BKCC - Bangkok Classic Car House v.2016
General Category => Bangkok Classiccar Webboard => Classic Motorsports => Topic started by: เจ้าบ้านบางกอกฯ on June 21, 2009, 06:21:09 pm
-
ตอนนี้งงมาก ๆ กับ FIA และก็อีก 8 ทีมที่จะแยกไปตั้งเป็น FOTA
ผู้สันทัดในวงการ Motor Sport ช่วยบอกหน่อยครับว่า
อะไรจะเกิดขึ้นกับ F-1 2010 ?
หรือการแข่งขัน F-1 2009 ปีนี้จะเป็นปีสุดท่ายแล้ว ??????
w^w
-
ที่แน่ ๆ การแข่งขัน British Grand Prix 2009
นี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของสนาม Silverstone
ที่นับเป็นสนามประวัติศาสตร์ของการแข่ง F-1 ที่
ได้เริ่มการแข่งขันสนามแรกที่นี่มาห้าสิบกว่าปี ตั้ง
แต่ปี 1953
ปล. British Grand Prix 2010 มีแผนว่าจะย้ายไป
แข่งที่สนาม Donnington ที่นับว่าเป็นสนามใหม่
ที่มี Facilities มาตรฐานโลก
w^w
-
สาธุ FIA นึกว่าอยากทำอะไรก็ทำได้คราวนี้หล่ะ ทำอะไรไม่คิดดีนัก
-
ที่แน่ ๆ การแข่งขัน British Grand Prix 2009
นี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของสนาม Silverstone
ที่นับเป็นสนามประวัติศาสตร์ของการแข่ง F-1 ที่
ได้เริ่มการแข่งขันสนามแรกที่นี่มาห้าสิบกว่าปี ตั้ง
แต่ปี 1953
ปล. British Grand Prix 2010 มีแผนว่าจะย้ายไป
แข่งที่สนาม Donnington ที่นับว่าเป็นสนามใหม่
ที่มี Facilities มาตรฐานโลก
w^w
ใช่ครับ เรื่องนี้เคยเรียบเรียงให้กับ CAR แมกกาซีนเมื่อหลายเดือนก่อน สนาม Donington Park กำลังปรับปรุงอยู่มีการเปลี่ยน layout และเพิ่มความยาวทางตรงเข้าไป รวมไปถึง facility รอบๆสนามด้วย Bernie Ecclestone เคยประกาศกร้าวเอาไว้เลยว่าถ้า Donington ไม่เสร็จในปี 2010 ก็จะไม่มี British Grand Prix 2010 และในตอนนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นแบบนั้นแน่ๆ
ส่วนเรื่อง FIA-FOTA น่าจะเป็นเรื่องของกฏที่ไม่ลงตัวกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องก้มหัวให้ FIA ทำการรับรองตำแหน่งให้อยู่ดี FIA เป็นผู้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะกู่กลับได้แล้ว เรื่องนี้คล้ายๆกับเรื่อง FIA-FISA ในการแข่งขันรถทัวร์ริ่งสมัยก่อน
-
.
British Grand Prix เพิ่งจบ.....
ฝันของบางคน...มาเป็นจริง.....
Red Bull Racing เข้า 1 + 2.............
Vettel + Webber......
สงสัย...กำลังเปิด น้ำฟอง...ฉลองกันอยู่.....
Congratulations !
(http://www.thehouseofmarketing.co.za/wp-content/uploads/2008/05/heavy-weight.jpg)
.
-
.
British Grand Prix เพิ่งจบ.....
ฝันของบางคน...มาเป็นจริง.....
Red Bull Racing เข้า 1 + 2.............
Vettel + Webber......
สงสัย...กำลังเปิด น้ำฟอง...ฉลองกันอยู่.....
Congratulations !
(http://www.thehouseofmarketing.co.za/wp-content/uploads/2008/05/heavy-weight.jpg)
.
