กล้องรุ่นนี้ เป็นกล้องระบบใหม่ในตลาด
คือเดิมจะมีกล้อง compact ขนาดเล็กตั้งแต่ใส่กระเป๋าเสื้อได้ จนต้องสะพายเอา
ที่ขนาดเซ็นเซอร์เล็กเท่าปลายนิ้วก้อย และเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้
เวลาถ่ายโดยมากมองจากจอขนาดใหญ่หลังกล้อง
กับกล้อง DSLR ที่ตัวใหญ่ๆหน่อย พกพาต้องสะพายและมีกระเป๋าใส่
เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ประมาณ 60% ของฟิล์ม 35 มม. ที่เราใช้กัน แต่ก็ใหญ่เป็นหลายเท่าตัวของกล้อง compact และเปลี่ยนเลนส์ได้
เวลาถ่ายโดยมากจะเอากล้องแนบตาเพื่อมองจาก view finder บนหัวกล้อง
กล้อง E-P1 นี้ เป็นระบบใหม่ที่เรียกว่า micro 4/3 (micro four third)
อยู่กึ่งกลางระหว่าง compact กับ DSLR คือ การถ่ายเหมือนกล้อง compact คือมองจากจอหลังเป็นหลัก
ขนาดกล้องโดยรวมใหญ่กว่ากล้อง compact คือใส่กระเป๋ากางเกงไม่ค่อยจะไหว แต่เล็กและเบากว่า DSLR
ขนาดเซ็นเซอร์ก็ใหญ่กว่ากล้อง compact หลายเท่า แต่เล็กกว่า DSLR ครึ่งนึง
ขนาดเซ็นเซอร์นี้ เอาง่ายๆว่า ยิ่งใหญ่ ภาพยิ่งสวย ละกันนะครับ
ซึ่งทำให้ภาพที่ได้โดยทั่วไป ของ E-P1 ดูสวยกว่า กล้อง compact แต่ก็ยังสู้ DSLR ไม่ได้ในบางสถานการณ์
ราคาก็จะอยู่แพงกว่ากล้อง compact และพอๆกับ DSLR ถูกๆ คือประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท
จากที่เคยใช้มา ในความรู้สึกผม
ข้อดี
กล้องสวย จับถนัดมือ พกพาสะดวก ไม่เกะกะ
ภาพดี สีสวยมาก
มีโปรแกรมในการถ่ายภาพให้เล่นมากมาย เช่นการปรับแสงสีของภาพเป็นแบบต่างๆ ในขณะถ่ายภาพ
ข้อเสีย
ถ่ายในที่แสงน้อย จะโฟกัสลำบากหน่อย
ไม่มีแฟลช
กล้องระบบนี้ (micro 4/3) ขณะนี้ มีอีก 2 ตัว คือ Olypus E-P2 กับ Panasonic GF1
E-P2 หน้าและทุกอย่างเหมือน E-P1 ยกเว้นมีช่องให้เสียบ electronic view finder
GF1 มีแฟลช และโฟกัสดีกว่าในที่แสงน้อย แต่แพงกว่า ราคาตอนนี้อยู่ราวๆ 3 หมื่น
แต่ Olympus ก็กำลังจะออกตัวใหม่ คือ E-PL1 เซ็นเซอร์ตัวเดียวกันกับ E-P1 และ E-P2
แต่ตัว body จะเป็นพลาสติก มีแฟลชในตัว จอหลังเล็กกว่านิดนึง และราคาไม่น่าจะเกิน 2 หมื่นบาท
ตัวนี้ขายแล้วในต่างประเทศ แต่ยังไม่ขายบ้านเรา