General Category > Bangkok Classiccar Webboard

" ทิดเอก ชวนชิม ชวนเที่ยว "

<< < (269/269)

AKE:
ทิดเอกชวนชิม ตอน " Steak of The Day "

วันนี้ทิดเอกอยากกินสเต็คเนื้อวัวขึ้นมาจับใจครับ มองไปดูที่นาฬิกา ตายหละว่า 4 ทุ่มแล้ว จะมีร้านสเต็คร้านไหนเปิดให้บริการอยู่อีกเรอะ? อดกินแหงๆเลยเรา เผอิญนึกขึ้นมาได้ว่า ร้าน Jamie's Burgers ที่ทิดเอกไปกินเบอร์เกอร์ เค้าชอบมีเนื้อวัวเป็นชิ้นๆ เข้ามา งานนี้ทิดเอกเลยขับรถไปหาโดยมิได้นัดหมาย

เจอเจ้าของร้าน " เชฟจิ้ม " พ่อครัวคนเก่ง อยู่หน้าเตากริวว์ พอดี เลยถามว่าวันนี้มีเนื้อวัวแบบไหนบ้างหรือเปล่า? เชพขอเวลาไปค้นซักครู่แล้วมาบอกว่า เหลือ เนื้อเซอร์ลอยด์อยุ่ชิ้นหนึ่ง ทิดเอก สนใจไหมครับ??

จัดไปครับ ไหนๆก็ไหนแล้ว ยิ่งเป็นส่วนเซอร์ลอยด์ด้วย ยิ่งนุ่มและอร่อย ไม่พลาดแน่นอนครับ

วิธีการทำไม่ยากเลยครับ เอาเนื้อออกมาละลายน้ำแข็งให้เรียบร้อย โรยพริกไทป่นแบบหยาบเล็กน้อยลงไปตามความต้องการ (โดยส่วนตัวของผมแล้ว โรยไม่มากครับ) ถ้าชอบเค็มซักนิดก็โรยเกลืออย่างดีลงไปเล็กน้อย

แล้วก็นำไป grill บนเตา กลับไปกลับมาตามความชำนาญ และ ทักษะ

ระหว่างดูการ Grill เนื้อบนเตาย่าง น้ำลายสอมากครับ แต่ต้องอดทนรอซักพัก

หัวใจหลักคือ เนื้อต้องดี วิธีการปรุงต้องเอาใจใส่ ครับ

ผมสั่งแบบให้สุกมากกว่า Medium Rare ขึ้นมานิดนึง แต่ไม่ให้ถึงขนาด Medium

ไม่นานนักผมก็ได้ Grill เซอร์ลอยด์สเต็คก็เสร็จสิ้น

เชฟจิ้มปรุงน้ำจิ้มมาให้ผมลองชิม หนึ่ง ถ้วย โดยเอา น้ำจิ้มแจ่ว ผสมกับ มายองเนส ผสมคนให้เข้ากัน เราก็จะได้น้ำจิ้มแจ่วที่มีรสชาด เค็มๆ มันๆ หอมๆ หวานติดปลายลิ้น เชฟจิ้ม เรียกว่า น้ำจิ้มแจ่วมาโย

ผมลองเอาเนื้อเซอร์ลอยด์มาจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วมาโย ก็อร่อยครับ

หรือจะกินเนื้อที่ Grill มาอย่างดี ไม่ต้องจิ้มอะไร แต่กินแกล้มกับ หัวหอมผัด ( Caramelized Onion ) มันเข้ากันจริงๆนะครับ

วันนี้ เชฟจิ้ม ผัดหัวหอม มาให้กินแกล้มได้อร่อยจริงๆครับ หอม หวานอ่อนๆ มีกลิ่นพริกไทเล็กน้อย กินแกล้มกับ ชิ้นสเต็คที่บรรจงหั่นมาเป็นชิ้นๆ

เสียอย่างเดียวครับ ไม่ได้พกไวน์แดงไป ไม่งั้นอร่อยเหาะแน่นอนครับ

ใครผ่านไปแถวนั้นลองสอบถามเชฟกันดูนะครับว่า Steak of The Day ของที่ร้าน Jamie's Burgers วันนี้มีเนื้อแบบไหนบ้าง แล้วให้เชฟ grill ให้ครับ

