Author Topic: BMW E30 M3 กับ BMW E30 M3 EVO มีความแตกต่างอย่างไรบ้างค่ะ  (Read 107514 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline OouVintage

  • PainKiller Racing Team
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 10,531
  • Gender: Male
  • Last Login:February 04, 2023, 01:13:03 pm
    • OouVintage

Offline ae

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2005
  • Posts: 3,467
  • Gender: Male
  • Last Login:May 11, 2018, 10:00:21 pm


It's fun... when it runs! Trust me.

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ขอบคุณครับ
จะทะยอยเอาเรื่องราวของ M มาลงไว้ที่นี่ละกันนะครับ หวังว่า จขกท. คงจะไม่รังเกียจ เพราะเห็นหัวเรื่องเหมาะสมดี

ส่วนเรื่องราวส่วนตัวของการ rebuild เครื่องตัวนี้จะพยายามเขียนเป็น write-up และทำเป็นภาพประกอบเอาไว้ทุกขั้นตอน แล้วจะมาเรียบเรียงให้อีกครั้งนะครับ เพราะมี request มาหลายรายเหมือนกัน
มีคนถามมาหลายรายว่าเครื่องตัวนี้จะเอาแบบสุดไปเลยหรือ ขอตอบว่าไม่ใช่ครับ จุดหมายแรกคือมันจะต้องกลับไปที่ (ไม่น้อยกว่า) 200 แรงม้าที่เป็น day-1 ของมัน แค่นี้ก็พึงพอใจแล้วครับ ส่วนอีกเครื่องหนึ่ง...ไม่แน่ ได้ข่าวว่ากำลังดีดลูกคิดอยู่ แต่อย่างไรก็ตามได้คุยกันเอาไว้แล้วว่า ทุกอย่างทำเพื่อพละกำลังครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นการทำเพื่อเป็นการเดินย้อนทางทางกลับไปสู่ตำนานของ day-1 ของมัน


Let's see  w^w

Offline mk3

  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2008
  • Posts: 110
  • Gender: Male
  • Last Login:February 04, 2018, 04:48:09 pm
เคยเห็น E30 M3 พวงมาลัยขวา ที่ อังกฤษไม่รู้ว่าแปลงมาหรือแท้รึเปล่าครับ  ใครมีความรู้ช่วยบอกที

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
เคยเห็น E30 M3 พวงมาลัยขวา ที่ อังกฤษไม่รู้ว่าแปลงมาหรือแท้รึเปล่าครับ  ใครมีความรู้ช่วยบอกที

M3 RHD ไม่ได้แปลว่าของปลอมเสมอไปนะครับ เพียงแต่ว่ามันถูกผลิตออกมาจากโรงงานเป็น LHD ทั้งหมดเท่านั้นเอง
ส่วนใครจะเอาไปทำเป็น RHD ภายหลังก็ย่อมได้ แต่ส่วนมากมักจะปล่อยเอาไว้เป็นซ้ายแบบนั้น เพราะ rack ของ M3 อัตราทดไม่เหมือนกับแรคของ RHD ทั่วไป อีกทั้งมันยังมีปัญหากับเฮดเดอร์อีกด้วย

หากหมายความถึงรถที่แปลงมาจาก E30 ปกติอะไรเทือกนั้น ก็คงจะมีบ้างครับ เคยดูจากเวปต่างประเทศอันหนึ่งเขาทำให้ดูทุกขึ้นตอน ไม่ได้ยากเย็นอะไร (ถ้าเงินถึง)

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
รูปบางส่วน จะเรียกได้ว่าวางลงไปแล้วเชื่อมได้เลย

ทำให้นึกไปถึงในตอนนั้นที่ BMW Motorsport จะทำ 635CSi ลงแข่ง Gr.A แต่บอกว่ากลัวผลิตออกมา 5000 คันไม่ทันทั้งๆที่ตอนนั้น E24 ก็มีขายอยู่แล้ว ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าแล้วทำไมเจ้า M3 ที่ออกแบบมาใหม่เอี่ยมจากกระดาษขาว รวมทั้งเครื่องของมันด้วยจึงผลิตทัน

