Author Topic: DATSUN BLUEBIRD 910 WAGON ฝากตัวด้วยครับ (Read 100072 times)

Thejack3S · « **Reply #50 on:** September 04, 2012, 09:05:14 am »

ขอบคุณคร๊าบ ผม

ได้ล้อ ADVAN ADA360 มาอีกชุดนึง ผ่าไม่ผ่าดีเนาะ

Thejack3S · « **Reply #51 on:** September 04, 2012, 09:07:41 am »

donutjovi · « **Reply #52 on:** September 04, 2012, 12:08:03 pm »

เพิ่งได้เคยดูเต็ม ๆ สนุกมากครับ
เป็นกำลังใจให้อีกแรงครับ

Thejack3S · « **Reply #53 on:** September 06, 2012, 01:20:45 am »

ประสบการณ์หน้าใหม่ของชีวิต
เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีรถที่จัดการลงมือซ่อมรถด้วยตัวเอง เพราะคิดว่า " ไม่น่ายากเว้ย"

ต้องเล่าท้าวความไปตอนกาลละครั้งหนึ่งตั้งแต่ได้รถมา มันมีอาการ สะดุดเวลาร้อนๆ มีเพื่อนสมาชิกท่านนึงบอกว่า "คอยล์"
บางทีถ้ามันไม่ดีแล้วเก่าแล้วอาจจะเป็นต้นเหตุได้
ก็เลยจัดการเปลี่ยน และใช้มาจนลืมไปแล้วว่า "มันสะดุด"

เช้าวันที่ 17 ส.ค. 55 ที่ผ่านมา เตรียมตัวเช็ครถเพื่อเดินทางไปร่วมกับคาราวานผ้าป่าของชาว " Retro Car Thailand "

สตาร์ทไม่ติด!!

คุณพระ!! ก่อนหน้า สอง สามวันใช้รถอยู่ดีๆ ไม่ติดได้ไงฟะ จัดการขยับโน่นนี่นั่น เออติดขึ้นมาได้ แต่เดินไม่เรียบแหะ
"คอยล์".... เออ สงสัยคอยล์กับบ้านเก่า

ว่าแล้วก็แว้นมอไซค์ไปซื้อ คอยล์ ใหม่กิ๊กๆ ขอไม่เอ่ยราคา เพราะอะไรเดี๋ยวไปอ่านเอา
ตัวสีดำใหม่ๆน่าใช้จริงๆ

ว่าแล้วก็จัดการสตาร์ท แฮดๆๆๆๆๆ ชักยาว ครั้งแรกไม่ติด ลองอีก แฮดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ไดร์ควันขึ้น) พอก่อน ไม่ติด งานยาว
โทรถามเพื่อนๆ คนโน้นคนนี้เค้าก็บอกว่า

ดูดอัด ระเบิดคาย น้ำมันมี ไฟมา มันต้องติด........... เช็คไฟลวกเพี่ย

เอาจัดการไล่สายกันยกใหญ่ ...เออไฟก็มานี่หว่า แปล๊บๆๆ..
น้าเช็ค คอนเด็นเซอร์ยัง มีคำถามดังมาจากโทรศัพท์ ..
คือไรฟะ... ผมถามกลับไป
ไอ้ตัวกลมๆเล็ก มีสายไฟออมา ติดอยู่ข้างจานจ่ายมีไม๊ ...
ผม...อ่าเจอแระ ไอ้นี่หน่ะเหรอ สภาพเน่าเปื่อย แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ ตัวเล็กนิดเดียว 80 บาท T_T

แล้วก็จัดการเปลี่ยนใส่ ลองสตาร์ท
แฮดๆๆๆๆ บรึนๆๆ ดับ.....ติดทีเดียวให้ดีใจแล้วก็ดับไปซะงั้น เอายังไงกะตูฟะแสรด...
หลังจาก สบถ ได้ไม่นาน ฝนเจ้ากรรมก็ดันมาตกอีก เฮ้อ ชีวิต พรุ่งนี้ตูจะได้ไปไม๊เนี่ยะงานบุญใหญ่ซะด้วย
ทำอะไรไม่ได้ เข้าบ้านนอน เซ็งอารมณ์