ลุ้น Massa ไม่ขึ้น
Congrat RedBull
-
รอดู F1US ปีหน้าก็ได้ อิอิ
-
สนามนี้ไม่ได้ดูมีพลิกโผเฉยเลยครับ
-
ผมมองว่าในที่สุด ก็จะเป็น F1 เหมือนเดิมครับ
ทางทีมแข่ง FOTA เอาแน่กับการตั้ง serie ใหม่ ท่าทางไม่ขู่ด้วยครับ . . . แต่ผมว่าในที่สุดไม่ได้แยก . . . ผมว่าเดี๋ยวมันก็ตกลงกันได้ด้วยการเจรจาอ่อนข้อกันลงบ้าง
FIA ก็รู้ว่าขาด 8 ทีมนี้ไป . . . F1 ก็จะไม่เป็น F1 . . . ถึงแม้จะหาทีมมาเติมจนเต็ม grid ได้ . . แต่เสน่ห์มันไม่มีครับ ความขลังมันหายไป
ยิ่ง Bernie ที่ถือสิทธิการจัด การหาเงิน การถ่ายทอดสด คงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ . . ถ้า F1 ไม่เป็น F1 เหมือนเดิม เงินหายไปเยอะมาก
โดยส่วนตัว ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ FIA ที่ดูเอาแต่ใจไปหน่อย อยากออกกฏอะไรก็ออกโดยไม่สนใจผู้เล่นตัวจริง . . . ทีมใหญ่ๆอย่าง Ferrari McLaren Toyota จ่ายกันปีละเกิน 500 ล้าน . . จะให้ลดรวดเดียวเหลือ 45 ล้าน มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ลดงบที่เดียว 90% ใครจะทำได้ครับ
ตอนนี้ก็ดู FIA จะอ่อนลงบ้างแล้วเมื่อเห็นว่า FOTA เอาจริง dead line ที่พึ่งจะผ่านมา ก็เลื่อนออกไป . . . ผมจึงมองว่าเดี๋ยวก็ตกลงกันได้
นี่ยังดีนะครับ ที่ยังหยุดกฏ Single Engine ไปก่อน . . . ไม่งั้นคงแปลกที่ Ferrari Benz BMW Toyota Renault ต้องวิ่งแข่งด้วยเครื่องของคนอื่น แล้วมันจะแปะยี่ห้อกันท่าไหนดีหละ . . . Ferrari Cosworth, BMW Cosworth, Toyota Cosworth มันคงดูแปลกดีพิลึก
เรื่อง Donnington . . ดูแล้ว ผมว่าดีไม่ดีปีหน้า มีโอกาสกลับมา Silverstone เหมือนเดิม . . . Ecclestone เริ่มเสียงอ่อนลงว่าอาจจะยอมกลับมา Silverstone อีก . . . British GP นี่ผมว่า มันเป็นตำนานนะ ขาด British GP F1 มันก็แปลกๆ . . . อังกฤษมัน home race ของสารพัดทีม . . . แทบทุกทีมต้องมี base อยู่ที่นี่
Donnington ถึงตอนนี้ แทบไม่มีความคืบหน้าในการปรับปรุงเลย . . . ตามข้องเรียกร้องตามมาตรฐานของ Ecclestone เรียกว่าสร้างกันใหม่หมดมากกว่าคำว่าปรับปรุง ซึ่งใช้เงินมหหาศาล . . 1 ปีผ่านไปยังหาเงินไม่ได้ เหลืออีก 1 ปี ต้องทำให้เสร็จ . . . มีแววไม่เสร็จสูงครับ . . . สนามเกิดใหม่ทั้งหลาย ขนาดว่าเงินพร้อมๆ 1 ปียังเสร็จยาก แต่ Donnington ยังหาเงินไม่ได้เลย
ถึงตอนนี้ ผมคิดว่า Donnington ไม่ได้เกิดครับ . . . เหลืออีกปีเดียว ยังไม่ไปไหน มันจึงเริ่มมีกระแสการกลับมาของ SilverStone อีกครั้ง
Ecclestone นี่ก็เอาแต่ใจเหมือนกัน . . ให้ปรับ SilverStone ชุดใหญ่ SilverStone ไม่มีเงินปรับปรุง . . Donnington เสนอตัวมาทำ แต่ผ่านไปครึ่งทางแล้วยังไม่คืบหน้า . . . ไม่มีใครปรับปรุงก็ขู่ว่าไม่มี British GP อีกต่อไป คนอื่นรอเสียบเยอะ . . ผมว่า Ecclestone เห็นแก่เงินมากไปหน่อย
จะว่า SilverStone เก่า ไม่มาตรฐาน . . . Monaco ก็ไม่มีมาตรฐานเหมือนกัน แต่ทำไมไม่กล้าเอาออก . . . ถ้าจะว่า Monaco Classic . . SilverStone ก็ คลาสสิคเหมือนกันนะ
Ecclestone ก็คนอังกฤษ . . . ถ้าผมเป็น Ecclestone หัวเด็ดตีนขาดยังไงๆ British GP ก็ต้องมี . . . มันต้องมีชาตินิยมกันบ้าง ไม่ใช่ทุนนิยมกันท่าเดียว
F1 นี่มันเกิดจากอังกฤษเลย . . . แล้วจะไม่มี F1 ในอังกฤษ มันดูแปลกไปหน่อยอะครับ
-
Donington ก็อยู่ UK ไม่ใช่เหรอครับ
-
ผมว่า F1 เดี๋ยวนี้ไม่สนุกเลยเดี๋ยวก็ห้ามใช้ยางสลิค เดี๋ยวจะมาจำกัดงบ ผมชอบสมัย Seana แข่งครับ ดูเขาขับกันมันส์ดี
-
Donington ก็อยู่ UK ไม่ใช่เหรอครับ
ใช่ครับ หน้าไมค์ Bernie เขาอ้างว่าสนาม Silverstone เก่าไม่ได้มาตรฐานเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ๆ แต่หลังไมค์เป็นเรื่องของการไม่ลงตัวกันระหว่างเขากับ Jackie Stewart ในเรื่องของ BRDC ที่สนาม Silverstone
เมื่อกล่าวถึง British Grand Prix คนจะนึกถึง Jackie Stewart ในฐานะผู้จัด (และเจ้าของสนาม Silverstone) ในนาม BRDC (British Racing Driver's Club) และ FIA เป็นเพียงผู้เข้าไปรับรองตำแหน่งให้ (Sanction)
คงจะพอนึกภาพออกว่า Bernie กำลังคิดอะไร
-
อันนี้น่าจะข่าวล่าสุด
>>>> On 20 June 2009 Bernie Ecclestone stated that there would be a British Grand Prix at Silverstone in 2010 if Donington was not ready to host it.