อาจจะเป็นไปได้ที่แชสสีของ E30 มันมีอยู่แล้ว แล้วเอาเฟรมที่ออกแบบใหม่พวกนี้เชื่อมใส่เข้าไป จึงทุ่นเวลาลงไปได้เยอะ - อันนี้เดา
« Last Edit: April 06, 2009, 12:30:57 am by Flying Dutchman »

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
แก้ไขหน่อยนะครับ Annette Meeuwissen สะกดด้วยตัว "V" นะครับ => Annette Meeuvissen
ขออภัย เผื่อใครจะไป search หาข้อมูลแล้วไม่เจอ
เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2004 นี่เองด้วยโรคมะเร็ง น่าเสียดาย
นี่คือข่าวที่ลงถึงการเสียชีวิตของเธอในเยอรมัน - RIP

Offline srad

  • <<--ขุนแผนเยอรมัน-->>
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jan 2007
  • Posts: 128
  • Gender: Male
  • Last Login:February 26, 2014, 02:29:45 pm
ได้ความรู้ สุดๆเลยครับ  w^w
<<--ขุนแผนเยอรมัน-->>

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ถึงแม้ว่า E30 M3 มันจะเป็นรถแข่งมาตั้งแต่เกิดแล้ว แต่ในตัวแข่งในสนามจริงๆมันมีหลายจุดที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น มีทั้งดัดแปลง (เช่น adjustable control arms) และชิ้นส่วนบางอย่างที่ใส่เพิ่มเข้าไป (เช่นกันโคลงที่ปรับโดยคนขับได้จากในตัวรถ) แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นมันก็ยังมีพื้นฐานหลักๆมาจากตัวปกติ เช่นจุดยึด และ geometry ต่างๆ ไม่งั้นจะผิดกฏ พยายามหารูปมาประกอบ แต่มันยากเย็นมาก ที่เคยถ่ายตัวแข่ง DTM ของ Steve Soper เอาไว้ก็ไม่ละเอียดถึงขนาดนั้น

มีคนรู้จักไซเบอร์คนหนึ่งที่อยู่อีกฟากโลกหนึ่ง เขาได้ทำการถ่ายทำตัวแข่ง DTM ของ Roberto Ravaglia เอาไว้ทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียดละออว่าแต่ละส่วนมันทำงานอย่างไร และแตกต่างไปจากเดิมที่ไหน อย่างไร กำลังขอ permission ในการเอามาลงในนี้จากเขาอยู่นะครับ

ใน disclaimer เขาขอสงวนสิทธิ์ตรงนี้เอาไว้ด้วย  ของบางอย่างอาจจะดูง่ายสำหรับเราเหมือนแค่ download มาห้าวินาทีเพื่อเอารูปมาดูให้เข้าใจภายในสิบวินาที แต่สำหรับคนทำเขาอาจต้องใช้เวลาชั่วชีวิตเพื่อที่จะรู้สิ่งนี้และเอามาให้เราดู จึงต้องขออนุญาติให้เกียรติเขานิดนึงนะครับ

หวังว่า เขาคงไม่ได้คิดคอมเมอเชียลกับเรา เพราะในนี้ไม่ได้เป็นเวปคอมเมอเชียลอะไร แต่ถ้าเขาคิดแล้วไม่แพงมาก ก็จะซื้อเอามาเก็บเอาไว้ครับ

Offline ป้อ (theringmeister)

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2005
  • Posts: 2,363
  • Gender: Male
  • Last Login:September 23, 2020, 11:02:59 am
ขอบคุณครับพี่  &v&

ดูชัดๆอีกที Annette Meeuwissen

ทำให้นึกถึงสาวซิ่งในยุคนี้อย่าง Monica Patrick ใน Indy และ Vanina Ickx ลูกสาวของ Jacky Ickx ใน DTM

ปล. หมายถึงDanica Patrick หรือเปล่าครับพี่ต่อ ?

http://en.wikipedia.org/wiki/Danica_Patrick

Offline LuckyVw

  • Member
  • *****
  • Join Date: Oct 2008
  • Posts: 42
  • Gender: Male
  • Last Login:November 02, 2015, 02:39:18 pm

Offline acousticpooh

  • PAULANER VS. ASAHI
  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2008
  • Posts: 267
  • Gender: Male
  • Last Login:March 02, 2012, 11:05:39 pm
ความรู้ดีๆทั้งนั้นเลย ตอนแรกก็ keepvid จาก youtube ตอนนี้เลยเถิดสั่งแผ่นมาดูแล้วครับ