Thejack3S · « **Reply #54 on:** September 06, 2012, 01:22:58 am »

เช้าวันรุ่ง (18 ส.ค. 55) ขึ้นต้องทำใจ คงไม่ได้ไปร่วมขบวนแน่แล้ว เพราะรถก็ยังไม่ติดเลย เลื่อนเป็นพรุ่งนี้ละกัน (19 ส.ค. 55)
เอาลุยต่อ เมื่อวานถึงไหน อ่อ...ติดทีเดียวดับ
เอ มันต้องมีอะไรผิดพลาด
ไฟก็มา แต่ เอ๊ะ แก๊สหมด ปกติบิดกุญแจแต๊ก มันต้องมีเสียงแก๊ส ฟู่ เบาๆ เอ๊า เวรกรรม แค่นี้เองเหรอ คิดในใจ(โง่อิบอ๋ายกรู)
จัดการไปซื้อน้ำมันมา 1 แกนลอน จัดปั๊มติ๊กยัดในแกนลอนเลยเพราะถังแก๊สแทนที่ถังน้ำมันไปแล้ว

จัดการเปิดกุญแจ ปรกติ ถ้าติ๊กมันดันน้ำมันจนเต็มคาร์บูไม่สามารถเข้าได้แล้วมันจะตัดใช่ไม๊ครับ กับอีกทีคือพังไปแล้ว พอบิดกุญแจ มันเงียบครับ
โอวววว ปั๊มติ๊ก จีนแดง สงสัยกลับบ้านเก่า ทั้งที่ยังไม่ได้ลองชัดสายออกจากคาร์บูเลย ฟันธงแล้วว่าพังแน่ๆ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว
ติ๊กถูกๆ มักอยู่ได้ไม่นาน เอาวะ เปลี่ยนก็เปลี่ยน
ไปเชียงกงแถวๆบ้านบอกว่า พี่ๆ เอาติ๊กนอกถังลูกนึงครับเด็กก็เดินไปหยิบให้ อะ 800 ผมก็งงนิดๆ หน้าตามันแปลกๆ
(รูปแทน)

เด็กมันบอก พี่ แรงตัวนี้สุดยอดเอาไปใช้ดูผมรับประกันไม่มีปัญหา พี่เอาไปใส่เครื่องไร เจปะ สบายๆ
ผมตอบไปว่า .... L18 ครับ มันใช้กันได้ไม๊
เด็กมันทำหน้างง L18 เครื่องตัวไหนพี่
ผมบอกไปว่า ดัทสันครับ ในบลูเบิร์ดแวนครับผมเครื่องเก่าๆ
เด็กมันก็ยังนึกไม่ออก ถามผมว่า หัวฉีดหรือ คาร์บู
ผมบอก คาร์บู
เด็กมัน ร้อง เอ้ยยยยเอาตัวนี้ไปไม่ได้พี่ ดันกระจายน้ำมันท่วมคาร์บูแน่ๆ ของพี่มันต้องใช้ติ๊กนอกอีกแบบนึง อันนี้มันติ๊กหัวฉีด ดันอ่างเดียวไม่ตัด
"-.-" อ่าวตูจะรู้ได้ไงฟะ นึกว่ามีแต่ในถังไอ้พวกหัวฉีด สรุปไม่มี อด

ต้องขับรถไปร้านตรงตลาดมีนบุรี ด้านหลังแถวๆ ที่จอดรถโดยสาร รถตู้ มีร้านนึงลุงแก่ๆนั่งอยู่ ผมไปถามแกว่า
ลุงมีติ๊ก คาร์บูไม๊ แกพยักหน้า หงึกๆ (เก็กฉิบ) อะมีสองตัวเลือกเอา มิตซูทั้งคู่
ผมก็อ่า ของนิสสันไม่มีเหรอครับ ลุงบอก เอ้ย มิตซูดีที่สุดแล้ว หายากนะเนี่ยะ เอาไป 600
ผมก็บอกว่าใส่ไม่ได้เอามาคืนนะลุง ลุงแกบอก มาเปลี่ยนเล๊ยไม่คิดตังค์ หาแถบไม่ได้แล้วมิตซู แกว่างั้น

กลับบ้านมาด้วยความมมั่นใจว่ายังไงรถตูก็ต้องติดให้ได้ พรุ่งนี้ตูจะไปทำบุญ กลับมาถึง 4 โมงเย็นและ ฟ้าครึ้มๆ เอากูแน่
พ่นสีซะหน่อยฮิฮิเสี่ยวดีชอบ ฮ่าๆ

จัดการรีบเปลี่ยนให้ไว้ ปั๊มน้ำมันได้เสียงที่คุ้นเคย
แตรกๆๆๆๆๆๆ แล้วตัดไปอ่า ครบ ติดแน่ๆ จัดการ สตาร์ท
แฮดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยาวไปละ ลองอีกที แฮดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ -..-" ไม่จบ

$:-\$
แล้วฝนก็เทลงมาตรงตามเวลาเป๊ะ แสรดดดดดด

วันที่ 2 หมดไปไม่ได้อะไรเลยมัวแต่ขับรถไปหาของ จบ นอนนน

Thejack3S · « **Reply #55 on:** September 06, 2012, 01:25:03 am »

เช้าวันใหม่ เอาวะยังไงต้องติดให้ได้ ตามให้ทัน สุพรรณเอ๊ง
ลุกแต่เช้ามืด จัดการไล่ทุกอย่างที่รู้ ไฟมา น้ำมันมี ...ทำไม่ไม่เข้าวะ
โทรถามเพื่อน ติ๊กเป็นเหมือนเดิม ปั๊มแล้วนิ่งเลย ปกติสตาร์ท ถ้าเราเหยียบคันเร่ง น้ำมันมันต้องออก ติ๊กก็ต้องปั๊มเข้ามาแทน นี่เงียบเลย สงสัยพัง
เพื่อนผมบอกว่า เออ..น้าแจ๊คลองเอาสายฝั่งคาร์บูออกนะ แล้วต่อตรงติ๊กดู ถ้าติ๊กทำงาน แสดงว่าลูกลอยค้างแล้วหละไม่ค่อยได้ใช้น้ำมันนี่
...เอ่อ แล้วมันก็เป็นอย่างว่า ต่อติ๊กปุ๊บ น้ำมันพุงเต็มเลย เห่อๆ ไหนลองเอาตัวเก่ามาลองซิ ...โอว พุ่งเหมือนกัน

อะจัดการ ถอดคาร์บูมา เขี่ยๆ ลูกลอยเอาปากเป่า จนลมมันเข้าไป เอาน้ำมันอาบซะหน่อย จัดการใส่กลับเหมือนเดิม ลุ้นระทึกด้วยใจเต้นรัว มันจะติดไม๊ๆๆๆๆๆ

จัดการสตาร์ท...แฮดๆๆๆๆๆๆ ไม่ติด

ทำไมเป็นอย่างงี้..... ยากจังฟะ ฮือ....
อะลองอีกที แฮดๆๆๆๆ พรึบๆๆ แฮดๆๆๆๆ พรึบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ติดแล้วเย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ โอว เดินไม่เต็มสูบอย่างกะซุบารุเลย

แล้วก็เหมือนฟ้ามาโปรดส่งน้องท่านนึงมาหาที่บ้าน ก็เลยจัดการ เอาคอยล์ ทั้งหมดไปเช็ค ใสรถน้องเค้า ปรากฏว่า
คอยล์เก่าเดี้ยงจรีงๆ สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด ไอ้คอยล์ที่ซื้อมาใหม่ก็เจ้งอีก ติดยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แถมกระพรืออีก เฮ้อ สงสัยเสียเงินอีกแว้วตู
จัดการ ยืมคอยล์น้องเค้ามาใส่ ปรากฏว่า ติด ชิึ่งเลย วู๊ววววววววววติดแล้ววววววววว แล้วมันก็ พรึบๆๆๆๆๆๆ ดับไป ปรากฏว่าน้ำมันหมดอีก เวร ชีวิตช่างมันลำบากจริงๆ

