Author Topic: ข้อมูลเพิ่มเติมครับ รายละเอียด ของ Scirocco สำหรับผู้ที่สนใจ (Read 11387 times)

ceebood · « **on:** August 30, 2005, 09:39:50 pm »

คือว่าไอ้กระผมก็ได้รวบรวมข้อมูล ของ เจ้าร็อคโค่ มาพอสมควร
เลยเอามาแบ่งให้ผู้ที่สนใจ ผิดถูกประการใดก็บอกกล่าว เพิ่มเติมกันได้นะครับ

แต่น แต่น แต๋นนนนน

ceebood · « **Reply #1 on:** August 30, 2005, 09:46:16 pm »

อันนี้ scirocco เด็กแนว

ceebood · « **Reply #2 on:** August 30, 2005, 10:08:15 pm »

หลังจากที่ค่ายโฟล์กสวาเก้น ได้ออก เดชเชอร์ หรือ อีกชื่อหนึ่งก็คือ พาสสาท
ซึ่งใช้ เทคโนโลยี เครื่องยนต์ แบบ อินไลน์ แบบเดียวกับ ออดี้ ฟ๊อกซ์ หรือ ออดี้ 80
ซึ่งก่อนหน้านั้น ภาพลักษณ์ ของโฟล์ก ก็คือรถที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ เช่น รถเต่า
และพวกพ้อง ไทฟ์ 2 3 รวมไปถึง คามาน เกีย ขณะที่ ค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้ใช้เครื่องยนต์
ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำกันแทบจะทั้งนั้น อีกทั้งข้อจำกัดทางด้าน การออกแบบ
ที่ไม่เอื้อให้รถ ที่ใช้ระบบแอร์ คูลเลอร์ สามารถปรับปรุงหรือพัฒนา ต่อไปได้มากนัก
อีกทั้งต้นทุนในการผลิต ที่สูงกว่า รถที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ

เคยดังในสนามแข่งด้วย

ceebood · « **Reply #3 on:** August 30, 2005, 10:24:31 pm »

เมื่อคิดได้ดังนั้น ทางเครือโฟล์กกรุ๊ป จึงได้ตัดสินใจเริ่มหันมาให้ความสนใจ
กับเครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ มันก็เป็นความเสี่ยงอยู่ ไม่น้อย
เพราะ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าคนทั่วไปและลูกค้าหลักๆมักคิดว่า **< VW=Beetle=Air cooler >**
และบริษัทอย่างโฟล์ก ก็ไม่อยากจะเสี่ยงกับความล้มเหลว หาก รถระบายความร้อนด้วยน้ำ ออกมาแล้ว
มีข้อวิจารณ์ ในทางลบ (ขายเต่า ไปเรื่อยๆก็อยู่ได้ เรื่องอะไรจะเลิก)......ดังนั้น***
เมื่อมานั่งคิดทบทวนกันแล้วจึงได้ตัดสินใจ ส่งหนูลองยาออกมาก่อน 1 ตัว
นั่นก็คือ เดชเชอร์ หรือ พาสสาท ที่เป็นเครื่อง ระบายความร้อนตัวแรกของโฟล์ก(ใช้เทคโนโลยี
ร่วมกับออดี้ 80)

คันนี้สีคุ้นๆเนอะ

ceebood · « **Reply #4 on:** August 30, 2005, 11:04:31 pm »

เมื่อเจ้าเดชเชอร์ หรือ พาสสาท ออก มา ด้วยความยอดเยี่ยม ในหลายๆอย่างของตัวรถทำให้กระแสตอบรับ
กลับมาในแง่บวก ทำให้ผู้บริหารของโฟล์ก ได้ใจ เอ๊ย.. พอใจ จึงหันมาให้ความสำคัญ กับการพัฒนาและปรับปรุงเครื่อง
ระบายความร้อนด้วยน้ำของตนเองต่อไป เพื่อทดแทนรถ เต่าและพวกพ้อง ที่ผลิตต่อเนื่องกันมา กว่า30ปี
รวมไปถึงคามาน เกีย ด้วย โดยเรียก โปรเจคนี้ว่า EA398 และ EA337 (เลขสวยใครสนใจเสี่ยงโชคเลือกซื้อตามได้ครับ
อีก 2 วันหวยออก) โดยคาดหมายกันว่า จะออกมาเพื่อแทนที่ Beetle และ Kamann Kia
ตัว EA398 ซึ่งเป็นรถคูเป้ สี่ที่นั่งจะออกมาสู่ท้องตลาดก่อน ซึ่งการออกมาก่อนก็เป็นระบบการตลาดที่รถเยอรมันหลายๆ
ยี่ห้อชอบใช้ เช่นเบนซ์ในสมัยนั้น ที่มักจะออกตัวสปอร์ตคูเป้มาก่อนตัวสี่ประตูซึ่งเป็นตัวทำตลาดหลัก
ที่เป็นแบบนั้นก็เพื่อทดสอบระบบ ดีลเลอร์ศูนย์บริการ ระบบสายพานการผลิต รวมไปถึงคำวิจารณ์ เพื่อนำไปปรับปรุง
ก่อนจะออกโมเดล ที่ทำตลาดหลักตามออกมา

