สมัยลานพระรูป จำไม่ได้ว่าเคยมีภาพไหม?
เนื่องจากในกรุงเทพ สมัยนั้นยังไม่มีลานของโลตัส คาร์ฟู ก็มีแต่ลานพระรูปที่เปิดไฟสว่างไสว
จึงได้มีคนที่ไปสักการะพระบรมรูปทรงม้า แล้วก็จอดรถกัน จอดไปจอดมาก็เริ่มคุยกันทักกัน
กลุ่มแรกๆที่ไปจะเป็นคุณพ่อของคุณต้นเซียนโฟลค์นะครับ
จากนั้นก้กลายเป็นธรรมเนียมโดยแบ่งเขตกันดังนี้
โฟลค์หางม้า
มินิเสือป่าเลี้ยวซ้าย
อิตาลี(ยกเว้นอัลฟา) ประตูสวนอัมพร
ประตูเสือป่ามอไซด์ต่างๆ
อัลฟามาหลังๆน้ำพุริมคลองก่อนสะพานมัฆวาฬ
หลังๆก็มีกลุ่มต่างๆวนเวียนมามากมาย มีทั้งดีชั่วปะปนไป
บางกลุ่มมีเก็บเงินค่าเข้ากลุ่ม มีรับน้อง แต่ของอิตาลีแค่เดินมาทักกันก็จบ
ตกเย็นวันเสาร์ผมจะล้างเคลือสีกระต่ายน้อย แล้วขนหนังสือใส่รถไป
ไปถึงใครมีรถรุ่นไหน เขาไม่รู้เรื่องไม่เคยรู้ก็จะมีตำราให้อ่าน
แต่ก้มีบางคน ไม่มีมารยาท เอาหนังไปสือทำเปียกไปม้วนพับมา
หลังๆก็ตอนดูหน้าคน ยิ่งเจอขโมยรูปไป เป็นเด็กขับ1100มาเข้ากลุ่ม แล้วก็แฮ๊บไปเลย...
สนุกมากครับ ตอนท่านขุนมากับหมอกนก ตาเอกมา ท่านขุนเอาไข่ต้มมา หมอกนกเอาเบต้าห้าตูมา
แต่งกายปอนๆ เดินดกเบียร์ช้างมาเจอกระต่ายน้อย เลยได้คุยกัน
ตั้งแต่นั้นมาก็จับกลุ่มคุยกันยันตีสามทุกเสาร์
ก่อนกลับผมจะแวะไปทักคุณปกรณ์กลุ่มมินิ แกจะยัดให้ดกเบียร์(ทั้งที่ผมก็ดกมาทั้งคืนแล้ว)
จากนัน้ก็กลับบ้าน ตื่นเที่ยงบ่ายไปตามเรื่อง
จนภายหลังมีพวกรถซิ่งมาอัดรถ จึงได้ย้ายไปมัฆวาฬ
และภายหลังสมเด็จพระบรมท่านเสด็จมาประทับที่วังสุโขทัย จึงได้ย้ายออกกันถาวร
แต่เสน่ห์ของลานก็ยังมีให้ฝังใจ
ผมจึงอยากให้บรรยกาศของลานมีอยู่ในบ้านบางกอกแห่งนี้เสมอครับ