"เอาวะงั้นลากไปเติมแก๊สมันเลย ใกล้ๆบ้าน"
จัดการลากไปเติมแก๊สจนเต็มถัง ลองสตาร์ทที่ปั๊ม อ่ะ เสือกไม่ติดอีก
ลากกลับมาบ้าน จนลืมไปแล้วว่าต้องไปผ้าป่า เยดดดดดดดดดดด......เซ็งมักๆ

เอาไปซื้อคอยล์ใหม่ เพราะร้านมันไม่รับประกันช่าง...เซ็ง ซื้อน้ำมันมาด้วย เอาน้ำมันให้ติดเดี๋ยวแก๊สก็ติด
จัดการใส่คอยล์ใหม่เชียงกงตัวละ 100 เข้าไป ก็ยังสตร์าทไม่ติดอีก งงวะแล้วตะกี้มันติดได้ไงฟะ
เริ่มหมดอารมณ์
มืดอีกและ เฮ้อ 3วันไปและ ไม่ได้อะไรเลย

---------------------------------------------------------------
หลังจากนั้นก็จอด นอยไปอีก 5 วัน เพราะเซ็งอารมณ์
---------------------------------------------------------------

Thejack3S · « **Reply #56 on:** September 06, 2012, 01:26:52 am »

กลับมาใหม่ เจอกันใหม่เอาอีกของมันเคยติดมันต้องติดให้ได้ซิวะ
โทรถามเพื่อนคนเดิม น้ามีอะไรอีกที่ผมต้องเช็ค
เพื่อนผมก็ไล่ทีละอย่างเลย จนมาสะดุที่ "หัวเทียน" เออยังไม่เคยเปลี่ยนเลยนี่หว่า เอาไปหาซื้อบล๊อคก่อนที่บ้านไม่มี
จัดมาตัวละ 60 บาท ย๊าวยาว จัดการถอดหัวเทียนออกมา โอว แทบช๊อค

สาบานได้ว่ามันคือหัวเทียน

หัวอื่นว่าแย่ เจอหัว 4 เข้าไป คุณพระ

จัดการซื้อหัวเทียนมาใหม่อีก 1 ชุด เบอร์เล็กอีก ต้องซื้อบล๊อคใหม่อีก เพราะเบอร์เก่ามันเบอร์ 19 เฮ้อ ซ้ำซ้อนแท้เหลา
และแล้วฟ้าก็มืด อีกแล้ว

ตกเย็นวันนั้นด้วยความซวยหรืออะไรก็ช่าง มอไซค์เจ้ากรรม ขับอย๋ทุกวัน ดันไปปืนขอบถนน ล้มอีกเฮ้อ ไม่ได้ขับซะที

4 วัน ผ่านไป จนเมื่อวันที่ 29 หลังจากแผลเริ่มแห้ง ก็จัดการ สตาร์ทใหม่ แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง
ยืนพิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถเรา
ไล่ตั้งแต่ สายหัวเทียน จานจ่าย คอนเดนเซอร์ จะว่าทองขาวก้ไม่ใช่ เพราะวันที่รุ่นน้องมามนก็ยังติด ไล่ไปจนถึงคาร์บู อืมวันนั้นถอดอะไรบ้าง ใส่อะไรบ้าง พลันตาก็เหลือบไปเห็น ชุดกลไลชุดหนึง ทำหน้าที่เหมือนตัวฉีดน้ำมันใส่คาร์บู เพราะเวลาเหยียบคันเร่ง มันจะดังฟู่ๆ ปรากฏว่า กิ๊บมันหายไป เลยจัดการ เอาเข็มหมุด หักปลายยัดแทนไปก่อนเพราะรูเล็กมาก ลวดเข้าไม่ได้

แล้วก็จัดการ สตาร์ท

แฮดๆ ชึ่ง......... โอว ติดแล้ว ติดง่ายกว่าเดิมแถมเสียงดูมีเรี่ยวแรง วู๊วติดแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