เอาละครับกล่าวมาตั้งนาน ยังไม่เข้าเรื่องเลย เอาไว้พรุ่งนี้เดี๋ยวผมมาต่อนะครับ เดี๋ยวต้องไปข้างนอกแล้ว
ขาดเหลืออย่างไรเพิ่มเติมได้นะครับ

nong26june · « **Reply #5 on:** August 30, 2005, 11:24:50 pm »

ชอบคร้าบบบ...ชอบ.. ขออีกหน่อยง่ะ..

nong26june · « **Reply #6 on:** August 30, 2005, 11:36:26 pm »

ทำไมรถเรา..ฝาถังน้ำมันไม่เหมือนฟะเนี่ย..

nong26june · « **Reply #7 on:** August 30, 2005, 11:40:09 pm »

อ้อ..รู้แล้น..สีเขียวมันคือ..ซีร็อคโค..
เอ..แต่กันชนของผม..มั้ยมันเหมือนซีจังเลย

AKE · « **Reply #8 on:** August 31, 2005, 01:32:36 am »

ฝาถังน้ำมันของ Dasher และ Passat B1 จะเป็นอย่างนี้ถูกแล้วครับพี่Nong

ขอบคุณคุณceebood นะครับ ข้อมูลเยี่ยมจริงๆ

ceebood · « **Reply #9 on:** August 31, 2005, 11:32:05 pm »

มาต่อแล้วนะครับ เอ้าถึงไหนแล้วหว่า...

อ้อออ...หลังจากที่โครงการผลิตรถที่คาดหมายกันว่าจะมาแทนที่ Beetle และ Kamann Ghia ได้รับไฟเขียวจากผู้บริหารแล้ว ก็ได้มีการเริ่มกำหนด concept ของรถทั้งสองแบบ เพื่อไม่ให้มีการทับตลาดกันเอง โดยให้ EA398เป็นรถคูเป้เท่านั้นแต่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะต้องการที่จะใช้Platform ร่วมกับ EA337 เพื่อประหยัดต้นทุนและสะดวกในการขึ้นไลน์ประกอบ รวมไปถึงการซ่อมบำรุง โดยรถรุ่นใหม่นี้ จะต้องมีน้ำหนักไม่มาก และขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์วางขวาง 4 สูบ มี 4ที่นั่ง มีรูปทรงในแบบ จีที และมีความปลอดภัย พอที่จะผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ที่เข้มงวดของอเมริกาได้ เมื่อมีการกำหนดรูปแบบและทิศทางในการออกแบบได้แล้ว ก็มาถึงผู้ที่จะออกแบบ หลังจากมีการออกแบบกันมาหลายครั้ง โดยสตูดิโอของโฟล์กสวาเก้น แต่ก็ไม่มีแบบใดที่ตรงใจผู้บริหารในสมัยนั้นซักที จนในที่สุดก็ได้มีการหาทางออกโดยมอบหมายให้ Giorgetto Giugiaro
นายใหญ่แห่งค่าย อิตัลดีไซน์ ผู้ที่เคยออกแบบ พาสสาท ให้กับโฟล์กมาแล้ว เป็นผู้ออกแบบโปรเจคนี้ทั้ง 2 คัน(ผลงานของเฮีย Giugiaro มีมากมายครับ เช่น Ferrari 250 GT Bertone /Aston Martin DB4 GT / BMW 3200 CS / Maserati 5000 GT Bertone / Mazda Luce /Fiat Abarth 1000 OTR /Maserati Ghibli -พวกนี้ตอนอยู่ที่ เบอโทเน่ครับ-และ Abarth 1600 คูเป้ /Lotus Esprit พวกนี้ตอนอยู่ อิตัลดีไซน์ และผลงานหลังจาก กอล์ฟ-ซีร๊อคโค่ ก็เช่น BMW M1/M8 / Lancia Delta /Saab 9000 /Subaru SVX และอื่นๆอีกมากมายยย

อันนี้เอาที่เป็นผลงานที่พอจะคุ้นๆครับ..) อ้าวไปไปมามา กลายเป็นประวัติ เฮีย Giugiaro ไปซะแล๋ววว

อันนี้แบบร่างในยุคแรกๆ

ceebood · « **Reply #10 on:** August 31, 2005, 11:33:48 pm »

ทำไมไม่มา

ceebood · « **Reply #11 on:** September 01, 2005, 12:05:59 am »

เอาล่ะไหนๆก็มาแล้วขอยกตัวอย่างงานจ๊าบๆ ของเฮีย giugiaro มาให้ดูภาพกันซะหน่อย (ผมชอบเฮียแกเป็นการส่วนตัว ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าถึงเฮีย giugiaro กันอีกซักที)

อันนี้ก็ alfa romeo alfa sud

ceebood · « **Reply #12 on:** September 01, 2005, 12:09:50 am »

อันนี้ก็ตัวเด็ดเลย ตอนเด็กชอบมากๆ เจาะเวลาหาอดีต

de lorean DMC 12

ceebood · « **Reply #13 on:** September 01, 2005, 12:17:38 am »

และก็ bmw nazca c2 ที่เคยมีคนพูดถึง

ceebood · « **Reply #14 on:** September 01, 2005, 01:30:41 am »

เอาล่ะครับมาเข้าเรื่องกันต่อ โดยที่หลังจากได้มีการออกแบบและทดสอบจนแน่ใจแล้ว ก็ถึงขั้นดำเนินการเตรียมเปิดตัวสู่ตลาด โดยโฟล์กกรุ๊ป ได้วางแผนที่จะผลิต EA398 ที่โรงงาน Kamann ในเมือง Osnabruck ส่วน EA 337จะผลิตที่โรงงานใหญ่ของโฟล์ก ในเมือง Wolfburg อ้าววแล้วชื่อล่ะจะใช้ อย่างงี้หรือ ตอนวางขาย เปล่าครับไม่งั้นเราจะเรียกรถ 2 รุ่นนี้ว่า Scirocco และ Golf กันหรือครับ
ซึ่งโดนทั่วไป สมัยก่อนในยุคของลุงเปอร์เช่เนี่ยะ แกนิยมเรียกรถของตัวเองว่า ไทป์ ไม่ว่าจะเป็น ไทป์ 1 ไทป์ 2 ไทป์ 3 อะไรประมาณนั้น แต่ต่อมา ในช่วงของผู้บริหารยุคหลังก็เริ่มมีการหาคำศัพท์มาใช้เป็นชื่อรุ่นกัน ซึ่งโฟล์ก ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่เหมือนกันครับ คือจะพยายามนำศัพท์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ป่าเขาต้นน้ำลำธารมาตั้ง เป็นชื่อรถในรุ่นต่างๆ เช่นเดียวกันในกรณี ของ พี่น้อง 2 คันนี้ นั่นคือ EA 398 หลวงพ่อโฟล์กดูเวลาตกฟากแล้วตั้งชื่อให้ว่า Scirocco ซึ่งเป็นภาษาอิตาเลี่ยน หมายถึงลมร้อนที่พัดจากทะเลทรายซาฮาร่า ข้ามทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน มายังตอนใต้ของอิตาลี่ส่วน EA 337 ท่านจับยามสามตาแล้วตั้งชื่อว่า Golf ซึ่งคงหมายถึง กอล์ฟที่เราๆท่านๆนิยมเล่นกัน แต่ไม่ใช่ครับ มันเป็นภาษาเยอรมัน ที่แปลว่าอ่าว หรือ ขอบทวีปที่เว้าเข้าไปในชายฝั่ง คล้ายๆกับ Gulf เพื่อเป็นศิริมงคลต่อไปจะได้วิ่งกัน ขายกันเป็นล้านๆคัน **(ทำไมไม่ตั้งเป็นภาษาเยอรมันให้หมดก็ไม่รู้ แถมชื่อ Scirocco ยังมีความหมายซะ "ลมร้อน" ร้อนจน สูญพันธ์ไปเรียบร้อยแล้ว ในปัจจุบัน) **

thaidub · « **Reply #15 on:** September 01, 2005, 01:42:33 am »

เอารูปมาช่วยประกอบเรื่องครับ

คันแรกปี 74 สภาพ showroom condition จุดสังเกต ไฟเลี้ยวหน้าเล็ก พวงมาลัยรุ่นนี้เขาเรียกว่า holy grail กันทีเดียวเพราะมีแต่รถปีแรกๆ เท่านั้นที่มี เครื่อง 1600 เกียร์ธรรมดา ที่เห็นสายระโยงระยางแปลกๆ หน้าตามไม่คุ้น เป็นอุปกรณ์ควบคุมมลพิษที่ติดตั้งเพิ่มเฉพาะรถที่ import เข้าอเมริกา