>>>> Furthermore during an interview with the BBC about the Formula One Teams Association threatening to break away and form their own series, FIA president Max Mosley said it was "highly likely" the 2010 British Grand Prix would return to Silverstone.
-
อันนี้น่าจะข่าวล่าสุด
>>>> On 20 June 2009 Bernie Ecclestone stated that there would be a British Grand Prix at Silverstone in 2010 if Donington was not ready to host it.
>>>> Furthermore during an interview with the BBC about the Formula One Teams Association threatening to break away and form their own series, FIA president Max Mosley said it was "highly likely" the 2010 British Grand Prix would return to Silverstone.
ได้ยินมางั้นเหมียนกันครับพี่เอ :)
ชั่วโมงนี้ F-1 ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวไว้ครับ
ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาที่ Controversial ขึ้นอีก
เปิดแนวรบหลายด้านมันพาลจะแตกพ่ายได้โดยง่าย
w^w
-
FIA อยากให้การเเข่ง F1 ดูสนุกแข่งกันสูสีมีลุ้นตลอดการแข่งขัน(เหมือน ทัวร์ริ่งคาร์ NASCAR DTM ออสซี่V8)
FIA อยากให้มี jack barbham คนที่สอง ที่สาม ผมว่ามันก็ไม่ยากเกินจะทำได้นะ
ส่วนตัวผมเห็นว่างบประมาณใน F1 สิ้นเปลืองไปกับเทคโนโลยีที่ฟุ่มเฟือยเกินไปสำหรับรถแข่ง จนบางครั้งเราต้องตั้งคำถามว่ารถชนะหรือคนขับชนะ
หลังจากการเสียชีวิตของ senna ในปี 1994 วงการแข่งรถมีการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยกันขนานใหญ๋
เรื่องสำคัญประการหนึ่งคือการทำให้รถ F1 วิ่งช้าลง แนวคิดนี้เองเป็นที่มาของสารพัดกฎที่ FIA ออกมาใช้หลังจากนั้น เช่น ห้ามTURBO ลดความกว้างฐานล้อ ลดขนาดเครื่องยนต์ ห้ามยางสลิก ลดรอบเครื่องเครื่องยนต์ และห้ามโน่น นี่ นั่น อีกสารพัด แต่ถึงจะมีข้อกำหนดข้อห้ามสารพัด รถ F1 เครื่อง 2400CC สมัยนี้วิ่งช้ากว่ารถ F1 เครื่อง 1500ccTURBO พันกว่าแรงม้าสมัยก่อนแค่วินาทีเดียว!!!
เพราะผู้ผลิตทุ่มงบประมาณกันไม่อั้นเพื่อเทคโนโลยีสูงสุดสำหรับรถของตนเอง เงินพันล้านแลกกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นไม่ถึงครึ่งวิ
ถ้าเป็นแบบนี้ทีมเล็กๆงบประมาณน้อยก็ไม่มีทางสู้ ผมอยากให้ดูตัวอย่างในวงการแข่งรถในอเมริกาครับ เทคโนโลยีรถเเข่งโดยเฉพาะรถล้อเปิด
เค้าไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสูงสุดๆ เหมือน F1 เค้าก็แข่งกันสนุกได้ เค้าลดความเร็วรถแข่งด้วยการจำกัดเทคโนโลยีเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มันมีความเป็นกีฬามากที่สุดใช้ฝีมือคนขับมากที่สุด
รถล้อเปิดของเค้ายังเข้าเกียร์เหมือนรถบ้านอยู่เลยครับ ไม่มีระบบ Drive by wire เล่น manual กันเกือบทั้งหมด ไม่มีระบบ active sensor operating control รถวิ่งอยู่ในสนามคนใน Pit ไม่รู้อะไรเลยช่วยอะไรไม่ได้ครับ อยากเช็ครถต้องวิ่งเข้า Pit Stop
"ถ้า FIA ตั้งธงว่า F1 ของฉันต้องสุดยอด งบประมาณมันก็สุดโต่งทุกด้านเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่มีทางไปฝืนมันได้หรอกครับ แต่ถ้าเค้าคิดว่า F1
มันก็แค่กีฬาอีกชนิดหนึ่ง กติกามันก็คงจะสมเหตุสมผลเองนั่นแหละ"
-
FIA อยากให้การเเข่ง F1 ดูสนุกแข่งกันสูสีมีลุ้นตลอดการแข่งขัน(เหมือน ทัวร์ริ่งคาร์ NASCAR DTM ออสซี่V8)
FIA อยากให้มี jack barbham คนที่สอง ที่สาม ผมว่ามันก็ไม่ยากเกินจะทำได้นะ
ส่วนตัวผมเห็นว่างบประมาณใน F1 สิ้นเปลืองไปกับเทคโนโลยีที่ฟุ่มเฟือยเกินไปสำหรับรถแข่ง จนบางครั้งเราต้องตั้งคำถามว่ารถชนะหรือคนขับชนะ
หลังจากการเสียชีวิตของ senna ในปี 1994 วงการแข่งรถมีการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยกันขนานใหญ๋
เรื่องสำคัญประการหนึ่งคือการทำให้รถ F1 วิ่งช้าลง แนวคิดนี้เองเป็นที่มาของสารพัดกฎที่ FIA ออกมาใช้หลังจากนั้น เช่น ห้ามTURBO ลดความกว้างฐานล้อ ลดขนาดเครื่องยนต์ ห้ามยางสลิก ลดรอบเครื่องเครื่องยนต์ และห้ามโน่น นี่ นั่น อีกสารพัด แต่ถึงจะมีข้อกำหนดข้อห้ามสารพัด รถ F1 เครื่อง 2400CC สมัยนี้วิ่งช้ากว่ารถ F1 เครื่อง 1500ccTURBO พันกว่าแรงม้าสมัยก่อนแค่วินาทีเดียว!!!