แล้วก็จัดการเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก๊ส วู๊ว รอบจัดขึ้นมาทันที ซุ่มเสียงดูกระปรี้กระเป่า ไหนเอาไปลองซิ

ปรากฏว่า ทางยาวทำความเร็วได้ดีขึ้นผิดหูผิดตา จากเมื่อก่อนเร่งแทบตายได้แค่ 110 คือเต็มที่แล้ว เราก็ไปโทษเกียร์ว่ามันเป็นเพราะเกียร์ออโต้ 3 เกียร์ คงไม่เร็วเท่าไหร่ หลังจากเปลี่ยนทุกอย่าง แก๊สทำได้ 140 + นิดๆ แต่น้้ำมันไป 150 เกือบแตะ 160 เลยทีเดียว ถือว่าทำได้ดีมากๆ สำหรับผม

หลังจากเช๊คดูรายการของทั้งหมด

คอยล์ 3 ลูก ใหม่ 1 เก่ายุ่น 2 มีของใหม่ที่ใช้ไม่ได้อย่างเดียว T_T = 650 บาท
ปั๊มติ๊กมิตซู = 600 บาท
หัวเทียน = 350 บาท
บล๊อคหัวเทียน 2 ตัว = 120 บาท
คอนเด็นเซอร์ = 80 บาท
น้ำมัน = 300 บาท
แก๊ส = 500 เต็มถัง

เบ็ดเสร็จ 2600 ไม่รวม ค่ายารถล้ม ฮ่าๆ ได้รถกลับมาวิ่งปร๋อ เหมือนเดิม ได้ ติ๊กมาสำรอง 2 ลูก คอยล์อีก 1ลูก

แต่ได้แค่ไม่นาน วันนี้ อาการหัวเทียนแฉะ กลับมาอีกแล้ว เฮ้อ ไม่ติดอีกแล้ว วิ่งได้ 3 - 4 วันเอง
แต่ก็นะ สู้ว้อยยยยยยยยยยย

แล้วจะมารายงานผลนะคร๊าบบบ

Thejack3S

Pan · « **Reply #57 on:** September 06, 2012, 03:42:47 am »

ติดตามผลงานใน Facebook นำเสนอได้น่าติดตามมากครับ

donutjovi · « **Reply #58 on:** September 07, 2012, 11:47:49 am »

ต้องเช็คประเก็นแล้วครับ รถเก่าขนาดนี้ น้ำมันเครื่องเข้าหัวเทียนขนาดนี้ เปลี่ยนโลด ไม่กี่ร้อยครับ

Thejack3S · « **Reply #59 on:** September 09, 2012, 08:57:57 pm »

มีอู่แนะนำบ้างไม๊ครับ ทำL18

Thejack3S · « **Reply #60 on:** October 10, 2012, 10:34:13 am »

ไปงานมิตติ้งที่ชลบุรีมาครับผมเก็บภาพ บรรยากาศมาฝาก

http://www.youtube.com/watch?v=esdhLIUmByY

him · « **Reply #61 on:** October 10, 2012, 07:17:58 pm »

ลุยดีจิงๆแจ๊ค

Thejack3S · « **Reply #62 on:** October 22, 2012, 10:09:47 pm »

บานปลายยยย ยกให้ซะเลย
L20A 6 เม็ด

Thejack3S · « **Reply #63 on:** October 22, 2012, 10:17:16 pm »

ว่าจะทำแบบนี้ครับ

panapromsen · « **Reply #64 on:** October 23, 2012, 02:26:04 pm »

วีดีโอน่าสนุกมากครับ ขอให้รถเสร็จไวๆครับ

Thejack3S · « **Reply #65 on:** October 24, 2012, 01:24:16 am »

คร๊าบขอบคุณคร๊าบ
ขอเท้าความ เหตุผลที่ต้องวางใหม่
เรื่องมันมีอยู่ว่า รถผมสตาร์ทไม่ติด น้ำมันเยิ้ม (จากคราวที่แล้วที่ปล้ำกันอยู่ 2 อาทิตย์) จนตอนหลังถึงได้รู้ว่าแหวนหัก

จึงลากรถไปทำตั้งใจว่าฝากความหวังไว้กับครูอาจารย์แต่ก็ได้รับการ ปฏิเสธแบบทำเราผิดหวังก็ช่างมัน ไปอู่อีกที่ มีคนแนะนำ หลังจากฝากผีฝากไข้แล้ว ด้วยภารกิจหน้าที่การงานทำให้เราได้แค่โทรไปถามว่ายังไงดี อู่เข้าว่าระหว่างนี้ต้องรอเคลียร์รถเก่าก่อน เพราะเราไม่ได้นัดเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่ารัดคิว
ผมก็เลยจัดการไปเตรียมรถให้นายช่างด้วยตัวเอง ถอดหมดทุกอย่าง แค่เอาชุดแอร์ออก แล้วก็ขันน๊อตยกเครื่องลงได้
ถอดให้หมดเลยทุกอย่าง

หลังจากนั้นผ่านไปสองอาทิตย์
ด้วยการแค่คุยทางโทรศัพท์ ก็๋ได้แต่บอกเราว่า ใกล้ๆแล้วๆ อย่างโน้นอย่างนี้ ผมก็ได้แต่ถามว่า จะเสร็จประมาณไหน ก็อ้างว่าติดรถลูกค้าบ้างลูกน้องไม่มาบ้าง ผมเลยตัดสินใจเข้าไปดู สิ่งที่เห็นแฟนผมถึงกับร้องไห้ ด้วยความที่รักรถคันนี้มาก ถึงจะไม่ใช่รถที่เลิศเลอเพอเฟก แต่ก็ใช้ทำมาหากิน และเป็นรถคันแรกที่เก็บหอมรอมริบ ทำมันด้วยความรัก จอดจมน้ำอยู่ครึ่งล้อจน นั่นแปลว่าเข้าในรถ ไม่เจอเจ้าของอู่ กลับบ้านไปส่งแฟนเอากล้องมาถ่าย น้ำถูกสูบออกไปเหลือเท่าที่เห็น จากวันที่เอามา จนถึงวันนี้ไม่มีแม้การขยับรถ

จากนั้น ผมก็จัดการเอาทุกสิ่งอย่างออก ซับน้ำ เจ้าของอู่มาพอดีบอกว่าไปดู อู่ที่กำลังสร้างใหม่เพราะเดี๋ยวจะย้ายแล้วน้ำจะได้ไม่ท่วม -..-
ไอ้เห้...รู้ว่าน้ำจะท่วมไม่ใส่ใจรถกูเลย

ด้วยความเกรงใจ พี่ที่แนะนำ จึงถามว่า ยังไงดีเค้าบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ขออีก 2 วันช่วงนี้ฝนตก ลูกน้องก็ไม่มาทำคนเดียวไม่ทัน ผมถามว่า อีกกี่คัน เขาก็ว่าคันเดียว.....ผมก็เลยตอบตกลง ด้วยความเป็นคนเกรงใจและซื่อ

สุดท้ายด้วยความขัดข้องหมองใจ รุ่งเช้าอีกวันผมกลับไปดูปรากฏว่า น้ำท่วมอีกแล้ว รถอยู่ที่เดิม แล้วก็เหมือนเดิมเจ้าของอู่ ไปดูอู่ที่กำลังสร้าง แถมวันนี้มีรถใหม่มาเปลี่ยนสายพาน ลัดคิวผมอีก นอกจากไม่เอาน้ำออกให้ผม ยังลัดคิวคนอื่นอีก ผมเลยโทรหาเจ้าของ แกบอกว่า กำลังจะลากเข้าไปทำแล้วใจเย็นๆ นี่นั่งกินข้าวอยู้ เท่านั้นก็บ่งบอกชะตาชีวิตปู่แล้วว่าต้องจอดตรงนั้นอีกแน่ๆ ผมเลยบอกไปว่า งั้นผมขอลากก่อนแล้วกันแล้ววางไป เขาก้ไม่โทรกลับมา สรุปว่า หารถได้เป็นเพื่อนๆในคลับอาสาลากให้
แล้วก็จัดแจงมาที่อู่แถวๆบ้าน ลากมันทั้งกลางคืน เพราะทนไม่ไหวแล้ว

จนมาจบที่นี้ หลังจากลากมาจอดแค่วันเดียว เครื่องก็ถูกแยกส่วนเตรียมส่งทำแล้วครับเร็วมาก
เปิดเครื่องมา แหวนหัก

ไอ้หัวเทียนเบอร์ 4 มันแฉะเพราะงี้

ตกลงราคาค่าซ่อมกันแล้ว ฮอลเครื่องฉบับสมบูรณ์ทำได้เท่าที่ทำ ประมาณ 12000 ค่าแปลงเกียร์ทุกสิ่งอย่าง ประมาณ 18000 จบรับรถ รวม 30,000 บาท เลยมาจบที่ว่า อู่คิดค่าวาง กับทำขาครัช ผมหาเครื่องพร้อมเกียร์ แล้วก็ได้คุยกับพี่กิ๊ก สมาชิกบ้านบางกอกนี่แหละ มีเครื่องยกลงจากสกายไลน์ด้วยความที่เครื่องมันมีเสน่ และแฟนเองก็ชอบอยู่แล้ว ตกลงราคา กันด้วยความพอใจ ก็จัดแจง มาส่งลงถึงหน้าอู่

จึงเกิดโปรเจคนี้ขึ้นมาครับ
เห็นเครื่องครั้งแรกก็พอใจแล้ว ความรู้สึกมีคววามสุขที่ได้ทำมันเป็นแบบนี้เอง ฮ่าๆๆ

รายความคืบหน้า

เบืองต้น เครื่องใหม่ ย๊าว ยาวววว ก่อนหน้านี้จะทุบแต่โดนทักเลยใช้วิธีขยับทุกสิ่งอย่างมาข้างหน้าแทน ผลปรากฏว่า ทำให้เจาะช่องเกียร์เพิ่มไม่เยอะ แทบจะอยู่ตำแหน่งเดิมเลยครับ (เดิมเป็นออโต้)

ดัดแปลงกันโคลงเล็กน้อยหรืออาจจะไม่แปลงเลยรอดูแท่นเครื่องว่าจะยกเครื่องอยู่ระดับไหน

ไปลงมือแกะตัวล๊กฝากระโปรงกับแตรเองจัดเก็บสายไฟที่ไม่ได้ใช้ กลัวช่างเค้าตัดพลาดไปโดนไม่ตั้งใจกันไว้ดีกว่า

(ภาพเบลอมาจากกล้องติดหมวก) กำลังปรึกษาว่าจะทำยังไงกับ หม้อน้ำและแผงแอร์ครับ

กำลังอธิบายเรื่องการทำแท่นเครื่องครับ

จับฝากระโปรงดูแเห็นแล้วมันคันเหลือเกิน จับล้างขัดทำสีซะหน่อย โปรเจค รถบ้าน งบน้อยทำเองได้ก็ทำครับสนุกดี

ทำไมใช้สีกระป๋อง เพราะว่าถ้ามันลอกก็พ่นใหม่ แค่ 40 บาท ซื้อหน้าบ้าน ซ่อมได้ทุกเวลาที่สีมันดูขัดใจ

ล้าง

แดดเปรี้ยงๆ หมดไป 3 กระป๋อง 120 บาท ทั่วทั้งแผ่น ขาวจั๊วเลย

หมดวันมานั่งเหงื่อท่วมอาบน้ำนอนอย่างมีความสุข $\^^/$

แล้วจะมารายงานเรื่อยๆครับ

// Thejack3S

ปรัชญา · « **Reply #66 on:** October 24, 2012, 07:01:28 am »

ผมดูจากเว๊ปนอกหน้าจะยาวขึ้น 3.9" แปลว่าคุณแจ็คทำมาถูกทางแล้ว ขอให้เสร็จออกมาอย่างใจหวัง
ส่งใจช่วยเชียร์ครับ

(ชื่อเก่า "อึดอัด" ครับ)