ขอบคุณมากครับ  w^w

 :happy2: *c* :happy2: *c*
CLASSIC = MODERN :: THOMAS HARDY (1840-1928)

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ขอบคุณครับพี่  &v&

ดูชัดๆอีกที Annette Meeuwissen

ทำให้นึกถึงสาวซิ่งในยุคนี้อย่าง Monica Patrick ใน Indy และ Vanina Ickx ลูกสาวของ Jacky Ickx ใน DTM

ปล. หมายถึงDanica Patrick หรือเปล่าครับพี่ต่อ ?

http://en.wikipedia.org/wiki/Danica_Patrick

ใช่ครับ another typo

ขอบคุณที่ทักท้วงครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
:idiot2: :idiot2: :idiot2: :idiot2:   งง........... :idiot2:

ในส่วนไหนครับ?  :idiot2:

Offline ggmf

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2008
  • Posts: 657
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:September 05, 2016, 01:26:07 pm
ข้อมูลสุดๆ เลยครับพี่ต่อ โอกาสหน้าขอความรู้ในเรื่องพวงมาลัย ที่ใส่แต่ละรุ่นบ้างนะครับ :grin:

Offline LuckyVw

  • Member
  • *****
  • Join Date: Oct 2008
  • Posts: 42
  • Gender: Male
  • Last Login:November 02, 2015, 02:39:18 pm
:idiot2: :idiot2: :idiot2: :idiot2:   งง........... :idiot2:

ในส่วนไหนครับ?  :idiot2:

คือ ดันไปเจอ M3  สองคันพร้อมกัน........เลย งง  :uglystupid2: คร้าบ เลยไม่รู้ว่าคันไหน  evo หรือ ไม่ evo คับ พี่

Offline tuk_jz

  • Member
  • *****
  • Join Date: Feb 2008
  • Posts: 31
  • Gender: Male
  • Last Login:September 22, 2017, 01:40:25 pm
อ้าวซะงั้นเลย

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
I see
ขอให้ข้อมูลทั่วไปเป็นกลางๆดีกว่านะครับ
และขอสงวนสิทธิ์นี้ให้กับเจ้าของรถเองน่าจะดีกว่าครับ  :><:

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
« Last Edit: April 14, 2009, 11:04:20 pm by Flying Dutchman »

Offline keng114

  • Sevne not Eleven
  • Member
  • *****
  • Join Date: Apr 2009
  • Posts: 51
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2013, 09:13:10 am
    • RacingWeb South Zone
อานแล้วเพลิืนเลยครับ ขอบคุณคุณต่อสำหรับบทความดีๆครับ ^ ^

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ขอบคุณที่ชื่นชอบและให้เกียรติติดตามอ่านอีกครั้งครับ  &v&

ในส่วนของ (ว่าจะตั้งชื่อว่า) "เปิดโปงเครื่องยนต์ S14" ขออนุญาติเอา ลงเอาไว้ในนี้ http://www.geocities.com/torpan_k/flyingdutchman.htm น่าจะสะดวกกว่านะครับ

กำลังพยายามรวบรวมเอาไปใส่ไว้ในนั้นตามโอกาสจะอำนวย ตอนนี้อะไรทำได้ก็ทะยอยทำไปก่อนในระหว่างรอชิ้นส่วนกำลังเดินทางมา
วันนี้เอาฝาสูบ/ลูกสูบ/ก้าน/springs/retainers ฯลฯ มาเล่น

เมื่อสปริงที่กำลังจะตามมาอีกสองชุด หกสิบสี่ตัว  (เป็นของ used แต่ปีใหม่กว่า ไมล์ต่ำกว่า) มาถึงจะเอามาเทกองรวมกันและจะวัดค่า K ที่ละตัวๆเพื่อให้มันเป็นชุดที่ใกล้เคียงกันทั้ง 32 ตัว (นอก 16 ตัว ใน 16 ตัว) เครื่องตัวนี้ถึงไมล์น้อย แต่วางทิ้งเอาไว้ไม่ได้ใช้งานหลายปี จึงทำให้ผมไม่คิดว่าสปริงของมันจะใช้ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีสูบใดสูบหนึ่งแหละที่มันถูกกดค้างอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ ค่า K มันเสียไปแน่นอน ใครซื้อเครื่องเก่ามาเช็คตรงนี้นิดนึงก็ดีนะครับ วาล์วขาดเอาง่ายๆ เครื่องตัวนี้องศาแคมอาจจะไม่สูง แต่ lift ของมันสูง