เพราะผู้ผลิตทุ่มงบประมาณกันไม่อั้นเพื่อเทคโนโลยีสูงสุดสำหรับรถของตนเอง เงินพันล้านแลกกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นไม่ถึงครึ่งวิ
ถ้าเป็นแบบนี้ทีมเล็กๆงบประมาณน้อยก็ไม่มีทางสู้ ผมอยากให้ดูตัวอย่างในวงการแข่งรถในอเมริกาครับ เทคโนโลยีรถเเข่งโดยเฉพาะรถล้อเปิด
เค้าไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสูงสุดๆ เหมือน F1 เค้าก็แข่งกันสนุกได้ เค้าลดความเร็วรถแข่งด้วยการจำกัดเทคโนโลยีเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มันมีความเป็นกีฬามากที่สุดใช้ฝีมือคนขับมากที่สุด
รถล้อเปิดของเค้ายังเข้าเกียร์เหมือนรถบ้านอยู่เลยครับ ไม่มีระบบ Drive by wire เล่น manual กันเกือบทั้งหมด ไม่มีระบบ active sensor operating control รถวิ่งอยู่ในสนามคนใน Pit ไม่รู้อะไรเลยช่วยอะไรไม่ได้ครับ อยากเช็ครถต้องวิ่งเข้า Pit Stop
"ถ้า FIA ตั้งธงว่า F1 ของฉันต้องสุดยอด งบประมาณมันก็สุดโต่งทุกด้านเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่มีทางไปฝืนมันได้หรอกครับ แต่ถ้าเค้าคิดว่า F1
มันก็แค่กีฬาอีกชนิดหนึ่ง กติกามันก็คงจะสมเหตุสมผลเองนั่นแหละ"
เป็นแนวคิด..ที่ Practical มากๆ.....ขอปรบมือให้ครับ
เพิ่ม Inside view เป็นตัวอย่าง..เล็กๆน้อยๆ........
Minardi เคยเป็นทีมแข่ง F1 ตั้งแต่ 1985...คะแนนแทบไม่มี...จนปี 2005 เลยขาย...เจ้าของใหม่เปลี่ยนชื่อเป็น Toro Rosso....วัวแดง อิตาเลี่ยน... ตอนนิ้เริ่มมีแต้ม..เพราะ Back ดีมาก...หมายความว่า...ทุ่มมาก = ได้บ้าง.....
แต่หลังจากถมดินไปไม่นาน.... + / - / x / หาร ...แล้ว..เจ้าของบอกว่า...จะเริ่ม Focus...จะเหลือทีมเดียว...RBR......
จะขาย Toro Rosso....
เดิ๋ยวจะไปทุบกระปุกดูหน่อย.......Ha.......
(http://ultimacurva.com/wp-content/uploads/2008/05/toro-rosso.jpg)
.
-
FIA อยากให้การเเข่ง F1 ดูสนุกแข่งกันสูสีมีลุ้นตลอดการแข่งขัน(เหมือน ทัวร์ริ่งคาร์ NASCAR DTM ออสซี่V8)
FIA อยากให้มี jack barbham คนที่สอง ที่สาม ผมว่ามันก็ไม่ยากเกินจะทำได้นะ
ส่วนตัวผมเห็นว่างบประมาณใน F1 สิ้นเปลืองไปกับเทคโนโลยีที่ฟุ่มเฟือยเกินไปสำหรับรถแข่ง จนบางครั้งเราต้องตั้งคำถามว่ารถชนะหรือคนขับชนะ
หลังจากการเสียชีวิตของ senna ในปี 1994 วงการแข่งรถมีการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยกันขนานใหญ๋
เรื่องสำคัญประการหนึ่งคือการทำให้รถ F1 วิ่งช้าลง แนวคิดนี้เองเป็นที่มาของสารพัดกฎที่ FIA ออกมาใช้หลังจากนั้น เช่น ห้ามTURBO ลดความกว้างฐานล้อ ลดขนาดเครื่องยนต์ ห้ามยางสลิก ลดรอบเครื่องเครื่องยนต์ และห้ามโน่น นี่ นั่น อีกสารพัด แต่ถึงจะมีข้อกำหนดข้อห้ามสารพัด รถ F1 เครื่อง 2400CC สมัยนี้วิ่งช้ากว่ารถ F1 เครื่อง 1500ccTURBO พันกว่าแรงม้าสมัยก่อนแค่วินาทีเดียว!!!
เพราะผู้ผลิตทุ่มงบประมาณกันไม่อั้นเพื่อเทคโนโลยีสูงสุดสำหรับรถของตนเอง เงินพันล้านแลกกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นไม่ถึงครึ่งวิ
ถ้าเป็นแบบนี้ทีมเล็กๆงบประมาณน้อยก็ไม่มีทางสู้ ผมอยากให้ดูตัวอย่างในวงการแข่งรถในอเมริกาครับ เทคโนโลยีรถเเข่งโดยเฉพาะรถล้อเปิด
เค้าไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสูงสุดๆ เหมือน F1 เค้าก็แข่งกันสนุกได้ เค้าลดความเร็วรถแข่งด้วยการจำกัดเทคโนโลยีเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มันมีความเป็นกีฬามากที่สุดใช้ฝีมือคนขับมากที่สุด
รถล้อเปิดของเค้ายังเข้าเกียร์เหมือนรถบ้านอยู่เลยครับ ไม่มีระบบ Drive by wire เล่น manual กันเกือบทั้งหมด ไม่มีระบบ active sensor operating control รถวิ่งอยู่ในสนามคนใน Pit ไม่รู้อะไรเลยช่วยอะไรไม่ได้ครับ อยากเช็ครถต้องวิ่งเข้า Pit Stop
"ถ้า FIA ตั้งธงว่า F1 ของฉันต้องสุดยอด งบประมาณมันก็สุดโต่งทุกด้านเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่มีทางไปฝืนมันได้หรอกครับ แต่ถ้าเค้าคิดว่า F1
มันก็แค่กีฬาอีกชนิดหนึ่ง กติกามันก็คงจะสมเหตุสมผลเองนั่นแหละ"
การแข่งรถให้สนุกมันแบ่งเป็น 2 แนวทางครับ . . ขายความสนุกของเกมส์ . . . กับขายความน่าติดตาม . . . แต่ละแนวทาง มันก็มีเสน่ห์ของมัน
- ทำให้รถสูสี วัดคนขับ ก็ดูสนุกในเกมส์การแข่ง . . . แต่ขาดเสน่ห์ในแง่การติดตามการเปลี่ยนแปลง . . . . ซึ่งแบบนี้มีให้ดูเยอะแยะหลากหลาย series . . . แต่การพัฒนาตัวรถไม่มีอะไรให้ชวนติดตาม
- มาถึงแนวน่าติดตาม เสน่ห์ของมันก็อยู่ที่การคิดค้นอะไรใหม่ๆตลอดเวลา . . . เกมส์การแข่งอาจดูจืดไปหน่อย เพราะพวกเร้วก็เร็วไป มันทิ้งกันเยอะ . . . แต่โอกาสเกมส์พลิก มันก็มี . . อย่าง Brawn ที่ทิ้งคนอื่นเป็นทุ่ง มาคราวนี้ โดย RedBull ทิ้งเป็นทุ่งเหมือนกัน . . . RedBull ไปคิดหมัดเด็ดอะไรออกมา . . . เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้
F1 เป็นเกมส์ที่ถ้าเปิดทีวีมาเจอ ไม่ได้เป็นแฟน F1 . . . เปิดมาดูเป็นเกมส์ที่น่าเบื่อสิ้นดี . . . . ทั้งๆที่ดูน่าเบื่อ แต่ทำไม F1 จึงเป็นการแข่งรถที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก . . . ความสุดยอดของมันนี่แหละ ที่เป็นที่น่าติดตามสำหรับคนที่ชอบ รถมีการ update ตลอดเวลา
ถ้า F1 บีบกฏ จนเกือบๆจะเหมือนแข่ง one make race คล้ายๆ GP2 หรือ สารพัด Formula อื่นๆ . . . F1 ก็จะกลายเป็นเหมือน series อื่นๆ ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแค่นั้น . . . โดยส่วนตัวผมว่าความน่าติดตามมันก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ
F1 มันแข่งทั้งรถ ทั้งคน . . . ไม่ใช่แค่รถดี ใครๆก็แข่งได้ . . รถดี มันก็ต้องพึ่งคนขับชั้นดีสุดยอดด้วยเหมือนกัน . . . สารพัดแชมป์ มาตกม้าตายใน F1 ก็เยอะ
กรแข่งรถที่เหมือนๆกัน พอๆกัน บี้กันสนุก ดูสนุก ซึ่งมีเยอะ . . . แต่ในแง่การตลาด มันขายได้ในกลุ่มเล็กๆ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในแง่การขายให้ติดตาม . . . A1 GP2 ที่พยายามมาเทียบชั้น ล้วน fail หมดในแง่การตลาด . . . Nascar Indy Cart Champcar ก็ขายได้แต่ใน US . . . DTM Touring Car ก็ขายได้แต่ในยุโรป . . . Touring Car - BMW เร็วแต่มาเป็นฝูง BMW คันไหนชนะก็งั้นๆ ไม่น่าติดตาม . . DTM - Benz Audi มากันทีมละเป็นฝูง รถสูสี เบียดบี้กันสนุก แต่ใครชนะไม่เห็นจะมีใครสนใจเท่าไร
ขณะที่ F1 ดูเซ็งๆ ไม่มีบี้ ไม่มีแซง . . . แต่กลับขายได้ทั่วโลก หลากหลายประทศพยายาม bid เพื่อที่จะได้จัด F1
ถามว่าทุ่มเงินพันล้าน เพื่อเร็วขึ้นแค่ครึ่งวิ . . . ก็ตรงนี้แหละที่ผมว่ามันก็น่าสนุก ที่ใช้เทคโนโลยี คิดค้นกันขึ้นมาเพื่อเอาชนะกฏ . . . ยุดเครื่องเทอร์โบ เครื่อง 1000+ ม้า วิ่งช้ากว่ารถ 700 แรงม้า . . ตรงนี้ซิ ผมว่าน่าสนใจ
ทำรถให้เร็วกว่ารถ 1000+ ม้าไม่ใช่เรื่องยาก ใช้เงินไม่กี่สิบล้านก็ทำได้แล้วครับ . . . . แต่ต้องทำมาสู้กับกฏที่พยายามบีบเข้ามาเรื่อยๆ มันก็ชวนติดตาม . . . จ่ายเงินค่าความคิดสำหรับอะไรแปลกๆใหม่ๆ . . .
เงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำรถเร็วแน่นอน . . . แต่เงินเยอะก็ไม่รับรองชัยชนะ . . . Toyota ทุ่มมหาศาล มากที่สุดใน F1 จ่ายมากกว่า Fer McLaren แข่งมาก็นานพอดูแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยชนะ . . . RedBull ทีมจ่ายกลางๆ ก็ล้มยักษ์ได้ . . . Fer McLaren จ่ายเยอะ แต่ปีนี้ก็เหลว . . . William ตอนนี้ค่อนข้างจน งบน้อยๆ ก็เร็วกว่า BMW Renault ทีมโรงงานซึ่งมีทุนมากกว่าเยอะได้ . . . Brawn อันนี้เป็นข้อยกเว้น ปีนี้จน แต่ก็รับมรดกที่ Honda จ่ายไว้ให้เยอะ
หรือดูแม้แต่ Benneton ยุดก่อนที่จะถูกซื้อโดย Renault . . เป็นทีมอิสระเล็กๆเหมือน Minardi . . . ทีมเล็กๆก็สามารถปั้น Schumacher เป็นแชมป์โลกมาแล้ว
เงินก็ไม่ใช่คำตอบสำหรับความสำเร็จ William ใช้เงินน้อยที่สุดในปีนี้ ที่ทำให้ทีมใหญ่ๆอย่าง Ferrari BMW Renault McLaren ได้อาย
การแข่งกับกฏนี่แหละครับ เสน่ห์ของ F1 . . . ถ้าปีนี้กฏไม่เปลี่ยน คงไม่ได้เห็น Ferrari McLaren วิ่งไม่เป็นท่าแบบตอนนี้แน่ . . . F1 นอกจากนักขับแล้ว ผมว่ามันเป็นเกมส์แข่งสมองกันด้วย ซึ่งการแข่งแบบอื่นๆไม่ค่อยจะได้เห็น . . . การแข่งสมองด้วย นี่แหละผมว่าเป็นจุดเด่นของ F1
การบีบงบ เพื่อการจะแค่ทำให้รถสูสี ไล่บี้ไล่แซงกันได้ . . . ก็ไม่ได้เป็นคำตอบว่าจะเป็นเกมส์ที่ประสบความสำเร็จครับ
-
ผมดู F1 ปี 2009 ก็สนุกตรงที่ ไอ้รถที่ไม่มี KERS มันดันได้แชมป์ซะ 5-6 สนาม
สนามที่แล้ว turkish ทีม brawn ไล่นอครอบ แชมป์เก่า จนแฮม พูดอะไรไม่ออก
ยิ้มแหยะๆ แล้วได้แต่บอกว่า "Welcome to my world" ผล Qualify ตั้งแต่ต้นปีเกือบที่โหล่ตลอด
และจนป่านนี้ยังไม่มีสักคะแนน
สนามแรกๆผมดูแล้วก็งง ว่าไอ้พวกกดปุ่ม KERS จิ้มเอาๆ
รถมันพังกันเป็นแถบ หลุดโค้งรถยับกันไปก็เยอะ
รถที่ไม่มี KERS กลายเป็น "หมูบิน" ที่นักขับก็ใช้ฝีมือวัดองศาสนามกันละเอียดยิบ
ตาเหยี่ยวชนิดเหยียบ APEX กันแทบจะบางเฉียบคุมความเร็วพุ่งออกทางโค้งได้ดีทุก section จนได้แชมป์
ผมว่า ยังไงก็ยังน่าติดตาม ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา ทีมชนะก็ชนะซ้ำๆซะจนดูน่าเบื่อ
หลังๆผมโหลด เบื้องหลังตอน Practise-Qualify จนถึง Race มาดูครบทุกรอบ
ดูการวางแผนกันแบบ Detailed Strategic Thinking จริงๆ
เรียกว่าดูแล้วได้รสชาด ถึงกึ๋น ต่างทีมต่างใช้ tactic ขับเคี่ยวกันสนุกจริงๆครับ
-
ผมว่าการทุ่มเงิน เพื่อ R&D ใน F1 มันก็ดีนะครับ.........มันอาจจะไม่ได้มีผลกับเราโดยตรง.........แต่ในแง่ของการพัฒนาแล้ว.......มันได้ประโยชน์หลายอย่าง.........ลองมองย้อนกลับไปสมัยเริ่มแรกดูซิครับ..........อะไรคือรถแข่ง F1 ...............แล้วตอนนี้อะไรคือรถแข่ง F1
เมื่อก่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือ Aerodynamics..........เมื่อก่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือ ground Effect..............เมื่อก่อนมีคนรู้เรื่อง SUSPENSION DESIGN , WEIGHT Distribution , engine design อื่นๆอีกเยอะแยะ........