Thejack3S · « **Reply #67 on:** October 24, 2012, 09:55:19 am »

ขอบคุณครับพี่ ญา(ขอเรียกพี่ญานะครับ แหะๆ) ตอนนี้พยายามจะเก็บรายละเอียดเองให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เดี๋ยวอีก 2 วันเค้าจะยกเครื่องลงคงได้ทำสีห้องเครื่องกันยกใหญ่ครับ จะทำสีเครื่องด้วย อดใจรอสตาร์ทเครื่องแถบไม่ไหวแล้วครับ ฮ่้าๆ

panapromsen · « **Reply #68 on:** October 24, 2012, 03:19:34 pm »

ทำเองนี่ สำคัญ มันได้ความภูมิใจนะครับ เป็นกำลังใจให้ ของผมก็ใช้ L20 เหมือนกัน เห็นแล้วอยากจัดการเครื่องผม ซักที

Thejack3S · « **Reply #69 on:** October 24, 2012, 11:19:27 pm »

วันนี้ไปจัดพัดลมบางๆ มาสองตัวครับ พัดเยอะๆ น่าจะพอช่วยได้หน่อย พรุ่งนี้ สายหัวเทียนสั่งทำแล้ว น่าจะมาถึง สายยาวอ้อมหน้าเครื่องได้ จะได้ไม่ต้องพาดฝา

Thejack3S · « **Reply #70 on:** October 25, 2012, 07:34:38 pm »

ดีใจ
วันนี้สายหัวเทียนที่สั่งไว้มาถึงบ้านแล้ว ย๊าวววยาว

ระหว่างรอช่างทำแท่นเครื่องและแท่นเกียร์ ก็จัดการ เอาสายไปใส่เก็บให้เป็นระเบียบซะหน่อยใช้เคเบิ้ลไทร์ ความรู้จากบ้านบางกอกนี่แหละครับ ขออนุญาติก๊อปปี้

เสร็จแล้วครับ

ทั้งหมดทั้งมวลได้เท่านี้ก่อนครับวันนี้

พรุ่งนี้ จะเข้าไปจัดการไอ้ที่รักๆทั้งหลายให้เฮี่ยนเลย

Thejack3S · « **Reply #71 on:** October 28, 2012, 11:22:22 pm »

ไปจัดมาแว้วววววว

Before

After

รื้อจนมืดค่ำ พรุ่งนี้ทำสีต่อครับ
แท่นเครื่องเสร็จพอดี

Thejack3S · « **Reply #72 on:** October 31, 2012, 11:09:39 pm »

เก็บสี และสายไฟในห้องเครื่องมา จะได้ดูน่าใช้หน่อย

ไม่รู้ว่าจะหลบยังไงพ่นสีไปโดนแล้ว อะไหนๆก็ถอดปั๊ม จะให้ไล่สีก็กะไร ใส่สายชักโครกแทนแล้วกัน 80 บาท ได้ 2 เส้นพอดี

งานบ้านๆ ไม่ใช้ร้านรวงไม่รับจ้างทำ ท่อแก๊ส ท่อน้ำมัน สายไฟ จัดระเบียบใหม่ ออ สายถักชักโครกเหลือ จับใส่สายไฟซะเลย

Thejack3S · « **Reply #73 on:** October 31, 2012, 11:11:01 pm »

ผมไปลงมือทำสีมาแล้ว ต้องลงมือกลางคืน เพราะกลางวันไม่ว่างเลยครับ เเลยต้องใช้วิธีเผา เพราะ คราบน้ำมันที่ล้างไม่หมด และทำให้โลหะร้อนสีจะได้แห้งเร็วๆ ครับ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยก่อนลงเครื่องในรถ

พ่นไป เผาไปได้ออกมาแบบนี้ครับ

donutjovi · « **Reply #74 on:** November 01, 2012, 09:50:54 am »

wiring สายหัวเทียนได้แจ่มมากครับ

News:

Author Topic: DATSUN BLUEBIRD 910 WAGON ฝากตัวด้วยครับ (Read 100072 times)

Permissions

Facebook Comments