ชักจะเริ่มขี้เกียจขึ้นมาเสียแล้วสิ  U')

เอาข้อมูลมาเพิ่มสักหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับกระทู้นี้ นี่คือสเปกการวัดค่า K ของสปริงวาล์ว
ข้อมูลสเปกเครื่องแข่ง ปลิวว่อนเต็มอินเตอร์เน็ท แต่เครื่อง stock หายากเย็นเสียเหลือเกิน อันนี้เพื่อนไซเบอร์คนหนึ่งส่งมาให้จากเยอรมัน


Spring Wire Diameter = 2.7mm (+/-0.1mm)
For a load of 28kg, length is 21mm
For a load of 11kg (+/-0.2kg), length is 31.5mm
Free Length of 40.3mm

Spring Wire Diameter = 3.85mm (+/-0.1mm)
For a load of 57kg, length is 24.8mm
For a load of 25kg (+/-0.2kg), length is 35.5mm
Free Length of 44.4mm


Have fun!

Offline 678

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Oct 2007
  • Posts: 373
  • Gender: Male
  • Last Login:September 20, 2015, 05:51:28 pm
อ่านแล้วได้ความรู้และคันไปพร้อมกันดีครับ แต่ก็ชอบครับติดตามอ่านมาตลอด :good: :good: :good:

Offline Time crisis

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Feb 2007
  • Posts: 192
  • Gender: Male
  • Last Login:July 26, 2011, 02:40:16 pm
ขอบคุณที่ชื่นชอบและให้เกียรติติดตามอ่านอีกครั้งครับ  &v&

ในส่วนของ (ว่าจะตั้งชื่อว่า) "เปิดโปงเครื่องยนต์ S14" ขออนุญาติเอา ลงเอาไว้ในนี้ http://www.geocities.com/torpan_k/flyingdutchman.htm น่าจะสะดวกกว่านะครับ

กำลังพยายามรวบรวมเอาไปใส่ไว้ในนั้นตามโอกาสจะอำนวย ตอนนี้อะไรทำได้ก็ทะยอยทำไปก่อนในระหว่างรอชิ้นส่วนกำลังเดินทางมา
วันนี้เอาฝาสูบ/ลูกสูบ/ก้าน/springs/retainers ฯลฯ มาเล่น

เมื่อสปริงที่กำลังจะตามมาอีกสองชุด หกสิบสี่ตัว  (เป็นของ used แต่ปีใหม่กว่า ไมล์ต่ำกว่า) มาถึงจะเอามาเทกองรวมกันและจะวัดค่า K ที่ละตัวๆเพื่อให้มันเป็นชุดที่ใกล้เคียงกันทั้ง 32 ตัว (นอก 16 ตัว ใน 16 ตัว) เครื่องตัวนี้ถึงไมล์น้อย แต่วางทิ้งเอาไว้ไม่ได้ใช้งานหลายปี จึงทำให้ผมไม่คิดว่าสปริงของมันจะใช้ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีสูบใดสูบหนึ่งแหละที่มันถูกกดค้างอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ ค่า K มันเสียไปแน่นอน ใครซื้อเครื่องเก่ามาเช็คตรงนี้นิดนึงก็ดีนะครับ วาล์วขาดเอาง่ายๆ เครื่องตัวนี้องศาแคมอาจจะไม่สูง แต่ lift ของมันสูง

ชักจะเริ่มขี้เกียจขึ้นมาเสียแล้วสิ  U')

เอาข้อมูลมาเพิ่มสักหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับกระทู้นี้ นี่คือสเปกการวัดค่า K ของสปริงวาล์ว
ข้อมูลสเปกเครื่องแข่ง ปลิวว่อนเต็มอินเตอร์เน็ท แต่เครื่อง stock หายากเย็นเสียเหลือเกิน อันนี้เพื่อนไซเบอร์คนหนึ่งส่งมาให้จากเยอรมัน


Spring Wire Diameter = 2.7mm (+/-0.1mm)
For a load of 28kg, length is 21mm
For a load of 11kg (+/-0.2kg), length is 31.5mm
Free Length of 40.3mm

Spring Wire Diameter = 3.85mm (+/-0.1mm)
For a load of 57kg, length is 24.8mm
For a load of 25kg (+/-0.2kg), length is 35.5mm
Free Length of 44.4mm


Have fun!