อร่อยแบบ ชุ่มช่ำ แน่นอนครับ

AKE:
ทิดเอกชวนชิม ตอน " ซอยคั่วไก่ "

พาดหัวข้อแบบนี้ หลายท่านคงสงสัยว่า มีชื่อซอย ชื่อแบบนี้ด้วยหรือ? อันที่จริงก็ไม่ใช่เป็นชื่อทางการของซอยนี้หรอกครับ แต่ด้วยความที่ว่าในซอยเล็กๆสั้นๆแห่งนี้ มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ถึงสามร้าน เปิดร้านอยู่ในซอย จึงทำให้ผมคิดชื่อให้ซอยนี้ว่า " ซอยก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ " หรือ " ซอยคั่วไก่ " นั่นเอง

ให้มาทางห้าแยกพลับพลาไชยครับ ตรงมาถึงสี่แยก รพ กลาง เลี้ยวไปทางขวามือ นิดเดียว ซอยเล็กๆนี้อยู่ด้านขวามือเลยครับ
สังเกตได้ว่าในซอยนี้ จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ดักอยู่หน้าซอย , เดินเข้าไปกลางซอยก็มี และ เดินจนสุดซอยก็มีครับ (ร้านสุดซอย หลายท่านน่าจะทราบอยู่แล้ว ชื่อ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่น้องแอน)


วันนี้ทิดเอกขอนำท่านไปลองชิม " ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้ง " ที่อยู่กลางซอยครับ

ร้านนี้มีลีลาการคั่วที่ยังพอให้เวลากับการคั่วเส้นก๋วยเตี๋ยวมากกว่าเป็นการทอดเส้น ซึ่งผมเองก็ต้องกำชับคนทำว่า ขอให้คั่วให้นานหน่อย ถึงจะกลายเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใกล้เคียงกับคำว่า คั่ว แม้ว่าจะผิดเพี้ยนไปบ้างก็ตามที

ที่ผมกล่าวอย่างนี้เพราะ เดี๋ยวนี้ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธี เอาน้ำมันลงในกระทะให้มากหน่อย เปิดไฟแรงๆ แล้วกลับเส้นไปมาแบบโยน ตอกไข่ใส่ลงไป ยีไข่ให้ทั่วๆ แล้วโยนกลับไปกลับมา เส้นที่อยู่ในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ มันก็จะกรอบ แต่การกระทำแบบนี้ จะเรียกว่าการคั่วเส้น คงไม่ได้ เพราะการคั่วเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ สมัยก่อน ไม่ได้ทำกันแบบนี้

เท่าที่ดูๆ เดี๋ยวนี้ จะเป็นเหมือนกับการทอดเส้นเข้าไปทุกที ทุกที

ส่วนร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นายฮ้งเจ้าเก่า มีวิธีการทำคล้ายกับที่ผมอธิบายไปด้านบน แต่ไก่ที่ใช้จะนำเอาไก่หมัก มาผัดในน้ำมันร้อนๆ ให้พอสะดุ้งไฟ ตักน้ำมันออกบ้าง แล้วนำเอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่มาใส่ลงไปในกระทะ ซึ่งหากมีเวลาที่คนไม่เยอะ ร้านนี้ก็จะกลับเส้นก๋วยเตี๋ยวไปมา จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ลงไป แล้วกลับเส้นไปเรื่อยๆจนได้ที่ เสร็จแล้วนำมาเสิร์ฟ ซึ่งถือว่ายังพอโอเคครับ

เนื้อไก่ที่ใช้เป็นส่วนสะโพกและน่อง ซึ่งอร่อยดีครับ การหมักไก่ของร้านนี้ถือว่าหมักได้เข้าเนื้อดี เวลาเอาไปผัดกับก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ก็เข้าเนื้อกันดี ร้านนี้ใช้เตาถ่านและเร่งไฟแรงดีครับ (ส่วนร้านอื่นๆก็ใช้เตาถ่านเช่นกัน ความแรงของไฟก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันซักเท่าไหร่)

ถ้าคนชอบเส้นแบบที่เรียกว่ากรอบๆ (ไม่ใช่กรอบแนวหมี่กรอบนะครับ) น่าจะถูกใจ

ก็ถือว่าใช้ได้ หากนับว่าวิธีการทำสมัยนี้เป็นแบบนี้ ก็ถือว่าพอรับประทานได้ครับ

ร้านเปิดราวๆ ห้าโมงเย็นถึงราวๆ สามทุ่มครับ แต่ถ้าของหมดเร็วก็จะเก็บก่อน

ลองแวะไปชิมได้นะครับ ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด

แล้วพบกันใหม่ในเมนูหน้าครับ

ขอบคุณครับ

AKE:
หลังจากที่หายไปนาน กลับมาอัพกระทู้กันใหม่ครับ
ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมในกระทู้ “ทิดเอก ชวนชิม” นะครับ

AKE:
หิวววว ตอนนี้ทำไงดีครับ???

คืนนี้ผมแวะมาแถวทองหล่อ พอเสร็จภารกิจแล้ว ระหว่างขับรถกลับ เกิดหิวขึ้นมาพอดี ณ ตอนนี้ จะทำไงดี??
 
ระหว่างที่ขับรถมุ่งหน้ามาทางถนนสุขุมวิท ผ่านแถวๆ โรงแรม Rex ที่รื้อไปแล้วพอดี

สายตาพลันเหลือบไปเห็นร้านนึง แขวน หมูแดง เป็ดย่าง หมูกรอบ ตามสไตล์ฮ่องกง เอาไว้ เลยรีบเหยียบเบรค จอดรถบีเอ็ม2002 เข้าข้างทาง

เดินเข้าไปอ่านป้าย ร้านนี้มีชื่อว่า The Chopsticks Rice & Noodle อยู่ริมถนน ติดกับคอนโดพอดี ครับ (ถึงก่อนร้านข้าวต้มแสงชัย)

สอบถามพนักงานได้ความว่า เฉพาะ ศุกร์และเสาร์ ปิด ตีสี่ แบบนี้ก็หวานซิครับ จะมัวช้าอยู่ใย สั่งของที่อยากกินกันเลย

หมายตา “บะหมี่แห้งหมูแดง” เอาไว้อยู่แล้ว ก็สั่งมาระงับความหิว 1 ชาม ตามภาพเลยครับ

ไม่ผิดหวังเลยครับ หมูแดงชิ้นใหญ่สะใจ เนื้อหมูแดงเป็นส่วนที่นุ่มอร่อย ส่วนการทำหมูแดงนั้นเหมือนที่ฮ่องกง กลมกล่อมกำลังดี
ย่างมาได้กำลังได้ที่ เกรียมนิดๆ อร่อยมาก

บะหมี่ไข่เส้นเด้ง เส้นบะหมี่ไข่เส้นเล็ก ไม่หนา เด้ง และ อร่อย

มีซุปร้อนๆมาให้ซดแกล้ม พร้อม พริกผาแบบจีน สำหรับคนที่ชอบความเผ็ดร้อนมาให้ด้วย

เสร็จสรรรพจ่ายค่าบำบัดความหิวไป 192 บาท ครับ

อิ่ม อร่อย คุ้มค่า สำหรับ คืนนี้จริงๆ

ใครอยากมาชิม หรือ อยู่ใกล้สุขุมวิทซอย 34 ลองโทรสอบถามที่ร้าน เบอร์  02-1252439 

กินเสร็จแล้วขณะที่นั่งอยู่ในร้าน ผมก็มานั่งพิมพ์รายงานสดแบบออนไลน์ ที่ปัจจุบันนี้ อะไรๆก็ต้อง รายงานแบบ สด และ เรียล ตามสมัยนิยม

แต่ตอนนี้ผมขออนุญาตสั่งเมนูอื่นเพิ่มเติมนะครับ ที่หมายตาไว้  เช่น เกี๊ยวน้ำกุ้ง , บะหมี่เป็ดย่าง , ข้าวหมูกรอบ , Mabo Tofu ฯลฯ น่าลองทั้งนั้นเลย

ดังนั้น ขอต้อนรับทุกท่านกับเนื้อหาใหม่ หลังจากที่ห่างหายไปนานหลายปี กับ เมนู บะหมี่หมูแดง ชามนี้กันเลยก็แล้วกันครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามคอลัมถ์ “ทิดเอก ชวนชิม” เรื่อยมา

งวดหน้า ผมจะหาของอร่อยๆมาฝากกันอีก อย่าลืมติดตามกันนะครับ

Navigation

[0] Message Index

[*] Previous page

Go to full version