Topic: <-- Singha Classic Car Race @ Pro. Racing Series 2011 -->

[spankinfish]

ลองดูเพือนบ้านที่เค้าแข่งกันเ


Class A            Cars with less than 1800 cc per 1,000 Kgs, provided that weight penalties will be added to the minimum permissible weight as follows:
Pushrod engine – Nil Single overhead cam engine: +5% (i.e. 1800cc per 1,050 Kg) Twin overhead cam engine: +10% (i.e. 1800cc per 1,100 Kg)
Class B Cars between 1800cc and 2700cc per 1000 kgs
Class CCars with non-original engines (turbo or supercharged engines limited to 3000cc).
Class O Cars with more than 2700cc per 1000 kgs
Class R Cars with turbo or supercharged engines are limited to 2000cc. No other specific restrictions but entry is subject to the absolute discretion of the Racing Committee.
Cc to weight ratio is calculated as engine cc divided by weight of car x 1,000.




3A.   In exceptional cases, a car may, at the absolute discretion of the Racing Committee, be transferred to a lower class, if the Racing Committee is satisfied that
(a)   the car is substantially unmodified, and (b)   it is unlikely to be competitive in its original class
Final 2010 Version: 19 January 2010CLASSIC CAR CLUB of HONG KONG (1989) LTD.   Page 4 of 13 RACING REGULATIONS 2010
Any competitor who wishes to take advantage of this exception under Reg.3A must apply to the Racing Committee for transfer before his first race of the season. However, the Racing Committee will retain the power to review the transfer during the racing season and to transfer the car to another class, if its race performance so warrants.
4.   UWeight: Classes A and B (allowed tolerance is within 10 kg)
(a)   The weight declared on the Vehicle Identity document referred to in Appendix 1 will be the minimum post-race weight without the driver for the class entered calculated as per Rule 3. A car weighing less than this declared weight will be re-classified.
(b)   All Cars must be weighed on approved scales prior to the first race of the season or the first race for which the Car is entered, and classified accordingly. Thereafter all cars will be weighed at scrutineering (and any other time as may be prescribed by the Race Committee) at each race meeting.
(c)   Any car subsequently found underweight will be moved to the next higher class; any points earned will be allocated accordingly.

[spankinfish]

ทั้งหมด

[อู๋ Skyline < ID 19 >]

ตรงนี้ อ่านแล้วสับสนครับ . . . ดูกฏมันขัดกันเองระหว่างข้อหลักและข้อย่อย
 
 
 

 
2.1.4        เครื่องยนต์
2.1.4.1 เครื่องยนต์จะต้องมาจากผู้ผลิตเดียวกับตัวรถและเคยมีการผลิตออกจำหน่ายในตัวถังรุ่นนั้นๆ หรือจากผู้ผลิตอื่นตามที่ตัวถังรถรุ่นนั้นๆเคยใช้และได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตตัวถังในสมัยที่รถคันนั้นมีจำหน่าย
2.1.4.1.1 สามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่ไม่ตรงกับตัวรถได้แต่ต้องป็นผู้ผลิตเดียวกันและเริ่มมีการผลิตมาแล้วอย่างน้อย 25 ปี (เริ่มผลิตก่อนวันที่ 1 มกราคม 1986) 
 
 

 


2.1.4.1 เครื่องยนต์จะต้องมาจากผู้ผลิตเดียวกับตัวรถและเคยมีการผลิตออกจำหน่ายในตัวถังรุ่นนั้นๆ . . .
         Corolla KE ห้ามวาง 4 AG . . . 4 A ไม่เคยมีการใส่ในตัวถัง KE ทั้งหลาย . . . = ใส่ได้แต่เครื่อง K หรือ T เท่านั้น
         Celica ต้อง 2T, 2TG, 3TG, 18RG เท่านั้น . . 4A 3S ผิดหมด
         Sunny ต้องเครื่อง A , Stanza ต้องเครื่อง L เท่านั้น . . นอกนั้นห้ามหมด, Sunny วาง L ก็ผิดแล้ว
         BMW E21, E30 ได้แค่ M10 M20 เท่านั้น
 
2.1.4.1.1 สามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่ไม่ตรงกับตัวรถได้แต่ต้องป็นผู้ผลิตเดียวกันและเริ่มมีการผลิตมาแล้วอย่างน้อย 25 ปี
      Toyota วางเครื่อง A ได้ . . .  แต่เครื่อง S ไม่ได้ (ถ้าเข้าใจไม่ผิด 3S รู้สึกจะผลิตหลังปี 86)
         Nissan วางเครื่อง CA, FJ ได้ . . .  แต่ SR ไม่ได้
         BMW วางได้แค่ M10 M20 M30 . . . แต่วาง M4x ไม่ได้, S14 ไม่ได้ (รู้สึกจะหลัง 86 เหมือนกัน)
 
 ถ้าโดนกฏแบบนี้ แทบไม่มีเครื่องหาง่าย ราคาไม่แพงให้ใช้เลยครับ

เห็นด้วยกับน้องอาร์ทครับ
ทีมไหนไม่มีพริตตี้มาปรับเพิ่มน้ำหนัก 30 กก. 
อย่างที่คุณ A-Z ว่ามา Hamachi ผมก็อดแข่งเลยสิ
เพราะอย่างที่ว่าแค่ให้ตัวรถกับเครื่องมาจากผู้ผลิตเดียวกันก็โอเคแล้ว
แต่ใช้วิธีเพิ่มน้ำหนักเอาหากเครื่องมันข้ามรุ่นไปหน่อย
เพราะอย่างว่าเครื่อง เทอร์โบผมก็โดนคูณไปแล้ว 1.7 เท่ากับ 3.4Lแล้ว
คูณมาน้ำหนักก็ 13xx กก. แล้ว อย่างโป้งว่า ต้องกินให้เยอะกว่านี้
 
 
 

ถ้าพี่ปรินซ์ลงได้ และต้องถ่วงขนาดนั้น เดี๋ยวผมสนับสนุนข้าวสาร สามกระสอบ

ไม่ได้เอาไว้กินนะ เอาไว้ถ่วงรถ ขำ ๆ นะพี่ครับ

65 mustang วางเครือง  small block 351w / 5.7x275=1567
นําหนักรถในเล่ม 1100 kg / ต้องถ่วงเพิ่ม 467 kg

อันนี้ หนักกว่า แฮะ ต้องถ่วงกันถึง 4 กระสอบครึ่ง แล้วจะมีที่วางเบาะหรือเปล่าเนี่ย ขำ ๆ นะ อย่าโกรธกันละ

[spankinfish]

 

[gowest]

คิดไปนู้นเลยนะ ....แบบขําๆ
AC cobra repleca fiber glass  (เห็นทํากันอยู่หลายคัน)
ถ้าลงเครือง big block 427 .......  6.96x275=1914
curb weight 871 kg
 
คงต้องใช้10กระสอบ    อิ อิ

[อู๋ Skyline < ID 19 >]

คิดไปนู้นเลยนะ ....แบบขําๆ
AC cobra repleca fiber glass  (เห็นทํากันอยู่หลายคัน)
ถ้าลงเครือง big block 427 .......  6.96x275=1914
curb weight 871 kg
 
คงต้องใช้10กระสอบ    อิ อิ

สิบกระสอบคงจะสนับสนุนไม่ไหว ขอเป็นสปอนเซอร์ ซักห้ากระสอบ

ส่วนอีกห้า คงจะต้องจัดหากันเอง อันนี้แหละที่ผมคิด คืออยากเห็นรถพวกนี้มาวิ่งกัน

หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอเมริกัน เยอรมัน อิตารี่ ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศษ หลากหลาย

คงจะสวยงาม พอยุ่งขึ้น ค่อยมาคิดแบ่ง เรื่องต่าง ๆ กันอีกที เมื่อไหร่จะเห็นอเมริกัน

มาวิ่งนะ อยากเห็นมาก ๆ จัดสักคันหน่อยพี่ น้องอยากเห็น ข้าวสารที่ใช้ถ่วงผมจัดให้เอง

 

[OKUMI RT]

• ผมขอเสนอกฎที่ผมชอบนะครับ น้ำหนักที่ตั้งไว้ใช้นั่งเทียนล้วนๆใช้แบบจำง่ายเป็นหลัก ใครเป็นวิศกรช่วยบอกน้ำหนักที่เหมาะสมด้วย
  เรื่องน้ำหนักเริ่มต้นนั้นผมอยากให้ตั้งไว้ที่ 1000 KG ทุกรุ่นครับเพราะการเพิ่มน้ำหนักทำได้ง่ายกว่าลดน้ำหนักมาก การหาตะกั่วถ่วงมายึดเข้าไปมันง่ายมากๆ แค่ไปซื้อเหล็กยกน้ำหนักมา สร้างจุดยึดที่รถ ร้อยน๊อต รถแข่งที่ลดเต็มที่แล้วหนักเกินตันมีเยอะ จะให้ลดลงมาเป็น 950 โลนั้นยากสุดๆครับ
  ผมอยากเห็นคนกล้าเอาเครื่องเก่าๆ คาร์บิว มาแข่ง ดังนั้นให้แต้มต่อคนใจกล้าเยอะหน่อย
  1. รุ่น Vintage Racing สำหรับรถปีลึกจริงๆ ให้สำหรับคนที่อยากเอารถสวยๆเก่าๆหายากๆมาซิ่ง รถต้องผลิตก่อนปี 1979
  ·       ห้ามเปลี่ยนจุดยึดช่วงล่าง ต้องยึดพื้นฐานช่วงล่างเดิมๆ
  2. รุ่น Classsic สำหรับรุ่นนี้ผมอยากแบ่งเป็น 2 Class คือ A และ B โดยหาก Class B มีคะแนนสะสมเกิน 25 คะแนน (ที่ 1 ได้ 10 คะแนน) ปีหน้าต้องขึ้น Class A
  
  ·       น้ำหนักรถตาม CC ของเครื่อง
  o   ต่ำกว่า 1600 CC                    1,000 kg
  o   1600-2000 cc                       1,050 kg
  o   2000-2500 cc                       1,100 kg
  o   เกิน 2500 cc                          1,150 kg
  o   ใช้คาร์บิว – 50 KG
  o   2 วาล์วต่อสูบ – 50 KG
  ·       หากใช้ยาง soft เพิ่ม 50 KG ยางสลิคเพิ่ม 100 KG
  ·       เครื่อง Turbo เอา CC คูณ 1. 7
  ·       เครื่องโรตี คูณ 1.8
  สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผมว่าการที่จะคัดเลือกรถคลาสสิคจากรถที่มีอายุ 25 ปีนั้นเริ่มจะล้าสมัย อีกไม่กี่ปีเราจะเห็น Civic EF, FC3S หรืออื่นๆวิ่งกันหัวแถวเกร่อ คิดเรื่องนี้กันไว้หน่อยก็ดีครับ

[Flying Dutchman]

ขอขยายความเรื่องลำตัดอีกครั้ง  นะครับว่านั่นคือความเห็นส่วนตัวที่มองจุดยืนของคำว่า classic car race มิได้หมายความเป็นอย่างอื่น หากทำได้เป๊ะๆก้ดี หากไม่เป๊ะก็เอาให้มันใกล้เคียงจุดอ้างอิงที่ควรจะเป็นที่สุดเท่าที่จะทำได้
 
 การทำกลับเป็นของเดิมอาจจะไม่ได้หมายความว่าต้องเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่มันเดินออกมาจากโรงงาน มันหมายความว่าทำให้มันเป็นสิ่งที่ "เคยมี" ซึ่งนั่นคือความสวยงามของ Classic car race มากกว่าเรื่องแรงเท่าไหร่ หนักเท่าไหร่ ถ้ามันจะแรงต้องแรงแบบที่มันเคยมี ไม่ใช่มาจินตนาการกันเองอะไรทำนองนั้น
 
 สมมตินะครับ..สมมติ ลองนึกภาพว่าหากมีคนหนึ่งมีใจรักใน BMW Motorsport สุดๆ (บ้างก็เรียกว่า "บ้า"  ) เพียรพยายามหาทั้งชิ้นส่วนและศึกษาหาข้อมูล กับเงินที่เม้มเมียเอาไว้อีกก้อนใหญ่เพื่อที่จะทำให้มันเป็นรถแข่ง Gr.A แบบถูกระเบียบเป๊ะๆให้เหมือนที่มันเคยประกาศศักดาไว้ในยุค 80s สมัยที่ตนเองเป็นหนุ่มๆสักคัน
 
 ห้าปีผ่านไป......ทำสำเร็จเหมือนเปี๊ยบทั้งรูปลักษณ์ตั้งแต่ลูกล้อยันหลังคา แม้แต่น้ำหนักพร้อมแข่งก็ไม่มีผิดเพี้ยน จนแทบจะเอาเหงื่อของ Roberto Ravaglia มาป้ายเอาไว้ที่พื้นรถด้วย แต่พอยกมาสนามอย่างภาคภูมิใจ กลับกลายเป็นว่ามันเป็นความความผิดที่มันมีวาล์วเยอะไป น้ำหนักเบาไป  .....อะไรทำนองนั้น....

ลองดูครับ

[อู๋ Skyline < ID 19 >]

• ผมขอเสนอกฎที่ผมชอบนะครับ น้ำหนักที่ตั้งไว้ใช้นั่งเทียนล้วนๆใช้แบบจำง่ายเป็นหลัก ใครเป็นวิศกรช่วยบอกน้ำหนักที่เหมาะสมด้วย
  เรื่องน้ำหนักเริ่มต้นนั้นผมอยากให้ตั้งไว้ที่ 1000 KG ทุกรุ่นครับเพราะการเพิ่มน้ำหนักทำได้ง่ายกว่าลดน้ำหนักมาก การหาตะกั่วถ่วงมายึดเข้าไปมันง่ายมากๆ แค่ไปซื้อเหล็กยกน้ำหนักมา สร้างจุดยึดที่รถ ร้อยน๊อต รถแข่งที่ลดเต็มที่แล้วหนักเกินตันมีเยอะ จะให้ลดลงมาเป็น 950 โลนั้นยากสุดๆครับ
  ผมอยากเห็นคนกล้าเอาเครื่องเก่าๆ คาร์บิว มาแข่ง ดังนั้นให้แต้มต่อคนใจกล้าเยอะหน่อย
  1. รุ่น Vintage Racing สำหรับรถปีลึกจริงๆ ให้สำหรับคนที่อยากเอารถสวยๆเก่าๆหายากๆมาซิ่ง รถต้องผลิตก่อนปี 1979
  ·       ห้ามเปลี่ยนจุดยึดช่วงล่าง ต้องยึดพื้นฐานช่วงล่างเดิมๆ
  2. รุ่น Classsic สำหรับรุ่นนี้ผมอยากแบ่งเป็น 2 Class คือ A และ B โดยหาก Class B มีคะแนนสะสมเกิน 25 คะแนน (ที่ 1 ได้ 10 คะแนน) ปีหน้าต้องขึ้น Class A
  
  ·       น้ำหนักรถตาม CC ของเครื่อง
  o   ต่ำกว่า 1600 CC                    1,000 kg
  o   1600-2000 cc                       1,050 kg
  o   2000-2500 cc                       1,100 kg
  o   เกิน 2500 cc                          1,150 kg
  o   ใช้คาร์บิว – 50 KG
  o   2 วาล์วต่อสูบ – 50 KG
  ·       หากใช้ยาง soft เพิ่ม 50 KG ยางสลิคเพิ่ม 100 KG
  ·       เครื่อง Turbo เอา CC คูณ 1. 7
  ·       เครื่องโรตี คูณ 1.8
  สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผมว่าการที่จะคัดเลือกรถคลาสสิคจากรถที่มีอายุ 25 ปีนั้นเริ่มจะล้าสมัย อีกไม่กี่ปีเราจะเห็น Civic EF, FC3S หรืออื่นๆวิ่งกันหัวแถวเกร่อ คิดเรื่องนี้กันไว้หน่อยก็ดีครับ

อย่างที่คุณส้ม ยกขึ้นมา ผมว่า จะสรุปง่ายกว่า ที่มีกฎเรื่องเครื่องยนต์แยกไปมากมาย

และมองดูเป็นอะไรที่ชัดเจน แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนตาม ที่เห็นสมควรของผู้จัด

แต่อย่างที่ เริ่มต้นขึ้นมาก็ไม่ได้ไม่ดี และอ่านหลาย ๆ ความเห็น ก็ทุก ๆ ความเห็นก็เป็นสิ่งที่ดี

ที่ทางผู้จัดจะเป็นผู้ที่จะนำข้อมูลที่ได้มา ไปวิเคราะห์ หาจุดลงตัว ซึ่งผมมองว่า

รถที่เราจะนำมาทำรถแข่ง ในแบบที่เป็นอยู่ อย่างน้อย ก็ต้องเป็นรถที่ซื้อมาเพื่อสร้างให้เป็นรถแข่ง

คงจะไม่มีใครนำรถแบบนี้ไปใช้งาน ในชีวิตประจำวัน เพราะไม่สะดวกในทุก ๆ ด้าน

อยากจะให้มองในเรื่อง ความปลอดภัยเป็นหลักมากกว่า เพราะหากวันหนึ่ง เราละเลยในเรื่อง

ความปลอดภัย แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาก กับคนที่รู้จัก หรือที่เราเรียกว่า เพื่อน เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

ในขณะแข่งขัน ผมจึงมีคำถามว่า แรงแล้วยังไง เบาแล้วยังไง หากไม่ป้องกัน ตั้งแต่เริ่ม ถามหน่อยว่า

ทั้งคนจัด และพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ จะสนุกกันต่อหรือไม่ ผมว่า เลิกกันทั้งวง แน่ ๆ ไม่สนุกกันอีกต่อไป

รถซ่อมได้ ซ่อมไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหา แต่ชีวิต และ ร่างกาย ของพี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ ทุกท่าน ไม่ห่วงกันหรือไร

หากทางผู้จัดออกกฎมาเป็นที่เรียบร้อย หากใครอยากจะแข่ง อยากจะทำรถ ก็ต้องมาดูว่าต้องทำอย่างไรถึงจะถูกกฎ

และกรรมการ ตรวจรถ ในเรื่องความปลอดภัย จะหยวน ๆ ให้ลงแข่งไม่ได้เด็ดขาด ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะ

ผมมองจุดนี้สำคัญมากกว่า ความแรง และความได้เปรียบเสียเปรียบ อันนี้ ขอเสนออยากให้มองตรงนี้มากกว่าจุดอื่น ๆ

อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ สวัสดีครับ

[ท่านขุน]

เรื่องจุดยึดbelt นั่นไม่มีอะไร. ถอดใส่ให้ถูกต้องก็จบครับ

เพียงแต่ถ้ามีบอกเอาไว้ในกฎกติกาก็จะดีมากครับ

[spankinfish]

ขอถามโง่ๆอีกครั้นนะครับ น้ำหนักนีรวมคนขับหรือไม่รวมครับ

[NUK]

สุดท้ายต้องดูจุดประสงค์ของการจัดแข่ง ว่าอยากเห็นรถประเภทไหนมาวิ่งบ้าง เช่นรถแรง รถแต่ง รถเดิม ฯลฯ ถ้าเน้นแข่งจริงจังเป็นหลัก ผมไม่ค่อยทราบ ก็คงต้องให้ท่านที่อยู่ในวงการแข่งรถกำหนดดีกว่า แต่ถ้าแข่งขันเพื่อภาพลักษณ์ การท่องเที่ยว และชื่อเสียงของประเทศ และผู้จัดร่วมไปด้วย ผมขอออกช่วยเสนอความคิดเห็นประมาณนี้ครับ


เรื่องปี ผมก็คิดอย่างคุณส้มนะครับ ถ้าอยากเห็นภาพสวยๆ จริงๆ แบบที่จะเป็น international event ได้ น่าจะเอาปีที่ผลิตมากำหนด เช่นประมาณว่า
 
รุ่น Prewar (รถที่ผลิตก่อน 1945) ถ้ารถน้อยก็วิ่งรวมกัน แต่รางวัลแยก เช่น Original engine กับ Replacement engine


รุ่น Postwar (รถที่ผลิตระหว่าง 1945-1959) ถ้ารถน้อยก็วิ่งรวมกัน แต่รางวัลแยก เช่น Original engine กับ Replacement engine


รุ่น Classic (รถที่ผลิตระหว่าง 1960-1975) ถ้ารถเยอะก็เพิ่ม แบ่งตาม cc. และแบ่ง Original production engine กับ Replacement engine


รุ่น Retro (รถที่ผลิตระหว่าง 1975-1985) รุ่นย่อยอาจแยกตาม cc เป็น production กับ open เช่น ไม่เกิน 1,600 production กับ open ถ้ารถเยอะ ก็กำหนดน้ำหนักเพิ่มด้วย หรือจะประเทศที่่ผลิต ฯลฯ


การกำหนดรุ่นย่อย ก็ตามความเหมาะสมของจำนวนรถที่ลงวิ่งอีกที แบบนี้โอกาสได้เห็นรถสวยๆ เป็น Car event ระดับโลกก็ไม่ยาก (เพราะประเทศเรารถคลาสสิคสวยๆ เยอะอยู่แล้ว  ) เรื่องข้อกำหนดต่างๆ ของรุ่นปีใหม่ๆ ก็อาจจะมีมากกว่ารุ่นปีเก่าๆ อะไรทำนองนี้ครับ เพราะรถปียิ่งเก่า เจ้าของก็อาจจะไม่ค่อยอยากปรับเพื่อเข้าหลักเกณฑ์ที่มากมายนัก สุดท้ายก็เลยไม่เอามาวิ่งให้ได้ชมกัน


อีกนิดที่อยากเสริมสำหรับการแข่งขันรถคลาสสิคคือ หากรถเดิมๆ เครื่องตรง น้ำหนักตรง ผมว่าน่าจะกำหนดเรื่องหลักๆ คือความปลอดภัย และก็แค่ขนาดเครื่องก็น่าจะพอ มากกว่าจะไปกำหนดเรื่องน้ำหนักต่อ cc. ฯลฯ เพราะไม่อย่างนั้นคงยากที่เราจะได้เห็นรถที่เกิดมาสปอร์ตจริงๆ มาวิ่งครับ เพราะส่วนมากจะแรงและค่อนข้างเบาตั้งแต่เกิด (จะให้เอามาถ่วง 5 กระสอบ 10 กระสอบ คงไม่ค่อยมีใครทำ  ) สุดท้ายก็จะได้เห็นแค่รถรุ่นใช้งานทั่วไปมาวิ่งเสียมากกว่าครับ


เรื่องกำหนดจำนวนการผลิด 2,500 คันต่อปีนี่ผมว่าไม่น่ากำหนด เพราะรถคลาสสิคจริงๆ มันผลิตไม่ค่อยถึงกันอยู่แล้ว 

ผมเสนอเผื่อเป็นแนวคิดเพิ่มเติมตามแบบผู้ชมครับ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ทางผู้จัดเห็นเหมาะสมครับ ไม่ว่าจัดอย่างไรก็น่าจะเป็นผลดีกับวงการรถคลาสสิคบ้านเราอยู่แล้วครับ เป็นกำลังใจให้ผู้จัด และผู้เกี่ยวข้องครับ 

[columbus]

บางทีผมอาจจะไม่ได้ลงแข่ง แต่ก็รู้สึกดีที่ได้มีส่วนออกความเห็นในสิ่งริเริ่มที่ดีอันนี้ เขียนให้มันมีกฏมีเกณฑ์ที่เป็นหนึ่งเดียวเถอะครับ รับรองว่าสนุกกว่านี้แน่นอน

การเอารถยี่สิบสามสิบปีมาทำกันร่วมล้าน (หรือบางทีมากกว่า) มันไม่ใช่เรื่องของการวิ่งกันขำๆแล้ว แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะต้องซีเรียสกันแบบเอาเป็นเอาตาย คลาสสิกคาร์ที่ไหนในโลกเขาก็ไม่มีใครเขาทำแบบนั้น แต่อย่างน้อยมันต้องมีกฏที่ solid ที่อยู่ภายใต้ตรรกกะที่เป็นเหตุเป็นผลกัน สิ่งนี้จะทำให้มันเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน Racing คือของเล่นราคาแพง บางครั้งเงินห้าแสน แปดแสน หนึ่งล้าน สองล้าน อาจจะไม่ใช่สาระสำคัญของบางคน แต่บางครั้งหากอธิบายไม่ได้ว่า "ทำไม" มันก็เป็นเรื่องหงุดหงิดหัวใจที่เป็นเหตุทำให้ไม่ขำได้เหมือนกัน ยังไม่รวมบางคนที่อาจจะเริ่มไม่ขำตั้งแต่เริ่มหาเงินไปทำรถแล้ว...

ตอนนี้ที่มันดูหลากหลายยิบย่อยอีรุงตุงนังก็เพราะมันมีหลาย matrix แถมรายละเอียดปลีกย่อยก็ขัดแย้งกันเอง ลองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้โล่งๆ ลืมสิ่งที่เคยรู้ เคยทำในอดีตมาทั้งหมด และลองคิดดูว่าสิ่งที่เรากำลังพยายามจะเดินไปอยู่มันอยู่บนพื้นฐานของความจริงและ matrix อะไร

คลาสสิกคาร์ Race คืออะไร? มันคือการเอาสิ่งเก่าๆที่เคยมีอยู่ในอดีตกลับมาโลดแล่นใหม่ ในความเห็นของผมนี่คือ matrix ของมัน ในเมื่อมันมีจุดอ้างอิงอยู่แล้วไฉนจึงต้องมาคิดกฏเกณฑ์ว่ามันสามารถแปลงร่าง เป็นอะไรได้บ้างในอนาคต ซึ่งนั่นคือ matrix ของเรซซิ่งทั่วไปที่มันยังไม่มีจุดอ้างอิง แต่มาคุยกันว่าในปีหน้าจะทำอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นโจทย์ของ WTCC ให้ออกมา เครื่องแบบไหน หนักเท่าไหร่ ม้ากี่ตัว ถ้า n/a ต้องแบบนี้ ถ้ามีหอยต้องแบบโน้น จากนั้นผู้ผลิตก็ไปเอากระดาษขาวมาแผ่นหนึ่งลงมือวาดภาพให้มันออกมาตามนั้น แต่ของคลาสสิกมันมีอยู่แล้ว (และมันสมควรที่จะคง “ความมีอยู่แล้ว” เอาไว้ตามชื่อของมันด้วย) เพราะฉนั้นจะมานั่งคิดวิธีที่จะทำให้มัน “ยุบหนอ” และ “พองหนอ” กันทำไม?

ผมคงไม่คอมเมนท์ในรายละเอียดเพราะตราบใดยังไม่รู้ว่าจะเดินไปไหน มันก็คงยังไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งวิเคราะห์กันถึงเรื่องรถไฟ รถเมล์ เครื่องบิน ฯลฯ แต่อยากจะวกกลับมาถึงเรื่องที่ว่า “ขำๆ” กันอีกครั้งว่า

ถึงแม้ลำตัดแม่ประยูรจะด้นกันสดๆ โต้กันไปโต้กันมาเอาสนุกสนานเป็นหลักไม่ได้เน้นว่าใครจะชนะใครให้ตายกันไปข้าง แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีกฏเกณฑ์ว่าฉันทลักษณ์จังหวะต่างๆมันต้องสัมผัสกันอย่างไรร่วมกัน หากฝ่ายหนึ่งแหกปากเป็น Steve Tyler อีกฝ่ายโต้กลับด้วยแร็ปในสไตล์ Eminem กลับมามันคงตัดสินกันยาก และพวกเราก็รู้กันทุกคนแล้วไม่ใช่หรือว่าลำตัดเขาเล่นกันอย่างไร?

และผมก็เคยเห็นลำตัดคณะหนึ่งเอาถ้วยรางวัล…เอ้ย…ฉิ่งฉาบเขวี้ยงลงพื้นกระจายอยู่หลังเวทีก็เพราะไอ้เรื่องขำๆนี่แหละมาแล้ว

และผมก็เคยเห็นลำตัดคณะหนึ่งเอาถ้วยรางวัล…เอ้ย…ฉิ่งฉาบเขวี้ยงลงพื้นกระจายอยู่หลังเวทีก็เพราะไอ้เรื่องขำๆนี่แหละมาแล้ว
 
อ่านแล้วให้นึกเห็นภาพ ที่ผมเห็นโดยบังเอิญ  ไม่รู้ว่า เหตุการณ์เดียวกันป่าว

[ae]

ขอถามโง่ๆอีกครั้นนะครับ น้ำหนักนีรวมคนขับหรือไม่รวมครับ

รวมครับพี่เต้น ชั่งน้ำหนักหลังจากแข่งเสร็จครับ

[ae]

เรื่องจุดยึดbelt นั่นไม่มีอะไร. ถอดใส่ให้ถูกต้องก็จบครับ

เพียงแต่ถ้ามีบอกเอาไว้ในกฎกติกาก็จะดีมากครับ

 
ผมเห็นด้วยครับ เพราะสนามที่แล้วก่อนไปแข่งไม่กี่วัน... ตอนเดินๆดูความพร้อมรถตัวเองอยู่ที่บ้าน
ผมเห็นจุดยึดเบลท์ของผม ซึ่งเดิมผมทำหูยึดเบลท์ติดไว้กับรางเบาะ ก็นึกเอ่ะใจขึ้นมาได้ว่า เคยอ่านกฎมาจากที่ไหนซักที่แต่ผมจำไม่ได้แล้ว..
บอกว่า "จุดยึดเบลท์ต้องยึดลงกับพื้นตัวถังรถเท่านั้น"  ผมเลยรีบไปแก้ก่อนแข่งไม่กี่วัน เพราะกลัวว่าจะตรวจสภาพรถไม่ผ่าน..
 
ที่ไม่น่าเชื่อเลยคือตอนตรวจสภาพ รถเจ้าหน้าที่ไม่ได้มองมาในรถผมเลยด้วยซ้ำ มีเพียงตรวจแต่ไฟหน้า-หลังและไฟเลี้ยว...
 
ผมว่าตรงนี้น่าจะเข้มงวดมากๆเลยครับ เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยของนักแข่งเองและคิดว่าทางผู้จัดฯ
ก็คงไม่อยากให้มีเหตุการณ์อุบัติเหตุแบบร้ายแรงถึงขั้นบาดเจ็บแน่นอน จะมานั่งเสียใจในสิ่งที่แก้ไม่ได้แล้วไปเปล่าๆ ฝากเรื่องนี้ให้ลงไว้ในกฎด้วยครับ

[auseebkk]

SUPER CAR

• SUPER RETRO
• SUPER RETRO NA

F.Y.I.






 

[OouVintage]

สวัสดีครับ ต้องขอโทษที่มาช้านะครับ
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมความรู้น้อยกว่าคนส่วนใหญ่ที่กำลังนำเสนอแง่มุมต่างๆในที่นี้
ผมรู้เฉพาะรถที่ผมชอบเพียงไม่กี่รุ่น  และมิได้คิดตั้งตัวเป็นผู้จัดการแข่งขันแต่ประการใด
ที่ต้องมาทำอยู่อย่างนี้เพราะความจำเป็นและความบ้าส่วนตัว ฉะนั้นผมขอแจ้งให้ทราบจุดประสงค์ ความตั้งใจ ที่มาที่ไปของการแข่งขัน "Singha Classic Car"


เกี่ยวกับตัวผม:  ผมเริ่มเล่นรถคลาสสิคด้วยตัวเองเมื่อ 5-6 ปีก่อนโดยไม่รู้จักใคร ไม่มีเพื่อนอ่านเอาจาก web เมืองนอก
จนมาเจอ BKCC ผมถึงได้มีเพื่อนฉะนั้นภาพการแข่งขันรถคลาสสิคที่ผมวาดไว้ในใจจึงเป็นของที่ผมเห็น
มิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ผมมีส่วนร่วมเล็กๆกับรายการแข่งรถคลาสสิคที่มีอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มต้น
แต่พอภาพที่ออกมาไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังผมก็เบาลงเพราะไม่ได้มีใครจ้างผม ผมไม่สนุกผมก็หยุด ประกอบกับเพื่อนๆของผมที่ทำรถมาแล้วไม่มีที่วิ่ง
ผมก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ด้วยสัญญาแต่เพราะผมมีแต่เพื่อนดีๆที่ทิ้งกันแบบนี้ไม่ได้


ความเข้าใจของผม:  Classic car racing คือการแข่งขันรถยนต์เก่าที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ ศิลป์ และวิศวกรรมของสุภาพบุรุษ
ผมแปลไม่ค่อยเก่งแต่ความคิดคือ Classic car racing is a gentleman race for classic cars that has historical, artistic, and engineering value


สิ่งที่ผมอยากเห็น:  Weekend racers ที่ขับรถกันมาที่สนามแข่งเอง แข่งรถเสร็จก็ขับกลับบ้านกันเอง (เพื่อนผมมีแบบนี้หลายคน) โดยที่เป็นการแข่งขันที่สนุกสนนานและมุ่งหวังที่ความพอใจส่วนตัว มีความซื่อตรงและเป็นสุภาพบุรุษทั้งการขับขี่และการเตรียมรถ โดยคงคุณค่าของรถ classic คันนั้นๆไว้ให้มากที่สุด มีความหลากหลายของรถที่มาแข่งขัน และแน่นอนต้องปลอดภัย


ตอบ:


บางข้อที่หลายๆท่านตอบไปแล้วผมคงไม่ตอบนะครับ ขอตอบเฉพาะเรื่องหลักๆ ทั้งนี้คำตอบของผมเป็นเพียงความคิดของผมมีใช่คำตัดสินหรือกฎกติกาใดๆ
และที่พยายามแบ่งรุ่น (ไม่เกี่ยวกับเรื่องน้ำหนัก) เพราะอยากให้เห็นรถหลายๆรุ่นได้มาวิ่ง (Mini, Celica, Datsun B10, B110, B210, Alfa AR105, BMW 2002, Porsche, Mustang, 240Z) ผมอยากเห็นมากกว่า Toyota DX และ E30 เพระาผมก็รู้ว่าตัวผมเองมีส่วนทำให้การแข่งรถ classic ในบ้านเรามีความหลากหลายน้อยลง  และอยากให้คนรักรถคลาสสิคจากประเทศใกล้เคียงมาแข่งที่บ้านเราได้และเราก็ไปแข่งกับเขาได้จึงไดแปลกำบางส่วนของที่ Hong Kong Classic car ผู้จัดแข่ง Asian Classic Car Racing Series ที่สนาม Sepang, Malaysia มาใช้


1. กติกาที่เสนอคงยังไม่สามารถบังคับใช้ได้ในสนามที่จะถึงนี้ หรืออาจจะยังไม่ได้ใช้ในปีนี้เพราะผมอยากเห็นมาตรฐานแบบเมืองนอก
ที่ยืนกติกากันนานๆ เกิน 3 ปีและแก้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น


2. ผมอยากให้รถมีความปลอดภัยและขับสนุก จึงปล่อยล้ออิสระและช่วงล่างอิสระพอสมควรเพื่อความปลอดภัยและความสนุก
(DX ก็ใส่ช่วงล่างของ AE86 ได้นิครับเพราะเริ่มผลิตปี 1983 ตามที่ Wikipedia ว่าไว้)


3. ผมอยากให้มีการแบ่งรุ่นตามอายุของรถด้วยเช่น 30 ขึ้นไป 35ปี ขึ้นไป 40ปีขึ้นไปแต่ตอนนี้ยังไม่มีปริมาณพอที่จะไปนำเสนอทางผู้จัด


4. โปรดสังเกตุว่าไม่มีการแจกรางวัล Overall เพราะอยากให้แข่งกันในเฉพาะรุ่นของตัวเอง ผมมิบังอาจเขียนกติกาที่สามารถทำให้รถทุกคันแข่งดันได้สูสีหรอกครับ  ผมไม่มีความรู้ขนาดนั้นสนามที่ผ่านมาก็ไม่มีการแจกถ้วย Overall  เรื่องถ้วยประจำปีก็ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากผู้จัด เพราะเขาขอดูจำนวนก่อน
และถ้ามีก็คงจะเป็นผู้ที่มีคะแนนสะสมในรุ่นของตัวเองมากที่สุด ไม่ใช่ผู้ที่เร็วที่สุด


5. ส่วนเรื่องน้ำหนักผมก็ว่าหนักเกินไปในบางรุ่นและยังมีความเหลื่อมล้ำอยู่ โดยส่วนตัวผมว่าหนักสุดก็ไม่น่าเกิน 1,100 กิโลกรัม


6. เนื่องจากหวังว่าจะเป็น Gentleman racing ผมจึงหวังกับระบบ Honest system (ความซื่อตรง) โดยการแจ้งความจุเครื่องยนต์ตามที่ปรับแต่งไปจริงไม่ใช่ตาม cc ที่โรงงานผิตเขียนไว้เพราะมันสามารถขายความจุกันได้แต่ ลูกผู้ชายถ้าเขารู้เขาก็แจ้งครับ คนโกงอยู่ได้ไม่นานหรอกครับเดี๋ยวก็มีคนประท้วงเอง จะให้กรรมการเขามาเปิดเครื่องตวงซีซีหรือวัดแรงมาเขาคงไม่ทำหรอกครับ เพราะรายการแข่งขันหลักๆที่เป็นรถใหม่ๆและมีความหลากหลายน้อยกว่านี้เขายังทำไม่ไหวเลยครับ  กรรมการที่สนามจะตรวจเฉพาะเรื่อง Safety ครับส่วนเรื่อง spec กับรุ่นที่ลงตรงกับรถหรือไม่นั้นต้องทำกันเอง ผมอยากขออาสาสมัครด้วยซ้ำเพราะไม่มีคนช่วยครับ   


7. ถ้าใช่รถญี่ปุ่นแล้วอยากใช้เครื่อง 3S Beam หรือ SR ก็สามารถลงแข่งใน Class R (Replica) ได้
และยังมีรายการแข่งขันอีกรายการหนึ่งรองรับอยู่แล้วครับ


8. สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่าถ้ามีรถมาวิ่งกันเยอะๆผมก็พอจะมีกำลังไปขอเปิดรุ่นการแข่งขันเพิ่มขึ้นได้ (แบ่งตามปีรถ)


ใครที่สนใจก็กรุณาส่งใบสมัครมาที่ผมด้วยนะครับจะได้ไม่ไปงงกันที่สนาม ยังไงก็ขอให้แจ้งความจุเครื่องยนต์จริงตามที่ปรับแต่งมานะครับ อย่่าเอาความจุตาม spec โรงงานก่อนที่จะปรับแต่ง


Email: 1alfamale@gmail.com
โทร: 083 0000069
Fax: 02 2368261 (ใส่ชื่ออู๋ด้วยครับ)


หากข้อความใดทำให้ใครไม่พอใจหรือไม่เข้าใจผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่มีเจตนาร้ายใดๆทั้งสิ้น
ผมเขียนผิดๆถูกๆต้องขอโทษด้วยบางทีอาจไม่ได้สื่อในสิ่งที่คิดอย่างถูกต้องครบถ้วน
ไม่ได้เข้าข้างใครและสิ่งเดียวที่ผมได้รับตอบแทนคือความมันและมิตรภาพ

[ท่านขุน]

อาจจะไม่เกี่ยวกัน  แต่ขอร้องเรียนหน่อย  มีพยานยืนอยู่ด้วยกันหลายคน
 
ตอนลงชื่อเข้าร่วมประชุมนักขับ  ที่สนามสระแก้ว  ผมไล่หาชื่อผมในใบลงทะเบียนไม่เจอ  ผมก็หยิบใบขับขี่ของรยสท
ที่พึ่งได้มาหมาดๆ พร้อมๆ กับเพื่อนอีกหลายๆ คนที่ไปเข้าอบรมและทำใบขับขี่พร้อมกัน  ผมไม่พบชื่อผมก็เลยแจ้งเจ้าหน้าที่
รยสท ผู้หญิงที่นั่งกันอยู่สองคน  ยืนข้างผมอีกหนึ่ง  รวมเป็นสามคน  ว่าชื่อผมไม่มีแน่นอน
 
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ข้างผมเอานิ้วจิ้มไปที่ตัวหนังสือตัวเล็กๆ ที่บอกหมายเลขประจำตัวนักขับในใบขับขี่ของผม
พร้อมๆ กับพูดออกมา  น้ำเสียงไม่ค่อยดีนักว่า   "นี่มันใบขับขี่แรลลี่  ใช้ไม่ได้"
ผมก็เป็นงงเลยทีนี้  เลยสวนไปว่า "อ้าว   ยังงัยหล่ะเนี่ย"
เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งทางขวามือก็ชะโงกมาดู  พร้อมกับตอกย้ำว่า "นี่มันหมายเลขใบขับขี่แรลลี่   ใช้แข่งทางเรียบไม่ได้"
เพื่อนรุ่นพี่ที่ขับรถแจแปนรีโทร  ก็ช่วยออกความเห็นว่าเบอร์สลับกันมั๊ง  ลองดูใหม่ซิ
เจ้าหน้าที่คนเดิมก็ตอกประตูปิดฝาโลง  ว่า "พิมพ์มาเฉพาะทางเรียบ  ของคุณไม่มีหรอก"
แล้วสาวคนที่ยืนอยู่ก็พูดออกมาว่า "เนี่ยๆๆ  NR-C174  มันหมายเลขของพวกแรลลี่เค้า "
 
ตกลงว่า  วันนั้นอบรมกันล้นประชุม รยสท  พี่วัวก็อยู่  แจ๊คก็อยู่  นักขับโตโยต้าอีกครึ่งทีม  เพื่อนๆ BCR อีกหกเจ็ดคน
ผมได้ใบขับขี่แรลลี่มาเฉยเลย   แถมยังไม่มีชื่อในใบเข้าประชุมนักขับอีกต่างหาก   
 

[อู๋ Skyline < ID 19 >]

กะลังรวบรวมทุกความเห็นอยู่นะครับ 

สู้ สู้นะครับ น้องพี่ เป็นกำลังใจให้ 

[JFK]

เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งทางขวามือก็ชะโงกมาดู  พร้อมกับตอกย้ำว่า "นี่มันหมายเลขใบขับขี่แรลลี่   ใช้แข่งทางเรียบไม่ได้"
เจ้าหน้าที่คนเดิมก็ตอกประตูปิดฝาโลง  ว่า "พิมพ์มาเฉพาะทางเรียบ  ของคุณไม่มีหรอก"
แล้วสาวคนที่ยืนอยู่ก็พูดออกมาว่า "เนี่ยๆๆ  NR-C174  มันหมายเลขของพวกแรลลี่เค้า "
 
ตกลงว่า  วันนั้นอบรมกันล้นประชุม รยสท  พี่วัวก็อยู่  แจ๊คก็อยู่  นักขับโตโยต้าอีกครึ่งทีม  เพื่อนๆ BCR อีกหกเจ็ดคน
ผมได้ใบขับขี่แรลลี่มาเฉยเลย   แถมยังไม่มีชื่อในใบเข้าประชุมนักขับอีกต่างหาก   

 
วันนั้นผมได้  Competition Licence No.NC-C-157 ครับ

[ae]

อาจจะไม่เกี่ยวกัน  แต่ขอร้องเรียนหน่อย  มีพยานยืนอยู่ด้วยกันหลายคน
 
ตอนลงชื่อเข้าร่วมประชุมนักขับ  ที่สนามสระแก้ว  ผมไล่หาชื่อผมในใบลงทะเบียนไม่เจอ  ผมก็หยิบใบขับขี่ของรยสท
ที่พึ่งได้มาหมาดๆ พร้อมๆ กับเพื่อนอีกหลายๆ คนที่ไปเข้าอบรมและทำใบขับขี่พร้อมกัน  ผมไม่พบชื่อผมก็เลยแจ้งเจ้าหน้าที่
รยสท ผู้หญิงที่นั่งกันอยู่สองคน  ยืนข้างผมอีกหนึ่ง  รวมเป็นสามคน  ว่าชื่อผมไม่มีแน่นอน
 
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ข้างผมเอานิ้วจิ้มไปที่ตัวหนังสือตัวเล็กๆ ที่บอกหมายเลขประจำตัวนักขับในใบขับขี่ของผม
พร้อมๆ กับพูดออกมา  น้ำเสียงไม่ค่อยดีนักว่า   "นี่มันใบขับขี่แรลลี่  ใช้ไม่ได้"
ผมก็เป็นงงเลยทีนี้  เลยสวนไปว่า "อ้าว   ยังงัยหล่ะเนี่ย"
เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งทางขวามือก็ชะโงกมาดู  พร้อมกับตอกย้ำว่า "นี่มันหมายเลขใบขับขี่แรลลี่   ใช้แข่งทางเรียบไม่ได้"
เพื่อนรุ่นพี่ที่ขับรถแจแปนรีโทร  ก็ช่วยออกความเห็นว่าเบอร์สลับกันมั๊ง  ลองดูใหม่ซิ
เจ้าหน้าที่คนเดิมก็ตอกประตูปิดฝาโลง  ว่า "พิมพ์มาเฉพาะทางเรียบ  ของคุณไม่มีหรอก"
แล้วสาวคนที่ยืนอยู่ก็พูดออกมาว่า "เนี่ยๆๆ  NR-C174  มันหมายเลขของพวกแรลลี่เค้า "
 
ตกลงว่า  วันนั้นอบรมกันล้นประชุม รยสท  พี่วัวก็อยู่  แจ๊คก็อยู่  นักขับโตโยต้าอีกครึ่งทีม  เพื่อนๆ BCR อีกหกเจ็ดคน
ผมได้ใบขับขี่แรลลี่มาเฉยเลย   แถมยังไม่มีชื่อในใบเข้าประชุมนักขับอีกต่างหาก   
 

 
ผมว่าใบขับขี่ของพี่เอตอนไปที่ รยสท. วันนั้นคนเยอะมากๆ เค้าต้องพิมพ์ผิดแน่นอน เพราะของผมเค้ายังพิมตัวสะกดชื่อผิดเลยครับ
 
แต่เสียงเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นที่สนามแข่งตอนเช็นชื่อประชุมยังตราตรึงผมอยู่... จำได้เพราะวันนั้นยืนอยู่ใกล้ๆพี่..
ไม่รู้ทำไมคุณผู้หญิงเค้าต้องดุขนาดนั้น... น่าจะช่วยเราเช็คหน่อยว่าชื่อนักแข่งตกหล่นหรือยังไง แอ๊ะอ่ะบอกไม่มีชื่ออย่างเดียวเลย ดุหง่ะ
 
พี่เอลองไปติดต่อ รยสท. ดูก่อนนะครับ ผมว่ายังไงเค้าต้องแก้ให้.. 

[OKUMI RT]

อาจจะไม่เกี่ยวกัน  แต่ขอร้องเรียนหน่อย  มีพยานยืนอยู่ด้วยกันหลายคน
 
ตอนลงชื่อเข้าร่วมประชุมนักขับ  ที่สนามสระแก้ว  ผมไล่หาชื่อผมในใบลงทะเบียนไม่เจอ  ผมก็หยิบใบขับขี่ของรยสท
ที่พึ่งได้มาหมาดๆ พร้อมๆ กับเพื่อนอีกหลายๆ คนที่ไปเข้าอบรมและทำใบขับขี่พร้อมกัน  ผมไม่พบชื่อผมก็เลยแจ้งเจ้าหน้าที่
รยสท ผู้หญิงที่นั่งกันอยู่สองคน  ยืนข้างผมอีกหนึ่ง  รวมเป็นสามคน  ว่าชื่อผมไม่มีแน่นอน
 
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ข้างผมเอานิ้วจิ้มไปที่ตัวหนังสือตัวเล็กๆ ที่บอกหมายเลขประจำตัวนักขับในใบขับขี่ของผม
พร้อมๆ กับพูดออกมา  น้ำเสียงไม่ค่อยดีนักว่า   "นี่มันใบขับขี่แรลลี่  ใช้ไม่ได้"
ผมก็เป็นงงเลยทีนี้  เลยสวนไปว่า "อ้าว   ยังงัยหล่ะเนี่ย"
เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งทางขวามือก็ชะโงกมาดู  พร้อมกับตอกย้ำว่า "นี่มันหมายเลขใบขับขี่แรลลี่   ใช้แข่งทางเรียบไม่ได้"
เพื่อนรุ่นพี่ที่ขับรถแจแปนรีโทร  ก็ช่วยออกความเห็นว่าเบอร์สลับกันมั๊ง  ลองดูใหม่ซิ
เจ้าหน้าที่คนเดิมก็ตอกประตูปิดฝาโลง  ว่า "พิมพ์มาเฉพาะทางเรียบ  ของคุณไม่มีหรอก"
แล้วสาวคนที่ยืนอยู่ก็พูดออกมาว่า "เนี่ยๆๆ  NR-C174  มันหมายเลขของพวกแรลลี่เค้า "
 
ตกลงว่า  วันนั้นอบรมกันล้นประชุม รยสท  พี่วัวก็อยู่  แจ๊คก็อยู่  นักขับโตโยต้าอีกครึ่งทีม  เพื่อนๆ BCR อีกหกเจ็ดคน
ผมได้ใบขับขี่แรลลี่มาเฉยเลย   แถมยังไม่มีชื่อในใบเข้าประชุมนักขับอีกต่างหาก   
 

 
ผมว่าใบขับขี่ของพี่เอตอนไปที่ รยสท. วันนั้นคนเยอะมากๆ เค้าต้องพิมพ์ผิดแน่นอน เพราะของผมเค้ายังพิมตัวสะกดชื่อผิดเลยครับ
 
แต่เสียงเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นที่สนามแข่งตอนเช็นชื่อประชุมยังตราตรึงผมอยู่... จำได้เพราะวันนั้นยืนอยู่ใกล้ๆพี่..
ไม่รู้ทำไมคุณผู้หญิงเค้าต้องดุขนาดนั้น... น่าจะช่วยเราเช็คหน่อยว่าชื่อนักแข่งตกหล่นหรือยังไง แอ๊ะอ่ะบอกไม่มีชื่ออย่างเดียวเลย ดุหง่ะ
 
พี่เอลองไปติดต่อ รยสท. ดูก่อนนะครับ ผมว่ายังไงเค้าต้องแก้ให้.. 

เป็นเรื่องปรกติของรยสท.ครับ ผิดประจำ บัตรทีมกับผจก. K-fac ก็พิมพ์ทีมผิด ทั้งๆที่ใบเสร็จดันเขียนชื่อทีมถูก 
ผิดไม่ว่า แต่มาโวยวายทั้งๆที่ตัวเองผิดนี่ทุเรศเกิน ผมมั่นใจว่าพี่เอไม่เขียนใบสมัครผิดแน่นอน

[OKUMI RT]

ลืมบอกว่าพี่เอลองติดต่อคุณเอที่รยสท.ดูครับ ผมว่าคนนี้คุยง่ายบริการดี แต่ไม่เคยเจอหน้าซักที ให้แต่ messenger วิ่งไป 
ยิ่งชื่อเีดียวกับพี่ยิ่งคุยง่าย

[OouVintage]

ผมตอบไปในหน้า 6 นะครับแต่เป็นการแก้ไข พี่ๆอาจจะข้ามไปนะครับ 

[spankinfish]

  let's go out race and have fun