ค่า K spring เอาเครื่อมืออะไรวัดครับพี่
12-21-30-34-36-46  ชอบทั้งนั้น


Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm

[/quote]

ค่า K spring เอาเครื่อมืออะไรวัดครับพี่
[/quote]

ใช้ตัวกดไฮดรอลิกที่มีเกจ์บอกแรงดันอะไรก็ได้ครับ
ค่า K มันจะเป็นอัตราส่วนระหว่างระยะยุบหนึ่งหน่วย/แรงที่ใช้กดลงไป

ยกตัวอย่างที่อ้างถึงข้างบนก็คือ
Spring Wire Diameter = 2.7mm (+/-0.1mm)
For a load of 28kg, length is 21mm
For a load of 11kg (+/-0.2kg), length is 31.5mm
Free Length of 40.3mm

หมายถึง ถ้าสปริงยาว 40.3 mm เมื่อใช้น้ำหนัก 28 kg กดลงไปแล้วมันจะยุบลงไปเหลือแค่ 21 mm
ซึ่งถ้ามันเหลือน้อยกว่า 21 mm แสดงว่าค่า k มันเสียไปแล้ว เป็นต้นครับ
« Last Edit: April 17, 2009, 08:03:05 am by Flying Dutchman »

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
เบื้องหลังตัวแข่ง E30 M3 Group A
                                                                                                                                         

ทะยอยตามมาเรื่อยๆในเรื่องราวของ M3 ที่เกี่ยวกับการแข่งขันในสนามของมันนะครับ บทความนี้ถูกเขียนในราวปี 87 ตอนที่ BMW Motorsport GmbH เพิ่งสร้างเจ้า M3 ที่เป็นสเปกตัวแข่ง Group A ของ FIA (สมัยนั้นยังเรียกว่า FISA) เสร็จหมาดๆ แล้วผู้เขียนบทความนี้ได้ไปทดลองขับที่สนาม Hockenheim ที่ว่าเพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ ก็เพราะตอนนั้นมันเพิ่งจะสร้างออกมาได้เพียงสองคัน คันหนึ่งที่ผู้เขียนกำลังลองอยู่ อีกคันหนึ่งจอดโชว์อยู่ที่งานมอเตอร์โชว์ ผู้เขียนแกไม่ค่อยได้เขียนถึงผลของการขับเอาไว้สักเท่าไหร่ แต่จะหลักไปทางเบื้องหลังของสเปกที่เป็น Group A ของมันมากกว่า ซึ่งผมว่าน่าสนใจดี ลองอ่านดูครับ

เรียบเรียงจากบทความ Saloon Racer- F1 Style เขียนโดย Jerry Sloniger ที่ลงในหนังสือ Motor Magazine เมื่อเดือนมีนาคม 1987
...

“รถแข่งคันนี้ เป็นรถที่มีเครื่องยนต์ที่มีเชื้อสายใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ที่เราใช้แข่งรถ Formula มากที่สุด มีหลายจุดที่ใช้ชิ้นส่วนแบบเดียวกัน” นี่คือคำพูดของ Thomas Ammerschlager ผู้ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของทีมวิศวกรของ BMW Motorsport ที่พูดถึงการผสมผสานเอาเทคโนโลยี่ของรถแข่ง Formula มาใช้ในรถ M3 คันนี้ ที่เค้าเรียกมันมา BMW M3 Group A

ฟังแค่นี้แล้วคุณอาจจะยังไม่เชื่อ แต่ผมเชื่ออย่างสนิทใจอย่างทันทีหลังจากมีโอกาสได้เข้าไปนั่งอยู่บนเบาะ Recaro รุ่นใหม่ล่าสุดของมัน และขับวนไปในสนาม Hockenheim เพียงสองสามรอบ

“สรุปแล้วว่าเครื่องมันนี้มีแรงม้าเท่ากับ...??” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ยังรู้สึกทึ่งไม่หายกับสมรรถนะของมัน หลังจากก้าวลงมาจากรถ

“ถ้าตามที่เซ็ทมาวันนี้ก็อยู่ในราว 300 แรงม้าที่ 8000 รอบ วันนี้น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 960 kgแล้วฝนก็ตกด้วย แล้วอีกอย่างวันนี้เอาท่อไอเสียแบบธรรมดามาใส่ให้ เพราะถ้าหลังเที่ยงแล้วสนามเค้าไม่ให้ใช้ท่อตรง เสียงมันดัง จริงๆแล้วมันไปได้มากกว่านี้อีกเยอะ”

“แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว”

นี่ขนาดแค่สามร้อยแรงม้าในวันที่ฝนตกพรำๆ ถึงแม้ว่ามันจะแค่หนึ่งในสามของแรงม้าของเครื่องตัวแข่ง Formula เรายังรู้สึกว่านี่มันคือรถระดับเทพธิดาจากสวรรค์ลงมาเกิดแท้ๆ ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาจากรถคูเป้ธรรมดา แต่ความรู้สึกโดยรวม มันคือรถแข่งแท้ๆที่ถูกสร้างขึ้นมาสืบทอดตำนานความเป็น Motorsport ของ BMW จากยุค 80’s คันหนึ่งเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณไปถามแรงม้าจริงๆ พวกเค้าคงจะได้แต่ยืนอมยิ้ม เพราะ BMW ไม่เคยบอกแรงม้าที่แท้จริงให้ใครรู้จนกว่าเครื่องตัวนั้นจะถูกปลดระวางไป นี่คือเรื่องปกติของ BMW Motorsport

Thomas Ammerschlager หัวหน้าทีมวิศวกร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำรถแข่ง Ford Capri ให้กับทีม Zakspeed กล่าวอย่างถ่อมตัวเมื่อตอนเข้ามารับตำแหน่งนี้เมื่อปี 1985 ว่า เค้ามีส่วนร่วมในความสำเร็จโครงการ M3 Group A นี้แค่ 10 เปอร์เซนต์ เพราะโครงการนี้มันถูกเตรียมเอาไว้เป็นอย่างดีมาก่อนหน้านี้แล้ว แม้กระทั่งชื่อของรถรุ่นนี้เมื่อตอนที่เริ่มโครงการตอนแรกๆ ก็ถูกตั้งเผื่อเอาไว้ก่อนแล้วโดยใช้รหัสว่า “M” มันหมายถึงรถแข่งของ BMW และในวันนี้ M3 มันก็มาเป็นรถแข่งสนามแบบแท้ๆจริงๆ

ในอดีตก่อนหน้านี้ การแข่งขันรถ Touring เป็นอะไรที่คนไม่ค่อยสนใจ ซึ่งมีคนเข้าดูน้อยมากไม่เหมือนกับพวกการแข่ง GP หรือรถ Formula แต่หลังจาก FISA (FIA ในปัจจุบัน –F/D) ให้การสนับสนุนการแข่งขัน World (Touring) Championship และการแข่งขันรถ Touring อื่นๆพร้อมทั้งมีเงินรางวัลมากมายเป็นสิ่งจูงใจ ทำให้ทุกวันนี้การที่ได้ทำสัญญาเป็นนักขับรถแข่ง Touring ให้กับทีมใดทีมหนึ่งเป็นอะไรที่เย้ายวนใจสำหรับนักขับรุ่นใหม่ๆมาก แต่อย่างไรก็ตาม BMW จะไม่ส่งทีมแข่งและนักขับของตนเองลงสนาม แต่จะสนับสนุนแบบเต็มรูปแบบให้กับทีมแข่งที่ได้คัดเลือกเอาไว้แล้ว เพื่อเป็นตัวแทนของ BMW ลงไปแข่งแทน เช่น ในนามทีม Zakspeed เพื่อลงแข่งในรายการชิงแชมป์ในเยอรมัน ในนามทีม Linder เพื่อลงแข่งในรายการชิงแชมป์ระดับทวีปยุโรปทั้งหมด และในนามทีม Schnitzer เพื่อลงแข่งในรายการระดับชิงแชมป์โลก เป็นต้น นอกจากนี้ BMW Motorsport ยังขายชุดคิทสร้างรถแข่งที่มากับคู่มือการประกอบเล่มหนาเตอะอีกปึกหนึ่ง ให้ทีมแข่งอิสระอื่นๆเอาไปประกอบเองได้แบบไม่ยากนัก หากผู้ประกอบเป็นช่างที่มีประสพการณ์มากสักหน่อย


เนื่องจากตามกฏของ Group A ไม่ให้ใช้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์แบบ Turbo แข่ง จึงไม่มีใครคิดที่จะ Homologate รถแบบ Turbocharger ออกมา จะเห็นได้จาก M3 ที่ BMW ผลิตออกมาเตรียมในสายพานการผลิตจำนวน 5000 คันในปีก่อนหน้านี้เป็นเครื่อง Twincam 16 valve ธรรมดาทั้งหมด และอีกอย่างทีมช่างเห็นว่าเครื่องแบบ n/a บำรุงรักษาง่ายกว่ามากในขณะแข่งขัน ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบสองล้อหลัง BMW Motorsport บอกว่าไม่สนใจที่จะพัฒนามันให้เป็นรถแข่งขับเคลื่อนสี่ล้อ เว้นเสียแต่ว่า FISA กำหนดให้ล้อมีความกว้างน้อยลง

ข้อบังคับของรถแข่งใน Group A กำหนดไว้ว่า เครื่องยนต์ที่จะลงแข่งจะต้องมีปริมาตรกระบอกสูบเท่ากับเครื่องยนต์ที่อยู่ในตัวที่อยู่ในสายพานการผลิตปกติ แต่ตัวแข่ง M3 Group A นี้ BMW Motorsport ทำการขยายกระบอกสูบจาก 93.4mm ออกไปเป็น 94mm โดยคงช่วงชักเอาไว้ที่ 84mm เท่าเดิม เพื่อทำให้กระบอกสูบมีปริมาตรเพิ่มขึ้นเป็น 2500 cc ทำให้ BMW ต้องทำการออกรุ่น Evolution ที่มีเครื่องยนต์ 2500cc มาขายในสายพานการผลิตปกติด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับกฏ Homologation (ตามกฏของ FIA บังคับว่าต้องมีจำนวนในสายพานการผลิตปกติอย่างน้อย 5000 คันสำหรับการลงแข่ง และอย่างน้อย 500 คันในกรณีที่นำรุ่นนั้นๆที่ถูก Homologated แล้วมาทำการ upgrade ข่าวดีสำหรับ BMW ที่ไม่ต้องผลิตออกอีกห้าพันคัน แต่น่าเสียดายโลกใบนี้น่าจะมีรถดีๆแบบนี้ผลิตออกมาเยอะๆ-F/D) แต่อย่างไรก็ตามสมรรถนะของเครื่อง 2500 cc ของรุ่น Evolution ก็ยังไม่แม้แต่จะใกล้เคียงตัว 2500 cc ที่เป็นของตัวแข่ง Group A แม้แต่น้อย อย่างน้อยเครื่องตัวแข่งนี้ใช้ Camshaft ที่ใช้ในรถ Formula รวมไปถึงวาล์วสปริงของมันด้วย

นอกจาก Hardware ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีและแข็งแรงของมันแล้ว BMW ยังยกเครดิตให้กับระบบ Motronic Engine Management ของมันด้วย ซึ่งถูกออกแบบใหญ่โดยไม่ใช้ Airflow Meter และการควบคุมทำงานของมันสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพสนาม/การแข่งขัน โดยการเปลี่ยน Chip เพียงตัวเดียว ซึ่งจะมี Programmer นั่งอยู่ใน pit เป็นผู้คำนวณให้ว่าควรจะใช้อันไหน (ในยุคนั้นการทำแบบนี้คงเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่เบา สมัยนี้การเปลี่ยน chip ก็ออกจะกลายเป็นอะไรที่ตกยุคไปแล้ว สมัยนี้เขียน mapping program กันลงไปใหม่ที่ ECU ตรงๆเลย-F/D)


Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments