Number 9 Grill จากปูถึงเป็ดและสเต็กสารพัดชนิด อร่อยหลากหลาย
จากประสบการณ์การเปิดร้านอาหารในอเมริกามาหลายสิบปี ทำให้ร้าน "Number 9 Grill" ถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อนำเสนอเมนูสเต็กอร่อยๆ และอีกสารพัดเมนูแบบมีครบตั้งแต่ Appetizer ไปจนถึง Main Course และของหวาน ในราคากำลังดี เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ชอบสรรหาอาหารอร่อยๆ และปรุงอย่างประณีต โดยไม่ต้องไปกินถึงโรงแรมหรู
และด้วยการจัดร้านที่มีทั้งโซนที่นั่งตามปกติ โซนส่วนตัว และโซนบาร์ ทำให้ "Number 9 Grill" เป็นได้ทั้งร้านที่มานั่งกินอาหารอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และร้านสำหรับดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้วยังสะดวกสบายกับลานจอดรถด้านข้างของร้าน ที่ไม่ต้องไปจอดข้างทาง หรือต้องเดินไกลๆ แบบร้านในย่านใจกลางเมือง ทำให้การมาแฮง เอาท์ที่ "Number 9 Grill" สะดวกสบายยิ่งขึ้น
และเพื่อให้ความอร่อยครบเครื่อง ลองสั่งอาหารให้ครบทั้งคอร์ส จะยิ่งได้สัมผัสรสชาติของ "Number 9 Grill" ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
Appetizer ที่อุดมไปด้วยรสชาติแห่งท้องทะเล
เริ่มด้วย Appetizer ที่จะช่วยเรียกน้ำย่อยให้พุ่งปรี๊ด และเริ่มทำงานได้ดีขึ้น
Maryland Crabmeat Soup
"Maryland Crabmeat Soup" (ราคา 160 บาท) ซุปเนื้อปูที่หอมกลิ่นปูและกลิ่นทะเลมาแต่ไกล ซุปเข้มข้นหอมมัน และมีเนื้อปูอยู่ในทุกอณูของซุป ให้ความรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของท้องทะเลอย่างแท้จริง
"Pan Fried Soft Shell Crab"
"Pan Fried Soft Shell Crab" (ราคา 225 บาท) ปุูนิ่มทอดราดซอสสูตรพิเศษที่มีรสเผ็ดเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมพีชและลิ้นจี่ ที่ช่วยสร้างความสมดุลให้กับรสชาติเป็นอย่างมาก ปูนิ่มรสชาติกำลังดี และทอดมาแบบกรอบไปทั้งตัว พอกินคู่กับซอสรสเผ็ดและผลไม้รสเปรี้ยวแล้ว จะได้รสชาติที่หลากหลายในหนึ่งคำ
"Cesar Salad"
"Cesar Salad" (ราคา 210 บาท) แล้วจบกระบวนการเรียกน้้ำย่อยด้วย ซีซาร์ สลัดที่ใช้น้ำสลัดซีซาร์แบบสีน้ำตาล ไม่ใช่น้ำสลัดซีซาร์สีขาวที่ใส่ชีสแบบที่คุ้นเคยซึ่งน้ำสลัดซีซาร์แบบสีน้ำตาลนี้ให้รสชาติที่เข้มข้นกว่า แต่ก็ให้สัมผัสที่บางเบากว่าแบบชีส
Main Course ที่เสิร์ฟสเต็กหลากหลายสไตล์
จากนั้นก็มาถึงอาหารจานหลักกันบ้าง กับสเต็กนานาชนิด ที่มีขนาดใหญ่สมราคา และระดมเสริมด้วยเครื่องเคียงนานาชนิดให้สเต็กแต่ละจาน อร่อยลงตัวยิ่งขึ้น
"Steak au Poivre Pepper Steak (US Beef)"
"Steak au Poivre Pepper Steak (US Beef)" (ราคา 640 บาท) สเต็กเนื้อพริกไทยดำสไตล์ฝรั่งเศส เป็นสเต็กเนื้อยูเอสชิ้นโต ปรุงสไตล์ฝรั่งเศษ ราดด้วยน้ำเกรวี และเสิร์ฟพร้อมแมช โพเทโท กับผักลวกคลุกเนยรสละมุน
"Oven Roasted Lamb Shank"
"Oven Roasted Lamb Shank" (ราคา 590 บาท) ขาแกะชิ้นใหญ่อบไวน์แดง เสิร์ฟคู่กับพาสต้า และชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสไวน์แดงด้านล่าง เนื้อแกะหมักจนได้ที่ และใช้เวลาในการอบจนขาแกะนุ่ม และเปื่อยกำลังดี ไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อย
"Roasted Ducking Cherries Sauce"
"Roasted Ducking Cherries Sauce" (ราคา 425 บาท) เป็ดครึ่งตัว เนื้อหนานุ่มหมักกับเครื่องเทศจนไร้กลิ่น แล้วนำไปอบกับซอสเชอร์รี่ จนเปื่อยนุ่ม รสชาติน้ำซอสหวานอมเปรี้ยว ให้ความรู้สึกถึงรสชาติแบบจีนผสมฝรั่ง
จบด้วยของหวาน และเครื่องดื่มสร้างความซูซ่า
"Chocolate Souffle with Ice Cream"
แล้วปิดท้ายมื้ออร่อยด้วย ของหวานน่าลิ้มลองอย่าง "Chocolate Souffle with Ice Cream" (ราคา 215 บาท) ที่ต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 20 นาที แนะนำให้สั่งตั้งแต่กำลังเริ่มต้นอาหารจานหลัก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องคอยนาน เพราะซูเฟล่เป็นขนมที่ต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน และทางร้านทำออกมาจานต่อจาน เมื่อมีลูกค้าสั่งเท่านั้น จึงจะทำการอบขนม ด้วยเหตุนี้ ช็อกโกแลต ซูเฟล่ จึงยังฟูและหนานุ่มท้าทายให้จรดปลายช้อนลงไปตักเนื้อซูเฟล่นุ่มๆ ที่เทครีมลงไปด้านใน ขึ้นมาชิม
แล้วเมื่ออร่อยกับสเต็กชิ้นโตแล้ว ก็ต้องมีเครื่องดื่มเด็ดๆ มาสร้างความซูซ่าให้เกิดแก่ปลายลิ้นกันหน่อย อาจเริ่มด้วย "ลิ้นจี่มาร์ตินี่" (ราคา 275 บาท) หอมกรุีนกลิ่นลิ้นจี่ เหมาะจะสั่งมาจิบคู่กับ"Pan Fried Soft Shell Crab" ที่มีลิ้นจี่เป็นส่วนประกอบ
"บลูเบอร์รี่ค็อกเทล"
หรือ "บลูเบอร์รี่ค็อกเทล" (ราคา 275 บาท) และ "สตรอเบอร์รี่ ไดคิรี" (ราคา 275 บาท) รสชาติเปรี้ยวอมหวาน แทบจะไร้ความขมของแอลกอฮอลล์ เหมาะจะสังมาจิบคู่กับสต็กเนื้อ, สเต็กหมู และเป็ดอบ
"มาการิต้า"
ส่วนเครื่องดื่มรสชาติร้อนแรงอย่าง "มาการิต้า" (ราคา 275 บาท) ที่มีส่วนผสมของมะนาว และมีความสดใสในแบบฤดูร้อนแฝงอยู่ในรสชาติ ก็เหมาะจะสั่งมากินคู่กับ Appetizer ที่มาจากทะเลทั้งหลาย เช่น หอยลายอบเนย และซุปปู
หากกำลังมองหาร้านอาหารที่พิถีพิถันในการทำอาหารคุณภาพระดับโรงแรม พร้อมบรรยากาศชิลล์ ลองแวะมาที่ "Number 9 Grill" หรือท่านมารสารถอ่ารรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.wongnai.com/articles/number-9-grill 