มันเป็นเรื่องของการเอาชนะธรรมชาติ....ภายใต้กฏเกณฑ์ ด้วยสิ่งที่มีอยู่....( ต้องการความเร็ว....ก็ใช้ความรู้....จะได้ความรู้ก็ต้องใช้คนและคอมฯ.....สิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ........มาจากการทดลอง....มาจากการวิเคราะห์....มาจากการพัฒนา.......)ความรู้ที่ได้จากการพัฒนาสิ่งเหล่านี้มันก็ย้อนกลับมาหาเราเองถ้าเรารู้จักเสาะหามาใส่ตัว..........บางที่ก็มาในรูปของงานวิจัย.......บางครั้งก็มาในรูปตำรา.....ถึงมันจะมาไม่หมดร้อยเปอร์เซน.........แต่ก็กลับมา
ผมว่ามันเป็น สิ่งที่ติดตัวคนเรามาคือ ชอบเอาชนะธรรมชาติ เอาชนะกฎเกณฑ์ ...........FIA ทำหน้าที เป็นกำแพง เป็นสิ่งกีดขวาง......คนไหนอยู่ในกำแพงได้...ก็อยู่กันไป.........คนไหนอยู่ไม่ได้..ก็ออกนอกกำแพงไป........แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน.......ก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ดี........ผมเฉยๆกับเรื่องแบบนี้.............
แต่ถ้าถามว่าชอบ F1 แบบไหน..........ชอบทุกแบบครับ.............อิอิ
-
เพิ่งทราบว่าบ้านบางกอกฯ เรามี "แฟนพันธุ์แท้ F-1" อยู่มากมายเพียงนี้
แต่ละไอเดียแต่ละมุมมองไม่แพ้นักวิจารณ์ระดับโลกเลยครับ
ใครมีมุมไหนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเจ๋ง ๆ น่าเล่าให้ฟัง มาเขียนให้ฟังกันบ้างนะครับ
อยากอ่าน อยากอ่าน ขอบคุณครับ
w^w
-
ปัญหาหลักของ F1 มาจากกำหนดทิศทางครับ ถ้าอยากให้ทุกๆทีมไม่ว่าเล็กใหญ่ได้พัฒนา
การวางกฏข้อบังคับมันก็ควรจะยืนไปซักระยะอาจจะ 8-10ปี ไม่ใช่ปีเว้นปี เว้นสองปีเปลี่ยน
แบบนี้ใครทุนน้อยก็อยู่ไม่ได้ยาวครับ เพราะรถ F1 มันเป็นขีดสุดภายใต้ข้อจำกัดเเล้ว
การจะกดลงไปอีกซักวินาทีมันใช้เงินมหาศาล
ความไม่แน่นอนในการกำหนดทิศทางมาจากการรับรู้ผ่านการสำรวจข้อมูลจากผู้ชม F1 ครับ
FIA สำรวจข้อมูลผู้ชม F1 ทั้งในและนอกสนามอยู่เป็นประจำ พบว่ามีผู้ชมเฉลี่ยเเล้วประมาณ 30กว่าเปอร์เซนต์เท่านั้น ที่รู้ว่ารถ F1 ใช้เครื่องยนต์กี่สูบ กี่ซีซี ยิ่งถ้าถามข้อมูลที่ลึกไปกว่านั้นตัวเลขยิ่งน้อยลงไปอีกมาก
ข้อมูลนี้แสดงว่าผู้ชมรถแข่งก็ไม่ได้ต่างจากผู้ชมกีฬาประเภทอื่น(ผู้ชมที่ไม่ใช่นักกีฬา)
คือจะให้ความสนใจกับสิ่งที่ตาเห็นเท่านั้น เรียกว่าดูด้วยตาไม่ได้ดูด้วยสมอง เช่น
เวลาดูกอล์ฟผู้ชมก็ไม่สนใจว่านักกีฬาจะใช้ไม้ยี่ห้ออะไร เหล็กเบอร์อะไร ก้านเหล็ก หรือการ์ไฟต์ ซึ่งพฤติกรรมการชมกีฬาลักษณะนี้จะแตกต่างจากผู้ชมกีฬาที่เล่นกีฬาประเภทนั้น
แม้ว่ารถ F1 จะพัฒนามาไกลมากจาก50 ปีก่อน แต่พัฒนาการของผู้ชมกลับมีไม่มากนัก
ทั้งๆที่ระบบข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันก้าวหน้ามากๆ สรุปว่าความไฮเทคไม่ใช่จุดขายที่จะดึงดูดผู้ชมส่วนใหญ่ [อันนี้คงจริงครับเพราะจากการชม F1 ในหลายสนามที่มีลักษณะเป็น Park รถวิ่งไปสิบกว่ารอบ ผู้ชมบางส่วนก็ไม่สนใจเกมส์แล้ว ฟังไอพอต เล่นPSP ออนเอ็มฯ นอนเกาคางแฟน หรือหามุมสวยๆ ถ่ายรูป]
ดังนั้นเทคโนโลยีหลายอย่างจาก F1 ที่เป็นอุปกรณ์มาตราฐานในรถยนต์ทุกวันนี้ เช่น ระบบป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายเเรงเบรค ระบบควบคุมการทรงตัว FIA ยกเลิกไปหมดเเล้ว ผมเห็นว่า FIA เดินมาในแนวทางที่ควรทำแล้ว แค่อย่าไปเปลี่ยนอะไรบ่อยนักผมว่าทุกทีมรับได้
แต่อยู่ๆ ก็มีกติกามาจำกัดงบประมาณผุดขึ้นมากลางหัวหงอก ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะลำพังเกมส์ในสนามมีปัญหากว่าจะตัดสินได้ก็ข้ามเดือน ไม่มีกีฬาประเภทไหนหรอกที่แข่งขันจบวันนี้แต่ไปตัดสินอีกสองเดือนข้างหน้า ลองนึกภาพดูแล้วกันครับสมมุติว่าข้อกำหนดเรื่องงบประมาณผ่านออกมาใช้ได้ เวลามีปัญหาฟ้องร้องเรื่องงบประมาณใครจะตัดสิน มันต้องใช้เวลากันกี่เดือน กี่ศาล เราดูแข่งรถวันนี้อาจต้องรอผลการแข่งขันปีหน้า
-
:good: :good: :good:
w^w
-
.
Inside News, latest
* Max is OUT
* New Rules are OUT
* New faces are OUT
* Old Rules are IN
* OLD & Cranky faces are IN
แปลเป็นไทย....
ทุกอย่างเหมือนเดิม...ทุกทีมจะอยู่ต่อจนปี 2012....งบทำให้กระชับกว่าปัจจุบัน
Everybody's happy ?
Naw.....
http://www.youtube.com/watch?v=K6nBh22gUdo&feature=related (http://www.youtube.com/watch?v=K6nBh22gUdo&feature=related)
.
-
And a few new teams too.... the biggest grid since '95 \^^/
-
.
In side news....หรือว่าเปิดกันแล้ว......
* BMW Team says...Bye - Bye......to next year Formula 1
Why ? : ............ข่าวไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร.....แต่ผมว่า...ห่าง Podium ไปหลายแล้ว...คงเซ็ง.....
* Schumacher is BACK....in place of Massa......
Welcome back, Michael....but you'd better take off that fats around your waist....
Cheers,
.
-
w^w น้าชูมี่กลับมาแล้ว w^w
http://www.worldcarfans.com/109072920787/its-official-ferrari-confirm-michael-schumacher-will-replace-felipe-massa (http://www.worldcarfans.com/109072920787/its-official-ferrari-confirm-michael-schumacher-will-replace-felipe-massa)
ที่ในเว๊บนาฬิกาเค้ากำลังคุยกันคือ Omega จะออกรุ่น Limited Edition อะไรมาอีกดีคราวนี้ เพราะเมื่อตอนแขวนพวงมาลัยครั้งก่อนก็ออก Speedmaster Legend ที่ใครนึกว่าน่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Omega กับ
น้าชูมี่แล้ว... :grin:
(http://www.omegawatches.com/fileadmin/templates/omega-watches/img-watchesbig/35075100.gif)
http://www.omegawatches.com/index.php?id=298&details=1&ref=35075100&no_cache=1 (http://www.omegawatches.com/index.php?id=298&details=1&ref=35075100&no_cache=1)
-
How about Omega Speedmaster BCR Limited Edition??
Speaking of F1 (this is F1 topic after all) another safety issue clouded over F1 once more like back in '94 when Senna died.. This time it's Massa who is still recovering, but sadly Henry Surtees (Sir John Surtees's son) lost his life in F2 after the wheels hit him in the head from another car.... RIP
-
Speedmaster BCR sounds very tempting krub khun Stormy :shocked: :good:
May be with Carbon Fiber Dial with Team BCR logo and leather straps with yellow stitching on one side and blue stitching on the other ? :smitten:
-
agreed, lets have the petition to Omega (or in the web), with enough people maybe we can get them to do the BCR to commerate racing in Thailand ;)
-
Quantity would be one of the problems krub, or P'Bunn has to buy 2,900 Speedmasters.
:grin: (with that order, P'Bunn would be their new brand ambassador :2funny: )
-
"They (FOTA) are loonies! I'm not sure they have a leader. It's just in nature of loonies not to have a leader because they are loonies together" Max Mosley กล่าวทาง BBC ก่อนสงครามสงบไม่นาน
ลาก่อน Max.............
ยินดีกับ Bernie ด้วยนะที่เงินทองยังไหลมาเทมาเหมือนเดิม......
-
.
In side news....หรือว่าเปิดกันแล้ว......
* BMW Team says...Bye - Bye......to next year Formula 1
Why ? : ............ข่าวไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร.....แต่ผมว่า...ห่าง Podium ไปหลายแล้ว...คงเซ็ง.....
* Schumacher is BACK....in place of Massa......
Welcome back, Michael....but you'd better take off that fats around your waist....
Cheers,
.
Latest ....11/08/09
BoonSchu's deal is off....why ?
a. Couldn't take of the fat around his waist....
b. His mother-in-law didn't like the idea.....
c. The pain in his neck was terrible.....
d. All of the above......
Choose one of the above clues.
Then.....see your answer here ....
http://www.michaelschumacher.de/?page=news&story_id=82524&lang=uk (http://www.michaelschumacher.de/?page=news&story_id=82524&lang=uk)
Cheers, Schu.....
.
-
Seng la si krup.... I think the valencia race rating would have spike up for the return of schumi... Oh well, at least it went to Luca not some punk 19 years old kid (yes, I'm jealous..)