยังงั้นเลยครับ
อร่อยเด็ดมากครับจานนี้
ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะไปชิมอาหารอิตาเลียนที่ร้านนี้ดูนะครับ
แล้วพบกันตอนต่อไปครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามครับ