Author Topic: BMW E30 M3 กับ BMW E30 M3 EVO มีความแตกต่างอย่างไรบ้างค่ะ  (Read 107931 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
M3 Group A แบบ Complete car พร้อมแข่ง BMW Motorsport เคาะราคาเอาไว้ที่ DM 150,000 (ตัว ราคานี้เมื่อเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เทียบเป็นมูลค่าเท่าไหร่ในปี 2007 นี้ลองเทียบดูครับ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ตอนนั้น M3 ปกติคันละ DM 58,000 –F/D) ในราคานี้คุณจะได้อุปกรณ์หลักๆ เช่น

 

- Complete Engine ของเครื่องยนต์สเปก Group A หนึ่งเครื่อง

- ตัวถังพร้อมดามทั้งคันและ Roll Cage ที่ทำำมาจากโลหะผสมพิเศษที่ BMW Motorsport เคลมว่ามีน้ำหนักเบากว่าอลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักลดลงเหลือแค่ 960 kg และอาจจะเหลือแค่ 940 kg ในฤดูการแข่งปี 1988 Roll Cage นั้ทำให้ตัวถังรับแรงบิดได้เป็นสามเท่าของตัวถังปกติซึ่งอยู่ในเกณฑ์พอๆกับตัวถังของรถ Formula 1

- Air Jack ที่สี่มุมของตัวรถ

- ช่วงล่าง/จุดยึด เบรก ตามสเปก Group A เช่่นกัน ตำแหน่งจุดยึดช่วงล่างทุกจุดต้องอยู่ที่เดิมตามกฏของ FIA แต่สามารถให้เปลี่ยนวัสดุของจุดยึดได้ BMW Motorsport จึงทำมันออกมาเป็น Ball Joint ทั้งหมด รวมไปถึงลูกปืนล้อที่ใหญ่ขึ้นที่นำมาจากตัวแข่ง 635CSi จุดยึดด้านหลังถูกออกแบบมาให้สามารถปรับ Camber และ Caster ได้อย่างรวดเร็ว

- ถังน้ำมันนิรภัยที่ออกแบบมาเป็นพิเศษที่ใชช้เซนเซอร์ที่ดัดแปลงมาจากเซนเซอร์ของ Airbag จะส่งสัญญาณไปตัดการทำงานของปั๊มน้ำมันทันทีเมื่อรถเบรกหรือลดความเร็วลงด้วยแรงที่มากกว่า 5 จี โดยมีโฟมเป็นเปลือกหุ้มเอาไว้อีกชั้นหนึ่งขนาดความจุ 24.2 แกลลอน ที่ BMW Motorsport การันตีว่าสามารถดูดน้ำมันออกมาจากถังได้แม้ตอนที่เหลือน้ำมันแค่ 1% ของถัง ด้วยความจุขนาดนี้บวกกับการกินน้ำมันอยู่ที่ 8.1 mpg ทำให้ M3 สามารถลดจำนวนการเข้า pit ในระหว่างการแข่งได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในบางสนาม ท่อเติมน้ำมันแบบแรงดันสูง ที่ถูกออกแบบไว้ที่แผ่นปิดท้ายรถด้านนอก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เติมน้ำมันไม่ต้องเสียเวลายกถังหรือท่อน้ำมันสูงขึ้นไปที่ระดับไหล่ ทำให้เติมน้ำมันได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังไม่เกะกะเจ้าหน้าที่เปลี่ยนยางด้วย

