Author Topic: หนุ่มสาวรักขมกินยาตาย ยึดบ้านเพื่อนเป็นสุสานทิ้งจดหมายชวนขนลุก  (Read 3601 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ชูชาติ แก้วเก่า ศิริพงษ์ แก้วบัวดี เรื่อง/ภาพ

"เราได้พูดและตกลงกันแล้วว่าเราจะตายด้วยกัน ไม่มีใครมาพรากเราไปจากกันได้อีก เรารักกันมาก เราจึงขอเลือกหนทาง เพราะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเราสองคน และถึงเราจะตายแต่ดวงวิญญาณเรายังอยู่ จะเป็นวิญญาณที่ดี เราจะดูแลบ้านหลังนี้ให้ ไม่รบกวนใคร ไม่ต้องกลัว แต่เราสองคนจะขอร้องว่า กรุณาอย่าดึงเชือกสายสิญจน์ของเราออกจากกันเด็ดขาด เพราะเราจะไม่แยกจากกันอีก และจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า ชีวิตคู่เป็นเรื่องของคนสองคน แต่ถ้ามีมือที่สาม สี่ ห้า หกแล้ว ฯลฯ มาวุ่นวายมันจะเป็นเช่นนี้เหมือนอย่างที่เป็น และผมต้องขอโทษพี่หน่อยด้วย แต่ผมก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด และจะขอดูแลบ้านให้ แต่จะไม่มารบกวนใคร หรือว่าอยากจะรู้อะไรดีๆ ก็ให้รอในฝัน"

เป็นจดหมายลาตายชวนขนหัวลุกที่พบในบ้านเลขที่ 609/16 หมู่บ้านเกตุนุติการ์เด้น ซ.นวมินทร์ 137 ถ.นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เปิดเป็นสำนักงานบริษัท ร่วมเอกการช่าง จำกัด ที่นายทรงพล บุญนาค อายุ 36 ปี กับน.ส.นฤมล นันทวัฒนานุกุล อายุ 33 ปี คู่รักยึดเป็นสุสานแห่งความตาย



พบศพสยองตอนบ่ายวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา



หลังรับแจ้งเหตุร.ต.ท.พิชัย มีอัฐมั่น ร้อยเวร สน.โคกคราม นำกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปตรวจสอบ พบภาพสลดปรากฏอยู่ตรงหน้า ที่ห้องนอนชั้น 3 ของบ้านหลังดังกล่าวมีศพของนายทรงพลกับน.ส.นฤมล นอนกอดก่ายกันตายอยู่บนเตียง มีผ้าห่มคลุมร่างเอาไว้ ริมฝีปากมีคราบน้ำลายสีเขียวฟูมปากทั้งสองศพ 


โดยฝ่ายชายมีด้ายสายสิญจน์ผูกมัดโยงกับข้อมือขวาของผู้หญิง เสมือนสื่อให้เห็นว่าทั้งสองจะไม่พรากจากกัน ในห้องพัดลมและวิทยุยังเปิดทิ้งไว้ สภาพทั่วไปไม่พบร่องรอยต่อสู้ ข้างที่นอนพบขวดน้ำเปล่าวางอยู่ 1 ขวด เหล้าขาวดื่มไปแล้วเหลืออยู่ครึ่งขวด และขวดยาฆ่าแมลงยี่ห้อแลนเนท ที่ทั้งสองใช้เป็นทูตนำทางไปสู่ความตาย

เหตุผลที่ทำลงไปถูกบรรยายไว้ในจดหมายฉบับนี้!

นายประวิทย์ นาคศรีโภชน์ อายุ 36 ปี เพื่อนพี่ชายผู้ตายซึ่งเป็นคนแรกที่พบศพ ให้การว่า ได้รับโทรศัพท์จากนายสิทธิพร สวัสดิภิศาล อายุ 37 ปี พี่ชายนายทรงพล ซึ่งทำงานอยู่ จ.ตราด ว่าให้มาดูที่บ้านหลังดังกล่าวเพราะก่อนหน้านี้นายทรงพลโทรศัพท์ไปบอกลา ว่าจะฆ่าตัวตายพร้อมน.ส.นฤมล แฟนสาว ตนจึงรีบเดินทางมาและแจ้งรปภ.หมู่บ้านให้เข้ามาด้วยกัน พบว่าประตูหน้าบ้านไม่ปิดล็อก ได้ตะโกนร้องเรียกอยู่นาน แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงตัดสินใจเข้าไปภายในบ้าน เปิดดูทุกๆ ห้อง โดยห้องชั้น 3 ถูกปิดล็อกอยู่จึงใช้บันไดปีนเปิดฝ้าดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ไม่คิดว่า "ทรงพล" จะตัดสินใจทำแบบนี้



ส่วนทางด้านนายปริญญา อ่อนหงษ์ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายทรงพล กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนเองคบกับนายทรงพลมานานนับสิบปีแล้ว โดยนายทรงพลเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปีนี้ หลังติดคุกอยู่นานถึง 7 ปี และมาขออาศัยอยู่ที่บ้าน ซึ่งเปิดเป็นสำนักงาน สำหรับน.ส.นฤมล แฟนของนายทรงพลก็รู้จักดี โดยทั้งคู่เป็นแฟนกันมานานแล้ว โดยพ่อ-แม่ฝ่ายหญิงก็ไม่เห็นด้วย กระทั่งนายทรงพลต้องโทษ ปรากฏว่าน.ส.นฤมลกำลังตั้งครรภ์พอดี เมื่อคลอดลูกออกมาก็นำไปให้แม่น.ส.นฤมลเลี้ยงไว้ที่ จ.ชลบุรี กระทั่งนายทรงพลพ้นโทษออกมาก็ติดต่อกับฝ่ายหญิง และไปมาหาสู่กันเป็นประจำ แต่แม่ของน.ส.นฤมลไม่ต้องการให้ลูกสาวคบหากับนายทรงพลอีก ทำให้เพื่อนเครียดมาก ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุการตายในครั้งนี้

คดีนี้ญาติผู้ตายทั้งสองฝ่ายไม่ได้ติดใจเอาความใดๆ เพราะในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยความผิดปกติ อีกทั้งคนรอบข้างก็รู้ดีว่านายทรงพลมีนิสัยใจคออย่างไร นอกจากนายทรงพลจะมีปัญหากับครอบครัวของฝ่ายหญิงที่พยายามกีดกันไม่ให้คบกันแล้ว นายทรงพลยังเป็นคนขี้หึงอย่างรุนแรง หวาดระแวงว่าน.ส.นฤมลจะคิดนอกใจไปคบชายคนใหม่

ที่ผ่านมาทั้งคู่มักจะทะเลาะกันเสมอ

ตามแนวทางการสอบสวน นอกจากเรื่องถูกกีดกันรักจากผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงจะเป็นชนวนเหตุในการตัดสินใจลาตายแล้ว เรื่องความหึงหวงก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เจ้าหน้าที่สืบรู้มาว่านายทรงพลเป็นคนที่ซีเรียสกับเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อมีปัญหาหลายด้านเข้ามารุมเร้า จึงทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจลาตาย ก่อนจะเขียนจดหมายทิ้งไว้เพื่อไม่ให้คนข้างหลังต้องมาวุ่นวายไล่หาสาเหตุในภายหลัง

นอกจากนี้ยังเขียนข้อความชวนขนหัวลุกทิ้งไว้ให้เจ้าของบ้านดูต่างหน้าอีกต่างหาก!?!



สำหรับงานศพของทั้งคู่ ญาติน.ส.นฤมลติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ ส่วนศพนายทรงพลญาติติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีเช่นกัน

การตายของคู่รักคู่นี้สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านย่านนั้นยิ่งนัก เนื่องจากเนื้อหาในจดหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าดวงวิญญาณจะวนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้ จะดูแลบ้านและให้คุณเจ้าของบ้าน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เพื่อนบ้านบางคนที่อยู่ติดกันและบรรดาหนุ่มสาวในหอพักที่เช่าอาศัยอยู่ใกล้เคียงก็เลือกที่จะขนของย้ายหนี เพราะกลัวว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อความในจดหมายฉบับนั้น

ขณะที่เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุเองก็ปิดบ้านทิ้งเงียบสงัด

ขนลุกขนพองไปตามๆ กัน  :o

Offline nuivannuys

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2005
  • Posts: 497
  • Gender: Male
  • Last Login:July 18, 2019, 02:21:26 pm
หมู่บ้านนี้ท่าจะเฮี้ยน มีข่าวตายแปลกๆหลายครั้งถ้าจำไม่ผิด  *c*

Offline เสียอา

  • วัยทองคนองยนต์
  • Member
  • *****
  • Join Date: Jul 2005
  • Posts: 3,671
  • Gender: Male
  • Last Login:June 24, 2006, 03:37:13 am
ผมว่าสร้างทับป่าช้าเก่าหรือกุโบแน่

Offline nuivannuys

  • Verified Member
  • Member
  • *****
  • Join Date: Aug 2005
  • Posts: 497
  • Gender: Male
  • Last Login:July 18, 2019, 02:21:26 pm
น่าจะเป็นป่าช้ามากกว่ากุโบ  สมัยเด็กๆเคยไปบ้านคุณย่าอยู่ในซอยเกตนุติ

แถวนั้นทุ่งน่าล้วนๆ คงไม่ใช่ที่ของคนมุสลิม  ถนนซอยบนลาดพร้าวเป็นดินแดง

เวลาวิ่งสวนกันต้องจอดหนึ่งคัน  ฝนตกมหมดสิทธิ์วิ่งครับ

Tags:
 

* Permissions

  • You can't post new topics.
  • You can't post replies.
  • You can't post attachments.
  • You can't modify your posts.




Facebook Comments