- เกียร์ของ Getrag มี่เอามาจากตัวแข่ง 635CCSi เบรกด้านหน้าเป็นของ Brembo ที่มีร่องระบายและเจาะรู ส่วนเบรกหลังเป็นของ ATE แต่ BMW เห็นว่า ABS ไม่ได้มีประโยชน์อะไรในสนามแข่งจึงถอดมันออก (จริงๆแล้วในการแข่งขัน Group A ไม่อนุญาติให้ใช้ และต่อมา BMW เอา ABS มาใช้เป็นทีมแรกในตัวแข่ง M3 ในการแข่งขัน DTM – F/D) และเฟืองท้ายที่มีอัตราทดให้เลือกตั้งแต่ 3.15:1 จนถึง 5.28:1 ซึ่งจะทำให้ M3 Group A มีอัตราเร่ง 0-60mph เร็วที่สุดที่ 4.5 วินาทีที่อัตราทดเฟืองท้าย 4.44:1 (เมื่อเทียบกับ 6.7 วินาที ที่อัตราทด 3.25:1 ในตัว M3 รุ่นปกติ) และที่ความเร็วสูงสุด 145 mph

- ในตัวรถ เบาะสี่ที่นั่งถูกลดลงเหลือที่นั่่งคนขับที่เดียวที่ทำมาจาก Kevlar น้ำหนักเบาแค่ 4 kg และอุปกรณ์เครื่องวัด รวมไปถึงที่คอนโซลจะมีหลอดไฟสามหลอด สีเขียว-เหลือง-แดง ที่บอกนักแข่งให้รู้อัตราการกินน้ำมันของเครื่องยนต์ในขณะนั้นด้วย


ในส่วนของเครื่องยนต์ BMW Motorsport เน้นเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่แนะนำให้ทีมแข่งไปรื้อมันออกมาหรือไปยุ่งอะไรกับมัน แต่ช่างของ BMW Motorsport ที่ส่งไปช่วยทีมแข่งนั้นๆ มักจะได้รับการบอกเล่าความลับที่พวกทีมเหล่านั้นค้นพบบ่อยๆ แต่จะให้รู้ความลับทั้งหมดนะเหรอ? ยาก…เพราะ BMW Motorsport มักจะทำการอัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆที่อยู่ในนั้นอยู่เสมอ

จากการทดลองขับในวันนั้น รู้สึกได้ว่ารถสามารถขับได้ไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยช่วงครัชมีระยะจับเพียง 1 mm ทำให้สามารถควบคุมการส่งกำลังของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็วและรู้สึกได้ว่า Power Band ของเครื่องกว้างมาก เริ่มตั้งแต่ 5500 รอบจนไปตัดที่ 8300 รอบตามที่เซ็ทเอาไว้สำหรับการขับของเราในวันนั้น ที่ 7000 รอบเป็นจุดที่รู้สึกได้ชัดถึงพละกำลังของมันมากที่สุด BMW Motorsport ได้ทำการทดสอบชุดครัชหลายแบบจนสุดท้ายมาจบที่ของ Fichtel & Sachs ซึ่งให้ความรู้สึกที่เบาแต่หนึบมาก

เกียร์ Getrag ให้ความรู้สึกที่ชิดและกระชับ และนุ่มนวลจนแทบจะไม่ต้องใช้แรงบังคับหรือใช้ชุด Quick-shift มาช่วยเลย ส่วนเบรกต้องใช้เวลาสักพักรอจนมันเข้าสู่อุณหภูมิทำงานจึงจะรู้สึกว่ามันมีประสิทธิภาพสูงมาก ล้ออัลลอยผสมถึงแม้จะมีขนาดกว้างถึงเก้านิ้ว แต่มันก็มีน้ำหนักเบากว่าที่คิดเอาไว้มาก เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังที่ 24.2 แกลลอน ทำให้ Weight Distribution หน้า/หลังของมันเท่ากับ 50/50 พอดี ที่จุดนี้รู้สึกว่าการทรงตัวของรถเป็นธรรมชาติและควบคุมทิศทางของท้ายรถได้ง่ายมากโดยใช้กำลังของเครื่องยนต์เป็นตัวควบคุม ซึ่งจุดนี้จะเป็นข้อได้เปรียบของมันเหนือคู่แข่งที่ BMW Motorsport ได้คาดการณ์เอาไว้เช่น Ford, Holden, Nissan, และ Maserati รวมไปถึงทีมอื่นๆที่มีแนวโน้มที่จะเอารถแนว Touring มาลงแข่งใน Group A ทั้งที่เพื่อเป็นการแข่งขันจริงๆและเพื่อเป็นการสร้าง Brand Awareness ของตนต่อสาธารณชน เหมือนกับตอนที่ BMW เริ่มวางมือจากการแข่งขัน Formula เพราะชนะเสียจนคนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรแล้วว่า BMW จะชนะหรือไม่ จึงได้เบี่ยงเบนความสนใจมาที่การแข่งขันรถ Touring แทน โดยนำมันมา Homologate ในรถ M3 และนำออกขายในสายพานการผลิตปกติ และทำมันออกมาจนเป็นรถแข่งพันธุ์โหดแบบแท้ๆและแบบเต็มๆสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะแบบเจ้า M3 Group A คันนี้ โดยผสมผสานเทคโนโลยีของรถ Formula ลงไปแบบไม่ยากเย็นนัก

แต่ตอนที่ยากเย็นที่สุดก็น่าจะเป็นตอนที่ BMW Motorsport จะต้องนำรถคันนี้ไปตรวจเพื่อให้ผ่าน Inspection ตามกฏของ Group A พวก FIA เค้าคงอยากฟังคำอธิบายเหมือนกันว่าเทคโนโลยีจากรถแข่ง Formula มันลงมาอยู่ในรถแข่ง Group A ได้อย่างไร !



The Flying Dutchman: October 2007                                                                                                                                                         

Offline thanases

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2005
  • Posts: 4,173
  • Gender: Male
  • Last Login:June 09, 2018, 09:20:43 pm

ค่า K spring เอาเครื่อมืออะไรวัดครับพี่

ต้องใช้เครื่องวัดแบบนี้ครับ

สามารถกำหนดระยะได้ ว่าจะ Test ที่ช่วงยุบเท่าไร
แรงด้วย สวยด้วย

Offline thanases

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2005
  • Posts: 4,173
  • Gender: Male
  • Last Login:June 09, 2018, 09:20:43 pm
ต้องใช้เครื่องวัดแบบนี้ครับ

สามารถกำหนดระยะได้ ว่าจะ Test ที่ช่วงยุบเท่าไร
แรงด้วย สวยด้วย

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
แจ๋วเลย
ถ้ามีอยู่แล้วขอยืมใช้สักหนึ่งวัน ว่าจะไปซื้อแถวคลองถมอยู่พอดี

Thanks ล่วงหน้า

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ภาพประกอบ article ข้างบนหน่อย

นี่คือชิ้นส่วนของเครื่อง Formula ที่มันดอดมาอยู่ในเครื่องยนต์ตัวนี้ -ก้านสูบ
พอดีไปเอามาตรวจสอบ ทำความสะอาด clog ตามร่องแหวนลูกสูบเตรียมเอาไว้

ใครจะเปลียนก้านสูบเป็นแบบอื่น ยี่ห้ออื่น บอกผม จะขอซื้อเก็บเอาไว้ ถ้าเช็ค ETK ของมันเห็นราคาแล้วจะตกใจ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
น๊อตตัวนี้ (หรือเปล่า?) ที่กูรูจากยอรมันใน article ก่อนหน้านั้นเขาบอกว่า BMW Motorsport แนะนำว่าให้เปลี่ยนทุกๆ 2000 km (ถ้าทำเป็นเครื่องแข่ง)
เพิ่มมารู้ เลยไม่ได้สั่งมา สั่งมาแต่น๊อตฝาสูบ : (

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
แหวนสปริง มี oil clog เต็มไปหมด ทั้งตัวแหวนและร่องแหวน
แช่น้ำยาเอาไว้เป็นชั่วโมง ไม่ออก ต้องค่อยๆแคะกลัวร่องแหวนเสีย เป็นงานที่ใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก

แหวนใหม่สั่งมาแล้ว ได้คำแนะนำมาว่ามีทั้งแหวนขยายตัวเร็ว และแหวนขยายตัวช้า
ตั้งใจจะเอามาอัดในสนามอย่างเดียว เลยเอาแหวนช้ามา ตอนเครื่องยังไม่ได้ operating temp คงจะกินน้ำมันเครื่องน่าดู

Offline Birds12

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Apr 2007
  • Posts: 1,283
  • Gender: Male
  • Last Login:September 23, 2016, 06:39:52 pm
พี่ครับแล้วเครื่อง _m42 มันสามารถทำแรงม้า ต่อ ซีซี ได้พอๆกับ m power หรือป่าวครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
พี่ครับแล้วเครื่อง _m42 มันสามารถทำแรงม้า ต่อ ซีซี ได้พอๆกับ m power หรือป่าวครับ

Efficiency ของเครื่องตัวถนนระหว่าง M42 และ S14 ไม่ต่างกันเท่าไหร่ (12.8 cc/แรงม้า เทียบกับ 11.5cc/แรงม้า)

ส่วนในเครื่องแข่ง M42 (ที่เรียกว่า S42) และ S14 ตัว S42 เหนือกว่ามากครับ มันสามารถขึ้นไปที่สามร้อยกว่าแรงม้าได้เหมือนกัน แต่ S42 ปั่นออกมาจากปริมาตรกระบอกสูบเพียง 2000cc ในขณะที่ S14  ต้องใช้ถึง 2500 cc ทั้งนี้เกิดจากความทันสมัยกว่าเครื่องยนต์ M42

แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือการเปรียบเทียบในแง่ Efficiency ในแง่เดียว ในภาพรวมแล้วเครื่องยนต์ S14 จะกระเดียดไปทาง race engine ที่มีความทนทานกว่าครับ
ที่ไปเอามันมาเล่นนี่ก็เพราะความรู้สึกในแง่นามธรรมของตำนานของมัน และความเป็น Vintage ของมันส่วนหนึ่งครับ ไม่ได้สนใจเรื่องกำลังวังชาอะไรของมันมากนัก

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
เอาภาพประกอบมาเพิ่มเติมความแตกต่างของชิ้นส่วนเครื่องยนต์หน่อยนะครับ

พอดีเมื่อวันก่อนไปที่อู่หลังจากที่เพื่อนคันได้โทรมาบอกว่า ...พี่มาดูนี่ดิกำลังรื้อเครื่องอยู่ เลยบอกโอเค เพราะกำลังจะเอาลูกสูบของผมไปให้ช่างเค้าพอดี เมื่อไปถึงสายตาปราดไปเห็นชิ้นส่วนต่างๆของมัน พลางเอาผ้าขี้ริ้วไปเช็ดดู serial # ที่ engine block และอุทานกับตนเองว่า what the f#%&!! นึกถึงตอนที่ไปนั่ง bid กันเมื่อหลายเดือนก่อน เค้าบอกว่าเป็นเครื่อง 2.5 ก็นึกว่าเป็นเครื่องที่เอามาขยายเป็น 2.5 เฉยๆ ไม่นึกว่ามันจะถึงขนาดนี้

ได้รู้ได้เห็นจากภาพมาเป็นเวลานาน เพิ่งจะได้เห็นของจริงวันนี้ เลยบอกให้เพื่อนคันเอากล้องโทรศัพท์ของเขาถ่ายเอาไว้ จะได้เอามาเป็นข้อมูลอ้างอิงกัน

โอเคครับ ไม่ต้องสงสัยนี่คือเครื่องยนต์ 2.5 Sport Evolution แท้ๆ ลองดูข้อแตกต่างของเครื่องยนต์ของมันกับเครื่องตัว 2.3 ดูครับ

รูปแรกคือตัว Oil Jet Sprey ข้างในเครื่องของมัน ในภาพจับเครื่องหงายขึ้น (เอาฝาสูบไว้ด้านพื้น) แล้วมองลอด crankshaft เข้าไป


Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ข้อแตกต่างที่สองคือ Main Bearings ของมัน (ภาษาช่างไทยเรียกว่า ชาร์ฟ อก?)

ตัว 2.5 Sport Evolution มันจะเจาะเป็นรูพรุนแบบนี้ เพื่อให้น้ำมันผ่านเข้าไปที่แกน crankshaft ได้มากขึ้น

Main Bearing ที่จะใส่เข้าไปในเครื่องของผมก็จะเป็นแบบนี้เหมือนกัน มักจะนิยมทำกันหากจะเอาเครื่องไว้อัดในสนาม มันไม่ได้ช่วยให้เครื่องแรงขึ้น แต่มันจะช่วยให้ทนขึ้น

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ข้อแตกต่างต่อไปคือ throttle body ของมัน
2.3 จะเป็นขนาด 46 mm (อันล่าง)
ส่วนของ 2.5 Sport Evolution จะเป็น 48 mm (อันบน)

และขนาดของช่องพอร์ทไอดีก็จะใหญ่ตามขึ้นไปด้วย
คนยังเข้าใจผิดกันอีกมากว่าเครื่อง 2.5 Sport Evolution นี้กำลังอัดสูง จริงๆแล้วผิดนะครับ กำลังอัดของมันแค่ 10.2:1 น้อยกว่าตัว 2.3 ปกติเสียด้วยซ้ำไป ตัวที่สูงที่สุดคือของ Evolution II ที่จะเป็น 11.0:1

Throttle Body 46 mm ที่เห็นในภาพเป็นของเพื่อนร่วมคันอีกคนหนึ่งที่อยากจะทำมันกลับไปเป็นแบบ day-1 ด้วยเช่นกัน เครื่องตัวนี้สั่งมาจาก U.S.A และเกียร์ dog-leg สั่งต่างหากมาจากอังกฤษ 
 
ตอนนี้เขากำลังเอารถไปดาม เพื่อจะมาร่วมสนุกกับพวกเรา 40+ racing ตัวรถจะเป็น E30 ปกติ
ไว้รอให้เขามาแนะนำตัวเองละกันนะครับ

Throttle Body ของผม ตอนนี้สะอาดเอี่ยมเป็นชิ้นๆวางเรียงราย รอซีล o-ring ให้มาก่อนแล้วจึงจะประกอบกลับเข้าไป
 

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ต่อไปคือลูกสูบ bore ของ 2.5 จะใหญ่กว่า (ซ้าย) แต่จะสั้นกว่าของ 2.3

หวังว่าคงจะได้รายละเอียดไปไม่มากก็น้อยนะครับ

Have fun!

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
เอามาเป็นเกียรติสำหรับ Sierra Cosworth ที่มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิด E30M3 ขึ้นมาด้วยนะครับ จริงๆแล้ว Mercedes-Benz 190E ก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน
ใน clip นี้เป็น Andy Rouse และ Steve Soper ในสมัยที่ยังอยู่กับ Ford ซึ่งต่อมาก็มาขับ E30M3 ให้กับ BMW ด้วยกันทั้งคู่

Sierra Cosworth สีดำคาดลาย TEXACO เป็นสัญญลักษณ์ของ Ford ที่ติดตาเหมือนกับ E30M3 สีขาวคาดลาย Warsteiner เลยทีเดียว
แต่ผมชอบตัวแข่ง M3 DTM สีส้มคาดลาย Jagermeister มากกว่า

http://www.youtube.com/watch?v=DA1Ao-GBe8Q

« Last Edit: April 25, 2009, 09:03:35 am by Flying Dutchman »

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
เดี๋ยวจะน้อยหน้ากันครับ
clip นี้ classic มาก
Klaus Ludwig กับ 190E 2.5-16 ใน Nurburgring ฟังเสียงเครื่องยนต์แล้วขนลุก !

http://www.youtube.com/watch?v=0ecAE5Yedwo

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ตกไปรูปหนึ่ง

นี่คือ header ตัวแสบที่ทำให้เจ้า M3 มีอันที่จะต้องเป็น LHD เท่านั้น
อันขวาคือของ 2.5 Sport Evolution ขนาด 50/50 mm อันซ้ายเป็นของ 2.3 ปกตืซึ่งจะไปสิงสถิตย์อยู่ในรถผมหากทำเป็น LHD ทันก่อนสนามที่ 3

2.3 ใส่ใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้ - ที่จริงควรจะพูดว่าใส่ได้แต่ไม่ควรใส่ เพราะมันจะโล่งไป วิ่งไม่ออก ของบางอย่างบางทีมันก็ไม่จำเป็นต้อง the bigger, the better เสมอไป

รูปน่าจะหมดแล้วนะ

Offline ท่านขุน

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,472
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:November 25, 2022, 11:52:45 am
ชอบ clip 2.5/16 ข้างบนมากครับ

กำลังพึมพัมว่า speed ของ clip มันเร็วไปซักหน่อยรึเปล่า  แต่พอประมาณเวลาที่ 1.40 แถวๆ นั้นได้ยินคนพากย์บอกว่า
flat out .... two hundred seventy km/h.............  เลยหายสงสัย


Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
เร็วมากครับ ผมว่า 190E 2.5-16 นี่แหละคือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ M3
ใน clip นาทีที่ 6.27 ที่เป็นทางตรง คนพากย์บอกว่า "obsolutely max speed 340 km/h" !!!!
เป็นรถที่น่ากลัวมากๆคันหนึ่งเลยทีเดียว

ที่บ้านเราผมว่าทีเจ้ารถพวกนี้ครบทั้งสามรุ่น อยากให้เอามารวมตัวกันวัน trackday จัง ภาพออกมาคงจะสวยงามไม่น้อย  :><:

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
คุณ Ton
ขออนุญาติเอามาแปะไว้ที่นี่นะครับ พอดีผมไม่มี email
ที่ Peligan ที่ระบุไว้คือ set ละ 1 กระบอกสูบ ซึ่งจะประกอบไปด้วยแหวน 3 ตัว
เพราะฉนั้นต้องสั่ง 4 set นะครับ อันนี้เป็น order ที่ผมสั่งเมื่อเดือนก่อน ผมลองเช็คแล้วปรากฏว่าเค้าเหลือแค่ 1 set เท่านั้นเอง

ลองดูที่นี่ครับ แพงกว่าอีกนิดหน่อยแต่ถ้าหาไม่ได้แล้วก็คงจะต้องเอา เป็นของ GOETZE เหมือนกัน

ผมเข้าใจว่ายี่ห้อนี้ก็เป็น OEM ให้กับ BMW ซึ่งถ้าเบิกจากศูนย์ที่เยอรมัน (ที่แพงมหาโหด) ก็จะได้ยี่ห้อนี้เหมือนกัน

http://cgi.ebay.com/ebaymotors/BMW-E24-M6-E28-M5-E30-M3-NEW-REPAIR-KIT-PISTON-RING-STD_W0QQitemZ250401057812QQcmdZViewItemQQptZMotors_Car_Truck_Parts_Accessories?hash=item250401057812&_trksid=p4506.c0.m245&_trkparms=72%3A1205%7C65%3A12%7C39%3A1%7C240%3A1318

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
ส่วน head gasket ให้เพื่อนไปถามที่ศูนย์ที่อเมริกาก็ไม่มีของต้องสั่งจากเยอรมันเหมือนกัน ก็เลยให้ทางบาเซโลน่าเขาสั่งตรงมาให้ที่นี่เลย มันก็ตีตราว่าของ GEOTZE เหมือนกัน แต่จริงๆผมว่ามันมีทุกยี่ห้อแหละ เพียงแต่ว่า lot นั้นๆทาง BMW จะไปจ้างใครทำเท่านั้นเอง ที่ตีตราเป็นของ Erling ผมก็เคยเห็น

อันนี้ไม่ต้องเบิกนะครับ ตอนนี้มีทั้งของ GEOTZE, Erling, และของตัวแข่ง 2.3 Gr.A (Motorsport Part) อยากได้อันไหนเดี๋ยวมาเลือกเอาไปครับ
« Last Edit: April 28, 2009, 11:53:24 am by Flying Dutchman »

Offline columbus

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2007
  • Posts: 1,555
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:August 27, 2014, 03:46:09 pm
สอบถามมีใครรู้จัก ray corman บ้าง เคยได้ยินว่า เคยมาแต่ง bmwในเมืองไทย เคยมาคลุกคลีแถวอู่ดัง แถวเอกมัย อยากทราบประวัติ ความเป็นมา คับ ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความกระจ่างคับ
knowledge is power

ความสุขอันแท้จริงมิได้เกิดจากภายนอก หากเกิดจากภายใน

อยากมีเกียรติ  ต้องให้เกียรติ

Offline ท่านขุน

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,472
  • Country: 00
  • Gender: Male
  • Last Login:November 25, 2022, 11:52:45 am


อายุเท่าไหร่แล้วไม่รู้  แต่ว่าปี 2007 ยังขับรถแข่งอยู่เลย
"in 2007 with just a five weekend schedule, Ray again won the South Atlantic D Modified Championship in Lou Mendola’s 1992 325 and finished 2nd out of 65 cars in the BMW CCA National Championship."

Offline thanases

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Sep 2005
  • Posts: 4,173
  • Gender: Male
  • Last Login:June 09, 2018, 09:20:43 pm
สอบถามมีใครรู้จัก ray corman บ้าง เคยได้ยินว่า เคยมาแต่ง bmwในเมืองไทย เคยมาคลุกคลีแถวอู่ดัง แถวเอกมัย อยากทราบประวัติ ความเป็นมา คับ ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความกระจ่างคับ

Ray Korman

http://www.kormanfastbmw.com/about.htm
แรงด้วย สวยด้วย

Offline mata

  • Member
  • *****
  • Join Date: Mar 2008
  • Posts: 129
  • Gender: Male
  • Last Login:November 15, 2012, 05:49:51 am
มาเสพ...ครับ

Offline Flying Dutchman

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Dec 2005
  • Posts: 2,685
  • Last Login:April 15, 2018, 11:17:57 pm
จากการเก็บข้อมูลมาจากพี่ดำเนิน (สปีด) หลายปีก่อน Ray Korman เป็นทหารอากาศอเมริกันที่มาตั้งฐานทัพในประเทศไทยสมัยสงครามเวียตนาม พอปลดประจำการแล้วคงติดใจเมืองไทย จึงอยู่ต่อและทำรถแข่ง BMW เริ่มจาก BMW 1800 (ถ้าจำไม่ผิด) โดยใช้สถานที่ของบริษัทยนตรกิจซึ่งตอนนั้นพี่ดำเนินยังทำงานเป็นช่างอยู่ที่นั่นจึงรู้จักกัน

ตอนหลัง Ray กลับไปอเมริกาและก่อตั้ง Korman Autoworks ขึ้นมาทำรถแข่ง BMW สารพัดรุ่นจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ และทุกวันนี้ก็ยังทำรถแข่ง Vintage BMW อีกด้วย เคยขับรถผ่านไปแถว Greensboro ใน North Carolina ที่โรงงานตั้งอยู่เมื่อสิบกว่าปีก่อนแต่ไม่ได้แวะเพราะเป็นตอนกลางคืน และเมื่อสองปีก่อนก็ผ่านไปอีกทีก็ดันเป็นตอนกลางคืนอีกเหมือนกัน แต่สัญญากับตัวเองว่าจะต้องไปเจอตัวให้ได้ และขอรูปเก่าๆของพี่ดำเนินไปด้วย จะได้ถามว่ายังจำคนนี้ได้ไหม


Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments